<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
19 เมษายน 2552
 

ศิลปะแห่งชีวิต - ของขวัญให้เพื่อน



เมื่อตอนเขียน ของขวัญ : วันเปลี่ยนอายุ ร่วมในโครงการถนนสายนี้ มีมิตรภาพ
เรายกหนังสือเล่มนี้มาเล่าแล้ว ก็อยากหยิบมาขยายความเพิ่มเติมซะหน่อย

:: ศิลปะแห่งชีวิต ::
The Art of Living : A Treasure Chest


Wilferd Arlan Person
แปลโดย เจษฎา ทองรุ่งโรจน์
สำนักพิมพ์แม่คำผาง พิมพ์ครั้งที่ 2 : 2537 ราคา 75 บาท / 208 หน้า
ซื้อ : 24 กรกฎาคม 2537


โปรยปกหลัง
ท่ามกลางกระแสสูงของสิ่งที่เรียกขานว่า 'โลกานุวัตร'
ผู้คนจำนวนไม่น้อยกลายเป็นคนหลงทาง
กลางทะเลทราบแห่งความสิ้นหวัง
ศิลปะแห่งชีวิต ของ วิลเฟิร์ด อาร์แลน พีเทอร์สัน
ทำหน้าที่เป็นรากฐานของความคิดและภาพทัศน์
สำหรับการโลดทะยาน
จากก้นบึ้งของหุบเหวแห่งความยากเข็ญ
ไต่เหยียบขุนเขาแห่งความมั่งคั่ง
และก้าวสู่วิหารแห่งความสำเร็จอย่างมีกำลังใจ


มีคำแนะนำสั้นๆ ถึงหนังสือเล่มนี้ในปกในบอกว่า
ศิลปะแห่งชีวิต ความเรียงเพื่อสร้างกำลังใจในการดำเนินชีวิต ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้อ่านมาแล้วหลายทศวรรษ เขียนโดยนักเขียนความเรียงด้านศิลปะแห่งการดำเนินชีวิตที่ดีที่สุดในโลกอีกคนหนึ่ง ชื่อ วิลเฟิร์ด อาร์แลน พีเทอร์สัน

หนังสือฉบับแปลเล่มนี้ พิมพ์ครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์เม็ดทรายเมื่อปีพ.ศ. 2527 ซึ่งผู้แปลได้เขียนความนำไว้ว่า
เป็นเพราะโลกปัจจุบันกำลังอยู่ในห้วงอารยธรรมกระมัง จึงสามารถกล่าวได้อย่างค่อนข้างมั่นใจว่า มนุษย์ไม่อาจดำเนินชีวิตอย่างพึงพอใจเพียงด้วยปัจจัยสี่เท่านั้น แต่ยังต้องมีปัจจัยอื่นมาร่วมเสริมด้วย โดยเฉพาะในการเกื้อหนุนด้านจิตใจให้ดำรงอยู่และดำเนินไปควบคู่กับด้านกายภาพ และนี่ก็คืออะไรบางอย่างที่ วิลเฟิร์ด อาร์แลน พีเทอร์สัน เข้าใจและเชื่ออย่างลุ่มหลง ดุจเดียวกับใครอื่นอีกจำนวนไม่น้อยทีเดียว แนวความเชื่อถือทำนองนี้ของเขาสรุปเอาไว้ในความเรียงเชิงกวีนิพนธ์บทหนึ่งของเขาเองที่ว่า "ในหมู่สรรพสัตว์แห่งโลก มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนแบบแผนตนเองได้" ...

ศิลปะแห่งชีวิตเล่มนี้เป็นการคัดรวมงานเขียนของพีเตอร์สันของปีค.ศ. 1961, 1963 และ 1966 ไว้เป็นเล่มเดียวกัน และได้รับการต้อนรับมากที่สุดอีกเล่มหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการหนังสือ โดยได้รับการตีพิมพ์ 47 ครั้งในขณะที่ยังเป็นหนังสือปกแข็ง

พีเทอร์สันเติบโตมาในครอบครัวที่นับถือนิกายโปรเทสแตนท์ ทำให้เขาสนใจค้นคว้าเรื่องปรัชญา จิตวิทยา และประวัติศาสตร์ นอกเหนือจากวิชาการด้านการโฆษณาธุรกิจที่เขาศึกษาอยู่
เขาทำงานเป็น Copy Writer และก้าวหน้ามาในสายงานด้านการโฆษณา
และผันตัวเองออกมาเป็นนักเขียนและผู้บรรยายตามสถาบันต่างๆ

งานเขียนของเขาเป็นเชิงจิตวิทยาและปรัชญาเชิงปฏิบัติ และงานเขียนที่ว่าด้วย ศิลปะแห่งชิวิตของเขานั้น ต่างจากนักเขียนคนอื่นเป็นอย่างมาก
ตรงที่มีความง่าย ความซื่อตรง ความกระชับ และมีประเด็นชัดเจน
ทำให้งานเขียนบางชิ้นของเขาถูกนำไปใช้บันทึกเสียงประกอบดนตรีบ้าง คัดบางส่วนลงบัตรอวยพรวาระต่างๆ อีกด้วย ...
10 ปีต่อมาสำนักพิ่มพ์แม่คำผางได้มาตีพิมพ์ใหม่ ซึ่งผู้แปลได้แก้ไขข้อผิดพลาด และเพิ่มเติมเนื้อหาอีก 19 บท

Wilferd A. Peterson - Biography



เราชอบอ่านหนังสือประเภทความเรียง ข้อคิด หรือรวมคำคมอะไรแบบนี้แหล่ะ
เพราะไม่จำเป็นต้องอ่านรวดเดียวจบ จะพลิกบทไหนมาอ่านก่อนก็ได้
และหนังสือลักษณะนี้ ...มักทำให้เราต้องคิดตามอยู่เสมอ
แล้วจะค้นพบความคิดเห็นที่ดีต่อการดำเนินชีวิต

ขอยกตัวอย่างสั้นๆ จากบทที่ชอบมาแปะไว้..

ศิลปะแห่งเสรีภาพ
เสรีภาพ คือ สิทธิในการเป็นตัวของตัวเอง ในการทำสิ่งผิดพลาด ล้้มเหลว และพยายามใหม่
ความล้มเหลวไม่เคยมีฉากสุดท้าย เสรีภาพให้โอกาสแก่ท่านเสมอ
เสรีภาพ คือพรจากสวรรค์ซึ่งต้องถูกแบ่งปันเผื่อแผ่
พวงผลแห่งเสรีภาพ ขึ้นอยู่กับการกระทำระหว่างกันของความคิด มโนภาพ และอุดมคติของมนุษย์


ศิลปะแห่งความเป็นผู้นำ
ผู้นำคือบ่าวที่ยิ่งใหญ่ นายแห่งหมู่มวลมนุษย์
เผยอุดมคติของความเป็นผู้นำออกมาในประชาธิปไตย
ยามเมื่อเขาเอ่ยว่า "ใครใดก็ตาม ที่จะเป็นนายของท่าน จงให้เขาเป็นบ่าวของท่านด้วย"
ผู้นำมองเห็นสรรพสิ่งผ่านดวงตาของผู้ตาม ยืนอยู่เคียงข้างผู้ตาม
และช่วยเขาเหล่านั้นสร้างความฝันให้เป็นความจริง
ผู้นำไม่พูดหรอกว่า "ท่านไปเถิด" แต่ทว่าจะพูดว่า "เราไปกันเถิด!" และเขาก็เดินนำไป
เขาไม่ถือแส้เดินตามหลังมา แต่ทว่าจะถือธงเดินนำหน้า


ศิลปะแห่งวิกฤติ
วิกฤติคือการท้าท้าย
อาจท้าทายท่าน ให้สร้างสรรค์ชีวิตใหม่ขึ้นมาจากความผิดหวังและความพ่ายแพ้
จากการเจ็บไข้และความสิ้นหวัง ท่านอาจพบกับชัยชนะได้
ยามเมื่อเกิดวิกฤตหนึ่ง ท่านย่อมเผชิญหน้ากับหัวเลี้ยวหัวต่อหนึ่ง
ท่านอาจเลือกได้เพียงทางเดียว ขึ้นหรือลง ก้าวไปข้างหน้าหรือถอยมาข้างหลัง
การเลือกของท่านจะกำหนดชะตากรรมของท่านเอง
...
ศิลปะแห่งวิกฤติก็คือการอุบัติขึ้น เพื่อเผชิญกับวิกฤติใหม่
แต่ละประการด้วยวิญญาณอันทระนง


ศิลปะแห่งการมีชีวิตอยู่ในแต่ละวัน
แต่ละวันก็คือชั่วชีวิตหนึ่งในเรื่องราวเล็กเล็กน้อยน้อย
การตื่นขึ้นมาในแต่ละเช้าคือการเกิดอีกหน
การหลับนอนในแต่ละคืน ก็คือการยื่นความตายให้วันนั้น
ในช่วงระหว่างการตื่นกับการหลับ คือชั่วโมงทองของวัน
สิ่งที่เรามิอาจทำเพื่อชั่วชีวิตหนึ่งได้นั้น
เราอาจทำเพื่อชั่ววันหนึ่งได้
...
มีชีวิตในวันหนึ่งด้วยช่วงเวลาหนึ่ง และพึงจดจำว่า
วันพรุ่งนี้ ก็คือวันนี้อีกวันหนึ่งนั่นเอง


จากตัวอย่างเพียงเล็กน้อยนี้ ...น่าจะพอบ่งบอกได้ว่า
เหตุใดหนังสือเล่มนี้ จึงเหมาะจะซื้อเป็นของขวัญแด่เพื่อน
ตอนที่เราอ่านหนังสือเล่มนี้จบลง
เราบอกตัวเองไว้เลยว่า ....วันเกิดเพื่อนคนต่อไป...ฉันจะซื้อหนังสือเล่มนี้ให้
แม้จะเป็นการ "ยัดเยียด" ให้อ่านก็เถอะ
และต่อจากนั้นมาอีกหลายปี ...เมื่อเราพบเห็นหนังสือเล่มนี้ลดราคาในงานหนังสือ
เราก็ซื้อมาเก็บเอาไว้หลายเล่ม (ตามงบประมาณ) เผื่อไว้เป็นของขวัญแก่เพื่อนที่ยังไม่เคยได้รับ
แต่ว่า...ตอนนี้ไม่ค่อยได้เห็นหนังสือเล่มนี้จากแผงแล้วล่ะ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีการพิมพ์ใหม่ออกมา
อาจพิมพ์แล้ว เปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนผู้แปลแล้วก็ได้...

และที่เราแสวงหาอยู่ก็คือ หนังสือภาษาต้นฉบับ...

ก็หวังว่า บางเสี้ยวส่วนที่ยกมานี้
...คงจะดีพอที่จะมอบให้เป็น "ของขวัญ" รับสงกรานต์ แด่เพื่อนชาว Bloggang ของเรา







Create Date : 19 เมษายน 2552
Last Update : 19 เมษายน 2552 20:07:44 น. 24 comments
Counter : 2357 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณค่ะ น่าสนใจ
ตัวเสี้ยวเองก็ชอบอ่านหนังสือที่ชวนให้คิดเช่นนี้เหมือนกัน
แต่ขออย่างเดียวว่า อย่ามาเป็น how to บอกให้เราทำอย่างนั้นอย่างนี้
เป็นพอ
 
 

โดย: gluhp วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:18:48:31 น.  

 
 
 
พิมพ์ตั้งครั้งที่ ๔๗
น่าจะไม่ธรรมดาเอามากม๊าก
แต่ทำไมผมไม่รู้จักหนังสือเล่มนี้ได้หว่า

ทั้งๆที่เดิน เข้าร้านหนังสือทุกที่ที่มี
ศิลปะการใช้ชีวิตไปวันๆ คิดคล้ายผมมาก
ผมมักคิดว่าเราเกิดใหม่ทุกวัน
ที่เราตื่น ประโลมการทำงานไม่ให้เรา
รู้สึกหน่ายกับชีวิต
แวะมาครั้งนี้ ขอดูหน้าคนที่
ติดซีรีย์แม็กกายเวอร์ หน่อยเห้อ

ต้องถือว่าไม่ธรรมดา
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:19:52:38 น.  

 
 
 
ส้มว่าเหมาะนะคะที่จะซื้อเป็นของขวัญ
แต่ก็ต้องเลือกให้เฉพาะคนชอบอ่านนะ
ขืนซื้อให้คนที่ไม่ชอบอ่านล่ะก็เสียดายหนังสือ
เสียดายตังค์ เสียดายความตั้งใจเลยค่ะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:19:53:52 น.  

 
 
 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

น่าสนใจเน๊าะหนังสือเล่มนี้
 
 

โดย: อุ้มสี วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:20:41:09 น.  

 
 
 

มาเชิญไปเป็นกรรมการ ตัดสินการประกวด สาวประเภทสองค่ะ เกศสุริยง
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:20:42:20 น.  

 
 
 


การชนะมากเกินไปคือการแบกภาระที่เกินพอดี

ป้าเคยชอบอ่านหนังสือ อ่านมากประมาณหนอน
แต่เดี๋ยวนี้อาจจะเวลาที่น้อยลง อาจจะสายตาที่ล้าลงเช่นกัน
กว่าจะอ่านจบสักเรื่องต้องใช้เวลานานมาก และอ่านแล้วก็ลืม

อีกอย่างความสนใจในการอ่านก็ถูกจำกัดกรอบให้แคบลงมา
เหลือแต่หนังสือธรรมะเท่านั้นที่จับทุกเวลาที่ว่าง
คงเป็นไปตามวัยกระมัง

แม้กายนอกจะกระทบร้อนถึง 39 องศา
แต่รักษาสุขภาพและกายในไว้ให้อยู่กับสุขที่อิ่มเย็นนะคะ

คมคำ : แพ้เสียบ้างคือการลดน้ำหนักข้างเกิน


 
 

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:20:56:26 น.  

 
 
 
คุณเสี้ยว >> how to แบบบอกให้ทำ เราก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกันล่ะ ...แต่ก็อ่าน (บางเรื่องที่น่าสนใจ)

คุณชาญ >> หนังสือภาษาต้นฉบับมันมีมาตั้งแต่ปี 1966 โน้นแล้วล่ะ เพิ่งมามีฉบับแปล ในพ.ศ. 2527 ก็นับว่าเก่าแก่เอาการอยู่นะ

คุณส้ม >> สมัยนั้นชอบมากค่ะ ..ไม่สนใจหรอกว่าคนรับจะอ่านมั๊ย ...เราถือว่า ยัดเยียดของดีๆ ให้แล้วอ่ะ

คุณอุ้มสี >> เพราะน่าสนใจจึงนำมาบอกต่อค่ะ

คุณเกศ >> ตามไปโดยพลันค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:21:01:21 น.  

 
 
 
ว๊าว มีคำคมๆเยอะจริงๆด้วยค่ะ ชอบตรงที่ยกเรื่องเสรีภาพมาให้อ่านน่ะค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ เฮ้อ เศร้าจังเลยค่ะ
 
 

โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:21:30:06 น.  

 
 
 
ข้อความในหนังสือเล่มนี้น่าสนใจมากๆครับคุณนัทธ์

ปล.ดอกไม้ในบล้อกผมวันนี้คือดอกงิ้วครับ

 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:21:53:49 น.  

 
 
 
น่าสนใจค่ะ จะลองไปหาฉบับภาษาอังกฤษมาอ่านบ้างค่ะ
 
 

โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:22:46:57 น.  

 
 
 
ขอบคุณสำหรับของขวัญวันสงกรานต์ค่ะคุณนัทธ์ ^^
ชอบจังผู้นำไม่ใช่ผู้ถือแส้ตามหลัง
แต่คือผู้ถือธงนำหน้า วุ้ย อารมณ์ส่วนตัวค่ะ 55
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:0:23:39 น.  

 
 
 
ป้ากุ๊กไก่ >> ใช่ค่ะ เมื่อย้อนคิดไปจะรู้ว่า ความรู้สึกอยากอ่านหนังสือแต่ละประเภทของตัวเอง ก็เปลี่ยนตามวัยเช่นกันค่ะ ...ประเภทที่อ่านไ้ด้ตลอดแม้อายุจะเปลี่ยน ก็คือ นิยาย นั่นเอง

คุณ TaMaChAN >> ยกมาจากที่ชอบและเข้ากับสถานการณ์ซะหน่อยอ่ะนะ ...จริงๆ คือชอบทั้งเล่มเลยล่ะ

คุณก๋า >> นึกแล้วว่าเป็นดอกงิ้ว ...สีแดงจัดจริงๆ เนอะ

คุณกุลธิดา >> ได้อ่านแล้ว..รู้สึกเหมือนกันรึป่าว ช่วยบอกด้วยนะ

คุณอ้อน >> ด้วยอารมณ์ส่วนตัวเช่นกัน จึงยกข้อความช่วงนี้มาจ๊ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:7:11:14 น.  

 
 
 
ศิลปะ ... มันระบุไม่ได้นักค่ะว่าจะเป็นแขนงไหน
แต่เชื่อเลยว่าทุกแขนง ถ้าเราแยกได้ว่ามันเป็นศิลปะในมุมมอง
ของเรานั้น เชื่อว่ามันให้ความสบายใจทุกครั้งที่ได้เห็นค่ะ


ส่วนถ้าเป็นหนังสือที่แนะนำด้วยนี้นั้น คาดว่าน่าอ่านไม่ใช่น้อย
ยิ่งถ้ามีรีวิวให้เราได้อ่านกันอย่างย่อๆ แล้วก็เหมือนกับว่า
เราถูกกระตุ้นให้อยากอ่านหนังสือดีๆ ค่ะ
 
 

โดย: JewNid วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:7:44:49 น.  

 
 
 
รัชชี่ชอบหนังสือที่มีคำพูด คำคม คำคิดดี ๆ เหมือนกันค่ะ แต่อย่าเป็นหนังสือเครียดมาก

เมื่อกี้อ่านผ่าน ๆ ประโยคที่ว่าตื่นแต่ละวันก็เหมือนเกิดใหม่ เสมือนเป็นสิ่งที่สะท้อนว่า อดีตเป็นไรไม่สำคัญ ตื่นแต่ละวันเราก็ทำดีใหม่ก็แล้วกัน
 
 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:19:26:54 น.  

 
 
 
ฮา ฮา..ยัดเยียดให้อ่าน..
วันเกิดแจงปีหน้า..มายัดเยียดให้แจงบ้างนะคะ
ชอบเหมือนกันค่ะ..หนังสือที่เป็นหนังสือคำคม
สั้นแต่กินใจ...หยิบมาอ่านได้เรื่อยๆไม่เบื่อ
 
 

โดย: nikanda วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:7:05:23 น.  

 
 
 
ขอสารภาพว่า..ถ้าเห็นอยู่ตามแผง คงไม่คิดหยิบขึ้นมาอ่านค่ะ

แต่พออ่านรีวิวแล้ว..น่าสนใจอย่างมาก

อยากยัดเยียดให้กันบ้างมะคะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:8:37:07 น.  

 
 
 





ขอความช่วยเหลือด่วนคับ
คุณพ่อของเพื่อนเรา
กำลังรอรับการผ่าตัด
หลอดเลือดหัวใจ
ต้องการเลือดกรุ๊บ
group B (Rh-)

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=powerup


 
 

โดย: พลังชีวิต วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:10:35:13 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะพี่
แวะมาทักทาย และเก็บเกี่ยว
ศิลปะการดำเนินชีวิต
เป็นหนังสือที่น่าสนใจ และดีมากๆเลยนะคะ
หนูก็ชอบอ่านหนังสือประเภทนี้เช่นกันค่ะ
มีความสุขทุกวันนะคะ
 
 

โดย: แม่ภูมิ (Artagold ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:7:58:46 น.  

 
 
 
น่าอ่านจังพี่
ยืมหน่อยจิ
แหะๆ...
 
 

โดย: ชรันจ์ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:20:03:41 น.  

 
 
 


การบ้านให้คนน่ารักทำ TAG ของคนที่เรารักมาส่ง อิๆๆๆ
(ใครไม่มีแฟนเอาคุงพ่อคุงแม่คุงลูก ก็ล่าย)




ตัวอย่าง TAG ภรรยาของโจ
ขอเปลี่ยนจาก เธอ เป็น เทอ จะได้อารมณ์กว่า ก๊าก!!!
1.เทอ บอกว่า ข้าวเหนียว ไม่ใช่ ข้าว อิๆ
2.เทอ เคยโกรธกับพี่สาวตัวเอง แล้วไม่พูดกัน 3 ปี
3.เทอ ไม่กินข้าวร้านที่แปะสติกเกอร์พรรคการเมืองของทักษิณ
4.เทอ รักเด็กที่นอนเป็นทารกเท่านั้น อิๆ
5.เทอ ไม่รักเด็กที่วิ่งได้แย้ว 555+ บอกว่ารำคาญ

อีกมากมายอิๆๆๆ

ใครทำมาส่งขอให้แฟนรักแฟนหลง
ใครยังไม่มีก็ขอให้คนที่รัก รักมากๆ



 
 

โดย: พลังชีวิต วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:20:20:35 น.  

 
 
 
ขอเข้ามาสวัสดีหน้านี้ล่ะกันค่ะ

ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้าไปเยี่ยมเยียนกัน
ว่างๆจะเข้ามาอ่านบทความ เนื้อหาดีๆในบล็อคนี้เช่นกันค่ะ
 
 

โดย: ท้องฟ้าสีครามยามเย็น วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:0:55:06 น.  

 
 
 
คุณ JewNid >> เห็นด้วยค่ะ ศิลปะให้ความสบายในทุกทุกมุมมอง

คุณรัชชี่ >> ที่ยกมานั่น เราก็ชอบอันสุดท้ายนะ ...อ่านดูแล้ว ช่วยทำให้ความรู้สึกแบบอยู่ไปวันวัน เปลี่ยนไป

คุณแจง >> เอาหาซื้อได้อีก ...จะส่งไปยัดเยียดให้อ่าน

คุณสาวไกด์ >> ด้วยความยินดี ...หาเราพอจะหาซื้อได้อีกนะ

คุณแม่ภูมิ >> ยินดีค่ะ...

น้องชาย >> ได้เลยน้อง ...แวะมาหาพี่ดิ

คุณโจ >> tag tag tag ...คิดก่อน หัวข้อนี้ทำยากอ่ะ

คุณท้องฟ้าฯ >> ด้วยความยินดีค่ะ ....เชิญรื้อค้นได้ตามสบาย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:13:57 น.  

 
 
 
หนังสือน่าอ่านดีนะคะ
แต่ตอนี้สัญญาไว้กับตัวเองว่าจะเอา "กองดอง"มาอ่านให้หมดทุกเล่มซะก่อน

ถึงจะซื้อใหม่
 
 

โดย: ปณาลี วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:13:10:46 น.  

 
 
 
ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกจ้ะ...ทำไมคุณนัทธ์ยังไม่ได้อ่าน century ล่ะคะ ไม่ค่อยชอบหรอ..เอ..หรือว่ามีหนังสือเยอะจนไม่รู้ว่าจะอ่านเล่มไหนก่อนดีคะ
 
 

โดย: Sweety PB วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:15:19:30 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com