<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 พฤศจิกายน 2552
 

รากเหง้าแห่งศิลปะไทย : พิริยะ ไกรฤกษ์



Event อันเกี่ยวเนื่องกับหนังสืออย่างหนึ่งก็คือ งานเปิดตัวหนังสือ
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราได้มีโอกาสรับงานเปิดตัวหนังสือมาจัดในพื้นที่ของเรา
River Books เลือกใช้บริการที่นี่
เพราะฐานลูกค้าและสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยร้านจำหน่ายศิลปวัตถุ
เอื้อต่อภาพลักษณ์ของหนังสือ
นายเราก็เลยตกลงรับงานนี้ ...ทั้งๆ ที่หวั่นๆ ใจว่าการปรับปรุงห้องจะเสร็จทันงานรึป่าว

แล้วมันก็ไม่ทันจริงๆ ซะด้วย ...อันนี้เป็นเรื่องชวนหงุดหงิดมากเลย
ไม่ทัน ก็คือไม่ทัน ...แต่ก็ควรจะบอกกล่าวให้ฝ่ายที่รับงาัีนชัดๆ ไปเลยว่า "ไม่ทัน"
มัวแต่กักข้อมูลกันอยู่นั่นแหละ ...ฝ่ายเราก็ต้องมานั่งแก้ปัญหา
เสนอพื้นที่จัดงานใหม่ เจ้าของงานก็ OK รับได้ ...เพราะเห็นว่าลูกค้าที่ต้องการอยู่ตรงนี้
เราเป็นคนจัดการพื้นที่ ก็ต้องดูแลให้มันออกมา OK ให้มากที่สุด เรียบร้อยที่สุด
แต่ก็มีเรื่องให้ขัดอกขัดใจอีกจนได้ ....

ช่างเถอะ....งานผ่านไปแล้ว
ผ่านไปทั้งงานเปิดงานหนังสือ และการบรรยายทางวิชาการ

หนังสือที่ River Books หยิบมาจัดเปิดตัวมี 3 ปก



แต่ละเล่มมีเนื้อหาและภาพประกอบที่ดีมากๆ เลยล่ะ
เหมาะกับคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์ศิลป์และศิลปวัตถุมาก ถึงมากที่สุด
ถ้าเป็นภาษาไทยเราก็คงซื้อเก็บไว้เป็นความรู้เพิ่มเติมแล้วล่ะ
แล้วภาพประกอบ ก็ถ่ายจากกรุของนักสะสมชั้นเยี่ยม งานเจ๋งมากเลย
เจ้าของใจดี ยกมาโชว์ในวันเปิดตัวด้วย

ถัดจากวันงานเลี้ยงเปิดตัว ก็มีการจัดบรรยายเชิงวิชาการด้วย
วันเสาร์ที่ผ่านมาผู้เขียน Khmer Ceramics มาพูด
ส่วนวันอาทิตย์ อ.พิริยะ ไกรฤกษ์ ก็มาพูด



เราก็มาอยู่เวร ..ทำงานด้วย ได้ฟังไปด้วย
หนังสือ "รากเหง้าแห่งศิลปะไทย" เล่มนี้ อาจารย์ใช้เวลารวบรวมข้อมูลและเรียบเรียงออกมา 25 ปี
นานมากๆ มีการปรับปรุงข้อมูลตามทฤษฎีของอาจารย์ไปเรื่อย
จนกระทั่งส่งไม้ต่อให้ River Books จัดการตามขั้นตอนการพิมพ์อีก 5 ปี
เป็นอันว่า กว่าจะออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ก็ใช้เวลายาวนานถึง 30 ปี





อาจารย์ยกเนื้อหาบางช่วงบางตอนจากหนังสือออกมาเล่า หรือย่อยบรรยายให้ได้รู้ถึง
ความเป็นมา แนวทางการวิเคราะห์ หรือการอ้างอิงทฤษฎีเชิงประวัติศาสตร์ศิลป์ของอาจารย์
ว่ากำหนดอย่างไร มีอะไรเป็นจุดสังเกตุ เทียบเคียง
ซึ่งพุดคุยกันถึงเรื่อง พระพุทธรูปและเทวรูป
จากอินเดียโบราณเรื่อยมาจนก่อนเข้าสู่ประเทศไทยไทย
ก่อนจะคลี่คลายออกมาเป็น "พุทธศิลป์ไทย" นั้น มีพัฒนาการมาอย่างไร

จำได้ว่าตอนเรียนปี 1 ที๋ธรรมศาสตร์ วิชาบังคับเลือกตัวนึงคือ "อารยธรรมไทย"
เลือก เรื่องใกล้ตัว น่าจะเข้าใจได้ง่าย
2 คาบที่ได้เรียน เจออาจารย์พิริยะ บรรยายทฤษฎีของท่าน
ค้านกับตำราเรียนประวัติศาสตร์ที่เคยเรียนมาตอนมัธยมมากมาย
มึนและคิดตามอาจารย์ได้ทัน ...เลยต้องดรอปวิชานี้ ไปเลือกลงตัวอื่นแทน

มาถึงตอนนี้ ทำงานที่นี่ได้สัมผัสกับ "ศิลปวัตถุ" มากมาย
ทำให้ต้องอ่าน ต้องศึกษา หาเวลาไปเดินดูของในพิพิธภัณฑ์
คุยกับผู้รู้ ไปฟังบรรยายตามที่ต่างๆ บ้าง
พอจัดกิจกรรมอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ "ศิลปวัตถุ" หรือ "ประวัติศาสตร์ศิลป์" ก็ได้มีโอกาสค้นคว้าเพิ่มเติม
ทำให้เราเข้าใจแง่มุมของประวัติศาสตร์มากขึ้น

ประวัติศาสตร์ ก็เช่นเดียวกับ วิทยาศาสตร์ นั่นแหละ
ไม่มีถูก ไม่มีผิด ต้องศึกษากันเรื่อยไป
หาข้อมูลใหม่ มาหักล้างข้อมูลเดิม
แบบนี้ถึงจะมีการพัฒนา


หนังสือของอาจารย์พิริยะเล่มนี้ เราว่าเหมาะกับคนชอบศึกษาประวัติศาสตร์ศิลป์มาก
ภาพประกอบสุดยอดเลยล่ะ ภาพศิลปวัตถุจากพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ
และที่สำคัญ บางภาพก็ได้รับพระบรมราชานุญาติให้ถ่ายจากของสะสมส่วนพระองค์ด้วย
ท้ายเล่มอาจารย์ทำอภิธานศัพท์ไว้ด้วย ....
เพราะฉะนั้น เราจึงไม่รอช้าที่จะหยิบหนังสือเล่มนี้มาไว้ใน collection ของตัวเอง

และหวังว่าเราคงได้มีโอกาสจัดกิจกรรมแบบนี้อีกในปีต่อไป
การได้เรียนรู้ ได้ฟัง ได้เห็น ในพื้นที่ของตัวเองนี่แหละ ...สุดยอดแล้ว
ไม่้เสียเวลาเดินทาง...ชอบจริงๆ นะเนี่ย








Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 21:13:45 น. 4 comments
Counter : 4091 Pageviews.  
 
 
 
 
น่าสนใจมากครับ คุณนัทธ์
 
 

โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:41:43 น.  

 
 
 
คุณหนุ่มร้อยปี >> ลองหามาอ่านดูค่ะ ได้ความรู้ใหม่ๆ ดีนะคะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:31:14 น.  

 
 
 
ไร เนี่ยยย เม้นท์ตอนเช้าหายไปไหนอ่ะ..
"พุทธศิลป์" เรารู้สึกว่าเราช่างห่างไกล..
เพราะไม่เคยจำแนกได้ว่าสมัยไหนแตกต่างอย่างไร
หรือจะเป็นเรานั้นเรียนรู้น้อย
แต่เวลาสำหรับเรียนรู้อะไรที่มีอยู่มากมายในโลกนี้ช่างมีน้อยนิดไม่พอสำหรับเราว่ามั้ยเนอะ

เมืองหลวงเป็นอย่างไรบ้างอากาศเย็นจัดเหมือนที่นี่หรือเปล่า กลางดึกตื่นมาต้องจิบน้ำร้อนค่ะ
บางคืน 13-14 องศา ในอนาคตอันใกล้ คงได้ดูแม่คนิ้งบนยอดหญ้าในสนามหญ้าหน้าบ้านตัวเองล่ะ
 
 

โดย: โมกสีเงิน วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:54:20 น.  

 
 
 
คุณปลัดโมก >> ไม่เป็นไรค่ะ หายไปก็เมนท์ใหม่ ...ช่วงนี้ bloggan ยังไม่เสถียร
อากาศที่เมืองหลวง ยังไม่ลงมาถึงหลัก 1 ค่ะ แค่หลัก 2 พอเย็นๆ และใ่ส่เสื้อกันหนาวอวดกันได้
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:04:10 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com