เพลงในภาพยนตร์อดีต
เพลงในภาพยนตร์อดีต
เดี๋ยวนี้ ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่เป็นภาพยนตร์เพลง จะมีให้เห็นไม่บ่อยนัก
จำเรื่อง Chicago (2002) ได้มั๊ย? Dreamgirls (2006) ล่ะ? ทั้งสองนับเป็นภาพยนตร์เพลงเรื่องเด่นและใหม่ของฮอลลีวู้ดที่คนทั้งโลกรู้จัก แต่นั่นก็สร้างขึ้นเมื่อ 4 ปี และเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
พักหลังๆ ฮอลลีวู้ดจะหันมาเน้นสร้างหนังลงทุนมากๆเกี่ยวกับหนังแนวแอคชั่น และหนังแนวใช้เอฟเฟคใช้คอมพิวเตอร์ปรับตกแต่งภาพให้มีลูกเล่นมากๆ
เราจึงมีโอกาสจะได้เห็นภาพยนตร์เพลงที่ยิ่งใหญ่แบบในอดีต น้อยลง ๆ โอกาสที่ภาพยนตร์เพลงที่ลงทุนสูงแบบในอดีต นับวันจึงจะหาชมได้ยากขึ้นทุกที
บล็อกวันนี้ จะนำเพลงที่ยิ่งใหญ่ในภาพยนตร์ดังๆในอดีต มาให้ได้ชมและฟังกันบางเพลง
ปี ค.ศ. 1964
ภาพยนตร์เรื่อง My Fair Lady (1964) เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 37 (ตัดสินในปี ค.ศ. 1965) รวม 12 รางวัล และ สามารถคว้ามาได้ 8 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ถ่ายภาพยอดเยี่ยม แต่งกายยอดเยี่ยม กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม เสียงยอดเยี่ยม และดนตรียอดเยี่ยม รวมทั้งคว้ารางวัลสำคัญอีก 3 รางวัล จากผลการประกวดลูกโลกทองคำ ในอเมริกาด้วย
ขอเชิญชม
#1 My Fair Lady - The Rain In Spain ความยาว 2.36 นาที
ปี ค.ศ. 1965
ในงานตัดสินรางวัลออสการ์ครั้งที่ 38 ในปีถัดมา คือประกาศผลในปี ค.ศ.1966 ภาพยนตร์เพลงเรื่องยิ่งใหญ่ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับประเทศออสเตรียซึ่งคนทั่วโลกรู้จักกันดี คือ The Sound of Music (1965) เข้าชิงรางวัลออสการ์ 10 รางวัล และสามารถคว้ามาได้ 5 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม กำกับการแสดงยอดเยี่ยม ตัดต่อยอดเยี่ยม ดนตรียอดเยี่ยม และเสียงยอดเยี่ยม
ขอเชิญชม
#2 The Sound of Music ความยาว 6.16 นาที
#3 The Sound of Music - Do Re Mi (With Lyrics) ความยาว 4.57 นาที
ปี ค.ศ. 1969
ในงานตัดสินรางวัลออสการ์ครั้งที่ 42 ประกาศผลในปี ค.ศ. 1970 มีภาพยนตร์ที่นำเอาเรื่องจริงของแก๊งค์โจร Hole in the Wall ที่ปล้นรถไฟในอเมริกา มาสร้างเป็นหนังแนววัฒนธรรมตะวันตก ชื่อเรื่อง Butch Cassidy and the Sundance Kid (1969)
.Butch Cassidy (Paul Newman) และเพื่อน Sundance Kid (Robert Redford) ทั้งสองตระเวนปล้นเงินบนรถไฟในหลายรัฐ จนเจ้าของเงินที่โดนปล้น อดรนทนไม่ไหว ช่วยกันระดมเงินก้อนใหญ่แล้วระดมมือดีจากทุกสารทิศ ตั้งเป็นทีมพิเศษตามล่าหัวของโจรทั้งสองคน ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 8 รางวัล และสามารถคว้ามาได้ 5 รางวัล ได้แก่ ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, ดนตรียอดเยี่ยม, Original Score for a Motion Picture (not a Musical), เพลงยอดเยี่ยม คือ เพลง "Raindrops Keep Fallin' on My Head", และบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ อีก 3 รางวัลที่เข้าชิง แต่ไม่ได้รับรางวัลออสการ์ ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แพ้แก่ Midnight Cowboy, กำกับการแสดงยอดเยี่ยม แพ้แก่ Midnight Cowboy, และ เสียงยอดเยี่ยม แพ้แก่ Hello Dolly
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ จะไม่ใช่ภาพยนตร์เพลงก็จริง แต่เพลงประกอบในภาพยนตร์ ไพเราะมาก ไพเราะระดับคว้ารางวัลออสการ์มาครอบครอง
ขอเชิญชม
#4 Rain Drops keep falling on my head ความยาว 3.10 นาที
ปี ค.ศ. 1969
ในงานตัดสินรางวัลออสการ์ครั้งที่ 42 ประกาศผลในปี ค.ศ. 1970 ปีเดียวกันกับเรื่องข้างบน มีภาพยนตร์เพลงที่นำแสดงโดยดาราสาว Barbra Streisand เข้าชิงด้วย คือเรื่อง Hello, Dolly! (1969) ตอนนั้น Barbra Streisand เป็นดาราที่เจิดจรัสแสง เพราะเธอเพิ่งจะคว้ารางวัลออสการ์ผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เพลงเรื่อง Funny Girl มาในปีก่อนหน้า คือในงานตัดสินรางวัลออสการ์ครั้งที่ 41
ภาพยนตร์เรื่อง Hello, Dolly! เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ 7 รางวัล และ สามารถคว้ามาได้ 3 รางวัล ได้แก่ กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม, Best Music, Score of a Musical Picture (Original or Adaptation) และ เสียงยอดเยี่ยม
ส่วนอีก 4 รางวัลที่ไม่ได้รับรางวัลออสการ์ ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แพ้แก่ Midnight Cowboy, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม แพ้แก่ Butch Cassidy and the Sundance Kid, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม แพ้แก่ Anne of the Thousand Days และ ตัดต่อยอดเยี่ยม แพ้แก่ภาพยนตร์เรื่อง Z
ขอเชิญชม
#5 Hello Dolly - Louis Armstrong & Barbra Streisand
ความยาว 2.13 นาที
ปี ค.ศ. 1972
งานตัดสินรางวัลออสการ์ครั้งที่ 45 ประกาศผลในปีค.ศ. 1973 ภาพยนตร์เพลง ยุคสงครามโลก เรื่องเกิดขึ้นในคลับเล็กๆในกรุงเบอร์ลิน เรื่อง Cabaret (1972) เข้าชิงรางวัลออสการ์ 10 รางวัล และสามารถคว้ามาได้ 8 รางวัล ได้แก่ กำกับการแสดงยอดเยี่ยม (Bob Fosse), นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Liza Minnelli), นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Joel Grey), ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, ตัดต่อยอดเยี่ยม, กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม, ดนตรียอดเยี่ยม, และ เสียงยอดเยี่ยม
โดย 2 รางวัลที่ไม่ได้รับรางวัลออสการ์ คือ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม แพ้ให้แก่ภาพยนตร์เรื่อง The Godfather ทั้งสองรางวัล (เรื่องที่มาร์ลอน แบรนโด แสดงนำและคว้าออสการ์นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม)
แต่ Cabaret ก็สามารถไปคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Musical or Comedy) จากงานประกวดลูกโลกทองคำ ของอเมริกา และสามารถคว้า 7 รางวัลจากงาน BAFTA Awards ของประเทศอังกฤษ
ขอเชิญชม
#6 Life is a cabaret! - Liza Minnelli
คลิปนี้ปากกับเพลงไม่ค่อยจะตรงกัน ความยาว 3.42 นาที
ปี ค.ศ. 1996
งานตัดสินรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 69 ประกาศผลในปี ค.ศ. 1997 ภาพยนตร์เพลงอีกเรื่องหนึ่งของฮอลลีวู้ด มาดอนน่า นักร้องผู้โด่งดัง นำผลงานที่โด่งดังเรื่องหนึ่งของละครเวที มาสร้างเป็นภาพยนตร์เพลงในปี ค.ศ. 1996 และเธอสามารถนำภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าชิงรางวัลออสการ์ได้ถึง 5 รางวัล แต่สามารถคว้าออสการ์มาได้เพียงรางวัลเดียว คือรางวัล Best Original Song ("You Must Love Me") ภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ Evita (1996)
4 รางวัลออสการ์ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่สามารถคว้ามาได้ คือ กำกับศิลปยอดเยี่ยม แพ้แก่ The English Patient, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม แพ้แก่ The English Patient, ตัดต่อยอดเยี่ยม แพ้แก่ The English Patient, และ เสียงยอดเยี่ยม ก็แพ้แก่ The English Patient
สงสัย Evita เธอจะแพ้ทาง ภาพยนตร์รักกลางทะเลทราย The English Patient เพราะเจอกันทีไร แพ้เรียบ
อย่างไรก็ตาม Evita ก็สามารถคว้าภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Musical or Comedy), คว้าผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภท Musical or Comedy ซึ่งก็คือ Madonna, และคว้ารางวัล Best Original Song ("You Must Love Me") จากผลการตัดสินรางวัลลูกโลกทองคำ ของอเมริกา
ขอเชิญชม
#7 Evita - Don't Cry for Me Argentina
เพลงนี้ไม่ได้เข้าชิงรางวัล แต่เป็นเพลงที่โด่งดังมากกว่าเพลงที่ได้รับรางวัล ความยาว 5.14 นาที
ปี ค.ศ. 1997
เพลงส่งท้ายที่จะนำเสนอในบล็อกวันนี้ เป็นเพลงจากภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ ในงานตัดสินครั้งที่ 70 ในปี ค.ศ. 1998 เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับความรักและการล่มของเรือเดินมหาสมุทรขนาดยักษ์ในอดีต Titanic (1997) โดยเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 14 รางวัล และ สามารถคว้ามาได้ถึง 11 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, กำกับการแสดงยอดเยี่ยม, กำกับศิลปยอดเยี่ยม, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, ตัดต่อยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม, วิชวลเอฟเฟคยอดเยี่ยม, ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม, มิกเสียงยอดเยี่ยม, ดนตรียอดเยี่ยม, และ เพลงยอดเยี่ยม
โดย 3 รางวัลที่ไม่ได้รับรางวัลออสการ์ ได้แก่ เคต วินสเล็ต ที่เข้าชิงในประเภทนักแสดงนำหญิง แพ้แก่ Helen Hunt จากภาพยนตร์เรื่อง 'As Good as It Gets', กลอเรีย สจ๊วต ที่เข้าชิงในประเภทนักแสดงสมทบหญิง แพ้แก่ Kim Basinger จากภาพยนตร์เรื่อง 'L.A. Confidential', และประเภทแต่งหน้ายอดเยี่ยม แพ้แก่ภาพยนตร์เรื่อง 'Men in Black'
นอกจาก Titanic จะคว้าถึง 11 ออสการ์ในปีเดียวแล้ว Titanic ยังสามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำได้อีก 4 รางวัล ทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Drama), กำกับการแสดงยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และ เพลงยอดเยี่ยม
ซึ่ง เพลงยอดเยี่ยม My Heart Will Go On ที่ขับร้องโดย Celine Dion นอกจากจะคว้าทั้งรางวัลออสการ์ และ รางวัลลูกโลกทองคำแล้ว เพลงนี้ยังสามารถคว้ารางวัลแกรมมี่ ได้อีก 3 รางวัล คือสาขา Record of the Year, Song of the Year, and Best Song Written Specifically for a Motion Picture or Television
ปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่อง Titanic สามารถคว้ารายได้มากเป็นอันดับสองของโลก คือกวาดรายได้ถึง 1,843 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเศษ สำหรับรายได้อันดับหนึ่งนั้น คือภาพยนตร์เรื่อง Avatar จากผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับคนเดียวกันกับ Titanic โดยกวาดรายได้มาแล้วทั่วโลกถึง 2,708 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเศษ
ขอเชิญชม
#8 'Titanic' Theme Song ความยาว 4.35 นาที
บล็อกยาวใช่มั๊ยครับ? อ่านไม่จบ ...อิ อิ ไม่ได้ว่าอะไร เพราะอาจจะไม่ชอบเรื่องแนวนี้
แต่ขอบอกว่า บล็อกเรื่องหน้าก็จะเป็นแนวภาพยนตร์เพลงในอดีตอีกครั้ง
จะเป็นการนำเสนอที่แตกต่างจากบล็อกเรื่องนี้
ขอขอบคุณที่ติดตาม
yyswim
yyswim@hotmail.com
Create Date : 18 เมษายน 2553 |
Last Update : 18 เมษายน 2553 2:24:44 น. |
|
37 comments
|
Counter : 5272 Pageviews. |
|
|
|
ผมทันได้ฟังเพลง ชู้รักเรือล่ม หรือไททานิกนี่ล่ะครับ 5555
นอกนั้นเกือบทั้งหมด
แม้แต่ตัวหนังเองก็ยังไม่ไ่ด้ชมเลยครับ
ถ้าพูดถึงเพลงประกอบภาพยนตร์
สำหรับผม หนังในดวงใจคือเรื่อง นางสาวฉีเฉาก๊วย ภาค 1
เพลง I Will Follow Him
ผมถือว่าเป็นเพลงที่ยิ่งใหญ่และทุกครั้งที่ฟัง
ขนจะลุกตลอดเลยครับ