|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ดอกไม้ใกล้หมอน : กลอนรักปักใจ
ฝากดอกไม้ไว้วางข้างข้างหมอน ฝากคำกลอนไว้วางข้างข้างขวัญ ฝากพรชัยให้มีสุขทุกทุกวัน ฝากรักมั่่นมอบให้ผู้ที่รู้ใจ
รวมบทกลอน ดอกไม้ใกล้หมอน
นภาลัย (ฤกษ์ชนะ) สุวรรณธาดา พิมพ์ครั้งที่ 6 : พฤษภาคม 2551 ราคา 120 บาท / 176 หน้า ซื้อ : 20 มิถุนายน 2551
โปรยปกหลัง ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง (เพลงชาติ)
วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่ เจ็บท้องแท้เท่าไรก็ไม่บ่น กว่าอุ้มท้องกว่าคลอดรอดเป็นคน เติบโตจนบัดนี้ นี่เพราะใคร (วันเกิด)
แม้หัวใจไร้สิทธิ์จะคิดหวัง แต่ก็ยังมีสิทธิ์จะคิดถึง แม้เป็นสองของใครไม่คำนึง ขอเป็นหนึ่งอยู่ในหัวใจเธอ (ขอเพียงแค่นี้)
บทกลอน 3 บทที่ปรากฎอยู่บนปกหลังของหนังสือเล่มนี้ อ่านแล้วรู้สึกคุ้นคุ้นบ้างรึป่าว... เราคุ้นนะ... คุ้นว่าเคยอ่านเจอประกอบบทความโน้นนั่นนี่อยู่บ่อยครั้ง เมื่อมีเหตุการณ์ที่เหมาะสม เกี่ยวข้องกัน
สมัยโน้นนนนนนนนนนนนน นานมาแล้ว เรื่องลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่ละเมิดกันอยู่บ่อย บทกลอนหลายบท...เราจำได้ แต่นึกไม่ออกหรือไม่รู้ที่มาที่ไปด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุผลอย่างนี้แหละ ทำให้เจ้าของบทประพันธ์ ต้องจัดการตีพิมพ์ผลงานของตัวเอง รวมเล่มเอง เราพลิกเปิดดูข้อมูลหนังสือ ที่ต้องระบุไว้ในหนังสือเล่ม เพื่อยื่นขอหมายเลข ISBN ปรากฎว่า สถานที่พิมพ์เป็นโรงพิมพ์ภาพพิมพ์ มิใช่สำนักพิมพ์ และระบุให้ติดต่อสั่งซื้อที่ รองศาสตราจารย์นภาลัย สุวรรณธาดา >> ตัวผู้เขียนเอง
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 6 นี้ห่างจากครั้งก่อนหน้านานมาก นับสิบปีเลยทีเดียว เมื่ออ่านกลอนที่ถูกต้องตามหลักฉันทลักษณ์แบบกลอนสุนทรภู่นี้ บางคนอาจจะรู้สึกว่า มันเก่าเนอะ... เชย เชย ยังไงไม่รู้สิ แต่ว่า ...เนื้อหาที่ปรากฎนั้น ไม่ได้เก่าไปตามกาลเวลาเลยล่ะ
ในช่วงทศวรรษ พ.ศ. 2505 - 2515 เป็นยุคที่วงการกาพย์กลอนกำลังเฟื่อง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการก่อตั้ง "ชุมนุมวรรณศิลป์" นักกลอนมีชื่อหลายต่อหลายคน ก็กำเนิดเกิดขึ้นจากชมรมนี้ นภาลัย ฤทธิ์ชนะ เป็นหนึ่งในนั้น แววนักกลอนเริ่มฉายเมื่อเรียนชั้นมัธยมศึกษา จัดรายการกลอนทางวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ชนะเลิศการแข่งขันกลอนหลายครั้ง มีหนังสือรวมบทกวีได้รับรางวัลงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2 เล่ม ดอกไม้ไกลหมอน และ สร้อยเม็ดทราย ได้รับรางวัลครูดีเด่นระดับอุดมศึกษาจากคุรุสภาในปีพ.ศ.2540 แม้ปัจจุบันจะเกษียณราชการแล้ว ก็ยังเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องการเขียนหนังสือราชการหรือการเขียนผลงานวิชาการ รวมทั้ง ร่วมวงกวีสโมรสวรรณศิลป์ ออกเล่นสักวา บางครั้ง นั่นทำให้เรา ได้รู้จักชื่อ รู้จักตัว นักกลอนท่านนี้ หลังจากที่ชื่นชอบบทกลอน บางบท บางวรรค มานมนาน ก็มียุคนึงแหละที่เราคลั่งกลอน อ่านกลอน เขียนกลอน และลองเขียนส่งไปลงหนังสือด้วยซ้ำ พอได้เห็นผลงานรวมเล่ม เล่มนี้ ไม่มีความลังเลเลย หยิบมาจ่ายเงิน แม้จะไม่ได้ส่วนลดเลยก็ตาม
ประยอม ซองทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2547 กล่าวยกย่องแนวกลอนของคุณนภาลัย ว่าเป็น "กลอนดี" ตามเกณฑ์ของท่าน ดังนี้
ประการที่หนึ่ง ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ ประการที่สอง ใจความหรือเนื้อหาที่นำเสนอดีเด่น ชัดเจน สร้างสรรค์ ประการที่สาม การเลือกใช้ถ้อยคำดีเด่น ตรงกับ สภาวะ บรรยากาศ และอารมณ์ของเรื่องที่กล่าวถึง ประการที่สี่ สำนวนโวหารลึกซึ้งกินใจ ประการที่ห้า ไม่ขาดอารมณ์สะเทือนใจ บทกลอนที่รวบรวมตีพิมพ์ไว้นี้มีทั้งสิ้น 69 เรื่องราว แบ่งเป็น 7 หมวด ได้แก่
ดอกไม้ใกล้หมอน
ดอกรักที่เธอให้ซึ้งใจแสน ขอตอบแทนด้วยใยรักเป็นสักขี เผื่อดอกรักโรยร้างยางไม่มี ใยรักนี้จักได้เหนี่ยวใจเรา -2525-
ชาติ-ศาสนา
แม้นชาติไทยไร้กษัตริย์ฉัตรประเทศ จะเทวษด้วยเป็นทาสของชาติไหน พระบารมีคุ้มตัวคุ้มหัวใจ แผ่นดินไทยจึงเป็นถิ่นแผ่นดินทอง
ครู-บัณฑิต
เธอก็เป็นคนดีมีความรู้ และเป็นครูสอนคนมากล้นได้ ถ้าทำผิดทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ คนที่จะให้อภัยเธอ ไม่มี
พ่อ-แม่-ลูก
เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ ควรแต่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่ รำลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด อย่ามัวแต่จัดงานประจานตัว -2516-
โลกทรรศน์
ความรักที่ดีแท้มีแค่หนึ่ง แม้มีถึงสองสามไร้ความสุข ใช้เสน่ห์ในทางที่สร้างทุกข์ รักสนุกชั่วคราวไม่ยาวนาน
อารมณ์
กลิ่นพิกุลกรุ่นไออยู่ใกล้หมอน กลีบอ่อนอ่อนยังฉ่ำน้ำค้างใส แต่ที่หอมและฉ่ำล้ำสิ่งใด คือน้ำใจคนที่ให้พิกุล
ภาษา
เอกลักษณ์ศักดิ์ไทยมิใช่ทาส เอกราชรู้ได้ในภาษา เอกวัจน์อรรถรสพจนา เอกปัญญาผู้คิดลิขิตไว้
ที่จริงเราตั้งใจจะเขียนถึงหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เรื่องหนังสือรัก... รัก... แต่ว่า ช่วงนั้น ...เราหาหนังสือไม่เจอ.. ความที่หนังสือมันเยอะจัด (คำแก้ตัวของคนขี้เกียจจัดห้อง) ก็เลยเลือกเอาเล่มที่ชอบชอบเล่มอื่นมาเล่าไปก่อน พอจัดห้อง จัดกองหนังสือ หาเล่มนี้เจอ ก็เลยอดไม่ได้ ต้องหยิบยกมาแปะไว้ ก่อนที่เราจะทำมันหายไปในชั้นหนังสืออีกครั้ง
ระหว่างที่พลิกอ่านแบบคร่าวคร่าวอีกครั้งก่อนพิมพ์ blog นี้ เราก็สะดุดใจกับกลอนเรืองนึงเข้า เลยขอยกมาปิดท้ายเต็มเต็มเลยล่ะกัน
(ขยันพิมพ์เป็นพิเศษ คงเพราะพรุ่งนี้จะได้หยุดอีกมั๊ง)
สมน้ำหน้า
เคยสบตาใครต่อใครมาหลายครั้ง ใจก็ยังบอกตาว่าเฉยเฉย สบตาใครให้ทั่วอย่ากลัวเลย ใจไม่เคยสิ้นท่าเพราะตาใคร
แต่นั่นแหละเรือใหญ่ตายน้ำตื้น ตาระรื่นหลงกลเข้าจนได้ ตาที่แข็งแกร่งกล้าน่าภูมิใจ กลับหวั่นไหววูบหลบเพียงสบตา
ใจสั่งตาสบตาอย่างชาเฉย ตาอย่าเผยสิ่งใดให้ขายหน้า ตาย้อนว่าตาให้ใจบัญชา แล้วอุราเล่าจะให้ใครบังคับ
ตาปั้นปึ่งแต่ใจไหวสะเทิ้น ตายอมเมินแต่ใจไม่ยอมกลับ ตาบอกปัดแต่ใจไปบอกรับ ตาบอกขับแต่ใจเรียกให้คืน
รู้ก็รู้ว่าเขามีเจ้าของ ถึงเขามองเขาก็เห็นเป็นคนอื่น ใจยังไม่ห้ามใจให้กล้ำกลืน ตาจะฝืนได้อย่างนี้กี่เวลา
อย่านะอย่าหวั่นไหว... ใจห้ามขาด ใจตวาดแล้วไยใจผวา ตาร้องไห้ใจก็ตามไปห้ามตา สมน้ำหน้าหัวใจร้องไห้เอง -2509-
บทกลอนทั้งหมดนี้ ยกมาจากหนังสือเล่มเดียวเลยนะ ไม่ได้มีบทไหนแต่งเองสักบท
Create Date : 04 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2552 7:06:47 น. |
|
15 comments
|
Counter : 9172 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:6:48:16 น. |
|
โดย: rainoflove (rainoflove ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:48:11 น. |
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:59:39 น. |
|
โดย: BeCoffee วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:38:34 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:55:24 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:21:57 น. |
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:08:14 น. |
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:19:13 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:09:54 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:6:22:28 น. |
|
โดย: อะรุ๊กกุ๊กกิ๊ก (alukkukkik ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:25:18 น. |
|
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 8 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:15:54 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
อืม หลายบทกลอนเป็นอะไรที่คุ้นชินมาก
บางอันก็ไม่เคยได้ยิน
แต่ไม่น้อยต้องรีบเอาหยิบปากกาขึ้นจด
มิน่า อมตะวาจาจึงหล่อละลายจิตใจปถุชนได้ดีนักแล