ประโยชน์จากความทุกข์
ถาม : เราจะหาประโยชน์จากการเจ็บป่วย
ด้วยการพิจารณาได้อย่างไร
พระอาจารย์ : เวลาเจ็บป่วยเราจะมีทุกขเวนา
แล้วถ้าเรารู้จักคำว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เราก็พิจารณาเวทนา ว่าเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงมีเกิดมีดับ
เวลามันเกิดอยู่เราก็ไปสั่งให้มันดับไม่ได้ มันเป็นอนัตตา
มันไม่ได้อยู่ภายใต้ อำนาจของเรา แล้วมันไม่ใช่ตัวเรา
ตัวที่เจ็บก็ไม่ใช่เรา เราเป็นเพียงผู้รู้ ตัวที่เจ็บก็คือร่างกาย
แต่ตัวร่างกาย มันไม่รู้ว่ามันเจ็บมันก็ไม่เดือดร้อน
แต่ตัวที่ไม่เจ็บ แต่ไปรับรู้ความเจ็บ
กลับไปเดือนร้อนแทนร่างกาย
ถ้าเราใช้วิปัสสนาแยกแยะว่า
ความทุกข์ของเราเกิดจาก
ความอยากให้ความเจ็บของร่างกายหายไป
แต่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะไปทำได้
ถ้าเราอยาก เราก็จะทุกข์ไปเปล่าๆ
เราก็จะทนกับความทุกข์ไม่ได้
ที่เราทุกข์นี้ไม่ใช่เพราะความเจ็บ
ทุกข์เพราะความอยาก อยากให้ความเจ็บหายไป
ถ้าเราอยากให้ความทุกข์หายไป เราก็หยุดความอยาก
ทำใจให้นิ่งเฉยๆ เป็นอุเบกขา พุทโธๆไป
เวลาเจ็บก็อย่าไปอยากให้มันหาย พยายามพุทโธๆไป
หรือเวลาทุกข์กับเรื่องอะไรก็เช่นเดียวกัน ทำใจเฉยๆ
ทุกข์กับคนนั้นนี้อยากจะให้เขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้
พอเขาไม่เป็นเราก็ทุกข์ ถ้าไม่อยากจะทุกข์เราก็พุทโธๆไป
แล้วก็ปล่อยให้เขาเป็นไปตามเรื่องของเขา
เขาจะเป็นอย่างไรก็เป็นไป
ถ้าเราไม่มีความอยากให้เขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้
เราก็จะไม่ทุกข์กับเขา ร่างกายก็เหมือนกัน
ร่างกายเจ็บเราก็อย่าไปอยากให้มันไม่เจ็บ
ปล่อยให้มันเจ็บไป เราพุทโธๆของเราไป
ทำใจเราให้เฉยแล้วใจเราจะไม่ทุกข์
นี่คือประโยชน์ที่จะได้รับจากเวลาที่เรามีความทุกข์
ถ้าเรารู้จักใช้ปัญญาของพระพุทธเจ้า
รู้จักใช้สติที่พระพุทธเจ้าทรงสอน
เราก็จะสามารถฟันฝ่าความทุกข์ต่างๆ ได้
ความทุกข์มันอยู่ที่ใจเรา
เหตุการณ์ต่างๆ นี้ไม่ได้เป็นตัวที่ทำให้เราทุกข์ ใช่ไหม
เพราะว่าเหตุการณ์ที่ทำให้เราทุกข์
คนอื่นกลับหัวเราะกลับยิ้มได้
อยู่ในเหตุการณ์อันเดียวกันแต่คนหนึ่งร้องไห้
อีกคนหัวเราะ เพราะว่าคนที่หัวเราะเขาไม่ได้มีความอยาก
กับเหตุการณ์นั้น เขาเฉยๆ เขาดีใจ
บางทีเขาได้ตามที่เขาอยากได้
คนที่เขาเกลียดตายไปนี้เขาก็ดีใจ
แต่คนที่เราไปรักคนเดียวกัน เขาตายไปเราก็เสียใจ
งั้นเหตุการณ์อันเดียวกัน แต่อีกคนกลับมีความสุข
อีกคนหนึ่งกลับมีความทุกข์
เพราะคนหนึ่งได้ตามความอยาก
อยากให้เขาตายก็เลยดีใจ
อีกคนเสียใจเพราะอยากไม่ให้เขาตาย
ดังนั้นเวลาทุกข์อย่าไปอยาก เฉยๆ ไว้ พุทโธๆไป
ทำใจให้นิ่ง เวลามีความทุกข์กับอะไรอย่าส่งใจไปหาเรื่องนั้น
ดึงใจกลับมาอยู่กับพุทโธๆ แล้วสักพักความอยากก็หายไป
แต่มันจะหายไปเพียงชั่วคราว
เพราะว่าเราใช้การดึงใจออกจากเหตุการณ์
พอเราหยุดดึงเมื่อไหร่มันก็จะกลับไปคิดถึงเรื่องนั้นทันที
พอไปคิดใหม่มันก็จะทุกข์ใหม่
ถ้าจะไม่ทุกข์เลยถึงเเม้ว่าจะไปเจอเหตุการณ์
ก็ต้องใช้ปัญญาว่ามันเป็นอนัตตา
เราไปสั่งมันไม่ได้ห้ามมันไม่ได้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
แต่ถ้าเราไม่ไปยุ่งกับมัน ปล่อยให้มันเกิดไป
อะไร จะตายก็ปล่อยให้มันตายไป เราก็จะไม่ทุกข์กับมัน
ต่อไปเราก็จะไม่ทุกข์กับเรื่องราวต่างๆ
โดยที่ไม่ต้องใช้พุทโธๆช่วย ถ้าเราปล่อยวางได้.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
................................
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๙
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ