<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 มกราคม 2552
 

หนูแหวนกับโลก : การเติบโตของเด็กหญิงช่างคิด





หนูแหวน ถือกำเนิดในบรรณพิภพในช่วงระหว่าง พ.ศ.2517-2518
และหลังเหตุการณ์เดือนตุลาคม 2519 ก็มีหนังสืออีกเล่มตามออกมา


หนูแหวนกับโลก : ศราวก

จัดพิมพ์โดย โครงการหนังสือ 25 ปี 6 ตุลา พิมพ์ครั้งที่ 3 ตุลาคม 2544 ราคา 89 บาท /112 หน้า
ซื้อ : 6 ตุลาคม 2544


บางส่วนจากคำนำผู้จัดพิมพ์ : วัฒนชัย วินิจจะกูล (31 สิงหาคม 2544)
....เนื้อหาของ "หนูแหวนกับโลก" นั้นเกี่ยวพันกับการตั้งคำถามต่อโรงเรียน
และระบบการศึกษา ตั้งคำถามต่อระบบเศรษฐกิจสังคมที่วางอยุ่บนพื้นฐานของการกดขี่ขูดรีด
(ซึ่งแม้เวลาผ่านไป 20-30 ปี สิ่งนี้นับวันจะคำรงอยู่อย่างแนบเนียนขึ้น)
และการพิเคราะห์สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ยากไร้อย่างสัมพันธ์กับความเป็นไปของโลกและสังคมภายนอก
กล่าวได้ว่า "หนูแหวนกับโลก" คือเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านจากชีวิตกึ่งฝันกึ่งจริง
ของหนูแหวนใน "โลกของหนูแหวน" มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ....


บางส่วนจากคำนำผู้เขียน : ศราวก (25 สิงหาคม 2544)
...เมื่อผมเขียน "โลกของหนูแหวน" ซึ่งเกี่ยวกับหนูแหวนที่ใช้ชีวิตและเรียนรู้
อยู่ในโลกของธรรมชาติจบลงแล้ว ก็มีความคิดที่จะเขียนถึงหนูแหวนตอนเข้าโรงเรียนในชนบท
ถัดนั้นหนูแหวนจะได้ทุนเข้าเมืองไปเรียนต่อในชั้นมัธยมเป็นตอนหนูแหวนเข้าเมือง
และตอนสุดท้ายจะเป็นเรื่องหนูแหวนกับมหาวิทยาลัย
แต่เมื่อหนูแหวนได้เข้าโรงเรียนในชนบท สถานการณ์ปฏิวัติก็ได้เข้ามาถึง
เยาวชนจำนวนมากได้ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระของตัวเองทางประชาชาติ
ทวงสิทธิประชาธิปไตยในโรงเรียน เรียกร้องความเป็นธรรมแก่กรรมกร ชาวนา และผู้ยากไร้
หนูแหวนที่ดูช่างคิดและไร้เดียงสา ได้กลายเป้น "นักปฏิวัติน้อย" ที่แก่เกินวัย....



เราได้เจอะเจอกับหนูแหวนอีกครั้งในช่วงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดงานรำลึก 6 ตุลา
ไม่คิดว่าจะเห็นหนังสือ ที่เข้าใจว่าเป็นหนังสือสำหรับเด็ก ในงานนี้ โดยเฉพาะจัดพิมพ์โดยโครงการหนังสือ 25 ปี 6 ตุลาซะด้วย
แบบนี้จะพลาดได้งั้น ...ก็ต้องซื้อกลับมาอ่านซิ

อ่านจบ ....เออ ...หนูแหวนตอนนี้โตขึ้น ความคิดความอ่านออกจะเอียงไปหน่อยมั๊ง
คงเป็นเพราะผู้เขียน รู้เห็นและผ่านเหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงระส่ำระสายมาด้วย
ความคิดแบบกบฎเล็กๆ จึงแฝงอยู่ในความเห็นของหนูแหวนแทบทุกตอนในเล่มนี้


หนูแหวนคุยกับพ่อเรื่องการเข้าโรงเรียน
"ทำไมหนูต้องเข้าโรงเรียนด้วยจ๊ะ หนูน่ะเลี้ยงควายช่วยพ่อดีกว่า"

"เรียนไป โตขึ้นแล้วเอ็งจะได้ดียังไงล่ะ" พ่อปลอบ

"หนูไม่เห็นใครจะได้ดี อย่างพี่มั่นเป็นผู้ชายแท้ๆ เรียนจบแล้วก็ต้องมาไถนาตามเดิม"
หนูแหวนแย้ง

พ่อเองก็ค่อนข้างจะเห็นด้วยกับหนูแหวน ไม่เคยเห็นใครในหมู่บ้านได้ดี
ตัวแกเองทำงานหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินตั้งแต่เล็กจนอายุปูนนี้ไม่ได้ขาด ไม่เห็นได้ดีอะไร
ได้ดีแต่พวกพ่อค้าคนกลางกับพวกเจ้าของที่ดิน ได้ข้าวดีเท่าใดก็ขนเอาไปหมด
แต่ถึงอย่างนั้นพ่อก็ยังพยายามอธิบายให้หนูแหวนฟังต่อว่า

"ได้ดีแล้วเอ็งจะได้ไม่ต้องเลี้ยงควายอย่างไรล่ะ ไมต้องทำนาลำบากเหมือนอย่างพ่อ
ทำงานเบาๆ แล้วก็มีกินมีใช้"

"ถ้าไม่มีใครทำนา แล้วจะเอาข้าวจากที่ไหนมากินกันล่ะพ่อ" หนูแหวนถาม "พวกอยู่เฉยๆ ไมได้ทำอะไรแล้วมีกินมีใช้ได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่พวกขอทาน ก็พวกปล้นเขาเท่านั้น อย่างนี้หนูว่ายิ่งเรียนยิ่งจะไม่ได้ดี ยิ่งจะเป็นคนไม่ดีนะพ่อ"

"เอ็งไม่อยากเป็นครูเขา ไม่อยากเป็นเมียนายอำเภอบ้างหรือว่ะ" พ่อเอาตำแหน่งมาล่อ

"ถึงจะเป็นอะไรก็ต้องมีคนทำนา มีคนทำของใช้ ถ้าไม่มีคนอย่างนี้ คนอื่นๆ ก็ต้องอดตายกันหมดแหละ" หนูแหวนไม่ยอมแพ้

"เอ็งไม่เข้าโรงเรียนไมได้ดอก มันถึงเกณฑ์แล้ว" เมื่อพ่อเห็นว่าปลอบประโลมต่อไปไม่ได้ผลก็ยื่นคำขาด

"ถึงเกณฑ์เป็นอย่างไรจ๊ะพ่อ" หนูแหวนสงสัย

"ก็ถึงเวลาที่เอ็งต้องเข้าโรงเรียนน่ะสิว่ะ" พ่อชักฉุน
"ถ้าเอ็งไม่เข้า ตำรวจเขาก็มาจับเอ็งไป"


หนูแหวนคุยกับครูสะอาดเรื่องความเก่ง"
"ครูคะ ทำไมฝรั่งจึงเก่งกว่าคนไทย" หนูแหวนถามครูสะอาด

ครูสะอาดยิ้มแล้วตอบว่า "ฝรั่งทำอะไรได้มากกว่าเรา แต่ไม่ได้หมายความว่า
เขาเก่งกว่าเราหรอก"

หนูแหวนทำหน้างง ครูสะอาดเล่าต่อว่า "วันหนึ่งเราก็เก่งเหมือนอย่างเขาได้
ถ้าเราไม่ปล่อยให้เขามาทำให้เราต้องยอมรับว่าเขาเก่งกว่าเรา"


"เหมือนอย่างนายอำเภอมาทำให้พ่อยอมรับว่าเขาเก่งกว่าพ่อใช่ไหมคะ"
หนูแหวนถาม

"ถูกแล้ว" ครูสะอาดตอบ

"พวกเราชาวบ้านคนไทยนี่ถูกกดขี่หลายชั้นเหลือเกิน" หนูแหวนรำพึง
ครูสะอาดพยักหน้ารับ

"ถ้าจะให้ชาวบ้านเก่งได้ เป้นผู้เป็นคนขึ้นมาได้ ก็ต้องต่อสู้ทั้งนายอำเภอทั้งฝรั่ง"
หนูแหวนสรุป


ในตอนหนี...หนูแหวนได้ฉุกคิดถึงความจริงอย่างหนึ่งขึ้นมาได้
....หนูแหวนเพิ่งได้คิดว่า ทุกอย่างเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปตามกฎเกณฑ์ของมัน
เธอเองต่างหากที่คิดฝันไปว่ามันเป็นอย่างนี้อย่างโน้นตามใจของเธอ
ที่จริงแล้วมันไม่เคยเป็นเช่นนั้นเลย บทเรียนที่เธอคิดว่าได้จากธรรมชาติ ส่วนข้างมากแล้วเป็นเรื่องที่คิดฝันเอา
เธอเคยอยู่กับความเงียบ แต่แล้วเธอกลับไมได้รู้จักมันจริงๆ เลย
พอหนูแหวนนึกเช่นนั้นแล้ว ทั้งท้องทุ่งก็พลันเงียบสงัด เสียงร้องทักเซ้งแซ่สงบลง
"ธรรมชาติคือที่เงียบสงบก็ได้ คือที่มีเสียงเซ็งแซ่ก็ได้" หนูแหวนนึก
"ที่มันเงียบก็เพราะว่ามันดำเนินไปได้โดยไม่มีตัวเรา ที่มันเซ็งแซ่ก็เพราะว่า
มันเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ"



ทั้งหมดข้างต้นนี้ คือบางส่วนจากหนังสือเล่มบางๆ เล่มนี้
ถ้าเยาวชนปัจจุบัน รู้จักคิดอย่างหนูแหวน รู้จักต่อสู้อย่างหนูแหวน และรู้จักเคารพในสิทธิและหน้าที่ของตน
สังคมคงไม่วุ่นวายหนอ...แบบทุกวันนี้หรอก



Create Date : 12 มกราคม 2552
Last Update : 12 มกราคม 2552 21:04:43 น. 4 comments
Counter : 2197 Pageviews.  
 
 
 
 
หรูแหวน ช่างคิดจังเลยนะคะ ^^
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:8:04:53 น.  

 
 
 
มาบ้านนี้ ไม่พลาดข้อมูลหนังสือดีๆ
ไม่ได้อ่านก็เหมือนได้อ่าน

ขอบคุณนะครับ
 
 

โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:10:43:58 น.  

 
 
 
ราคา 89 บาท กับเนื้อหาที่ซ่อนนัยยะ
ต่อสังคมที่เเปรเปลี่ยนกับทัศนคติฝังราก
งานดีๆ มีโอกาสจะลองอ่านก่อน
ถ้าถูกปากถูกใจก็อาจจะซื้อ
จะได้มีสำนวนแบบตั้งคำถามต่อโลกบ้าง
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:22:48:00 น.  

 
 
 
แค่อ่านที่ยกตัวอย่างมาก็รู้สึกว่าเป็นหนังสือที่ดี น่าสนใจ แต่...ขอสารภาพว่าไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้ค่ะ
 
 

โดย: หมูย้อมสี วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:16:33:29 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com