<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 มีนาคม 2552
 

อ่านหนังสือได้งาน จัดงานได้หนังสือ >>> ช้างไทย







สุทธิลักษณ์ อำพันวงศ์
สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งที่ 3 : กรกฎาคม 2540 230 บาท /398 หน้า
ซื้อ : 24 สิงหาคม 2542


โปรยปกหลัง
"ช้าง" เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อชีวิตคนไทยมาตั้งแต่อดีต
เป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ไทย
เคยรู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่อย่างกล้าหาญอดทนกับเหล่าทหารหาญ
ช่วยสานสร้างวัฒนธรรมไทยจนได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของชาติ
ชื่อของ "ช้าง" ถูกเอ่ยไว้ในวรรณคดี สุภาษิต และคำพังเพยมากมาย
"ช้าง" ได้กลายเป็นตัวแทนของโชค วาสนา และสิ่งอันเป็นมงคล
เป็นสัญลักษณ์ที่ผูกพันอยู่รอบๆ ตัวเรา
นับตั้งแต่เทวรูป เหรียญ ธนบัตร ไปจนถึงชื่อถนน สะพาน และชื่อสกุล
ทำไมช้างถึงมีอิทธิพล่ต่อชีวิตคนไทยถึงขนาดนั้น
หาคำตอบด้ใน "ช้างไทย" เล่มนี้
รวมเรื่องราวและเกร็ดความรู้เกี่ยวกับช้างที่ละเอียดและสมบูรณ์ที่สุด



เมื่อครั้งที่ต้องจัดงาน "ช้าง" ในปี 2542 สิ่งที่เราต้องทำคือ หาข้อมูล
เพราะต้นทุนของสิ่งที่จะนำมาจัดแสดงหลักนั้น ....มีอยู่แล้ว
ก็คือ ครูคำอ้าย เดชดวงตา สล่าชื่อก้องเมืองลำปาง เจ้าของบ้านรูปช้าง
และช่วงเวลที่จัดงานนั้น ตรงกับช่วง Amazing Thailand ซะด้วย
นายมุ่งหวังให้งานนี้ เป็นงานใหญ่ สมกับที่อุตส่าห์ยัดเข้าไปในโปรแกรมประชาสัมพันธ์ของททท. ได้
ถ้าทำให้เล็ก ...ก็เกรงว่าททท.จะเสียหน้าไปด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากททท. ซะหน่อย

เอาล่ะ ...ในฐานะลูกน้องที่ดี ...ก็ค้นคว้าหาข้อมูล
จนได้เจอหนังสือเล่มนี้ ....ไม่เสียดายที่ซือมาเป็นสมบัติส่วนตัวเลยล่ะ
เพราะหนังสือนี้ รวบรวมเรื่องช้างไว้ทุกเรื่อง ดังที่คำโฆษณาโปรยปกหลังว่าไว้


....แต่เดิมเป็นผลงานที่ท่านผู้เขียนได้ค้นคว้าเรียบเรียงขึ้นเพื่อส่งเข้าประกวด
ตามโครงการประกวดวรรณกรรมไทยของมูลนิธีธนาคารกรุงเทพในปี 2528
งานชิ้นนี้ได้รับรางวัลชั้นที่ 1 ในการประกวดคราวนั้น ต่อมาในปี 2530
ทางมูลนิธิธนาคารกรุงเทพได้จัดพิมพ์เป็นเล่มหนังสือออกเผยแพร่.....

สำหรับจุดประสงค์ที่ผู้เขียนตั้งใจไว้จริงๆ นั้นปรากฎในคำนำฉบับพิมพ์ครั้งแรก ว่า
...เพื่อที่จะรวบรวมเรื่องช้างให้สมบูรณ์ที่สุด ทั้งช้างที่มีชีวิตและช้างในตำนานต่างๆ
อิทธิพลของช้างต่อคนไทยในด้านการสร้างรูปช้างไว้ในวัตถุสำคัญต่างๆ
ตลอดจนการสร้างสิ่งจรรโลงใจที่มีความสัมพันธ์กับช้างและความสำคัญของช้าง
ซึ่งทำให้ชนชาติไทยยอมรับนับถือว่าช้างเป็นสัญลักษณะของประเทศไทย
การเก้บรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องช้างใช้เวลานานถึง 3 ปี เพื่อที่จะให้สารคดีเรื่องนี้ครอบคลุมเรื่องช้งในทุกแง่ทุกมุมเท่าที่จะทำได้....


หนังสือแบ่งบทใหญ่ออกเป็น 5 บท คือ
บทที่ 1 : เกิดเป็นช้าง
บทที่ 2 : ช้างในตำนาน พุทธประวัติ วรรรกรรม ภาพยนตร์ สุภาษิตและคำพังเพย
บทที่ 3 : รูปช้างในวัสดุต่างๆ และการสะสมวัสดุรูปช้างของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
บทที่ 4 : ชื่อต่างๆ ที่มีคำว่า "ช้าง" เกร็ดความรู้เกี่ยวกับช้างเผือก และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับช้าง
บทที่ 5 : สรุปเรื่องช้างไทย

เรียกได้ว่า อ่านจบจะรู้จักช้างทั้งตัวจริง และข้างที่แต่งขึ้นเลยล่ะ
แต่ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ...เราอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่จบหรอก
อ่านแบบคร่าวๆ เพื่อจับใจความและค้นคว้าว่า เรื่องใดมีความเป็นไปได้ที่จะนำเสนอออกมาให้ชม
และมีหน่วยงานใดที่พอจะทำลักษณะนิทรรศการในความคิดออกมาให้เป็นรูปธรรม ให้คนเข้าชมได้

แล้วเราก็ได้นิทรรศการเกี่ยวกับธงชาติไทย จากพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ กองทัพเรือ
ได้เรื่องช้างต้นและช้างเผือก จาก พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ช้างต้น
ได้หลากหลายงานศิลปะ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และอื่นๆ จากศิลปินสร้างสรรค์มาร่วมงาน
และได้การสาธิตงานช่างสิบหมู ที่ขอให้สาธิตเฉพาะลายช้าง จากวิทยาเขตเพาะช่าง

สมกับชื่องาน

"ช้างไทย ช่างไทย" หรือ "Amazing Elephant Amazing Aritisan"


งานนี้เป็นงานใหญ่จริงๆ นายถึงกับให้ทำหนังสือที่ระลึกออกมา 1 เล่มด้วย
วิ่งเต้น เข้า-เข้า ออก-ออก สำนักงานกองงานในพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ
เริ่มจากทูลเชิญเสด็จเปิดงาน ขอพระราชทานพระฉายาลักษณ์
และขอพระราชานุญาตอัญเชิญภาพวาดฝีพระหัตถ์รูปช้าง และพระราชนิพนธ์ที่เกี่ยวกับช้างมาพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือเล่มนี้



เรื่องหาในเล่มประกอบด้วย
* ช้างไทย ช่างไทย เพื่อใคร?
* ช้างกับพระมหากษัตริย์
* ช้างกับพระนเรศวร
* ช้างกับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
* ธงราชนาวี หรือ ช้างเผือก
* เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับช้าง
* ช้างกับงานจิตรกรรม
* ช้างกับงานแกะสลักไม้
* ช้างกับงานภาพถ่าย
* บทกวี
* สุภาษิตเกี่ยวกับช้าง
* ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย

พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่เกี่ยวกับช้างนั้น
ประกอบด้วย
คำฉันท์ดุษฎีสังเวย พระศรีนรารัฐราชกิริณี
กาพย์ขับไม้ กล่อมพระศรีนรารัฐราชกิริณี
คำฉันท์ดุษฎีสังเวย ช้างสำคัญ 3 เชื่อก
กาพย์ขับไม้ กล่อมช้างสำคัญ 3 เชือก


ขอยกบทกลอนที่ทรงพระนิพนธ์และต่อมากลายเป็นบทร้องเพลงไอยราชูงวงเถา มาไว้ตรงนี้ด้วยเลยล่ะกัน
ที่ลำเนาอรัญวาพนาเวศ
แถบประเทศเชิงผาศิลาไศล
รุกขชาติดงชัฏสะบัดใบ
ลมพัดไกวกิ่งสล้างช่างน่าดู
คณาสัตว์ที่อาศัยในไพรนั้น
มีหลายอย่างต่างพันธุ์ปนกันอยู่
โขลงช้างกินไผ่ใบดกยกงวงชู
จับกิ่งลู่ลงได้ใจสำราญ

อันพญาคชาชาติแกร่งกาจกล้า
เป็นเจ้าป่าสามารถอาจหาญ
อำลาถิ่นพนสนฑ์หนดงดาน
มาเฝ้าพระภูบาลผู้ผ่านเมือง
เป็นราชพาหนะพระทรงฤทธิ์
ต้องตั้งจิตคิดพระคุณนำหนุนเนื่อง
เรียนรู้หลักราชการงานประเทือง
ในใต้เบื้องบาทละอองให้ว่องไว

อ้ามิ่งมาตงค์ผู้คงบุญ
พิษณุพงศ์อดุลย์ยิ่งใหญ่
สมพระเกียรติอิสเรศราชัย
ประจักษ์ในคชลักษณ์งามนักเอย

ลองคิดตามดูแล้วกันนะว่า เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วนั้น คอมพิวเตอร์ยังใช้งานระบบไหน .....
แล้วหนังสือทั้ง 80 หน้ารวมปกเล่มนี้ ...เราก็พิมพ์อยู่คนเดียว ...ติดตามรวบรวมภาพประกอบจากศิลปิน
และทะเลาะกับกราฟฟิคในแผนกในการจัดวางหน้า
จนกระทั่งขอ ISBN มาได้สำเร็จ ทันส่งโรงพิมพ์ และรับหนังสือมาแจกในพิธีเปิดงานได้ทัน
เลือดตาแทบกระเด็น


พอนึกถึงงานนี้ทีไร ....ก็เป็นความภาคภูมิใจส่วนตัวจริงๆ
ยิ่งเมื่อนึกเทียบกับงานที่จัดอยู่ในปีนี้แล้ว ......
ยิ่งคับแค้นใจว่า ...เทคโนโลยีก้าวหน้า ความสัมพันธ์กับหน่วยงานต่างๆ แต่เดิมก็มี
แต่ที่ขาดไป คือ งบประมาณสนับสนุน นั่นแหละ
เราก็เลยได้งานแบบกระทัดรัด ...ทั้งๆ ที่งานอย่างนี้แหละ ...สร้างข่าวและสร้างหัวคนได้ดีกว่ากันมากนัก

อ้าว ....ลืมตัว ....ไม่บ่นล่ะ

อยากจะปิดท้ายตรงนี้ว่า
จุดเริ่มต้นของการจัดงานครั้งนั้น ...เกิดขึ้นจาก หนังสือ "ช้างไทย" นั่นแล

อ่านเรื่องวันช้างไทย คลิกที่นี่

ดูภาพงานศิลปะช้างเพื่อช้าง คลิกที่นี่






Create Date : 13 มีนาคม 2552
Last Update : 16 มกราคม 2561 13:58:47 น. 13 comments
Counter : 5452 Pageviews.  
 
 
 
 
โห..อ่านแล้วเหนื่อยแทนคุณนัทธ์เลยค่ะ กว่าจะได้หนังสือและงานออกมาสำเร็จแบบนี้ แต่ส้มว่าหนังสือน่าสนใจมากเลยค่ะ ยิ่งเมื่อคืนได้ดูข่าวลูกช้างโดนควาญช้างเอาขอสับที่หัวช้างด้วยแล้ว สงสารช้างมากค่ะ

ไม่รู้จะช่วยยังไงดีกับช้างที่ต้องถูกบังคับให้มาเดินในกรุงเทพฯ เมื่อก่อนมีแต่ช้างตัวใหญ่ๆ เดี๋ยวนี้มีแต่ลูกช้างทั้งนั้นเลยค่ะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:21:29:27 น.  

 
 
 
 
 

โดย: zodayenka วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:23:33:49 น.  

 
 
 
เป็นเพื่อนบ้านกังไว้ ดีจาตาย งุงิๆๆๆ
มีไร จาได้ ช่วยปลอบใจกัง

โจ...พลังชีวิต
 
 

โดย: พลังชีวิต วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:23:34:30 น.  

 
 
 
"ช้างไทย" น่าอ่านจังค่ะ สงสัยหายากแล้วแน่เลย
ชอบปกอะ คลาสสิกดี
 
 

โดย: ยาคูลท์ วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:0:31:30 น.  

 
 
 
อืม ว้าว แปดสิบหน้าไม่ธรรมดานะคะ
พิมพ์เองอีกต่างหาก

ชอบค่ะช้างไทย ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับช้างด้วย
เวลาอ่านนิยายเกี่ยวกับการท่องป่าแล้วมีช้าง
อย่างเช่นเรื่องเพชรพระอุมานี่ปลื้มมาก

แต่ไม่ชอบเวลาช้างอยู่ตามถนนแล้วก็อยู่ในสวนสัตว์ค่ะ ^^
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:6:36:22 น.  

 
 
 
เรื่องของช้างๆ ดีจัง คุณนัทธ์เปรียบเหมือนห้องสมุดของดิฉันค่ะนอกจากในblogจะมีหลากหลายเรื่องราวแล้วยังแม่นยำ ชัดเจน เกี่ยวกับประวัติแลละที่มาของเรื่องนั้นๆ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:7:51:01 น.  

 
 
 
คุณส้ม >> เราช่วยช้างไม่ได้มากนัก นอกจากจัดงานแล้วก็เชิญชวนคนมาช่วยกันบริจาคเงินมูลนิธินั่นแหละ

คุณ zodeyenka >> ช่วงเวลาที่กำหนด เป็นช่วงเล่นเนทจริงๆ นะนั่น

คุณโจ >> เห็นด้วยจ้า

คุณยาคูลท์ >> อืมม์ ...น้านซินะ ...คงหายากแล้วจริงๆ ซะด้วย เราไม่เห็นบนแผงหนังสือมานานมาแล้ว ไม่ว่าจะพิมพ์ใหม่ รึว่าปกเก่า

คุณอ้อน >> ตอนพิมพ์อ่ะไม่เท่าไหร่ค่ะ ...แต่ตอนตรวจทานนั่นแหละ เรื่องใหญ่กว่า โดยเฉพาะช่วงที่พระนิพนธ์
ตอนอ่านเพชรพระอุมา ...ก็สนุกดี แต่เวลายิงช้างเนี่ย ....ลุ้น ...ลุ้นให้รพินทร์ยิงพลาดบ้างอ่ะ ...

คุณเกศสุริยง >> ยกย่องเกินไปแล้วค่ะ ...ทั้งหลายทั้งปวง ก็ยกมาจากหนังสือที่อ่านนั่นแหละค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:9:11:27 น.  

 
 
 
เวลาที่เราได้ทำงานยากๆ มีปัญหาเยอะ แต่เราก็สามารถแก้ไขและผ่านมันมาได้ จะยิ่งทำให้เกิดความภาคภูมิใจในงานนั้น(และตัวเราเอง)นะคะ

น่าอ่านเหมือนกันนะ แต่คงหายากแล้ว
 
 

โดย: หมูย้อมสี วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:10:55:18 น.  

 
 
 
ความจริงแวะมาดูบล็อกคุณนัทธ์ตั้งแต่บล็อกจัดงานช้าง ๆ นั่นแล้วแหละค่ะ
แต่ไฟดับไปฉับพลันเลยไม่ทันฝากเม้นท์ไว้

หนังสือเล่มนี้น่าสนใจมาก ๆ
โดยเฉพาะในส่วนที่ช้างโยงใยกับงานศิลปะ
ทั้งจิตรกรรมทั้งวรรณกรรม

คิดเหมือนคำงายในตลิ่งสูงซุงหนักที่ว่า...
เราไม่อาจแยกตัวเราออกจากชีวิตอื่น ๆ ได้ เพราะมันสามารถโยงหากันได้หมด
เป็นความผูกพัน เป็นสายใย แล้วกลายเป็นวิถีชีวิต
 
 

โดย: แม่ไก่ วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:11:53:44 น.  

 
 
 
พิมพ์หลายรอบแล้ว ไม่ติดซักทีแฮะ เฮ้อ..

เป็นนิยายเล่มหนึ่งที่กระทบใจเรามากค่ะ ได้อ่านตั้งแต่ยังไม่โตเป็นสาว อ่านตอนปีที่ได้รางวัลแหละค่ะ

ชอบนะคะสำหรับเล่มนี้
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:15:16:28 น.  

 
 
 
หน้าปกดูเป็นช้างไท้ยไทยจริงๆ..ใส่มงกุฏ ชฏา...น่ารัก

ชอบช้าง แต่ไม่ชอบหนังสือวิชาการเนี่ยสิ...ทำไงดี
 
 

โดย: ทากชมพู วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:9:01:49 น.  

 
 
 
คุณหมู >> ถูกต้องเลยค่ะ

คุณแม่ไก่ >> ใข่ค่ะ ...ผู้เขียนรวบรวมข้อมูลได้ครบถ้วนดี ...อ่านสนุกด้วยล่ะ

คุณสาวไกด์ >> พิมพ์ยากเพราะ bloggang รวนอีกรึป่าว

คุณอัยย์ >> เล่มนี้ไม่เชิงวิชาการเท่าไหร่นะ ...อ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:9:49:06 น.  

 
 
 
เล่าย่อหนังสือเล่มนี้ได้น่าสนใจ
เป็นหนังสือเก่าแล้ว เคยอยู๋ในกะบะ
ลดกว่าครึ่ง เพิ่งไปดูงานงานศิลปะช้างเพื่อช้าง
ดูไปแล้วอินอย่างแรง.....

 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:10:15:11 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com