<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
11 กุมภาพันธ์ 2552
 

หนังสือรัก...รัก...เล่มที่สาม : อยากให้รู้ว่ารักสักเท่าฟ้า



เรารู้สึกว่าช่วงระยะเวลาราว 3-4 ปีนี้กระแสหนังสือกลอน..ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก
จะมีการหยิบยกมาบอกเล่ากล่าวถึง ก็เมื่อการตัดสิน "กวีซีไรท์" ใกล้เข้ามา
แต่พื้นที่ในหน้าหนังสืิอพิมพ์และนิตยสาร....เกือบทุกเล่ม (ที่เราได้อ่าน) ก็จะมีพื้นที่สำหรับบทกวี... อยู่บ้าง
และบทกลอนเพราะๆ กินใจ..ก็จะถูกยกมาเอ่ยอ้าง กล่าวถึงในเทศกาลแห่งความรักทุกครั้งไป
ดังเช่น บทนี้


อยากให้รู้ว่ารักสักเท่าฟ้า
หมดภาษาจะพิสูจน์ พูดรักได้
เต็มอยู่ในความว่าง กว้างและไกล
คือหัวใจสองดวง ห่วงหากัน

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


ถ้าเป็นชื่อนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ รู้จักแน่นอนเลย ....คนอ่านหนังสือ ยังไงก็ต้องผ่านตาชื่อนี้บ้างแหละน่า
หนังสือรัก...รัก... เล่มต่อมาที่หยิบมาคุย ก็คือ


อยากให้รู้ว่ารักสักเท่าฟ้า

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และ โอษฐ วารีรักษ์
สำนักพิมพ์ ณ ณางค์
: พิมพ์ครั้งที่ 2 กุมภาพันธ์ 2544 : ราคา 130 บาท / 112 หน้า
ซื้อ : 22 มิถุนายน 2544


บอกตามตรง...เล่มนี้ซื้อเพราะชื่อ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นั่นแหละ
...ยิ่งมีชื่อคนเขียนภาพประกอบ คือ ประคองกูล พงษ์ไพบูลย์ ด้วย หนังสือปกเรียบๆ เล่มนี้ สวยขึ้นมาทันที
แต่ชื่อผู้เขียนอีกคนนั้นเราไม่รู้จัก จนกระทั่งเปิดอ่านหนังสือจนจบเล่ม

โอษฐ วารีรักษ์ เป็นนักจิตวิทยา ...ที่พูดเรื่องความรักอย่างเดียวเลย
ทั้งสองท่านรู้จักกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย และได้กลับมาพบและร่วมงานกัน เมื่อวัยใกล้หกสิบ
เป็นวิทยากรเวทีเดียวกัน คือ เวทีอบรมพัฒนาการพฤติกรรมบริการของชาวสาธารณสุข

กุลธิดา กุรางกุล ผู้เขียนคำนำ กล่าวอ้างถึงคำบอกเล่าของ โอษฐ วารีรักษ์ ว่า
"การพบกัน รู้จักกัน นับเป็นปรากฎการณ์ปกติของชีวิต
แต่..การพบกัน รู้จักกัน แล้วช่วยกันทำให้ชีวิตดีขึ้น
นับเป็นบุญวาสนาของชีวิต"

จริงแท้ แน่นอน และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
ดังเช่นเราและเพื่อนๆ ที่นี่ ได้พบกัน ได้คุยกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนี่แหละ
โดยเฉพาะเวลาเครียดๆ มานั่งพิมพ์ up blog ระบายความเครียด
อ่าน blog เรื่องเครียด เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องหนังสือ ของคนอื่นเนี่ย...
บรรเทาความเครียดของตัวเองไปได้ เยอะมากกกกกกกกกกกก

กลับมาที่หนังสือเล่มนี้ต่อ

...ในหนังสือยกเอาบทกลอนเกี่ยวกับความรักที่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประพันธ์ไว้และตีพิมพ์ในที่ต่างๆ
มารวมไว้ 4 เรื่องในชุด "อยากให้รู้ว่ารัก" ประกอบด้วย ความรัก ฉันมีรัก ให้เธอ และด้วยปีกแห่งรัก
เราขอยกอันแรกมาแปะไว้ละกัน...จะได้ตอบคำถามเรื่อง "นิยาม" เมื่อวานนี้


ความรักไม่ต้องการแค่วันเดียว
ความรักไม่ต้องเกี่ยวกับวันไหน
ความรักไม่ต้องมีเวลาใด
ความรักไม่ต้องใช้ให้ใครชี้

ความรักไม่ต้องมีข้อวิจารณ์
ความรักไม่ต้องการการกดขี่
ความรักไม่ต้องให้ใครตราตี
ความรักไม่ต้องมีเส้นพรมแดน

ความรักไม่ต้องมีข้อพิสูจน์
ความรักไม่ต้องพูดตามแบบแผน
ความรักไม่ต้องกาิรสิ่งตอบแทน
ความรักไม่ต้องแค่นหัวใจคน

ความรักไม่ต้องการการเป็นต่อ
ความรักไม่ต้องรอขอเหตุผล
ความรักไม่ต้องย้ำความมีจน
ความรักไม่ต้องทนที่จะรัก

ความรักคือหัวใจให้แก่กัน
ความรักคือนิรันดร์มั่นสมัคร
ความรักคือศรัทธาสามิภักดิ์
ความรักคือความประจักษ์ในใจเรา

ความรักคือนิยามไร้นิยาม
ความรักคือความงามใช่ความเขลา
ความรักคือหมอกควันอันบางเบา
ความรักคือการเฝ้าเข้าใจกัน

ความรักคือสำเนียงเสียงปลอบปลุก
ความรักคือความทุกข์และสุขสันต์
ความรักคือเสน่หาสารพัน
ความรักคือความฝันอันตราตรู

ความรักคือศิลปะของหัวใจ
ความรักคือสายใยโยงใจอยู่
ความรักคือการให้ไม่หมายรู้
ความรักคือใจผู้รู้ค่ารักฯ

ส่วนถัดมานั้นเป็นร้อยแก้ว...เป็นบทความในชุด "พูดจาภาษารัก" ของ โอษฐ วารีรักษ์
ประกอบด้วย นิยามของความรัก, รักตัวเอง, หันหน้าไปทางไหน ชีวิตก็เป็นเช่นกัน และ
วันวาเลนไทน์ อย่าลืม ให้ของขวัญแก่ตัวเอง

ขอยกบางส่วนจากบทความสุดท้าย...มาให้อ่านกัน...ชอบความเห็นตรงนี้


"สิ่งที่มนุษย์เราได้รับเป็นของขวัญจากธรรมชาติ เหมือนและเท่ากันหมดทุกคน คือ เวลา
หนึ่งชั่วโมงก็มี 60 นาทีเท่ากัน หนึ่งวันก็มี 24 ชั่วโมงเท่ากัน
ความแตกต่างในความเป็นคนก็คือ ใครสามารถใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง หนึ่งวัน
หนึ่งเดือน หนึ่งปี หนึ่งชาติ ในการเป็นคนสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์สุขและคนอื่นได้มากกว่ากัน ...

...ทุกคนมีโอกาสและเวลาเท่ากัน ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของแต่ละคนว่า
จะใช้โอกาสและเวลาไปกระทำสิ่งที่สร้างสรรค์
หรือทำลายประโยชน์สุขแก่ตนเองและผู้อื่นเท่านั้น
คนดี คือ คนที่ทำความชั่วเสร็จแล้ว
คนชั่ว คือ คนที่ยังทำชั่วไม่เสร็จ

เมื่อถึงวันวาเลนไทน์ เมื่อนึกถึงความรัก
อย่ามัวเพลินแต่มอบให้คนอื่นจนหลงลืมตนเอง

รักตัวเอง ให้ของขวัญแก่ตัวเองด้วย
หันหน้าเข้าหาความดี เก็บความดีมาใส่ตัว
กระทำแต่ความดี
นี่คือของขวัญอันยิ่งใหญ่ อันแท้จริงสำหรับตัวเอง




Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 20:29:40 น. 15 comments
Counter : 4412 Pageviews.  
 
 
 
 
อ่ๅนแล้วอยๅกรักฅนทั้งโลก:->
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:51:06 น.  

 
 
 
ความรักไม่ต้องการการเป็นต่อ
ความรักไม่ต้องรอขอเหตุผล

ชอบนิยามนี้ค่ะ

เกิดกิเลศอยากได้หนังสืออีกแล้วว...

 
 

โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:57:01 น.  

 
 
 
ตอนเด็กๆชอบอ่านกลอน
แต่ก้เป็นกลอนน่ารักๆ รักๆ ธรรมดา
อ่านรีวิวและตัวอย่างที่ยกมา
ชอบอีกแล้ว..อยากได้จังหนังสือเล่มนี้
 
 

โดย: nikanda วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:39:10 น.  

 
 
 
แต่ละเล่ม...ตั้งข้อสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า
ชื่อสำนักพิมพ์..... ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยตั้งแต่เกิดมา...555

ชอบหนังสือที่ออกแบบภาพปกกับชื่อปกเรียบๆแบบนี้
เล่มนี้สวยคลาสสิคดี

ของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
เราชอบ นกขมิ้นในเล่มคำหยาดมาก
อ่านจบในห้องสมุดมหาวิทยาลัย
แล้วรีบออกไปหาซื้อเลย

โดยเฉพาะท่อนสุดท้าย
อ่านแล้วมันวังเวงใจดีจัง...

....เจ้าดอกเอยดอกขจรอาวรณ์ถวิล
นกขมิ้นเหลืองอ่อนจะนอนไหน
เขาวางขลุ่ยข่มน้ำตาว้าเหว่ใจ
ตอบไม่ได้ดอกหนาข้าคนจร





 
 

โดย: January Friend วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:26:23 น.  

 
 
 


ชอบอ่านิยายมาก
กลับเมืองไทยต้องไปหามาอ่าน


 
 

โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:2:12:29 น.  

 
 
 
ขอบคุณสำหรับ รีวิว หนังสือเล่มนี้ค่ะ

จะไปหาซื้อมาไว้บ้างละ

ห่างหายจากหนังสือกลอนไปนานเหมือนกัน ^^
 
 

โดย: MOnKEy_PrAi วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:33:23 น.  

 
 
 
ชอบงานกวีของคุณเนาวรัตน์มากค่ะ

อ่านแล้วอยากมีไว้ในครอบครอง

บ้านจขบ.อยู่แถวไหน ไปขึ้นบ้านดีกว่า
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:57:24 น.  

 
 
 
^
ไปด้วย..
(ไปหยิบมัทนะพาธาเล่มนั้นก็คุ้มแล้ว อิอิ)

กลอนความรักเรากลับไม่ค่อยสนนะ
อ่านแล้วเฉย ๆ น่ะ ...ตามประสาคนไม่โรแมนติก

 
 

โดย: ยาคูลท์ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:43:31 น.  

 
 
 
เล่มนี้ได้มาพร้อมลายเซ็นอ.เนาวรัตน์ด้วยแหละค่ะ...

อยากจะบอกว่ารักสักเท่าฟ้า...

 
 

โดย: แม่ไก่ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:44:52 น.  

 
 
 
ชอบเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์มากเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่ถูกบังคับให้อ่านวารีดุริยางค์ทั้งเล่มตอน ม.ปลาย ก็รู้สึกได้แล้วว่ากลอนที่ท่านเขียนงดงามแล้วก็ยังร่วมสมัย

ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกนะคะ อยากบอกว่าหนังสือของฉวนเหยาส่วนใหญ่ก็เคล้าน้ำตาจริงๆ แต่แปลกมาก เล่มที่พิมพ์ช่วงหลังมานี่กลับไม่ค่อยเศร้า เราเองรู้สึกผิดหวังพอตัว (ที่อ่านก็เพราะอยากอ่านอะไรเศร้าๆ นี่แหละ)
 
 

โดย: bookofpear วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:56:49 น.  

 
 
 
กวีฝีมือฉกาจท่านนี้ เขียนกลอนได้ไพเราะมาก ๆ
 
 

โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:02:13 น.  

 
 
 
น่ารักดีค่ะที่นำหนังสือรักมาแนะนำในช่วงนี้
ไอเดียเก๋ค่ะ
แถมเป็นหนังสือกลอนซะด้วย
ไปดูสองเล่มก่อนหน้านี้มาแล้ว ทั้งมัทนพาธาและสุดสงวน
ชอบอ่านกลอนนะคะ
สมัยนี้ก็อย่างที่จขบ. ว่าไว้น่ะค่ะ
หาอ่านจากนิตยสารหรือไม่ก็พวกหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์
ชอบเขียนด้วย
แต่ว่าอายจังที่จะบอกว่าทั้งสามเล่มนี้ไม่เคยอ่านเลย

ขอบคุณที่เปิดหูเปิดตาให้ค่ะ
^^
 
 

โดย: I am just fine^^ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:05:52 น.  

 
 
 
เป็นหนังสือที่เหมาะกับช่วงเวลาจริงๆ

แต่ตัวเองไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือแนวนี้เลย

แบบว่า...อ่านแล้ว เข้าไม่ถึงอารมณ์ของคนเขียนน่ะค่ะ...

 
 

โดย: ทากชมพู วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:59:05 น.  

 
 
 
...ในที่สุด...ก็เจอคนที่มีหนังสือเหมือนเราซะที
...คุณแม่ไก่ค่ะ ...จับมือกันหน่อย

 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:48:01 น.  

 
 
 
เเฟนพันธุ์แท้ลุงเนๅ ว์จิงๆ:O
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:10:19 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com