อังเดร อากัสซี่
อังเดร อากัสซี่ (บล๊อกเรื่องนี้ เขียนมอบให้กับ คุณ ซีPLUS) การแข่งขันเทนนิสยูเอส โอเพ่น อันเป็น แกรนด์สแลม รายการสุดท้าย ของปีนี้ ชิงเงินรางวัลรวม 18,585,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7,434 ล้านบาท) จะเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม - วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2549 ณ บิลลี่ จีน คิง เนชั่นแนล เทนนิส เซนเตอร์ ใน ฟลัชชิ่ง เมโดว์ส เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ความพิเศษสุดของ ยูเอส โอเพ่น ในปีนี้ที่แฟนเทนนิสทั่วโลกต่างจ้องมองด้วยความสนใจ ก็คือ "โรเจอร์ เฟเดอเรอร์" นักหวดหนุ่มมือ 1 ของโลกชาวสวิส แชมป์เก่าเทนนิสยูเอส โอเพ่นปีที่แล้ว อาจต้องมาพบกับ "ราฟาเอล นาดาล" มือ 2 ของโลกจากสเปน ในรอบชิงอีกครั้ง และจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของ "อังเดร อากัสซี่" ยอดนักเทนนิสผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งจะถือเป็นการอำลาคอร์ตเทนนิสอย่างเป็นทางการ หลังจากทุ่มเทให้กับเทนนิสมานานกว่า 20 ปี จนมีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังที่กล้ามเนื้อหลัง อากัสซี่ เทิร์นโปรมาตั้งแต่วัยเพียง 16 ปีเมื่อปี 1986 เขาใช้เวลาเพียงปีเดียวก็หยิบแชมป์ชายเดี่ยวมาครองได้สำเร็จ และต่อมาในปี 1988 เขาก็คว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการ ในปลายปีนั้นเองเขาก็ทำเงินรางวัลสะสมไปแล้วกว่า 2 ล้านดอลลาร์ หลังจากลงเล่นทั้งหมด 43 รายการ ซึ่งไม่เคยมีนักเทนนิสคนใดเคยทำได้มาก่อน ขณะนี้ด้วยวัย 36 ปี อากัสซี่ ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย ได้แชมป์แกรนด์สแลม มาแล้วถึง 8 รายการ จำแนกเป็นออสเตรเลียน โอเพ่น 4 สมัย ( Australian : Winner 1995, 2000, 2001, 2003. Semifinal 1996, 2004.)เฟรนช์ โอเพ่น 1 สมัย (French : Winner 1999. Runner-up 1990, 1991. Semifinal 1988, 1992.)วิมเบิลดัน 1 สมัย (Wimbledon : Winner 1992. Runner-up 1999. Semifinal 1995, 2000, 2001.)ยูเอส โอเพ่น 2 สมัย (U.S : Winner 1994, 1999. Runner-up 1990, 1995, 2002, 2005. Semifinal 1988, 1989, 1996, 2003.) กวาดเงินรางวัลไปแล้วทั้งสิ้น 31,110,975 ดอลลาร์(ประมาณ 1,151 ล้านบาท ) เมื่อปี 1992 อากัสซี่ สร้างความประหลาดใจเมื่อเขาคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน เป็นสมัยแรกในวัย 22 ปี โดยเขาเอาชนะได้ทั้ง จอห์น แม็กเอนโร และ บอริส เบ๊กเกอร์ ในยุคนั้นเขาเป็นนักเทนนิสที่เปี่ยมไปด้วยสีสันอย่างที่สุด ด้วยวัยหนุ่มที่มีภาพพจน์ของ "ขบถ" อย่างเต็มตัว ผมยาวประบ่าเหมือนร็อกสตาร์ สวมเสื้อลงแข่งที่มีมีลวดลาย และสวมกางเกงบลูยีนส์ เขาจึงเป็นที่มาของฉายา "ไอ้หนุ่มบลูยีนส์" เมื่อปี 1999 การคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ของเขาที่กรุงปารีส ส่งผลให้เขาเป็นนักเทนนิสชายคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ครบทั้ง 4 รายการ และหลังจากที่เขามีครอบครัวที่งดงามกับ "สเตฟฟี่ กราฟ" และเป็น "หนุ่มใหญ่" เต็มตัว " เขาก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองทั้งหมด ด้วยการโกนผม ชุดที่แข่งขันทุกครั้งจะเป็นสีเรียบๆ ไม่ฟู่ฟ่าเหมือนอย่างที่เคยเป็นอีกเลย "มีคนถามผมว่า ผมจะทำอะไรต่อไปหลังจากนี้ ที่ผมบอกได้ก็คือ อยากจะทำ อย่างอื่น ที่แตกต่างไปจากการเล่นเทนนิสดูบ้าง" อากัสซี่ เผยความในใจกับผู้สื่อข่าว "อย่างอื่น" ที่ว่า สายสืบสืบมาได้ว่า คือ การร่วมมือกับ "ไมเคิล มิน่า" เจ้าของรางวัล "เชฟ ออฟ เดอะ เยียร์ 2005" เพื่อเปิดภัตตาคารสักแห่งหรือสองแห่ง และจะผลิตเฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์ "อากัสซี่-กราฟ" ขึ้นมา
. ผลการแข่งขันยูเอส โอเพ่น ประจำปี 2006 อากัสซี่ ผ่านรอบแรกชายเดี่ยวไปได้ หลังพลิกกลับมาเอาชนะ อังเดร พาเวล จากโรมาเนีย 3-1 โดยเซ็ตแรกเขาเป็นฝ่ายแพ้ก่อน และกลับมาเอาชนะได้ในสามเซ็ตหลัง ด้วยคะแนน 6-7 (4-7), 7-6 (10-8), 7-6 (8-6), และ 6-2 ศึกเทนนิส แกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น ที่สนาม บิลลี่ จีน คิง เนชั่นแนล เทนนิส เซ็นเตอร์ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการแข่งขันรอบแรก คู่ที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ ชาวอเมริกันมากที่สุด ก็คือการดวลแร็กเก็ตระหว่าง อังเดร อากัสซี่ วัย 36 ปี กับ อังเดร พาเวล นักเทนนิสหน้าหล่อฝีมือดี จากดินแดนผีดิบ โรมาเนีย โดยเริ่มต้นด้วยการที่ อากัสซี่ พ่ายไทเบรกในเซ็ตแรกให้แก่ พาเวล 6-7 (4-7) แต่ในเซตที่สอง ก็สามารถแก้ตัวด้วยการเอาชนะไทเบรกคืนมา 7-6 (10-8) เมื่อมาถึงเซตที่สาม แฟนๆก็รู้สึกหวั่นใจเมื่อ อากัสซี่ พลาดท่าตามหลังห่างถึง 0-4 เกม แต่สุดท้าย อาศัยด้วยประสบการณ์ที่เหนือกว่าจึงพลิกกลับมาเล่นถึงไทเบรก และกลับมาชนะสำเร็จในเซ็ตที่สาม 7-6 (8-6) ก่อนจะปิดแมตช์ในเซตที่ 4 ลงได้ 6-2 ใช้เวลาแข่งขันไปทั้งสิ้น 3 ชั่วโมงครึ่ง ภายหลังการแข่งขัน อากัสซี่ เผยความความรู้สึกกับสื่อว่า ผมมาที่นี่เพื่อเล่นให้ได้ 6 แมตช์หรือมากกว่านั้น ผมต้องการมาโชว์ความสามารถให้ได้มากที่สุด แม้จะรู้สึกกดดันอยู่บ้าง แต่ผมก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน ที่สำคัญ ผมรู้สึกภาคภูมิใจและยินดีที่ได้มาในวันดีๆเช่นนี้ สำหรับการแข่งขันในวันนี้ ผมผ่านสามเซตแรกมาได้ ต้องถือว่าเป็นโชคดีทีเดียว ผมรู้สึกยอดเยี่ยมจริงๆ หลังชัยชนะแมตช์นี้ อากัสซี่ จะไปพบกับ มาร์กอส แบ็กดาติส มือ 8 ของรายการ จากไซปรัส ในวันพฤหัสบดี 31 สิงหาคม ตามวัน-เวลาท้องถิ่น หลังจากที่ แบ็กดาติส สามารถเอาชนะ อเล็กซานเดอร์ วาสเก้ จากเยอรมนี มาได้ 3-0 เซต 7-6 (7-1), 7-6 (9-7), และ 6-3อังเดร อากัสซี่ โปรไฟล์ Andre Kirk Agassi (USA) Birthdate: 29-Apr-70 (36 ปีที่แล้ว) Birthplace: Las Vegas, Nevada, USA Residence: Las Vegas, Nevada, USA อากัสซี่สมัยเป็นเด็ก(พ่อ, อากัสซี่, แม่, และพี่ชาย) Height: 180 cm. Weight: 77 kg. Plays: Right-handed (ถนัดขวา)Racquet: Head Flexpoint Radical Shoes: Adidas ClimCool Feather II Clothing: Adidas Turned Pro: 1986 (วัยเพียง 16 ปี)Highest Career Ranking: #1 Coach: Darren Cahill (โค๊ชคนปัจจุบัน) อากัสซี่ เข้าสู่วงการลูกสักหลาดอาชีพครั้งแรกในปี 1986 ตอนนั้นเขามีวัยเพียงแค่ 16 ปี และด้วยความหนุ่มคะนองบวกกับความเฮี้ยวของอากัสซี่ ทำให้ตัวเขากลายเป็นขวัญใจของแฟนเทนนิสสาวๆ เกือบทั่วสหรัฐฯ ไม่เว้นแม้แต่ดาราภาพยนตร์ อย่าง บาร์บาร่า สไตรแซนด์ ความร้อนแรงของอากัสซี่ กู่ ไม่กลับเมื่อเขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ครั้งแรกในชีวิตมาครอง ได้สำเร็จ จากรายการ วิมเบิลดัน ในปี 1992 เป็นชัยชนะเหนือคู่แข่งอย่าง จอห์น แม็กเอนโร และ บอริส เบ๊กเกอร์ จอห์น แม็กเอนโร, อังเดร อากัสซี่, พีท แซมพราส, และ จิม คูเรียร์ ในทีมเดวิสคัพ ปี 1992 แต่แล้ว อากัสซี่ ก็ประกาศแยกทางกับโค้ชของเขาเอง นิค บอเรตเทียรี่ และเขาก็ได้โค้ชคนใหม่ คือ แบรด กิลเบิร์ท ผู้ที่มีส่วนช่วย อากัสซี่ คว้าแชมป์แกรนด์สแลม 6 รายการ และรวมไปถึงคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ที่เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกาด้วยอากัสซี่ ได้พบรักกับ บรู๊ค ชิลด์ส ดาราภาพยนตร์สาวชื่อดังของฮอลลีวู้ด ทั้งคู่เริ่มควงกันครั้งแรกในเดือนเมษายน ปี1993 ก่อนที่จะลงเอยด้วยการเข้าสู่พิธีวิวาห์ในปี 1995 ในช่วงเวลานั้นเส้นทางรักของ อากัสซี่ ดูเหมือนจะหวานชื่น แต่ผลงานในคอร์ตเทนนิสกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เวลาผ่านไปเจ้าหนุ่มบลูยีนส์จอมเฮี้ยว อากัสซี่ เริ่มรู้ซึ้งถึงปัญหานี้ และในที่สุดในเดือนเมษายน ปี 1997 หลังใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกันมาสองปี บรู๊ค ชีลด์ส และ อากัสซี่ ก็แยกทางกัน ด้วยเหตุผลที่ อากัสซี่ กล่าวปรารภว่า "ความรักเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้ชีวิตแต่งงานไปรอดได้" หลังจากเลิกรากับบรู๊ค ชิลด์ส เส้นทางนักเทนนิสอาชีพของ อากัสซี่ ก็กลับเรืองรองขึ้นมาใหม่ ในปี 1999 อากัสซี่ คว้าแชมป์ แกรนด์สแลม รายการเฟรนช์ โอเพ่น ทำให้เขากลายเป็นนักเทนนิส รายถัดจาก ร็อด เลเวอร์ นักเทนนิสชื่อดังในยุค 60 ที่เป็นผู้คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 รายการ ซึ่งในโลกนี้มีเพียง 5 คน Agassi is one of five men in the history of the sport to win all four Grand Slam tournaments in their careers - joining Rod Laver, Don Budge, Roy Emerson and Fred Perry. พร้อมกันนี้ อากัสซี่ ก็เริ่มมีความสัมพันธ์ใหม่นอกสนามกับนักเทนนิสสาวชาวเยอรมัน "สเตฟฟี่ กราฟ" ที่ผลพวงงอกเงยขึ้น คือ ผลงานในคอร์ตของ อากัสซี่ ดีขึ้นเป็นลำดับ สุดท้ายสองคนก็แต่งงานกัน ตลอดระยะเวลาที่ อากัสซี่ ครองชีวิตคู่ร่วมกับ "กราฟ" อากัสซี่ ดูจะกลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ใช้อารมณ์ในการแข่งขันน้อยลง และมีความมุ่งมั่นเพื่อเอาชัยชนะเข้ามาแทนที่ ผู้คนในแวดวงลูกสักหลาดต่างพากันเม้าธ์อย่างสนุกปากว่า โฟร์แฮนด์ ของ อากัสซี่ ที่ดีวันดีคืนขึ้นนั้น เป็นเพราะได้ฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำกับ กราฟ อดีตนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกนั่นเอง ทั้งนี้ไม่ว่า กราฟ จะเป็นคู่ซ้อมให้อากัสซี่ จริงตามข่าวที่เม้าธ์หรือไม่ แต่ชีวิตครองรักใหม่ของอากัสซี่ ดูจะเป็นแรงขับดันสำคัญที่ทำให้ นักเทนนิสวัย 36 ปี เดินหน้าเพื่อล่าตำแหน่งเป็นมืออันดับต้นๆของโลกต่อไป เพอร์รี่ โรเจอร์ ผู้จัดการส่วนตัวของอากัสซี่ กล่าวถึงความสำคัญของครอบครัวที่มีต่อผลงานในสนามของ อากัสซี่ ว่า ที่ผ่านมา อากัสซี่ พยายามจะหาความลงตัวระหว่างชีวิตครอบครัว กับการแข่งขันในสนาม และดูเหมือนว่ากราฟฟี่ คือผู้ที่ทำให้ทั้งสองเรื่องของ อากัสซี่ ลงตัวได้อย่างสวยงาม ปัจจุบันอากัสซี่ และกราฟ ใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกันมาได้ 5 ปีแล้ว หลังจากที่เข้าพิธีวิวาห์ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2001 หลังจากนั้นสี่วัน กราฟก็ให้กำเนิดบุตรชาย ยาเดน กิล และในเดือนตุลาคมปี 2003 สองสามีภรรยา ก็ได้ลูกคนที่สองเป็นบุตรสาว มีชื่อว่า ยาซ แอล อากัสซี่ คงจะรัก กราฟ มาก ลองฟังถ้อยคำที่เขาแอบหยอดให้ภรรยาสุดที่รักก่อนที่จะลงแข่งขันรายการ เฟรนช์ โอเพ่น เป็นเรื่องยากที่จะเล่นเทนนิสกับภรรยาของตัวเอง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบังคับสายตาให้จับจ้องมองอยู่ที่ลูก ใจอยากจะมองแต่หน้าเมียรักเท่านั้น" เส้นทางชีวิตนักเทนนิสอาชีพกว่า 20 ปีของอากัสซี่ จนถึงวันนี้ เรียกได้ว่าเดินผ่านจุดอิ่มตัวมาไกล เพราะนอกจากจะคว้าถ้วยแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 ใบ อากัสซี่ ยังสะสมถ้วยเอทีพีได้ครบถึง 60 รายการ ล่าสุดเขาเพิ่งจะโชว์ฟอร์มคว้าแชมป์ รายการเมอร์เซเดส เบนซ์ คัพไปได้อีก สถิติที่แปลกอย่างหนึ่งของเขาก็คือ เขาไม่ผิดอะไรกับ "รถไฟเหาะตีลังกา" เพราะชีวิตของเขาขึ้นลงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างที่สุด
จาก "เจ้าหนุ่มบลูยีนส์" ผมยาวสุดแซบซ่าและรักการออกงานสังคม กลายเป็น"แฟมิลี่แมน" ที่รักศรีภรรยาเป็นที่สุด...จากมือ 1 ของโลก ตกสู่ มืออันดับ 141 ของโลก แล้วกลับขึ้นสู่จุดสูงสุด มือ 1 ของโลก อีกครั้ง...จาก มือรองที่ผูกปีแพ้แซมพราส ในรอบชิงแกรนด์สแลม 4 หนแรก กลายเป็นนักเทนนิสชายคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 พื้นผิว (ซึ่งแม้แต่แซมพราสก็ยังทำไม่ได้) และเขายังเป็น มือ 1 ของโลกผู้ที่มีอายุมากที่สุด นับตั้งแต่มีการจัดอันดับเป็นต้นมาด้วย(ขณะมีอายุ 33 ปี) ทั้งหมดนี้พิสูจน์ว่า ไฟในตัวของนักเทนนิสลูกครึ่งอิหร่าน จากรัฐเท็กซัสยังคงลุกโชน ดังเช่นช่วงวันแรกๆที่เขาเทิร์นโปรเมื่ออายุ16 ปี เหตุผลที่ อากัสซี่ สามารถยืนหยัดเป็นยอดในวงการโลกเทนนิสมาได้นานขนาดนี้ นอกจากจะเป็นเพราะฝีมือและการฝึกซ้อมอย่างหนักของเขาแล้ว ครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง แม่บ้านที่ดีอย่าง กราฟ รวมทั้งลูกๆที่แสนน่ารัก ได้ทำหน้าที่เป็นลมใต้ปีกผลักดันจน อังเดร อากัสซี่ เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลกเทนนิสยืนยงนานหลายปี. โดย yyswim
Create Date : 17 สิงหาคม 2549
Last Update : 1 กันยายน 2549 11:18:51 น.
6 comments
Counter : 13654 Pageviews.
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2549 อากัสซี่ ปิดฉากรายการ วิมเบิลดัน นี้เพียงแค่รอบ 3 เมื่อพ่ายให้กับ ราฟาเอล นาดาล นักหวดดาวรุ่งชาวสเปนมือ 2 ของโลก 0-3 เซต 6-7(5-7),2-6,4-6
หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน นักเทนนิสชื่อดังของโลก ต่างได้ออกมากล่าวถึงนักเทนนิสรุ่นพี่คนนี้ด้วยความประทับใจและซาบซึ้ง ทั้งในเรื่องความสำเร็จในชีวิตบนคอร์ตและความสำเร็จในชีวิตส่วนตัว ที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเทนนิสรุ่นใหม่ต่อไป
โดยเริ่มจาก เฟด-เอ็กซ์ กล่าวด้วยความประทับใจว่า "เราต้องเสียตำนานอันยิ่งใหญ่ของโลกไปอีกคน มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย แต่ อากัสซี่ ก็ได้ประสบการณ์และความสำเร็จ ผมโชคดีที่ครั้งหนึ่งเคยเล่นเทนนิสกับเขา มันเป็นสำเร็จที่เหลือเชื่อที่เขาคว้าแชมป์แกรนด์ สแลมได้ทั้ง 4 รายการ"
เลย์ตัน ฮิววิตต์
ด้าน เลย์ตัน ฮิววิตต์ เผยว่า อากัสซี่ คือต้นแบบของนักเทนนิส "กีฬาเทนนิสเป็นหนี้ อากัสซี่ มากมาย เพราะว่าเขามีชื่อเสียงในทางการตลาด ทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักกีฬาประเภทนี้ แถมยังเป็นแบบอย่างในเรื่องการวางตัวและบุคลิกภาพ โดยเฉพาะนักเทนนิสรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้ามา ผมเชื่อว่าการสวมเสื้อผ้าสไตล์ร็อค ใส่ต่างหู ผมยาว มันเป็นภาพที่แตกต่างกันมาก สำหรับนักเทนนิสในยุคปัจจุบัน ซึ่งมันเป็นเรื่องช่วยปลุกสีสันให้กับกีฬานี้เป็นอย่างดี"
ทิม เฮนแมน กล่าวว่า "เมื่อปีที่แล้ว ในเดือนกันยายน ในรายการ ยูเอส โอเพ่น อากัสซี่ ลงเล่นเมื่อตอนที่เขาอายุ 35 ปี มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ผมแน่ใจว่าเขาแทบจะไม่ต้องรื้อฟื้นหรือปรับปรุงฝีมือเลย"
คนสุดท้ายของนักเทนนิสชายคือ มารัต ซาฟิน จากรัสเซีย เขาเอ่ยปากชมว่า รุ่นพี่คนนี้คือผู้ช่วยสร้างความบันเทิงแก่วงการเทนนิส "เขาเป็นนักเทนนิสคนแรกที่สร้างสีสันให้กับวงการแร็กเก็ต มีความสำเร็จมากมายทั้งแกรนด์ สแลม และทุกอย่าง แต่เรื่องของการแต่งตัว กางเกงที่เป็นเอกลักษณ์ แฟชั่นที่เขานำเข้ามาในวงการนี้ แถมยังเป็นคนที่มีความสามารถ อากัสซี่ คือ อากัสซี่ เขาเหมือนกับสินค้าแบรนด์เนม"
ทางด้านนักเทนนิสหญิง อเมลี โมเรสโม่ มือ 1 ชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า "อากัสซี่ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในอาชีพนี้ ฉันคิดว่าช่วงเวลาที่ทำให้คิดถึงเขา น่าจะเป็นปี 1999 ที่เขาคว้าแกรนด์ สแลม เฟรนช์ โอเพ่น การกลับมาสู่แมตช์อีกครั้ง ทั้งๆที่โดนนำ 2 เซต ซึ่งหลายคนคิดว่าเขาจะต้องพลาดโอกาสทองอย่างแน่นอน แต่ไม่เลย เขากลับมาครองแชมป์ได้อย่างงดงาม"
ทางด้าน สาวคิม ไครจ์สเตอร์ส จากเบลเยี่ยม เธอกล่าวว่า "บางครั้งฉันยังจำสายตาของ อากัสซี่ ตอนเล่นได้ เขามีความมุ่งมั่นและตั้งใจมาก ฉันไม่เคยเห็นใครเป็นแบบนี้มาก่อน เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเมื่อได้เห็นด้วยตาตัวเอง ขนาดแค่เรื่องแบ็คแฮนด์ก็เหลือเชื่อแล้ว ถ้าฉันหวดได้อย่างเขา ฉันคงกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก"