วิธีดัดกิเลสฝืนความอยาก
สติคือตัวที่จะหยุดความคิด
ถ้าเราปล่อยให้ความคิดคิดไปเรื่อยๆ มันจะไม่สงบ
นั่งไปแล้วก็คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ นั่งไปเป็นชั่วโมงก็ไม่สงบ
ต้องไม่ให้มันคิดอะไรนอกจากคิดอยู่เรื่องเดียว
คิดอยู่กับพุทโธๆไปอย่างเดียว
หรือดูลมหายใจไปอย่างเดียวก็ได้
ถ้าเราไม่ฝึกมันก็จะไม่ยอม ดูได้ ๒ - ๓ ครั้งมันก็ไปแล้ว
คิดถึงเรื่องนั้น เรื่องนี้แล้ว พุทโธได้ ๒ - ๓ คำมันก็ไปแล้ว
ต้องดึงมันกลับมา ต้องทำมันบ่อยๆ
อย่าไปพุทโธเฉพาะเวลามานั่งสมาธิ
เอาพุทโธตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเลย
พอลืมตาขึ้นมาก็ตั้งสติพุทโธไปเลย
ลุกขึ้นไปทำอะไรก็พุทโธไป เข้าห้องน้ำก็พุทโธ
ล้างหน้า ล้างตาแปรงฟันก็พุทโธ
แต่งเนื้อแต่งตัวก็พุทโธไป กินข้าวก็พุทโธไป
แล้วใจมันจะไม่ลอยไปกับความคิดต่างๆ
ถ้าปล่อยให้ความคิดเดี๋ยวก็เกิดความอยากต่างๆ
หรือเกิดความวิตกกังวลขึ้นมา คิดถึงหนี้ก็ไม่สบายใจ
คิดถึงคนที่เราไม่ชอบก็ไม่สบายใจ
คิดถึงเรื่องที่เราไม่ชอบ ที่เราจะต้องไปเจอก็ไม่สบาย
เราก็ควบคุมบังคับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้
สิ่งที่เราไม่ชอบไม่อยากจะเจอมันก็ต้องเจอมัน
สิ่งที่เราชอบอยากจะเจอมันบางทีก็ไม่เจอมัน
แต่ถ้าเราทำใจเฉยๆไม่มีความอยาก เราจะเจออะไรก็ได้
เจอสิ่งที่ชอบก็ได้ เจอสิ่งที่เราไม่ชอบก็ได้
ถ้าไม่มีความอยากเจอหรือมีความอยากเจอนี้
มันก็ไม่เป็นปัญหาอะไร
ถ้าอยากเจอไม่ได้เจอก็เป็นปัญหา
ถ้าไม่อยากเจอแล้วเจอก็เป็นปัญหา
แต่ถ้าเฉยๆ ทำใจเฉยๆ เจออะไรก็ได้ไม่เจออะไรก็ได้
อย่างนี้ก็จะไม่เดือดร้อน
ใจจะเฉยๆได้ก็ต้องสงบ
จะสงบได้ก็ต้องหยุดความคิดให้ได้
ต้องมีสติ ต้องมีพุทโธไปทั้งวันเลย
ลองท่องพุทโธไปเรื่อยๆแล้วใจมันจะนิ่ง
มันจะไม่ลอยไปกับความคิด
ความคิดมันจะน้อยลงไปเรื่อยๆ
แล้วพอมันว่างนี้ มันก็เบาสบาย
คนบางคนเขาบอกอยู่เฉยๆ บางทีไม่ได้คิดอะไร
รู้สึกมันสบายมันสุขเหลือเกิน ต้องพยายามฝึกสติให้มาก
ถ้าฝึกสติได้มาก ใจอยู่กับพุทโธได้ตลอดเวลา
เวลานั่งสมาธิมันก็จะไม่คิดอะไร มันก็จะสงบ
มันก็จะอยู่กับพุทโธๆไป
แล้วเดี๋ยวมันก็วู๊บลงไป นิ่งสงบ สบาย
หรืออยู่กับลมหายใจก็ได้
ไม่ต้องใช้พุทโธคู่กับลมหายใจก็ได้
ใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ใช้พุทโธอย่างเดียวก็ได้
ดูลมหายใจอย่างเดียวก็ได้
หรือจะใช้พุทเข้าโธออกก็ได้ อันนี้แล้วแต่ความพอใจ
แล้วแต่ความถนัด เหมือนกินข้าวจะกินกับข้าวแบบนั้น
กินกับข้าวแบบนี้ก็ได้ กินแล้วมันก็อิ่มเหมือนกัน
นั่งสมาธิจะใช้พุทโธอย่างเดียวก็สงบเหมือนกัน
ดูลมอย่างเดียวก็สงบเหมือนกัน
จะใช้พุทเข้าโธออกก็สงบเหมือนกัน ใช้ได้ทั้งนั้น
แล้วแต่ความถนัด ที่ใช้พุทเข้าโธออกนี้
มันก็จะต้องติดอยู่กับลม ถ้าเกิดอยากจะพุทโธเร็ว
มันก็พุทโธเร็วไม่ได้ บางทีใจมันพุทเข้าโธออก
มันยังไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่
ก็เอาพุทโธให้มันเร็วขึ้นดีกว่า
ถ้าพุทโธเร็วขึ้นก็ต้องทิ้งลมไปไม่ต้องไปดูลม
ให้อยู่แต่พุทโธอย่างเดียว พุทโธๆๆๆไปอย่างนี้
มันก็จะไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่ได้
แต่ถ้าพุทเข้า โธออก เดี๋ยวมันก็แวบไปแล้ว
ระหว่างเข้าออกนี้มันไปก่อนแล้ว
ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปพุทเข้า โธออก
เอาพุทโธอย่างเดียวไปเลย อยู่กับพุทโธไปอย่างเดียว
ทำไปบ่อยๆ เถิดแล้วมันจะได้ผล
อย่าไปทำแบบนกกระจอกกินน้ำ
ทำได้สัก ๕ นาทีก็ไม่เอาแล้วไม่สงบ
ถ้าอย่างนี้มันไม่วันหรอก ต้องทำกันเป็นชั่วโมงไปเลย
ถ้ามันเมื่อยก็ขยับก่อนก็ได้ ถ้าเรายังไม่มีกำลัง
ที่จะสู้กับความเจ็บก็ขยับตัวแล้วก็พุทโธต่อไป
สู้กับมันแบบขยับตัวก่อนก็ได้ แต่ไม่ไปทำอะไร
เอามันเป็นชั่วโมงๆ ไปเลย นั่งไปถ้ามันเมื่อยก็ขยับ
แล้วก็พุทโธต่อไป พอพุทโธแล้วเมื่อยก็ขยับใหม่ก็ได้
แต่ต่อไปจะต้องไม่ขยับ ต่อไปถ้าพุทโธดีแล้ว
ถึงไม่ค่อยขยับ มันจะเจ็บก็ปล่อยมันเจ็บไปใช้พุทโธช่วยเอา
ถ้าอยู่กับพุทโธแล้วมันจะไม่เจ็บมาก
มันจะอยู่มันจะทนได้ แต่ถ้าไม่มีพุทโธมันจะมีความอยาก
ให้ความเจ็บหายไป มันก็จะทรมานใจ
แล้วเดี๋ยวมันก็จะทนไม่ได้
ตอนฝึกหัดใหม่ๆ เราถึงบอกว่าไม่ต้องนั่งทรมานตัวเอง
หาเก้าอี้สบายๆ มานั่งแล้วก็นั่งมันสัก ๖ ชั่วโมงไปเลย
ถ้าเมื่อยก็ลุกขึ้นมายืนตรงข้างเก้าอี้นั่นแหละ
ถ้าหายเมื่อยก็นั่งใหม่ แล้วก็พุทโธๆไปอย่างเดียว
ถ้าหิวน้ำก็เอาน้ำมาตั้งไว้ตรงเก้าอี้นั่นแหล
หิวน้ำก็ดื่มน้ำ ถ้าปวดปัสสาวะก็เดินไปเข้าห้องน้ำได้
แต่ห้ามเถลไถลปัสสาวะเสร็จ แล้วก็กลับมานั่งต่อ
ห้ามแวบไปที่โน่นที่นี่ห้ามไปเปิดดูหนังสือ ไปทำอะไร
จะควบคุมใจไม่ให้ทำอะไรให้มันอยู่เฉยๆ
ให้มันอยู่กับพุทโธๆไป.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
.....................
สนทนาธรรมบนเขา วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๙
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ