จู่ๆ ทนายความประจำตระกูล ก็พาสาวน้อยนางหนึ่ง มาแสดงตัวว่าในท้องเธอนี้ 

มีทายาทโดยชอบธรรมของเคหาสน์วงเดือนอยู่  

คุณหญิงชลมาศและกฤติกา ไม่ชอบใจอย่างยิ่งและแสดงออกอย่างชัดเจน 

เพราะเธอคาดหวังว่าเคหาสน์วงเดือนจะเป็นของเธอ 

ไม่ใช่ของน้องชายที่หนีหายออกไปจากบ้านเป็นเวลานักหนาแล้ว 

ในขณะที่ กฤตนัย บุตรชายนั้น นิ่งเฉยและยอมรับตามคำในพินัยกรรมโดยดุษฎี

เมื่อคุณปู่เขียนพินัยกรรมยกบ้านให้อา และอาก็มีทายาทสื่บสกุล 

แม้ทายาทคนนั้นจะเสียชีวิตไปแล้วพร้อมภรรยา 

แต่ทว่าเขากับภรรยา ก็ได้ให้รุจรวี ญาติผู้น้องของภรรยา "อุ้มบุญ" 

ดังนั้น เด็กในท้องของรุจรวี คือ ทายาทที่เป็นเจ้าของเคหาสน์วงเดือนตามพินัยกรรม 

รุจรวี อยู่ในเคหาสน์วงเดือนด้วยความหวาดหวั่น 

เพราะถูกกลั่นแกล้งจากคุณหญิงชลมาศ ใช้ให้เธอทำงานราวกับเป็นคนรับใช้ 

เมื่อคุณยายสายทอง ผู้ใหญ่ในตระกูลอีกท่านทราบเรื่อง 

จึงกันตัวเธอออกมาพักที่เรือนเดียวกัน  ให้ห่างจากคุณหญิงชลมาศ 

กฤตนัยนั้น เอ็นดูและเอาใจใส่สาวน้อยรุจรวี เพราะเธอมีทายาทของตระกูลอยู่ในครรถ์

แต่รุจรวีที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน กลับประทับใจในตัวชายหนุ่ม 

และคุณสายทองมองเห็นสายตาของคนทั้งคู่ จึงหวังให้หลานเล็กๆ ที่ยังไม่คลอดออกมานั้น

จะมี "พ่อกับแม่" ครบเป็นครอบครัวอบอุ่นในอนาคต 

จึงพยายามผลักดัน กระตุ้นเตือนให้ทั้งสองเปิดใจ 

และเสนอขอให้รุจรวีอยู่เลี้ยงหลานหลังจากคลอดแล้ว 

เมื่อรุจรวีถูกแกล้วจนเกือบแท้ง กฤตนัยจึงรู้ใจตัวเองว่า ลึกๆ แล้วเขา "ชอบ" รุจรวี 

เพียงแต่ปากหนักตะขิดตะขวงใจที่เธอ รับอุ้มบุญเพียงเพราะเงิน 

ไม่มีใครในเคหาสน์วงเดือนทราบว่าทำไมเธอจึงรับอุ้มบุญ 

เธอต้องใช้เงินมากมายเพื่ออะไร 

กฤตนัยเห็นดีเห็นงามกับการให้รุจรวีอยู่เลี้ยงหลานต่อ  

แต่ก็ไม่่วายพูดจาเหน็บแนบสาวน้อยด้วยเรื่องเงินอยู่บ่อยๆ 

กว่าเขาจะยอมรับว่า "รัก"  เขาก็เกือบจะเสีย "แม่ของลูกในอนาคต" ไปซะแล้ว 

หลังจากภวีร์ประสบอุบัติเหตุ เขามีอาการทางสมอง คุ้มคลั่งเป็นครั้งคราว

กฤติกาคนรัก ก็ทำตัวห่างเหิน  คนที่บ้านจึงส่งตัวไปพักผ่อนที่บ้านพักที่เชียงราย 

โดยขอร้องให้ศศิรา เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียน และเป็นนักเขียนไปอยู่ช่วยดูแล

แต่นอกจากกฤติกาแล้ว ภวีร์ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ 

เพราะเขาอายที่จะให้ใครได้เห็นเวลาที่ตัวเองคุ้มคลั่ง 

ศศิรา ชอบภวีร์มาตั้งแต่สมัยเรียน และยังคงชอบอยู่ตลอดมา

เธอจึงเต็มใจไปอยู่เป็นเพื่อนเขาที่เชียงราย 

และต้องคอยระวังจิตใจตัวเองไม่ได้ถลำลึก รักเขาไปมากกว่าเดิม

เพราะกฤติกา เพื่อนในกลุ่ม ก็คือคู่หมายของเขาด้วย 

บรรยายที่บ้านเชียงราย ความเอาใจใส่ของศศิรา 

ทำให้ภวีร์เริ่มรู้สึกตัวว่า ใครคือคนที่ใส่ใจเขา 

กฤติกาโทรมาบอกเลิก ในขณะที่ศศิราพยายามทำให้เขารู้สึกดีขึ้น 

ในที่สุด ภวีร์ก็ตกลงใจไปผ่าตัดรักษาอาการของตนเอง 

และสัญญาว่าจะกลับมา สานต่อความรักของเขากับศศิรา 

หญิงสาวที่รู้สึกสมหวังในรัก ถ่ายทอดเรื่่องราวของเธอและเขา

ออกมาเป็นนิยายเรื่อง บ้านระเบียงดาว  คนรู้จักทีได้อ่านก็รู้ชัดว่า

เป็นเรื่องของเธอกับเขา  แต่เมื่อภวีร์กลับจากต่างประเทศ 

อาการเจ็บป่วยหายไป รวมทั้งความทรงจำช่วงหนึ่งที่เชียงรายก็หายไปด้วย 

เขาลืมไปว่า เคยให้สัญญารักไว้กับศศิรา และมาโดยมีกฤติกาเคียงข้าง 

ถึงเวลาที่คนรอบข้างจะช่วยคลีคลายหมอกมัวๆ ในใจของภวีร์ซะที 

กฤติกาถูกพี่ชาย กฤตนัย และคุณปู่ บังคับให้ต้องไปอยู่ดูแลนางแบบสาวที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา

เพราะครอบครัวทางนั้นเชื่อว่าที่เธอประสบเหตุร้ายนั้น เพราะกฤติกาเป็นต้นเหตุ 

เมื่อเธอหาเหตุผลมาคัดง้างอะไรไม่ได้เลย จึงต้องจำยอมทำตาม

แล้วเธอก็ขับรถออกนอกเส้นทาง ไม่ได้ไปบ้านของนางแบบสาวอย่างที่รับปาก

ระหว่างทาง เธอถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งจู่โจม และนำตัวเธอไปบ้านพักกลางสวน

ที่นั่น เธอได้พบกับอิศนัย อดีตบอดี้การ์ดของภวีร์ และเขาคือ พี่ชายของนางแบบที่เธอต้องมาดูแล

แต่คนฤทธิ์มากถือตัวอย่างกฤติกาหรือจะยอมทำตามง่ายๆ 

เธอก็แผลงฤทธิ์ของเธอไป และอิศนัยก็รับมือเธอทุกทาง  อย่างโหดๆ 

จนในที่สุดแล้วกฤติกาก็ต้องอ่อนข้อให้อิศนัย ....ทำตัวเหมือนว่าง่าย 

แต่ใช้เล่ห์เหลียมให้คุณแม่บ้านนั่นแหละ ดูแลคนป่วยแทนตัวเธอ 

กฤติกาหวังให้สาวน้อยฟื้นขึ้นมา ทุกคนจะได้รู้กันว่า เธอไม่ได้เป็นต้นเหตุ

แต่กว่าจะถึงตอนนั้น เธอเสียตัว เสียใจ เสียความรู้สึกไปแล้ว 

พอน้องสาวฟื้นขึ้นมา เล่าเหตุการณ์ได้ อิศนัยก็ต้องตามง้องอนคนที่เขากลั่นแกล้งไว้

คราวนี้ถึงทีที่กฤติกาจะเอาคืนบ้างแล้ว ....

Create Date : 18 พฤษภาคม 2557
Last Update : 18 พฤษภาคม 2557 9:04:06 น.		8 comments
Counter : 3672 Pageviews.
Share Tweet