Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
21 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
คำสอนเรื่องนินทา - สรรเสริญ โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ

การนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน
เรื่องนินทาและสรรเสริญ คือว่า การนินทา การสรรเสริญมันมีประจำโลก
ถ้าหากว่ายังอยู่ในโลกเพียงใด มันก็ต้องพบกับคำนินทาและสรรเสริญ คนประเภท
ไหนบ้างจะถูกนินทาและสรรเสริญ และคนประเภทไหนจะไม่ถูกนินทาไม่มีสรรเสริญ
ก็คนที่ไม่ถูกนินทาไม่ถูกสรรเสริญก็คนพวกเดียว คือ พวกไม่เคยเกิด เขายัง ไม่รู้จัก ใช่ไหม
ฉะนั้นคนที่เกิดมาแล้วย่อมถูกนินทาและสรรเสริญ แม้แต่พระพุทธเจ้าถูกนินทายังน้อยไป
อย่างพราหมณ์ ๔ คน แกด่าต่อหน้าเรื่องนินทาพระพุทธเจ้า มีเยอะ
ท่านทำถูก เขาทำผิดไม่เป็นไร ทีนี้คนที่อาศัยท่าน นินทาท่านซิ

มีครั้งหนึ่ง ทรงพาพระสงฆ์เสด็จไป เวลานั้นก็มีปริพาชกพวกหนึ่ง มีสุปปิยปริพาชก เป็นหัวหน้า
ผู้เป็นลุง นันทมาณพ เป็นหลาน เป็นรองหัวหน้า พาบรรดา ปริพาชกติดตามไป
พระพุทธเจ้าพักตรงไหน พระอรหันต์พักตรงไหน เขาก็พักใกล้ ๆ ทั้งนี้เพราะอะไร
ตอนเช้าพระไปบิณฑบาต คนใส่บาตรพระ พวกเขาก็เดินตามหลัง พลอยได้ด้วย
ถ้าหากว่าไม่เดินตามพระ เดินตามลำพังไม่มีใครใส่บาตรให้กิน
แกก็อาศัยพระพุทธเจ้า อาศัยพระอรหันต์ทุก ๆ วันเดินตามไปเรื่อย ๆ

ต่อไปเดินไปถึง เมืองนาลันทา กับ เมืองราชคฤห์ ต่อกัน ในช่วงเส้นต่อกัน
พระพุทธเจ้าก็พักตรงนั้น บรรดาสุปปิยปริพาชกกับบริวารก็พักใกล้ๆ เดินตามไป
ธรรมดาพระสงฆ์ถ้าอยู่ใกล้ๆพระพุทธเจ้าก็ยิ่งสำรวมมากขึ้น ที่ไปนั้นโดยส่วนใหญ่เป็นพระอรหันต์
ที่เป็นพระปุถุชนก็มีอยู่ และทุกท่านบวชหวังดี ประสงค์ดี ก็มีการสำรวมใช่ไหมในระหว่างที่พักอยู่
พระก็มีอาการสำรวมตามปกติ ทีนี้บรรดาปริพาชก เขาไม่ค่อยจะมีระเบียบวินัย เล่นกันบ้าง
ล้อกันบ้าง หยอกกันบ้าง เวลาเดินไป พระก็สำรวม ปริพาชกเล่นกัน หยอกล้อกัน

ทีนี้เวลากลางคืน พระสงฆ์ทั้งหลายก็เจริญพระกรรมฐาน มีอารมณ์เงียบสงัด ถึงเวลาดึก
ก็ต่างคนต่างนอน ต่างคนต่างจำวัด บรรดาพระสงฆ์ก็จำวัดล้อมพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าอยู่ท่ามกลาง ทรงจำวัดในท่าสีหไสยาสน์ ก็เงียบ สุปปิยปริพาชกตื่นขึ้นมาตอนดึก
เห็นพระเงียบ ไม่มีเสียงปรากฏ ดูลูกหลานบริษัทบริวาร ของตน นอนกรนบ้าง น้ำลายไหลบ้าง
ก่ายกันบ้าง แกก็ย่องไปดูพระ คิดว่าพระคงจะหนีไปแล้ว ก็เห็นพระอยู่ทุกองค์
มีพระพุทธเจ้าเสด็จบรรทมอยู่ในท่ามกลาง ต่างองค์ต่างเรียบร้อยนอนสนิท มาดูบริวารของตน
ก่ายกันบ้าง กรนบ้าง อะไรบ้าง ตามเรื่องตามราว เมื่อเห็นจริยาท่าทางของบริวารของท่านสู้
พระไม่ได้ แทนที่แกจะตำหนิตัวเองว่าไม่สามารถอบรมบริษัทให้ดีได้ กลับไปนั่งนินทาพระพุทธ
เจ้าตลอดคืน เห็นไหม เขาดีกว่า อาศัยกินด้วยนะนั่นน่ะ บิณฑบาตตามจึงได้กิน
ถ้าพูดภาษาเราก็เป็นคนอกตัญญู ไม่รู้คุณคน

ต่อมา หลานชาย นันทมาณพ ได้ยินเสียงลุงขึ้นมานินทาพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์
นันทมาณพก็ลุกขึ้นมาสรรเสริญพระพุทธเจ้า สรรเสริญพระสงฆ์ เอาซินะ
สองคนนี้ถ้ารุ่นราวคราวเดียวกันชกปากกันแน่ แต่เผอิญลุงแก่กว่า ไม่กล้าชก ด่าอย่างเดียว
เป็นอันว่า การนินทาและสรรเสริญของ ๒ คนนี้ก็ทราบไปถึงหูชาวบ้าน
พอตอนเช้าพระไปบิณบาต ชาวบ้านก็เล่าให้พระฟังว่า เมื่อคืนนี้ สุปปิยปริพาชก นั่งนินทา
พระรัตนตรัย เขานินทาหมด นินทาตัวพระพุทธเจ้า นินทาคำสอนของพระพุทธเจ้า
นินทาพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าหมดพระรัตนตรัย สำหรับนันทมาณพสรรเสริญพระรัตนตรัย
ตลอดคืนเหมือนกัน เป็นอันว่าลุงกับหลานมีความเห็นไม่ตรงกัน ชาวบ้านก็เล่าให้พระฟัง
พระท่านก็แค่ฟัง ฟังมาแล้วท่านก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พอฉันข้าวเสร็จ พอเวลาพระพุทธเจ้าเทศน์
พระก็เข้าไปพร้อมกัน พระบางองค์ก็กราบทูลให้พระพุทธเจ้าทรงทราบว่า เมื่อคืนนี้สุปปิยปริพาชก
นินทาพระรัตนตรัย แต่ว่านันทมาณพสรรเสริญพระรัตนตรัย
ทั้งสองนี้นินทาและสรรเสริญอยู่ตลอดคืน พระพุทธเจ้าก็เลยเทศน์เรื่องนี้ ท่านบอกว่า

"ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นินทา ปสังสา การนินทาและสรรเสริญทั้งสองประการนี้
เป็นธรรมดาของชาวโลก" ชาวโลกทั้งหมดที่เกิดมานี้ต้องพบกับคำนินทาและสรรเสริญ
ท่านก็เลยตรัสว่า การนินทาและสรรเสริญทั้งสองประการไม่มีอะไรเป็นผล ถ้าเราเป็นคนดี
เขานินทาว่าเราเป็นคนชั่ว เราก็ไม่ชั่วไปตามปากเขาพูด ถ้าเราเป็นคนชั่ว เขาสรรเสริญว่า
เราเป็นคนดี เราก็ไม่ดีไปตามปากเขาพูด ฉะนั้นความดีหรือความชั่วอยู่ที่ผลแห่งการปฏิบัติ
ถ้าเราปฏิบัติดีเราก็ดี เราปฏิบัติเลวเราก็เลว ก็รวมความว่า ขอบรรดาภิกษุทั้งหลาย
อย่าสนใจคำนินทาและสรรเสริญ คือ ไม่สนใจกับคำสรรเสริญที่เขาว่าเราดี
เราไม่สนใจกับคำนินทาว่าเราชั่ว

เป็นอันว่า พระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่า จงอย่าสนใจทั้งคำนินทาและสรรเสริญ
เขาสรรเสริญเราว่าดี อย่าหลงคำสรรเสริญ ถ้าหลงคำสรรเสริญ จะตกอยู่ในความประมาท
เขานินทาว่าเราเลวก็อย่าไปกลุ้มใจกับคำนินทา คำว่าดีหรือชั่วมันอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ผลการปฏิบัติ

จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๐๐ หน้า ๑๓๔ (ข้อคิดจากธรรมะ)


Create Date : 21 มกราคม 2552
Last Update : 21 มกราคม 2552 20:12:20 น. 3 comments
Counter : 1356 Pageviews.

 
เขานินทาว่าเราเลวก็อย่าไปกลุ้มใจกับคำนินทา คำว่าดีหรือชั่วมันอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ผลการปฏิบัติจริงๆคะ สาธุ


โดย: shada วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:19:04:04 น.  

 
ธรรมข้อที่ปฎิบัติมาตลอด เพราะมันมีสอนทั้งคริสต์ทั้งพุทธน่ะค่ะ


โดย: Tassanee วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:23:49:25 น.  

 
ใครนินทาว่าเรา ก็เปรียบเสมือนเขายื่นของให้เรา หากเราไม่รับ ของนั้นก็ยังอยู่ในมือเขา กรรมก็ย่อมตกอยู่กับเขา


โดย: มดอิง IP: 222.123.154.60 วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:9:35:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.