Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

ความสุขที่เกิดจากความสงบ




ความสงบนั้นหมายถึง ความไม่วุ่นวาย ความไม่ดิ้นรน ความไร้ซึ่งปัญหาความเดือดร้อน
ไร้ซึ่งปัญหาหนักหน่วงถ่วงจิตใจ ไร้ความขัดแย้ง เป็นความราบรื่น เย็นใจ ไม่เร่าร้อน หรือถูกกดดัน
ซึ่งอาจเรียกอีกอย่างว่า วิเวก หรือสันติก็ได้ ความสงบเป็นความสุขที่มีอยู่ในตัวเราทุกๆ คน เราสามารถทำให้เกิด
ทำให้เจริญขึ้นได้อย่างง่ายดาย และเป็นความสุขที่ลึกซึ้ง ลุ่มลึกเย็น และอิ่มเอิบ หาความสุขใดเทียบได้ยาก
แม้พระพุทธองค์เองท่านยังสรรเสริญความสุขที่เกิดจากความสงบว่าเป็นสุดยอดแห่งความสุขชนิดหนึ่ง

ความสงบโดยธรรมชาติของมันแล้ว จะทำ ให้เกิดความสุขที่ไม่รุ่มร้อน เป็นความสุขที่เยือกเย็น
เป็นความสุขที่บริสุทธิ์ ความสุขอันเกิดจากความสงบนั้นเกือบไม่ต้องพึ่งพิงอาศ ัยสิ่งภายนอกเป็นปัจจัยเลย
เรียกว่า เราทำได้เองโดยไม่ต้องอาศัยผู้ใดหรือสิ่งอื่นใด เราสามารถทำให้มันเกิดขึ้น ปรากฏขึ้นแก่จิตใจของเราเอง
เป็นความสุขอันลึกซึ้ง ที่เกิดในจิตใจเราเองโดยไม่ได้เบียดเบียนผู้ใดทั้งสิ้น
และเมื่อความสงบในจิตใจเราพัฒนาเพิ่มขึ้น สูงขึ้น ละเอียดลึกซึ้งขึ้น ก็ยิ่งทำให้จิตใจเราโปร่งเบา ฉลาด แหลมคม
ไม่หนักหน่วงมืดมน สามารถมองเห็นธรรมชาติทุกอย่างตามความเป็นจริงได้โดยง่าย และความสงบยังเป็น
พื้นฐานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้จิตใจของมนุษย์ พัฒนาไปสู่สภาวะแห่งความพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงอีกด้วย

ลองพิจารณาดู คนเราเวลาไปเดินตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่มากไปด้วยผู้คน และความวุ่นวาย,หรือ
คนที่ทำงานอย่างเคร่งเครียด ตรากตรำ ทำงานทั้งวันเพื่อให้ได้เงินมากๆ,พอเราได้หยุดพัก
กลับบ้านพักผ่อนจะเป็นเวลาที่เรารู้สึกสบายที่สุด ;เวลาฟังเพลงที่อึกทึกครึกโครมหรืออยู่ในสถานที่ที่มี
มลพิษทางเสียงมากๆ เวลาที่เงียบสงบจากสิ่งเหล่านั้น ก็จะเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายใจ

ความสุขจากการแสวงหาสิ่งภายนอกนั้น ช่วงเวลาที่เราได้สมหวังดังปรารถนา
ได้สิ่งนั้นๆ มาเป็นช่วงที่เรามีความสุขที่สุด ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้สุข เพราะความสมหวังอย่างเดียว
แต่มันมีความสุขที่เกิดขึ้นพร้อมกันที่แฝงตัวอยู่อีกอย่างหนึ่ง คือความสุขจากการหยุดดิ้นรน
ความสุขจากการได้พักผ่อน จิตใจที่ได้กระเสือกกระสนมาตลอดเส้นทางแห่งการแสวงหานั้น
ความสุขจากการสมหวังสมปรารถนานั้นมันไม่ใช่ความสุขที่ละเอียดลึกซึ้งเท่าใดนัก
มันไม่เย็นใจสงบใจ เพราะมันยังแฝงไปด้วยความกลัว ความตื่นเต้นร้อนรน และความทุกข์
แต่ความสุขที่เกิดควบคู่กันเพราะความสงบกาย สงบใจจากการสิ้นสุดการแสวงหาดิ้นรนนั้น
แม้เพียงชั่วเวลาหนึ่งก็ตาม มันก็เป็นความสุขที่ละเอียด เยือกเย็นกว่า

แล้วทำไมเราต้องไปเสียเวลาบีบคั้น กดดันตนเองเพื่อให้แสวงหาอะไรๆ ต่างๆ มากมายมาเพื่อสร้างความสุข
แล้วก็กลับไปได้ความสุขแบบปลอมๆ สุขที่เจือทุกข์มาอีกเล่า
ทำไมเราไม่หัดฝึกกายฝึกใจเพื่อให้ได้ความสุขที่บริสุทธิ์กว่า จากความสงบโดยตรงมันจะไม่ดีกว่าหรือ?
มันไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

ตัวอย่างที่ยกมาเหล่านี้ ล้วนเป็นความสุขจากความสงบที่เราประสบพบอยู่เป็นประจำ แต่เราอาจไม่รู้จักมัน
สิ่งพวกนี้มีได้ง่ายๆ สร้างได้ง่าย แม้จะยังเป็นความสงบที่ยังไม่ละเอียดนัก
แต่มันก็ให้ความสุขที่บริสุทธิ์กว่าความสุขแบบพึ่งพิงมากมาย
ความสงบหรือวิเวกนั้นสามารถแยกออกได้ตามลำดับขั้นของความละเอียดลึกซึ้ง
ซึ่งแต่ละขั้นแต่ละลำดับก็ล้วนมีผลส่งเสริมต่อกันและกัน เราพอจะแยกความสงบออกได้ง่ายๆ 3 อย่างคือ
กายวิเวก จิตวิเวก และอุปธิวิเวก หรือจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆ อีกอย่างก็คือ
ความสงบกาย ความสงบจิตใจ และความสงบทางจิตญาณ

เมื่อมีกายวิเวก ก็จะส่งเสริมให้เกิดจิตวิเวกได้ง่ายขึ้น
เมื่อมีกายวิเวกและจิตวิเวกก็จะส่งเสริมให้เกิดอุปธิวิเวกได้ง่ายขึ้น
เมื่อมีอุปธิวิเวกก็ส่งเสริม ให้เกิดจิตวิเวกได้ง่ายขึ้นอีกเช่นเดียวกัน ทั้งหมดจึงล้วนเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนส่งเสริมต่อกัน

ดังจะขอกล่าวถึงรายละเอียดในแต่ละเรื่องของวิเวกดังต่อไปนี้

กายวิเวก(ความสงบกาย) ความสงบขั้นนี้เป็นความสงบขั้นแรกที่หยาบที่สุดมีความละเอียดความลึกซึ้งน้อยที่สุด
แต่ก็ทำให้เกิดความสุขที่ละเอียดดีงามสงบเย็นกว่าความสุขอันเกิดจากการแสวงหาสิ่งภายนอกมากมายนัก
ความสงบชั้นนี้ทำให้เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุด หรือแทบจะเรียกได้ว่าไม่ต้องมีการดำเนินจิต ฝึกจิตอันใดมากมาย
คำว่ากายวิเวกจะพูดง่ายๆ ก็หมายถึง กายภาพวิเวก คือ เป็นความสงบทางกายภาพ หรือ
ความสงบที่เกิดจากสภาวะของร่างกายและสิ่งแวดล้อมที่สงบ เหมือนดังตัวอย่างที่ยกไปแล้วบ้างขั้นต้น

การที่ได้พักกาย พักการกระทำ พักจิตใจ จากความสับสนวุ่นวาย ไม่ว่าจะพักอยู่ที่บ้าน
หรือหนีความวุ่นวายไปเที่ยวตามธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพรซึ่งเป็นที่สงบร่มเย็น จิตใจเราก็จะรู้สึกสบาย
มีความสุข นี่ก็เพราะกายวิเวก เมื่อมีกายวิเวก ก็ส่งเสริมจิตวิเวก จิตใจที่เคยรุ่มร้อนก็จะค่อยๆ สงบ
เย็นลงได้อย่างประหลาด พระพุทธองค์ท่านจึงแนะนำพระสงฆ์ สาวกที่บวชใหม่ทั้งหลายให้ออกไปหา
สถานที่ที่สงบวิเวก ต่างๆ เช่น ป่า เขา ลำเนาไพร ถ้ำ เงื้อมผา เรือนร้าง ประกอบการบำเพ็ญจิตภาวนา
เพื่อความรู้แจ้งเห็นจริงและความหลุดพ้นในที่สุด

สถานที่ที่วิเวก สิ่งแวดล้อมที่วิเวก ก็หมายถึง
สถานที่ที่มีสิ่งกระตุ้นจิตใจน้อย สถานที่ที่มีความสงบเย็นอยู่ในตัว ปราศจากสิ่งเร่าร้อน สิ่งเร้า สิ่งยั่วยวนและ
ปราศจากความวุ่นวายทั้งหลายที่จะคอยกร ะตุ้นจิตใจมนุษย์ให้เกิดความทะเยอทะยานอยากได้
อยากแสวงหาไปกับมัน สถานที่แบบนี้จึงมีคุณประโยชน์มากกับจิตใจมนุษย์ มันเป็นเหมือนอาหารอันวิเศษแก่จิตใจ
มันจะช่วยปรับสภาพและซึมซับความร้อนรุ่มในจิตใจมนุษย ์ และช่วยหล่อหลอมจิตใจให้ค่อยๆ คืนกลับสู่สภาพสมดุล
สถานที่พวกนี้มักอยู่ในธรรมชาติหรือเกี่ยวกับธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติจริงๆ มักไม่ใช่สิ่งของ วัตถุ
หรือสถานที่ที่มนุษย์สร้างขึ้น มนุษย์ที่อยู่กับสถานที่เหล่านี้เป็นประจำ จึงมักมีจิตใจที่อ่อนโยน เยือกเย็น
โอบอ้อมอารี และมีเมตตา ยิ่งถ้าเป็นผู้บำเพ็ญธรรมด้วยแล้วยิ่งจำเป็นต้องอาศัยสถานที่เหล่านี้เป็นอย่างมาก
เพื่อการหล่อหลอมจิตใจให้สงบเย็น เพื่อเกิดปัญญาอันแท้จริงได้ง่าย

มนุษย์ปุถุชนทั่วไปก็สมควรอย่างยิ่งที่จะหาเวลาอยู่ใ นสถานที่เหล่านี้บ่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นตามวัดป่าที่มีบรรยากาศร่มรื่น ตามป่าเขา ลำธาร น้ำตก ทะเลหรือ
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติทั้งหลายที่มีผู้คนไม่จอแจนัก สถานที่เหล่านี้จะคอยเยียวยา จิตใจของมนุษย์
จะทำให้จิตใจมนุษย์นั้นสงบเย็นลง เกิดความสุขความเย็นใจได้อย่างอัศจรรย์

แม้ว่าความสุขที่เกิดจากกายวิเวกนี้ จำเป็นที่จะต้องอาศัยสถานที่หรือสิ่งแวดล้อมภายนอกมาทำให้เราเกิดความสุข
แต่มันก็ไม่ใช่เป็นความสุขที่พึ่งพิง เพราะความสุขจากกายวิเวกนี้จะเกิดก็ต่อเมื่อ เราอยู่ในสถานที่อันสงบเย็นและ
เราไม่ได้ไปยึดมั่นถือ มั่นมัน โดยความเกาะเกี่ยวเหนี่ยวรั้ง หรือยึดถือมาเป็นของตน
เพราะถ้ามีความรู้สึกที่จะยึดถือหรือครอบครองสถานที่นั้นๆ แล้ว มันก็ไม่เกิดความสุขจากกายวิเวก
มันจะกลายเป็นความดิ้นรน แสวงหา เป็นตัณหาเผาใจเราแทน เพราะฉะนั้นความสุขจากกายวิเวกนี้
จึงเหมือนกับอาศัยสถานที่ของธรรมชาติที่สงบร่มเย็นเหล่านี้ เป็นที่ปลดปล่อยอารมณ์ ความวุ่นวายใจ
ความรุ่มร้อนที่มีอยู่ในใจออกไป ผ่อนคลายความยึดถือ ปล่อยวางความเป็นตัวตนออก
จึงจะสัมผัสกับความสงบ เบาใจ ปลอดโปร่ง อันนำมาซึ่งความสุขที่แท้จริงได้




 

Create Date : 05 มีนาคม 2552
1 comments
Last Update : 5 มีนาคม 2552 21:14:12 น.
Counter : 1156 Pageviews.

 

สงสัยต้องลองทำดูแล้ว เพราะตลอดมาไม่ค่อยไปเที่ยวธรรมชาติที่สงบร่มรื่นเลย ถึงแม้ไปก็ไม่ได้ไปแล้วทำให้ใจสงบ ไปเที่ยวเล่นสนุกสนาน คึกคะนองมากกว่า พออ่านบทความนี้แล้วเหมือนชีวิตพลาดโอกาสของความสงบไป

เคยฟังเพื่อนเล่าให้ฟังเกี่ยวกับที่สงบ ๆ เหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าจะเล่าไปทำไม เพราะใจคิดแต่ว่าไอ้บ้านนอก อยากอยู่บ้านนอกก็อยู่ไปคนเดียวสิ ฉันไม่เอาด้วยคนหรอก

แต่พอมาอ่านบทความนี้ทำให้เข้าใจเพื่อนขึ้นมากว่าเขาจะสื่อสารอะไรกับทัศค่ะ

 

โดย: Tassanee 19 เมษายน 2552 21:21:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.