เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2529 ผู้ชนะสิบทิศจากปลายปากกาของ "ยาขอบ" ได้ออกมาโลดแล่นบนเวทีสังคีตศาลาเป็นครั้งแรก ในรายการฤดูกาลแสดงสำหรับประชาชน ปีที่ 34การแสดงละครพันทางเรื่องผู้ชนะสิบทิศที่กองการสังคีต กรมศิลปากร (ชื่อหน่วยงานขณะนั้น) นำเสนอต่อสาธารณชน มี อาจารย์เสรี หวังในธรรม หัวหน้ากองฯ เป็นผู้อำนวยการแสดง ผู้ประพันธ์บทละคร และผู้แสดงตัวหลัก นับจากวันนั้นเรื่อยมาเป็นเวลาหลายหลายปี ละครพันทางเรื่องนี้ ได้พลิกฟื้นความนิยมในละครกรมศิลป์ให้กลับคืนมา สร้างกระแสฟีเวอร์แบบไทยๆ สร้างพระเอก นางเอก และตัวร้าย ให้คนนอกได้รู้จัก บทละครเรื่องนี้ นับได้ว่าเป็นผลงานบทละครเรื่องสำคัญของอาจารย์เสรี หวังในธรรม เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ไช่การนำบทละครดั่งเดิมมาปรับปรุง เพื่อจัดแสดงเหมือนละครเรื่องอื่นๆ แต่เป็นการถอดความจากนวนิยายเรื่องยาวของ "ยาขอบ" ซึ่งเป็นร้อยแก้วสู่ร้อยกรองทั้งเรื่อง ในวาระที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเจริญพระชนมายุ 3 รอบในปีพ.ศ. 2534 สมาคมภริยาทหารเรือ จึงได้รวบรวมนำบทละครทั้ง 56 ตอนนี้มาจัดพิมพ์รวมไว้ พร้อมด้วยบทตอนต้นเรื่องอีก 2 ตอน รวมทั้งสิ้น 58 ตอน พิมพ์ปกแข็ง อย่างดี ประกอบภาพสี่สีจัดพิมพ์จำหน่ายเพื่อมูลนิธิสายใจไทยฯ ช่วงนั้นบ้านเราก็ ฟีเวอร์ กับเค้าด้วย เลยสั่งซื้อยกชุด 7 เล่มมาเก็บไว้ใน collection วรรณคดีถ้าใครเคยอ่าน "ผู้ชนะสิบทิศ" ของ "ยาขอบ" แล้ว จะเห็นว่ามีถ้อยคำพรรณาด้วยสำนวน โวหาร ที่ไพเราะ คมคายนักแต่เมื่ออาจารย์เสรี ดัดแปลงจากหน้านวนิยายมาสู่บทละครพันทางนี้ ก็ยังคงเนื้อหา ความคิด และความคมคายไว้ไม่แพ้กันเลย ขอยกตัวอย่างให้อ่านเล่นสักตอน ...อยากยกมากแต่ขึ้เกียจพิมพ์เองแหละจากตอน น้ำนมแม่เลาชี จันทราจะลาจากบ้านแม่นมเลาชีกลับเข้าวัง เพราะพระราชเทวีเห็นว่าพระธิดานี้โตเป็นสาวแล้ว มิบังควรอาศัยพำนักที่บ้านแม่นมอีก เพราะพระนมเองก็มีบุตรชาย อาจเกิดเรื่องไม่งามขึ้นได้ ทั้งสองฝ่ายจึงร่ำลากันด้วยความอาลัยเพลงพม่ากลาง : จะเด็ดโอ้หัวอกจะเด็ดเจ้าแสนเหงาหงอยหวลละห้อยน้อยใจไร้สุขศรีเคยมีสูขก็จะทุกข์ทับทวีด้วยพรุ่งนี้แล้วจะร้างห่างจันทราเหมือนเคยโล่งโปร่งฟ้านภาพรศศิธรแจ่มกระจ่างกลางเวหามามีเมฆหมอกคั่นกั้นนัยน์ตาต้องชะแง้แลหาศศิธรเพลงกระเหรี่ยงเหนือ : จันทราโอ้เกิดเป็นจันทราพาแต่สูงทั้งยศศักดิ์ชักจูงไม่หยุดหย่อนไม่อาจยืนอยู่บนพื้นแผ่นดินดอนได้แต่ร่อนลอยฟ้านภาลัยจะใคร่เลื่อนเยือนดินถวิลหวังฟ้าก็รั้งมิให้เลื่อนมาเยือนได้ไม่อาจทิ้งยศศักดิ์แสนหนักใจสักเมือใดดินฟ้าจะปรานีเพลงช่อลูกหว้าจะเด็ด พรุ่งนี้แล้วแก้วฟ้าจะลาจาก จนพลัดพลากห่างไกลไปจากพี่จันทราถึงจากไปก็จะไกลเพียงกายีแต่ฤดียงยืนทุกคืนวันจะเด็ดแม่ไปอยู่วังในพอได้สุขคงสิ้นทุกข์ลืมจำลืมคำมั่นจันทราถึงสุขทุกข์แม้ตายวายชีวัน คำพูดคงตรงมั่นเช่นบรรพตา1 กุมภาพันธ์ 2550 อาจารย์เสรี หวังในธรรม จากไปอย่างปัจจุบันทันด่วน ทำเอาเราช็อคไปพอสมควร...วงการนาฎศิลป์ สูญเสียเสาหลักสำคัญไปอีกท่านหนึ่งแล้ววันนี้ครบรอบ จึงหยิบยกหนังสือเล่มนี้มาบอกกล่าวเพื่อรำลึกถึงบุคคลสำคัญท่านหนึ่งในใจเรา คนที่ทำให้เราผูกพันและรักนาฎศิลป์ดนตรีไทยเช่นทุกวันนี้ ปล.เพลงมอญดูดาวนี้ เป็นหนึ่งใน 175 เพลงที่ สมชาย ทับพร เลือกมาใช้บรรจุบทร้องของละครพันทางเรื่องนี้ Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2552 Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 7:33:36 น. 9 comments Counter : 4524 Pageviews. ShareTweet
จันทราจะลาจากบ้านแม่นมเลาชีกลับเข้าวัง เพราะพระราชเทวีเห็นว่าพระธิดานี้โตเป็นสาวแล้ว มิบังควรอาศัยพำนักที่บ้านแม่นมอีก เพราะพระนมเองก็มีบุตรชาย อาจเกิดเรื่องไม่งามขึ้นได้ ทั้งสองฝ่ายจึงร่ำลากันด้วยความอาลัย
และรวมยินดีที่ท่านนัทธ์มีสมบัติล้ำค่าส่วนตัว
ที่น้อยคนนักจะพึ่งได้เป็นเจ้าของ