อีกสถานที่หนึ่งของประวัติศาสตร์ไทยที่มีความงดงามทางศิลปะของสถาปัตยกรรม จาก "โรงนา" สู่ "โรงหมอ" เราคงนึกภาพไม่ออกว่าเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ท่ามกลางความเจริญของบริเวณนี้ ณ ปัจจุบัน ณ ที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นทุ่งนา "วังพญาไท" ปัจจุบันอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงพยาบาลพระมงกุฎ เข้าใจว่าคนไทยส่วนหนึ่งน่าจะไม่รู้จัก ความเป็นมาของ"วังพญาไท" เดิมเป็น"พระตำหนักพญาไท" สร้างในปี 2452 (103 ปีมาแล้ว) เป็นที่ประทับสำราญพระราชอิริยาบทในสมัย รัชกาลที่ 5 ปี 2453 รัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี ทรงพระประชวร พระอนามัยทรุดโทรมลง รัชกาลที่ 6 ทรงวิตกห่วงใย ได้กราบบังคมทูลแนะนำให้แปรพระราชฐาน จากในพระบรมมหาราชวังมาประทับที่วังพญาไทเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เมื่อ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี เสด็จสวรรคตในปี 2462 รัชกาลที่ 6 จึงได้ทรงพระราชดำริที่จะสร้างพระราชมณเฑียรสถานขึ้นใหม่ เพื่อเป็นที่ประทับในวังพญาไท และได้โปรดเกล้าฯ ให้ยกวังพญาไท ขึ้นเป็นพระราชวังพญาไท รัชกาลที่ 6 ท่านได้รับการศึกษาจากประเทศอังกฤษและชื่นชอบศิลปะยุคอิตาลีมาก ๆ ดังนั้นวังพญาไทแห่งนี้ส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากอิตาลี เราชอบพระที่นั่งเมขลารูจี เป็นที่แรกที่ทรงสร้างขึ้น เป็นที่พระทับชั่วคราวในระยะแรก ตอนหลังเป็นที่ทรงพระเครื่องใหญ่ (ตัดผม) ของรัชกาลที่ 6 มุมนี้คือที่ทรงพระเครื่องใหญ่ (ตัดผม)
เป็นที่สรงน้ำ อยู่ในระหว่างปรับปรุง
เ
ด้านหน้าของพระที่นั่งเมขลารูจี ชอบมาก
สวนโรมันด้านข้าง
สวนดุสิตธานี
ร่องรอยที่แสดงให้เห็นว่าสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ทำเป็นเมืองจำลองสอนให้เรียนรู้เรื่องประชาธิปไตย โดยพระองค์ และข้าราชบริพาร ทดลองทำตัวเป็นพลเมืองของดุสิตธานีด้วยตนเอง มีการจัดการเลือกตั้ง ประชุมสภา มีการจัดเก็บภาษี ออกหนังสือพิมพ์
ดุสิตธานี ย้ายมาจากพระราชวังดุสิต ปัจจุบันไม่มีแล้ว
พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ เป็นท้องพระโรงเดิมในสมัยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาในงานพระราชกุศล เช่นงานเฉลิมพระชนมพรรษา วันธรรมดาใช้รับรองแขกส่วนพระองค์ที่มาเข้าเฝ้า บางครั้งเป็นโรงละคร หรือโรงภาพยนตร์แล้วแต่โอกาส
ด้านในพระที่นั่งเทวราชสภารมย์ งดงามตระการตา
เก้าอี้จำลองในสมัยก่อน สังเกตเห็นพระปรมาภิไธยของรัชกาลที่ 6
เพดานที่พระราชแห่งนี้สวยทั้งนั้นเลย ส่วนใหญ่ศิลปะบนเพดานจะเป็นของดั้งเดิม แต่ ฝาผนังอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นของใหม่บ้าง เพราะของบางอย่างก็ไม่อยู่คงทนมาเป็นร้อยปี กองเสนารักษ์จังหวัดทหารบกกรุงเทพฯ ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่พระราชวังพญาไท เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2475 และต่อมาในปี พ.ศ. 2489 ได้มีการ พัฒนากองเสนารักษ์มณฑลทหารบก ที่ 1 เป็นโรงพยาบาลทหารบกโดยใช้เขต พระราชฐานทั้งหมด กองทัพบกจึงได้ขอพระราชทานนาม โรงพยาบาลทหารบกใหม่ว่า โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งได้ประกอบพิธีเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2495 อันเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคต
นี่คือที่มาของ "จาก"โรงนา"สู่" โรงหมอ" นี่คือวิทยากรในรอบที่เราไป
ประทับใจกับการบรรยายของวิทยากรพิเศษมากค่ะ วิทยากรที่ประจำที่วังพญาไททุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันละ 2 เวลาเช้าและบ่ายนี้เป็นวิทยากรจิตอาสา ทำด้วยใจรัก ไม่มีเงินเดือน แต่เรารู้สึกว่าเธอทำงานเหมือนกับได้รับเงินเดือนและทำมากกว่าเงินเดือนด้วยซ้ำ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่พวกเราคนไทยควรไปเยี่ยมชม ไม่คิดค่าเข้าชม (แต่น่าจะเก็บนะ) แต่เนื่องจากงบประมาณในการบูรณะจากราชการมีน้อย ดังนั้นการซื้อของที่ระลึก เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมในการบำรุงรักษาสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของชาวไทยเราค่ะ
....รัชชี่....
|