|
คาด1ปี"เสก"หายปกติหมอเผยดีขึ้นตามลำดับ
หมอแถลงอาการร็อกเกอร์ชื่อดัง ''เสก โลโซ'' อาการดีขึ้นตามลำดับ หลังให้ยาปรับอารมณ์ คาดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน ถึงค่อยพิจารณาว่าจะกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านหรือบำบัดต่อที่ทางรพ. นอกจากนี้หมอยังเผย ''เสก'' อยากทำอัลบั้มขณะรักษาตัวเพราะนั่งแต่งเพลงไว้หลายเพลง ด้านทนายเผยไม่ขอตอบเรื่องข่าวเรียกเงิน 50 ล้านฟ้องหย่าจากอดีตภรรยาเสก อ้างจะกระทบทั้ง 2 ฝ่าย บอกสิ่งสำคัญที่สุดคือให้ทั้ง 2 ฝ่ายกลับมาคืนดีกัน หากคืนดีไม่ได้ ก็จะแบ่งสินสมรสอย่างเป็นธรรมที่สุด
จากกรณีที่ นายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ นักร้องชื่อดังถูอดีตภรรยา นางวิภากรณ์ ศุขพิมาย หรือกานต์ นำภาพลักษณะคล้ายกำลังเสพยามาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ซึ่งสาเหตุมาจากปัญหาส่วนตัวจนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์ วิจารณ์และเป็นที่สนใจของประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 55 เวลา 14.00 น. ที่สถาบันธัญญารักษ์ รังสิต นพ.วิโรจน์ วีรชัย ผอ.สถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.อังกูร ภัทรากร รอง ผอ.สถาบันธัญญารักษ์ แพทย์เจ้าของไข้ พญ.ขจรวรรณ เชาวนกระแสสินธุ์ จิตแพทย์ นางปลิว ศุขพิมาย มารดาของเสก โลโซ นายอมร ศุขพิมาย พี่ชาย เสก โลโซ และนายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการบำบัด ''เสก โลโซ'' หลังจากเข้ารับการรักษามาตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 54 ที่ผ่านมา
โดย นพ.วิโรจน์ วีรชัย ผอ.สถาบันธัญญารักษ์ กล่าวเปิดการแถลงในครั้งนี้ว่า ความจริงทางสถาบันอยากนำเสนอความคืบหน้าในการดูแล เสก โลโซ แต่มีข้อจำกัดเรื่องการนำความลับผู้ป่วยมาเปิดเผยซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวและพฤติกรรมที่ลงลึกในรายละเอียด ดังนั้นก็จะแถลงในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยภาพรวมอาการเสกเป็นที่น่าพอใจ อารมณ์คงที่ขึ้น แต่คงใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์อาการน่าจะเป็นที่พอใจ เพราะกรณีนี้ต้องถือว่ายังยากอยู่ ดังนั้นเสกน่าจะอยู่ใน รพ.อย่างน้อย 1 เดือน จากนั้นน่าจะประเมินได้ว่าจะบำบัดรักษาอย่างไรต่อไป ซึ่งทางทีมแพทย์จะหารือร่วมกับญาติ เพราะถึงตอนนั้นภาวการณ์ตัดสินใจของเสกน่าจะสมบูรณ์มากขึ้น ขณะนี้ตอนที่ตนไปเยี่ยมยังร้องเพลงให้ฟังอยู่เลย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าทางสถาบันจะให้การรักษาเสกอย่างเต็มที่
พญ.ขจรวรรณ กล่าวว่า คณะแพทย์ที่ให้การรักษาเสกซึ่งประกอบด้วยจิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ เห็นร่วมกันว่าคนไข้ที่ใช้สารกระตุ้นจะมีภาวะแทรกซ้อนทางอารมณ์จากการใช้สารกระตุ้น เนื่องจากการใช้สารกระตุ้นไม่ว่ายาบ้า ยาไอซ์ คาเฟอีน นั้นจะต้องใช้ในปริมาณสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้นอนไม่หลับ น้ำหนักลด อารมณ์ปรวนแปร การรักษาคนไข้ในกลุ่มนี้ระยะแรกจะให้ยาปรับอารมณ์เพื่อให้อาการคงที่ทั้งด้านจิตใจและอารมณ์ ร่วมกับการให้วิตามินบางตัว ซึ่งการปรับอารมณ์ตรงนี้คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน หลังการบำบัดด้วยยาจากนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูซึ่งใช้เวลา 2-3 เดือน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับทางคนไข้จะรักษาที่สถาบันหรือกลับบ้านแล้วมาพบแพทย์ที่สถาบันเป็นระยะค่อยมาว่า ทั้งนี้จะมีการติดตามการรักษามาพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะเป็นระยะ 6 เดือน - 1 ปี
''ตัวสารกระตุ้นพบได้หลายประเภท อย่างที่เราพบกันทั่วไปก็อย่างเช่นตัวกาแฟ ที่มีการกระตุ้นตัวคาเฟอีน หรือว่านอกจากนั้นก็เช่นตัวแอมเฟตามีน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จัดอยู่ในประเภทสารกระตุ้น เมื่อคนที่เสพเข้าไปจนทำให้มีการตื่นตัว นอนไม่หลับ ทำให้รู้สึกว่ากระปรี้กระเปร่ามากขึ้น รู้สึกว่าทำงานได้มากขึ้น แต่ว่าข้อเสียของมันทุกครั้งที่ใช้จะต้องใช้ในปริมาณที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลเสียจากการที่ได้รับสารกระตุ้น อาการนอกจากที่นอนไม่หลับแล้วยังมีผลกระทบกับภาวะทางอารมณ์จะมีอาการฉุนเฉียว แปรปรวน ซึ่งพบได้บ่อยจากผู้ที่ใช้สารประเภทนี้ แนวทางการรักษา ก็จะแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน 1 คือขั้นตอนการเตรียมการ การตกลงกับผู้ป่วยว่าจะนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้อย่างไร อย่างในเคสคุณเสกก็ตกลงกันว่าจะเป็นผู้ป่วยในเข้ารับการรักษาที่รพ. หลังจากนั้นขั้นตอนที่ 2 คือการรับการบำบัดด้วยยา เรียกว่าการดีท็อกซิฟิเคชั่น คือการให้ยาคนไข้เพื่อให้อาการของผู้ป่วยคงที่ ทั้งทางด้านจิตใจ อารมณ์และเรื่องการหลับนอน นอกจากนี้ยังมีการให้วิตามินเสริมเพื่อช่วยในเรื่องของร่างกายด้วย หลังจากนั้นเมื่อผ่านขั้นตอนของการบำบัดด้วยยา ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการฟื้นฟู ส่วนใหญ่ขั้นตอนการบำบัดด้วยยาจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งคุณเสกก็ใกล้จะเข้าสู่ขั้นตอนของการฟื้นฟู ต่อเนื่องจากการฟื้นฟูซึ่งต้องควบคู่ไปด้วยกันก็คือเรื่องของการติดตามต่อไป''
ด้าน นพ.อังกูร กล่าวว่า เสกได้มารับการบำบัดตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงแรกมีอารมณ์สวิง กระวีกระวาดตลอดเวลา จึงได้มีการให้ยาเพื่อไปสเตบิไลท์ คือปรับอารมณ์ให้เกิดความสมดุล แต่ก็มีบางช่วงที่อารมณ์ตก ทำให้มีอาการเหงาซึม ทำให้ช่วงแรกอารมณ์ขึ้นๆ ลง ดังนั้นการปลุกเร้าจากสิ่งภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการซักถามของนักข่าวหรือกระทั่งญาติ รวมถึงตัวแพทย์เองจะยิ่งกระตุ้นให้อาการแย่ลง จากสาเหตุดังกล่าวจึงต้องให้คนไข้อยู่เป็นการส่วนตัวไม่ให้ใครรบกวนให้เขาได้อยู่กับตัวเอง ทำในสิ่งที่เขาชอบ เล่นกีตาร์ เปียโน แต่งเพลง ซึ่งการมีสมาธิอยู่กับตัวเอง ทำให้คนไข้ดีขึ้นมาก ณ ปัจจุบันถือว่าคนไข้สงบขึ้น ทานอาหารได้ปกติแทบทุกมื้อ แต่ก็อาจจะมีเรื่องการนอนหลับน้อยอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่น่ายินดีคือคนไข้มีอาการเอื้ออาทรต่อคนไข้อื่น จนถึงขั้นเปิดคอนเสิร์ตให้ผู้ป่วยคนอื่นได้ร่วมผ่อนคลาย
นอกจากนี้ นพ.อังกูรยังได้เล่าต่ออีกว่าจากที่ได้มีการพูดคุยกันตน เสกบอกว่าจะทำอัลบั้มสักอัลบั้มนึงในขณะที่คนไข้อยู่ที่นี่ เพราะตนเห็นมีการเขียนเพลงและมาร้องให้ตนฟังหลายเพลงเหมือนกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตามอาการคนไข้ตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมจะพบนักข่าว แต่ถ้าหากสามารถควบคุมอารมณ์ในระดับที่ทนถูกกระตุ้นจากสื่อได้ก็จะพามาแถลงข่าว แต่ตอนนี้ความพร้อมตรงนั้นยังไม่มี คงต้องรออีกสักระยะ
ในขณะที่ นางปลิว ศุขพิมาย มารดาเสก โลโซ กล่าวว่า ดีใจที่อาการลูกชายดีขึ้นและพอใจกับผลการรักษาของแพทย์ กำลังใจเสกก็ดี เสกก็บอกกับแม่ว่าไม่ต้องห่วง และจะเอาดอกไม้ให้แม่
ขณะเดียวกัน นายอมร ศุขพิมาย หรือ ''แสน นากา'' พี่ชายเสก โลโซ กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า เสกพูดกับแม่เป็นภาษาโคราชว่าแม่ไม่ต้องห่วงเด้อ เขาสบายดี และอยากให้แม่มาเยี่ยมบ่อยๆ ที่ผ่านมาแม่ก็ทำกับข้าวมาให้เสกบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริก พวกผักต่างๆ ที่เสกชอบทาน ตอนนี้เสกก็อ้วนขึ้น หน้าใสไม่เหมือนกับตอนที่มาช่วงแรก อย่างเมื่อปีใหม่เขายังโทร.สั่งพิซซ่า มากินในรพ.แต่ไม่มีตังค์จ่าย(หัวเราะ) ต้องให้แม่มาช่วยออก ส่วนลูกของเสกก็อยากมาหา เพราะเขาก็คิดถึงพ่อ
นอกจากนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเสกจะกลับมาร้องเพลงหรือไม่หากรักษาหาย พี่ชายเสก กล่าวด้วยความมั่นใจว่าน้องชายของตนจะต้องกลับมาร้องเพลงอย่าง 100 %
''ที่เสกอยากกลับมาร้องเพลง เพราะเป็นสิ่งที่เขาขาดไม่ได้ เพราะเขาบอกเสมอว่าเขาเป็นคนของประชาชน ตอนนี้เขาก็เขียนเพลงไว้ประมาณ 10 กว่าเพลง ดังนั้นคงจะมีอัลบั้มสักอัลบั้มออกมา ส่วนค่ารักษานั้นทางครอบครัวจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด โดยน้องสาว หงษ์จะเป็นคนที่ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้''
นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความกล่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชนแทนตระกูลศุขพิมาย เพราะหลังจากเสกเข้ารับการบำบัดได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มาทำข่าวซอกแซก ข่าวค่อนข้างเงียบ และสื่อสารออกมาในภาพบวก ด้านกระแสทางเฟซบุ๊ก หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ออกมาก็ค่อนข้างเป็นบวก นอกจากนี้ขอขอบคุณแพทย์สถาบันธัญญารักษ์ทุกท่านที่ให้การดูแลเสกค่อนข้างดีมาก เราไม่ได้เลือกว่าจะต้องเป็น รพ.รัฐหรือเอกชน แต่เราเลือก รพ.ที่ดีที่สุดให้กับเสกและตระกูลศุขพิมาย ส่วนเรื่องสินสมรส ค่าเลี้ยงดู เชื่อว่าเมื่อเสกรักษาจนหายแล้วจะกลับไปดูแลทรัพย์สินตัวเอง และครอบครัวตัวเอง แต่ตอนนี้ยังให้ ''คุณกานต์-วิภากร'' ดูแลบ้านที่หมู่บ้านนันทวัน ส่วนสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ ทางแม่และน้องสาวเสกเก็บรักษาไว้ ซึ่งตนได้สั่งห้ามมิให้ใครยุ่งจนกว่าอาการเสกจะออกมา เขาเองยังตั้งใจและเสนอตัวว่าหากเขาหายดี เขาจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ในเรื่องยาเสพติดให้กับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนเรื่องข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับตัวเงิน 50 ล้านบาทที่กล่าวอ้างว่าคุณกานต์เป็นคนเรียกมาตรงนี้ตนไม่ขอพูดถึงจะหาว่าตนเป็นนกแก้วนกขุนทอง ตนก็ไม่ว่า
''จะถามแล้วถามอีกพี่ก็ขออนุญาตเพราะมันจะเป็นผลกระทบโดยตรงกับตัวคุณเสกเขาและทางตัวคุณกานต์ ความเป็นจริงเราอยากให้ทั้ง 2 คนกลับมาคืนดีกัน อยู่ในครอบครัวเดียวกัน เพื่อที่จะให้ลูกต้องมีปมด้อย ซึ่งในวันนี้เราก็ให้คุณกานต์พาลูกทั้งหมดกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว ทั้งรถปอเช่อะไรเนี่ยเราก็เอาไปให้หมด ซึ่งก่อนหน้านี้ทางคุณเสกเองได้มอบหมายให้ทางผมทางน้องผมเป็นคนดูแล แต่ผมก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว ดังนั้นสินสมรสทั้งหมด ถ้ามีปัญหากันจริงๆ เราแบ่งอย่างเป็นธรรมแน่นอน ก่อนหน้านี้เท่าที่ทราบคุณกานต์ก็มาเยี่ยมแต่อาจจะสวนไปสวนมากับทางผม ก็ไม่ได้เจอครับ''
| Create Date : 07 มกราคม 2555 |
|
0 comments |
| Last Update : 7 มกราคม 2555 11:27:43 น. |
| Counter : 1324 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
