Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
5 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
การให้ความรู้แก่คน ต้องให้คุณธรรมควบคู่ไปด้วย



ครั้งนั้น มีชายคนหนึ่งในเมืองพาราณสีนั่นเอง ได้เห็นสมบัติและเกียรติอันบุรุษเปลี้ยได้แล้ว
คิดว่า “ชายผู้นี้ พิการอย่างนี้ อาศัยศิลปะแห่งการดีดกรวด จึงประสบความสำเร็จแห่งชีวิต
ได้สมบัติใหญ่โตอย่างนี้ เราควรเรียนศิลปะนี้ไว้บ้าง”

เขาเข้าไปหาชายพิการ อ่อนน้อมทำความเคารพ พร้อมกล่าวว่า
“ขอท่านอาจารย์ได้โปรดบอกศิลปะในการดีดกรวดให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด”

บุรุษเปลี้ยกล่าวว่า 'ข้าพเจ้าให้ศิลปะนี้แก่ท่านไม่ได้”

เขาอ้อนวอนอยู่บ่อยๆ ก็ไม่อาจให้บุรุษเปลี้ยนั้น ยินยอมมอบวิชาให้ได้ แต่เขาหาได้ละทิ้งความพยายามไม่
เลิกจากการอ้อนวอนด้วยวาจา แต่มาอ้อนวอนด้วยการกระทำซึ่งดูเหมือนจะได้ผลดีกว่า

เขาเข้าหาชายพิการเนืองๆ นำของมาให้และบีบนวดอย่างเอาใจอยู่เป็นเวลานาน จนบุรุษเปลี้ยเห็นใจว่า
มีความตั้งใจจริง กลายเป็นผู้มีคุณความดีต่อตน จึงยินยอมบอกศิลปะให้

ต่อกาลไม่นานเลย ชายผู้นั้นก็สามารถเรียนศิลปะแห่งการดีดกรวดสำเร็จ

“ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าประสงค์จะทดลองศิลปะ” เขาพูดในวันหนึ่ง

“ทดลองอย่างไร?” ชายพิการถาม

“จะลองดีดแม่โคหรือมนุษย์ให้ตาย”

“ไม่ได้ซิคุณ” บุรุษเปลี้ยบอก “ท่านฆ่าแม่โคหนึ่งตัวจะถูกปรับถึง 100 ถ้าเป็นมนุษย์ท่านจะถูกปรับถึง 1,000
ท่านพร้อมทั้งบุตรและภรรยาจะไม่สามารถเปลื้องหนี้สินจำนวนมากนี้ได้
ท่านต้องทดลองกับสิ่งที่ไม่มีเจ้าของไม่ต้องถูกปรับ”

ชายผู้นั้นเอากรวดใส่ชายพกเที่ยวไป เห็นแม่โคก็ไม่กล้าดีดเพราะเกรงถูกปรับ100
เห็นมนุษย์ก็ไม่กล้าดีดเพราะเกรงถูกปรับ 1,000

วันนั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง นามสุเนตตะออกจากบรรณศาลาเข้าไปบิณฑบาตในพระนคร
กำลังยืนอยู่ที่ประตูเมือง บุรุษผู้นั้นเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วคิดว่า
“คนผู้นี้ไม่มีเจ้าของ ไม่มีมารดาบิดา เราควรทดลองศิลปะกับคนผู้นี้'”
ดังนี้แล้วจึงดีดก้อนกรวดไป หมายเอาช่องหูเบื้องขวาของพระปัจเจกพุทธเจ้า
ก้อนกรวดทะลุออกช่องหูเบื้องซ้าย ทุกขเวทนาแสนสาหัสได้เกิดขึ้นแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า
ท่านไม่อาจเที่ยวแสวงหาภิกษาได้ จึงกลับสู่บรรณศาลาทางอากาศ ปรินิพพานแล้ว

พวกมนุษย์ผู้เคยถวายภิกษาแก่ท่านเป็นประจำ เมื่อไม่เห็นท่านมาจึงคิดว่า
“ความไม่ผาสุกไรๆ คงมีแก่ท่านเป็นแน่นอน”
จึงชวนกันไปยังบรรณศาลา เห็นท่านนอนนิพพานอยู่ ไม่อาจกลั้นความโศกได้ พากันคร่ำครวญ

ฝ่ายบุรุษใจชั่วผู้นั้นเห็นมหาชนไปยังบรรณศาลาไม่ขาดสายจึงติดตามไป เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วจำได้
เล่าให้มหาชนฟังว่า เขาเป็นผู้ดีดกรวดเข้าช่องหูของท่านผู้นี้เพื่อทดลองวิชาของตน

มหาชนได้ทราบดังนั้น จึงลงประชาทัณฑ์จนบุรุษนั้นสิ้นชีวิตไปบังเกิดในอเวจีมหานรก
หมกไหม้อยู่ในอเวจีนั้นเป็นเวลานานสมแก่กรรมของตน ด้วยผลแห่งกรรมที่ยังเหลือ หรือเศษวิบาก
ทำให้เขาบังเกิดเป็นสัฏฐิกูฏเปรต ถูกค้อนเหล็กมีเพลิงติดทั่วแล้ว กระหน่ำลงบนศีรษะอย่างที่ปรากฏในปัจจุบัน

พระศากยมุนีทรงเล่าเรื่องปุพพกรรมของสัฏฐิกูฏเปรตจบแล้ว ตรัสสรุปพระธรรมเทศนาว่า
“ภิกษุ ทั้งหลาย ความรู้เกิดขึ้นแก่คนพาล เพียงเพื่อความพินาศของคนพาลนั้น หาเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ไม่
เกิดขึ้นเพื่อทำลายส่วนที่เป็นกุศลของเขาและทำให้ปัญญาของเขาตกไป”

“ดูก่อนท่านผู้แสวงหาคุณ ! อันความรู้ความสามารถและความเป็นใหญ่ เมื่ออยู่ที่คนดีก็มีคุณนานาประการ
แต่เมื่ออยู่กับคนพาลก็ให้โทษเป็นอเนกอนันต์
เพราะฉะนั้น การ ให้ความรู้แก่คนจึงจำเป็นต้องให้ความดีหรือคุณธรรมควบคู่ไปด้วย
เพื่อเขาจักได้ใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ การให้ความรู้แก่คนเปรียบเหมือนการหยิบยื่นศัสตราให้เขา
ต้องบอกวิธีใช้เฉพาะส่วนที่จะให้เกิดคุณประโยชน์ทั้งแก่ตน และแก่ผู้อื่นเท่านั้น
ถ้านำไปใช้ผิด จะทำลายตัวเองอย่างมาก มีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้วมากมาย”


โดย อาจารย์วศิน อินทสระ
ที่มา : //www.manager.co.th


Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 21:27:35 น. 1 comments
Counter : 742 Pageviews.

 
สาธุค่ะ การเจตนาทำร้ายหรือฆ่าเป็นบาปอยู่แล้ว ทำร้าบพระพุทธเจ้าอย่าคิดให้ขนลุกเลยค่ะว่าจะต้องพบวิบากขนาดไหน


โดย: Chulapinan วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:34:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.