<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
21 มีนาคม 2553
 

อยู่เพื่อความรัก - ยาขอบ : ตอน "ร้าง"


อยู่เพื่อความรัก : ยาขอบ

สำนักพิมพ์ดอกหญ้า พิมพ์ครั้งแรก : มิถุนายน 2531 ราคา 35 บาท / 176 หน้า
ซื้อเมื่อ : 18 สิงหาคม 2531

ใครเพิ่งแวะเข้ามา ขอให้ย้อนกับไปอ่าน ตอน "รัก" ก่อนนะคะ

หลังจากที่เรื่องสั้นแห่งความรักทั้ง 6 ตอนจากปลายปากกา 5 นักเขียน (6 นามปากกา) จบลง
ยาขอบได้นำเรื่องชุดนี้มาลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สยามนิกรอีกครั้ง
เริ่มตอนแรกวันที่ 3 พฤษภาคม 2480 โดยลงพิมพ์วันต่อวัน วันละคน จนจบตอนรักเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2480

แล้วยาขอบก็จับปากกาจุ่มน้ำผึ้งร่ายเรื่องราวตอน “ร้าง” คนเดียวทั้งหมด
ลงพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมเป็นต้นไป แต่เรื่องยาวกว่าเดิมจึงต้องทยอยพิมพ์คนหนึ่ง 2 ฉบับ
ซึ่งก็มีการตีพิมพ์ไป หยุดพิมพ์ไปบ้าง ด้วยปัญหาเรื่องเซนเซอร์หนังสือ
ปัญหาเรื่องต้นฉบับขาดส่ง เพราะคนเขียนสมองตื้อไปต่อไปไม่ซะงั้น
แต่ในที่สุดเรื่องราวทั้งหมดก็จบลงจนได้
และได้รับการตีพิมพ์รวมเล่มต่อมาหลายครั้ง
เปลี่ยนชื่อเล่ม เปลี่ยนชื่อตอนในเล่มก็หลายคราว
จนมาถึงฉบับพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ดอกหญ้าครั้งนี้

flower 10


ทองจันทร์เปิดเรื่องร้าง ด้วยจดหมายถึงเพื่อนรักนาม "ประพันธ์" เช่นเดิม
เขาได้เล่าถึงเรื่องรักหวานชื่นที่ลงเอยเป็นขีวิตคู่..แล้วกลับกลายเป็นรักร้างในท้ายที่สุด
ระหว่างตัวเขากับแม่งามที่รักทั้ง 6 คนไปตามลำดับ

พักตรพริ้ง : รักร้อน ละลายเร็ว
ในที่ยิ่งสูง ความบริสุทธิ์ใจในทางรักใคร่ก็ยิ่งเสื่อม
ท่านชายผู้ดีที่ทำท่าไม่รู้ว่าพักตร์พริ้งเปลี่ยนมือมาเป็นของฉัน
ไม่ใช่เพื่อรักษามารยาท
ท่านเหล่านี้ทำไม่รู้เพื่อแทะโลมพักตรพริ้งได้สะดวก โดยไม่ต้องถือว่า
แสดงกิริยาอันไม่น่าดูเช่นนั้นต่อหน้าสามี


พักตร์พริ้งนั้นถูกจับแต่งงานแต่หลังจากนั้น 1 ปีเมื่อคุณพ่อเธอเสีย ..เธอก็ตามตัวทองจันทน์ไปพบ
“จับตัวของดิฉันไปเป็นของทองจันทน์ได้แล้ว ไม่ต้องด้วเงินหมื่น ด้วยความสมัครใจของดิฉันเอง”
เธอทำเรื่องรวนเพื่อเรียกอิสรภาพคืนจากสามีของเธอ และมีการหย่ากันทางพฤตินัยไปแล้ว
แต่ทางนิตินัยนั้นต้องรอไปอีก 10 เดือน จากคืนนั้นชีวิตคู่ระหว่างทั้ง 2 จึงเริ่มต้นขึ้น
แต่รักเร็ว ก็ร้างได้เร็วเช่นกัน พักตร์พริ้งติดสังคม..แต่ทองจันทน์นั้นก็ถือว่าตนมีเกียรติ มีงานเขียนที่ต้องทำ
จึงไม่สามารถไปสำเริงสำราญตามงานสมาคมกับพักตร์พริ้งได้ทุกวันคืน
และแล้วรักก็ร้าง ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวจากปากพักตรพริ้ง

“ทองจันทน์อย่าทำท่าโกรธดิฉันอีก คนที่เขาลงทุนซื้อดิฉันถึงหมื่นก็ยังไม่กล้าทำหน้ายักษ์ใส่หน้าดิฉัน”
...ผมถือ ผมเป็นยอดรักของพักตร์พริ้ง แต่ตามที่เธอพูดจะไม่ให้ผมฟังว่า
ผัวก่อนที่เธอไม่รักแต่มีสินสอดหนึ่งหมื่นนั้นมีค่าตัวแพงกว่าทองจันทน์กระนั้นหรือ .
..ฤทธ์ของคำพูดทำให้ผมออกจากบ้านของเธอโดยเร็ว..


heart 1


โฉมฉาย : ครองรักก็คล้ายครองเกม
ผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทเจ้านายทองจันทร์นี้ ถ้าเป็นฝ่าย “ให้”
จะปิติปลื้มกว่าได้เป็นฝ่าย “รับ” นี่แหละครองรักก็คล้ายครองเกมความสุข
ถ้าเราเกิดต่างกันเหมือนคู่ต่อสู้ในเกมที่มีฝีมือต่างชั้น
ไม่รู้สึกว่าเกมของเราออกรสและรำคาญสิ้นดี


ทองจันทน์กลับมาอยู่ที่บ้านอย่าง “ช้างที่เจ็บหนักกลับสู่สุสานของตน เพื่อรอวันตาย”
เมื่อแม่สมน้ำหน้าและไม่สนใจ คนที่ให้ความสนใจก็คือโฉมฉาย สาวน้อยที่ถูกพรากให้เข้าไปอยู่ในวังกับคุณน้า
และแม่ได้ตามตัวกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเมื่อทองจันทน์ไปอยู่กับพักตร์พริ้ง
โฉมฉายดูแลปรนนิบัติคนอกหัก ด้วยความรักลึกซื้งที่ยังคงอยู่เต็มตื้นในหัวใจ
และลักษณาการณ์เช่นนั้น ก็ทำให้แม่ของทองจันทน์จำต้องส่งเธอกลับเข้าวังอีกครั้ง
คราวนี้ทองจันทน์เดือดมาก ก็เลยไปบอกแม่ว่าได้โฉมฉายเป็นเมียแล้ว
ทั้งๆ ที่เป็นเพียงคำพูดด้วยอารมณ์โกรธ แต่โฉมฉายไม่ปฏิเสธเลยเมื่อถูกเรียกไปซักฟอก ...

...ในวันต่อมา โฉมฉายก็อยู่ความเข้าใจของคนอื่นๆ ทั้งบ้านว่าเป็นภรรยาผม
และการปรนนิบัติเอาใจที่อย่างวิเศษของเธอ ทำให้ผมค่อยแช่มชื่นและมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นในใจ
จึงในวันต่อมาๆ อีก โฉมฉายก็ไม่เพียงแต่จะเป็นเมียผมในด้านที่คนอื่นๆ เข้าใจอย่างเดียว
เป็นจริงๆ ...


ชีวิตคู่ระหว่างทองจันทน์กับพักตรพริ้งนั้นคือ 7 เดือน กับโฉมฉายยาวมาเกือบปี

...ผมเรียกการปรนนิบัติของโฉมฉายว่าเป็นการกระทำของนางฟ้านั้น ผมเรียกในเวลาเป็นคู่รัก
แต่เวลาเป็นคู่ครอง เธอคือคนที่ทรมานอารมณ์ผม เป็นต้นในคืนที่ผมทำงานของผมดึกๆ
ผมต้องการให้เมียรักของผมหลับสนิทอยู่บนที่นอน ผมไม่ชอบน้ำใจอันภักดีสุจริตของเธอที่รอเพื่อดูแลผมว่าจะต้องการสิ่งใด
โดยยกเอาการนั่งถักไหมพรมอยู่เงียบๆ บังหน้า จนกว่าจะถึงเวลาผมว่างงานเธอจึงจะเลิกด้วย..


เมื่อความอดทนมาถึงขีดสุด ทองจันทน์พยายามอธิบายในสิ่งที่ตนต้องการแก่โฉมฉาย

...ผมบอกเธอไม่ใช่ห้วนๆ ทั้งชี้แจงแสดงเหตุ และทั้งเล้าโลมว่าเธอไม่ต้องเสียใจที่ทำความไม่ถูกใจผม
หากโดยเจตนาดีนี้ โฉมฉายรู้เรื่องแล้วร้องไห้ไม่นิ่ง คำเล้าโลมที่มีเหตุผลของผมไม่มีราคา
เธอเสียใจอย่างที่ประมวลความเสียใจทั้งหมดทั้งโลกมาไว้เสียคนเดียว
แล้วเรื่องที่ไม่นึกฝันว่าจะเกิดก็เกิดขึ้นในคืนนั้นเอง ประพันธ์
โฉมฉายไปจากผม หนีไปจากบ้านอย่างสาบสูญ ...เธอเขียนจดหมายสั้นๆ ไว้ว่า
“โฉมต้องการใช้ชีวิตของตัวทั้งหมด เพื่อความสุขความเจริญของทองจันทน์
จึงขอลา เพื่อความสุขสำราญของทูนหัวของโฉมสืบไป”


heart 1


จิระวัต : เมื่อค่าของเงินขึ้น ค่าของความรักก็ตก
เธอศรัทธาในวิธีทำเงินอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้เช่นนายทองจันทน์
จิระวัตรู้ว่าผมมีรายได้ดีในการเขียน แต่เธอเพิ่งเห็นจริง เธอคลั่ง
เธอถือว่าเธอมีของประหลาด คือมีโรงกษาปณ์เล็กๆ ซึ่งไม่ใช้โลหะ ใช้น้ำหมึกแล้วก็บีบออกมาเป็นเงิน


ทองจันทน์กลับมาพบกับจิระวัตแม่ม่ายญาติผู้น้องคนนี้อีกครั้ง เมื่อคราวตามแม่มาช่วยงานศพป้าสะใภ้
แล้วเลยอยู่ต่อเพื่อช่วงงานอื่นอีก ได้พักอาศัยอยู่ในห้องที่เคยอยู่ ได้ใกล้ชิด ได้มีโอกาสทำความเข้าใจกับหญิงที่เคยรักและยังรักอยู่
จนที่สุดทองจันทน์ก็กลายเป็นลูกเขยและหลานรักของท่านเจ้าของบ้าน เป็นยอดชายและยอดรักของลูกสาวเจ้าของบ้าน
แต่ชีวิตรักครั้งนี้ยืนยาวต่อมาอีกเพียง 9 เดือนเท่านั้น

...ผู้หญิงคนนี้มีความคิดที่เร้นอยู่ภายในชนิดหนึ่ง คือความคิดที่อยากเป็นแม่ หรืออย่างน้อยที่สุดก็เป็นพี่ผม
เธอมีความเข้าใจอย่างลับๆ ว่าผมได้ผิดได้ชั่วไป เพราะเหตุที่ไปได้ผู้หญิงสองคนเป็นเมีย
เธอต้องการแสดงให้ประจักษ์ ว่าเธอดีกว่าพักตรพริ้งและโฉมฉายในด้านที่เป็นแม่หรือผู้ควบคุมให้ผมทำความดี!...

...ไม้สักใครๆ ก็รู้ว่าเป็นสินค้าสำคัญของไทย ไม้สักของผัวเก่าทำเงินให้จิระวัตเลยเห็นไม่ค่อยแปลก
หนังสือตัวเล็กทำเงินได้ แปลกสำหรับคนไทยและจิระวัต เธอเคี่ยวใหญ่ เธอเป็นแม่ที่ดุ
ถ้าผมจะนั่งโต๊ะน้อยกว่าเวลาที่กำหนด เราเถียงกันบ้างและบ่อยขึ้น
ผมรู้ว่าผมเขียนหนังสือเลวลงทุกวัน เพราะเขียนอย่างเอาใจเมีย ไม่ได้เอาอารมณ์เป็นสำคัญ
...เธอรำพันความดีของผัวเก่าในทางทำเงิน ในที่สุดเธอว่า
“ดิฉันไม่มั่งมีเหมือนคุณพักตร์พริ้ง
คุณพ่อก็เหมือนนั่งกินทุนเดิมของเท่าเพราะแก่ลงทุกวัน ทำงานไม่ไหว
พี่อยากเกาะผู้หญิงมั่งมีเงิน พี่ควรกลับไปง้อคนอย่างพักตร์พริ้ง”

...สวรรค์โปรดเถิด พูดอะไรกัน! พูดอะไรกับเจ้านายทองจันทน์
ผมถูกตีที่ขนดหางอีกแล้ว ....เมื่อน้ำเงินเป็นใหญ่ น้ำรักก็ลดนะ ประพันธ์
ผมเปิดหมวกลาคุณลุงและจิระวัตด้วยประการฉะนี้



heart 1


บังอร : ในเรื่องรักอย่าถือประเพณีจัด!
ศีลธรรมยอมให้ผมเป็นผัวผู้หญิงที่เป็นเมียผม และกำลังอุ่นอยู่กับอกผมอย่างเต็มที่ทีเดียว
ศีลธรรมมิได้ลุกขึ้นยืนของร้องอะไรกับผมเลย ค่าที่ผมมิได้ทำผิดในความเป็นมนุษย์
แต่เป็นวันพระ วันเกิดของเรา วันอุบาทว์ วันโลกาวินาศของโลกตามจันทรคติ ได้ยืนขึ้นยืนยันสิทธิของมัน


เมื่อเลิกร้างจากจิระวัต กลับมาอยู่บ้านตามเดิมนั้น ทองจันทน์ได้รับจดหมายจากบังอร
..หญิงสาวที่อยู่ในครอบครัวที่ถือประเพณีเคร่งครัด
เธอป่วยหนักและอยากเห็นหน้าคนที่เคยรักเป็นครั้งสุดท้าย ทองจันทน์จึงไปเยี่ยมเยียน ได้พูดจาให้เธอดูแลตัวเอง
และเมื่อบังอรทราบว่าขณะนี้ทองจันทน์นั้นตัวเปล่า ไม่ได้มีภรรยาอย่างที่ยินได้ข่าวมา เธอจึงมีกำลังใจบำรุงรักษาตัวเอง
จนเธอหายวันหายคืน 5 เดือนต่อจากนั้น ทั้งสองจึงเข้าพิธีวิวาห์ตามขนบธรรมเนียมประเพณีโดยถูกต้อง
...เป็นการใช้ชีวิตคู่ที่ผ่านพิธีการครั้งแรกของทองจันทน์เลยทีเดียว
แต่ทว่าชีวิตคู่กับหญิงสาวที่เติบโตมากับครอบครัวที่เคร่งครัดประเพณีเช่นนี้ ก็ไม่ราบรื่นเช่นกัน

...ผมจำเป็นต้องเอาเหตุการณ์ในห้องนอนมาเล่าให้คุณฟังเสียแล้ว
บังอรไปได้รับการอบรมสั่งสอนจากท่านผู้ใหญ่ของเธอเพิ่มเติมมาใหม่ และได้เริ่มใช้กับผม
พร้อมกับที่เริ่มระวังประเพณีและสวัสดิมงคลทั้งหลายนั้นด้วย ทุเรศตัวเองเหลือกำลังละเพื่อนรัก
ทั้งที่ผมสมบูรณ์ในความเป็นผัวของบังอร ไม่ว่าจะพิจารณาด้วยอะไรทุกสิ่งนี้
แต่ด้วยความเคร่งทางไสยศาสตร์และสวัสดิมงคล วันเหล่านี้คือ
วันพระ วันตัวเกิดของผม วันตัวเกิดของเธอ วันโลกาวินาศ วันอุบาทว์
ผมมีสิทธิเป็นเพียงคู่รักเธอเท่านั้นเอง...การเชื่อโชคเชื่อเคราะห์เป็นใหญ่กว่าความรักของเรา
ผมไม่ผิด ถ้าผมจะเรียกตัวเองตอนนี้ว่า เป็นชีวิตของสามีปฏิทิน...


ชีวิตคู่ครั้งนี้จบลงด้วยการแยกทางกัน
ทองจันทน์ปลีกตัวจากบ้านบังอรทุกครั้งที่มีงานพิธีต่างๆ จนกระทั่งปลีกตัวไปต่างจังหวัดโดยลำพัง
และบังอรก็หนีชีวิตคู่ไปสวมชุดแม่ชีโดยสงบ

heart 1


สมสวาท : ความรักไม่ใช่นักโทษอุกฉกรรจ์
ตามไปเที่ยวค้นคว้า ราวกับว่าทองจันทน์นี้เป็นลูกสาวของแก แทนที่จะเป็นผัว
--- กำลังกินเหล้าที่สโมสร – เมียไปตาม กำลังคุยกับเพื่อนที่บ้านหลวงฤทธิ์ – เมียไปตาม
แม้ที่สุดมีงานด่วนต่องทำนอกเวลาที่สำนักงาน สมสวาทก็ไปตาม อ้างว่าเป็นห่วง
ทีนี้อ้ายเพื่อนทุกคนก็ลือสนุกกันใหญ่ สักแต่ว่ามีคนไปบอกว่ามีคนมาหาผม มันก็หัวเราะเยาะกันเสียแล้ว


การจากบังอรทำให้ทองจันทน์กลับมาใช้ชีวิตสำมะเลเที่ยวเตร่หัวปักหัวปำ
หมดเงินไปกับผู้หญิงและเหล้า จนต้องไปเป็นพนักงานกินเงินเดือนประจำ
และได้มีโอกาสพบกับสมสวาท หญิงสาวที่เคยเข้าใจว่าเธอสลัดรักไปแต่งงานกับคนอื่น
แต่แท้จริงแล้ว เธอแกล้งบอกเช่นนั้นเพราะน้อยใจทองจันทน์เท่านั้นเอง
เมื่อความเข้าใจผิดคลี่คลาย ความรักก็รัดรึงทั้งคู่เข้าด้วยกันอีกครั้ง
แต่เพียงปีเศษเท่านั้น รักก็ร้าง

...ด้วยเหตุที่สมสวาทรักผมจนเกินไปนี่แหละ ผมจึงคิดว่าต้องสอนเธอด้วยวิธีแข็งข้อเสียบ้าง
....สมสวาทตามได้ตามไป ตามมาเถอะ ผมแกล้งทำเมาไม่ได้ความ จูบซ้ายจูบขวาแม่นางบำเรอที่นั่งข้างๆ ผมให้แกดูต่อหน้าต่อตา
วันหนึ่งผมกลับจากออฟฟิศ พบจดหมายสมสวาทรออยู่ บอกว่าเดินทางไปหาคุณพ่อที่ปราจีน
ยอดมิตร ไม่มีความระยำอันไหนจะเลวเท่าที่ญาติข้างเมียมักจะพอใจสนับสนุนให้เด็กของตัวหัวแข็งกับสามี
มันช่างคล้ายๆ กันไปเสียหมด ..ดังนี้แหละ ผมกับสมสวาทจึงต้องแยกทางกันเดิน
ผมยังคงรักและซื่อตรงต่อสมสวาทอยู่ เรายังคงมีนิสัยไม่ตรงกันข้อเดียวเท่านั้น
แต่มันก็ทำให้อีกร้อยข้อพันข้อที่เราตรงกันพลอยฉิบหายไปด้วยหมด...



heart 1


อุษา : รักที่ราบรื่นไม่ต้องการเรื่องเหลื่อมล้ำ
กระหม่อมทนได้ ขอให้คนทั้งโลกเหยียบมาเถิด เดินตะลุยมาบนหน้าของกระหม่อม
แต่ขอคนเดียวอย่าพลอยก้าวมาตามเขา หรือแม้จนขยับจะก้าวก็ไม่ได้ คนคนนี้คือท่านหญิงอุษา
เพราะถึงทองจันทน์จะตัวเป็นคนหน้าเป็นหมา
คนที่ควรจะเมตตาทองจันทน์เพราะตัวเป็นคนหน้าเป็นหมา
ก็ยังต้องเป็นท่านหญิงอุษา...
แต่บัดนี้ กระหม่อมจะชื่นใจในสิ่งนั้นได้ต่อไปหรือ?


จากสมสวาทมาและสร้างชีวิตราตรีอันยุ่งเหยิงไว้ที่กรุงเทพฯ ขืนอยู่ต่อไปชีวิตคงเสื่อมลงเรื่อยๆ
ทองจันทน์จึงลงไปเมืองปราณพักที่บ้านเพื่อน เพื่อมุเขียนหนังสือขายต่อไป
ปราณบุรีกับหัวหินนั้นไม่ไกลกัน ...ข่าวคราวของทองจันทน์จึงทราบความถึงท่านหญิงอุษา
และทั้งคู่จึงได้นัดหมายพบกันที่หัวหิน หลังจากห่างหายจากกันไปกว่า 5 ปี

...เราตั้งต้นสนทนาด้วยความสัพยอกไม่เป็นล่ำเป็นสัน ตามวิสัยของความชื่นใจที่พบกันนิดหน่อย
แล้วเราก็พูดกันด้วยเรื่องราวของความรักอันยิ่งใหญ่ ชั่วโมงและชั่วโมงผ่านไป
แล้วผมก็ทูลเธอว่า “กระหม่อมจะเอาชีวิตของกระหม่อมผูกไว้กับข้อพระบาทของอุษาฯ”
– “ไม่เอ๊า หญิงจะเก็บของหญิงขึ้นไว้ในดวงใจ” -
- “ถ้ากระนั้นกระหม่อมคงจะหนีขึ้นไปอยู่ที่ปรางและที่โอษฐ์ได้บ่อยๆ”
ผมได้จูบเธอเป็นครั้งแรก ...


เมื่อตกลงปลงใจจะร่วมชีวิตกับนายทองจันทน์สามัญชน
ท่านหญิงอุษาก็จดหมายกราบทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์ของพระราชวงศ์
แต่ทว่าเสด็จแม่ของท่านหญิงกลับห้ามไว้ และขอให้ทั้งสองอยู่กันอย่างเงียบๆ อย่าประเจิดประเจ้อ

.”ไว้จนกว่าเรื่องมันจะปิดบังเขาไม่ได้เสียก่อน จึงค่อยคิดอ่านกันต่อไป
อนึ่งถ้าแม่เล็กยังอยากทำบุญแก่แม่บ้าง ก็ขอไว้อย่างหนึ่งว่า
เวลาแม่คิดถึงลงไปเยี่ยมเยียนนั้น อย่าให้เจ้าคนนั้นเสนอหน้ามาให้แม่เห็น
แม่เกลียดสัตว์หลายชนิดรวมทั้งเจ้าหมอคนนั้น”


แต่ชีวิตคู่ของทั้งสองก็สำเริงสำราญกันมาได้ 4 เดือน เสด็จแม่ก็ประสงค์จะลงมาเยี่ยมเยียนท่านหญิงบ้าง
คราวละ 15 วันบ้าง 1 เดือนบ้าง ถี่ขึ้นและนานขึ้นเรื่อยๆ และทุกครั้งที่ท่านแม่เสด็จมา
เป็นอันว่านายทองจันทน์ก็ต้องปลีกตัวขึ้นมากรุงเทพบ้าง คอยเลี่ยงที่จะพบหน้าเรื่อยไป
ในเวลาที่ห่างกันนั่นเองที่ท่านแม่ชักจูงและโน้มน้าวให้ท่านหญิงตระหนักในฐานันดรขึ้นมาอีกครั้ง
ท้ายที่สุดชีวิตรักกับหญิงสาวคนที่ 6 ของทองจันทร์ก็ต้องขาดสะบั้นลงในเวลาเพียง 12 เดือน

อนิจจา! ผมรักผู้หญิง 6 คน ได้เธอมาทั้ง 6 คน
และรายนี้เป็นการพินาศรายสุดท้ายของยอดรักทั้ง 6 นั้น
นี่ผมจะต้องกลายเป็นจอกน้อยล่องลอยอยู่สุดแต่ว่ากระแสน้ำจะพัดพาไป
หรืออย่างไรกัน คุณประพันธ์
จากเพื่อนผู้อาภัพของประพันธ์


flower 10


เรื่องรักและร้างของนายทองจันทน์ ก็จบลงตรงนี้
แต่เรื่องแปลกประหลาดของของนิยายเรื่องนี้ ยังมีเบื้องหลังอยู่อีกเรื่องหนึ่ง
ซึ่งได้รับการเปิดเผยไว้ใน หนังสือยาขอบอนุสรณ์ หนังสือที่ระลึกงานศพของ “โชติ แพร่พันธุ์”
พ. เนตรรังษี เล่าไว้ว่า ได้ติดตามอ่านนิยายตอนร้างนี้มาได้ 4 ตัว เรื่องก็สะดุดหยุดลง

...เพราะพ่อเจ้าประคุณบอกว่าเขียนไม่ออก ทางโรงพิมพ์ก็เกิดปั่นป่วน เพราะตัวพิมพ์ค้างระหว่างยก
ทางสำนักงานนายเมตตาก็อลเวง เพราะทุนลงไปจมอยู่ ปกก็ทำเสร็จเรียบร้อย
ประกาศกำหนดวันออกก็ประกาศไปแล้ว หนังสือไม่เสร็จจะว่าอย่างไร

วันหนึ่งข้าพเจ้าไปที่สำนักงานนายเมตตา พบโชติที่นั่นพอดี ข้าพเจ้าก็ถามว่าเมื่อไรอยู่เพื่อความนรักจะออก
เมตตาชี้ไปทางโชติบอกว่า “ถามเขาดูซี ปวดหัวจะตายแล้ว”
ข้าพเจ้าแลดูโชติ เขาหัวเราะ ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “ออกไม่ได้ เพราะต้นฉบับยังเขียนไม่เสร็จ”
...
“หมู่นี้มันไม่เกิดอารมณ์ที่จะเขียน คุณก็รู้แล้ว ถ้าไม่เกิดอารมณ์ก็เขียนไม่ได้”
...
“เอางี้ได้ไหมล่ะ คุณช่วยผมหน่อย ...ช่วยเขียนคนที่ 5 แทนผม แล้วผมจะเขียนคนที่ 6 สุดท้ายเป็นบทสรุปเลย ยังงี้ละก้อพอไหว”


เมตตาทำนัยน์ตาโตซึ่งปรกติก็โตอยู่แล้วให้โตยิ่งกว่าปกติอีกเท่าหนึ่ง
“ว่าไงนะ ให้คุณพัฒน์เขียนแทนนาย แล้วมันจะเข้ากันได้หรือ? คนอ่านเขาก็รู้กันทั้งเมืองเท่านั้นเอง”

โชติโบกมือห้าม “เฉยๆ ไว้เถอะ ฉันรู้ว่าใครเขียนได้ ใครเขียนไม่ได้ นายมีหน้าที่พิมพ์ จงพิมพ์ไป อย่ามารู้ดีหน่อยเลย...
คอยดู พนันกันก็ได้ พ. เนตรรังษี เขียน แต่ใส่ชื่อ ยาขอบ ดูทีหรือ คนอ่านจะรู้ไหม?”


ข้าพเจ้าเห็นว่า ถ้ามันจะสนุกดีเหมือนกัน ทั้งอยากช่วยให้หนังสือได้ออกวางตลาดเร็วๆ ด้วย จึงรับคำ
ตกลงข้าพเจ้าเขียนคนที่ 5 ในตอนร้างคือ สมสวาท และใส่ชื่อยาขอบ บางทีจะมีผู้รู้เรื่องนี้เพียง 4 คนเท่านั้น


นี่แหละ นิยายเริงรมย์ที่แปลกประหลาดที่สุดในโลกวรรณกรรม
ได้อ่านเฉพาะเนื้อเรื่องเรื่อยมาแต่ต้น เราบอกได้เลยว่า
ตอนของสมสวาทนี้ ก็ “ยาขอบ” เขียนชัดๆ
ทั้งสำนวน ทั้งอารมณ์และการยกย่องฝ่ายหญิงนั้น
ไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกที่ได้รับเมื่ออ่านจากที่ยาขอบเขียนในเรื่องอื่นๆ เลยล่ะ

และแล้ว เราก็ยกเรื่องนี้มาเล่าทั้งเล่มได้จบซะที
ใครอยากจะอ่านให้จบทั้งเล่ม ก็บอกมาได้เลยจะ ยินดีส่งให้ยืมอ่านทั่วราชอาณาจักรไทย
ขอเพียงส่งคืนในสภาพเดิม นะ ...



Create Date : 21 มีนาคม 2553
Last Update : 21 มีนาคม 2553 22:47:51 น. 10 comments
Counter : 2092 Pageviews.  
 
 
 
 
แซวนิด ขนาดบอกว่าไม่รู้จะเขียนอะไร
ตอน"ร้าง"นี้ กลับยาวเฟื้อย ผิดไปจากบล็อกอื่นๆ

ตามมาอ่านค่ะ..เราไม่ค่อยได้อ่านหนังสือแนวนี้
เลยไม่ค่อยเข้าใจว่า เรื่องราว ต้องการจะสื่ออะไรเป็นบทสรุป
แต่อ่านแล้ว ไม่ค่อยชอบเลย ทำไมรู้สึกว่าตัวเอกชายเห็นแก่ตัวจัง
ยามรัก อะไรก็ดีไปหมด หลังๆ คนนั้นก็ไม่ดี มีข้อเสียอย่างนั้นอย่างนี้
แต่นี่คงเป็นชีวิตมนุษย์ อารมณ์ของมนุษย์จริงๆ กระมัง..แหม..รักไปหม๊ด..ด

ปล.ช่วยลบเม้นท์ข้างบนด้วยนะคะ คุณนัทธ์ เราพิมพ์ผิดเยอะเลย..มึนๆ
 
 

โดย: nikanda วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:15:12:04 น.  

 
 
 
คุณแจง >> ก็ไม่รู้จะเขียนอะไร แต่ยกข้อความจากในเรื่องมาแปะ มันก็เลยยาว

เราว่า แนวคิดในการทำหนังสือสมัยก่อน ต้องการสร้างความแตกต่างเพื่อให้ขายได้
ก็เลยกำหนดตัวนักเขียน ในเขียนในเรื่องเดียวกัน
ช่วง "รัก" เขียนไปเพื่อตั้งคำถามกับคนอ่านว่า ถ้าคุณเป็น "ทองจันทน์" คุณจะเลือกแต่งงานกับผู้หญิงคนไหน
พอมาถึงช่วง "ร้าง" ก็แสดงให้เห็นว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้ชีวิตคู่ล่มสลายได้บ้าง
อาจจะด้วย เงิน ด้วยขนบประเพณี ด้วยชนชั้น ด้วยครอบครัว ด้วยสังคม ก็ได้ทั้งนั้น

แต่ที่ใครต่อใครยกย่อง "ยาขอบ" นั้นเพราะ
ยาขอบไม่ได้เคยเหยียดหยาม ทับถม เพศหญิงเลย แม้แต่เรื่องเดียว
แม้เธอจะไม่ดี แต่ด้วยกลวิธีการเขียนของ "ยาขอบ" เราไม่รู้สึกเลยว่าเธอไม่ดี เธอผิด เธอมีเหตุผลในการกระทำนั้นๆ

อยากให้คุณแจงได้อ่านเต็มๆ เรื่องจังเลยล่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:16:17:25 น.  

 
 
 
อ่านเพลินไปเลย...นี่แหละชีวิตจริง...การครองคู่ไม่ใช่แค่รักอย่างเดียว...ยังมีองค์ประกอบอื่นอีกมาก...
 
 

โดย: redclick วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:6:24:17 น.  

 
 
 
คุณ redclick >>
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:7:28:58 น.  

 
 
 
น่าอ่านค่ะอยากมีไว้ในครอบครองอ่ะ ไม่รู้จะตามเจอในงานหนังสือรึเปล่านะคะเนี่ย ถ้าไม่เจอเราจะมาขอยืมน๊า
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:16:38:40 น.  

 
 
 
คุณส้ม >> ได้เลยจ้าาาา ยืมไปอ่านก่อน แล้วค่อยมองหาในงานหนังสือเดือนตุลาก็ได้นะ ..ถ้าถูกใจ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:18:29:00 น.  

 
 
 
แวะมาทักค่ะ

ยังไม่ได้อ่านน๊า มันยาวอ่ะ

ขอแอดไว้ก่อนนะคะ^^
 
 

โดย: ท่านหญิงน่าเกลียด วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:9:39:37 น.  

 
 
 
ในวงการนิยายไทย ผมว่ายาขอบคือสุดยอดของผู้ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านตัวหนังสืออย่างถึงแก่นที่สุดคนหนึ่งครับ
 
 

โดย: พรหมมาตร์ ชายสิม (prommart ) วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:16:58:14 น.  

 
 
 
ท่านหญิงฯ >> ด้วยความยินดี ..แล้วค่อยกลับมาอ่านก็ได้ ไม่ว่ากันอยู่แล้วจ้าาาาา

คุณ prommart >> เห็นด้วยอย่างยิ่งเลย เราถึงได้เก็บงานของยาขอบไว้ ไม่เหมือนกันว่าตัวเองมีครบหรือยัง
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:7:24:04 น.  

 
 
 


Comment Glitter Hi5 Click Now!

Comments for Hi5, Myspace Hi5 .. คอมเม้นต์hi5 ..


สวัสดีค่ะคุณนัทธ์ ขอโทษที่หายหน้าหายตาไปเสียหลายวัน เพิ่งจะว่างวันนี้ เลยรีบแวะมาทักทาย คุณนัทธ์สบายดีนะคะ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:22:20:28 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com