เลิกสูบบุหรี่
เลิกสูบบุหรี่
หากใครอยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ สายตาที่เขามองคนสูบบุหรี่ เขาจะมองแบบรู้สึกไม่ชอบ หงุดหงิด รังเกียจ ..อาจจะมีพูดจาแดกดันประชด ..และอาจจะเดินหนีอย่างรังเกียจ
เด็กรุ่นใหม่ เท่ ...เพราะไม่สูบบุหรี่กันแล้ว
เด็กรุ่นใหม่ หากใครสูบบุหรี่ในโรงเรียน สาวๆจะเดินหนี หนุ่มๆจะมองแบบไม่ใยดี ดีไม่ดี ครูอาจารย์จะทำโทษแบบทำให้รู้สึกเสียหน้า และถูกเพื่อนๆล้อไปอีกนานหลายปี ...หรือหากสูบบุหรี่ในมหาวิทยาลัย หรือหากสูบบุหรี่เมื่อไปเดินด้วยกันแถวสยาม หรือไปนั่งดริ๊งค์ด้วยกัน เพื่อนๆจะไล่ให้ไปสูบที่อื่นทันที บอกว่าห้ามเข้ามาใกล้ในรัศมี
ในที่ทำงานราชการก็เช่นเดียวกัน ลูกจ้างราชการคนใดหากสูบบุหรี่ เขาจะถูกตำหนิจากผู้บริหารทุกคนเสมอ เขาจะต้องไปแอบหลบซ่อนสูบบุหรี่ที่นอกอาคาร เป็นที่ที่ไม่มีแอร์ อาจจะเป็นแถวบันไดหนีไฟ หรือแถวหลังป้อมยาม เขาจะสูบบุหรี่ในอาคารไม่ได้เลย เพราะทุกชั้นจะมีแอร์ หากใครหลบไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำ หรือในห้องพัสดุ ก็จะมีกลิ่นบุหรี่กระจายออกไปได้ทุกห้อง ทำให้ข้าราชการและผู้มาติดต่องาน ทราบโดยทันที
วันก่อน ผมไปขึ้นเครื่อง ที่สุวรรณภูมิ คนทั่วไปต่างเดิน ยืน นั่ง หรือทำธุรกรรมต่างๆได้ตามสะดวกสบายใจ จะซื้อตั๋ว จะเช็คกระเป๋า จะแลกเงิน จะรับประทานอาหาร จะนั่งดริ๊งค์ จะช๊อปปิ้ง หรือจะเข้าห้องน้ำ ก็ทำได้ตามใจชอบ สบายมาก ได้ยินเสียงพูด ได้ยินเสียงหัวเราะกันครื้นเครง ....แต่มีฝรั่งอยู่คนหนึ่ง ร่างกายผอม เขาต้องเดินเข้าไปในห้องสูบบุหรี่เพียงคนเดียว ในนั้นทีวีก็ไม่มีให้ดู ฝรั่งคนนั้นเข้าไปราวกับถูกกักขังในห้องอยู่เพียงคนเดียว ...และเมื่อเขาโดยสารอยู่บนเครื่อง ตลอดระยะเวลาการบิน เขาจะต้องหงุดหงิดใจกระวนกระวายมาก ราวกับนั่งอยู่กลางกองเพลิงเราดีๆ เพราะเขาจะถูกห้ามสูบบุหรี่บนเครื่อง
เดี๋ยวนี้ กฎหมายไทย มีการจับปรับแบบไม่ละเว้น หากใครสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ จะเป็นในรถไฟ ในรถบัส แถวสถานีรถไฟฟ้า ในภัตตาคาร ในโรงภาพยนตร์ ในสนามกีฬา ในวัด ในโรงเรียน ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ในห้าง ในธนาคาร
โอ หากใครสูบบุหรี่ เขาคนนั้นจะเรียกว่าเหมือนคนคุก ที่จะต้องหาที่ที่คอยหลบซ่อนตัว เพียงเพื่อจะสูบบุหรี่
บล๊อกวันนี้ เขียนขึ้นในโอกาส วันงดสูบบุหรี่โลก วันที่ 31 พฤษภาคม 2551
การเลิกสูบบุหรี่ จะยากหรือง่ายขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของตัวท่านเอง แต่กุศลผลบุญนอกจากจะบังเกิดต่อตัวท่านเองแล้ว ท่านยังจะมอบกุศลผลบุญต่อคนที่ท่านรัก ต่อญาติพี่น้อง ต่อเพื่อนๆ ต่อหน่วยงานของท่าน รวมทั้งต่อสังคมที่ท่านร่วมพักอาศัยด้วย
ข้อควรปฏิบัติ เมื่อท่านต้องการจะเลิกสูบบุหรี่
1. มีความตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องการเลิกสูบบุหรี่ ด้วยตัวเอง
2. กำหนดวัน ปลอดบุหรี่ ของตัวเอง อาจเป็นวันเกิดของตัวเอง ของคู่ครอง ของลูก ของคุณพ่อของคุณแม่ หรือเป็นวันสำคัญของชาติ หรือเป็นวันสำคัญของศาสนา ...แต่ทั้งนี้วันที่กำหนด ควรเลือกเป็นช่วงเวลาที่ตนเองไม่มีอารมณ์เครียดต่อสิ่งใดมากเป็นพิเศษ
3. ทิ้งบุหรี่และอุปกรณ์การสูบไปเลย ไม่ให้มีหลงเหลืออยู่ที่ใดแม้แต่ที่เดียว ทั้งซองบุหรี่ กล่องบุหรี่ ไฟแช๊ค ที่เขี่ยบุหรี่ และควรอยู่ห่างๆเพื่อนหรือญาติที่สูบบุหรี่ด้วย ..หากมีความจำเป็นจะต้องติดต่อ ช่วงนั้นก็ควรใช้มือถือโทร.เอา
4. แจ้งให้คนในครอบครัว ทั้งลูก พ่อแม่ พี่น้อง ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา รวมทั้งคนในหน่วยงาน ทั้งนายจ้าง เพื่อนร่วมงาน และรวมทั้งเพื่อนสนิททุกคนทราบ เพื่อให้ทุกคนคอยพูดให้กำลังใจ หรือพูดดุด่า สบประมาท หรือคอยร้องห้ามตลอดเวลา
5. รับประทานอาหารต่อมื้อ อย่าให้อิ่มมากนัก ควรรับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ให้มากกว่าเดิม ช่วงนี้ควรงดสุรา กาแฟ อาหารรสจัด ไม่ควรนั่งที่โต๊ะอาหารนานๆ ไม่ควรลงว่ายน้ำในสระหรือในทะเลนานๆ เพราะหลังจากรับประทานอาหารอิ่ม ความเคยชินจะทำให้อยากสูบบุหรี่ และหลังจากขึ้นจากสระว่ายน้ำหรือขึ้นจากทะเล ตอนที่ตัวเย็นๆ ความเคยชินจะทำให้อยากสูบบุหรี่
6. ในช่วงแรกของการเลิกสูบบุหรี่ ทุกคนจะรู้สึกหงุดหงิด อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา เป็นกันทุกคน ควรเตือนตนเองอยู่เสมอว่า เราไม่สูบบุหรี่แล้ว ควรจะประวิงเวลาของการสูบบุหรี่ไปเรื่อยๆ และควรดื่มน้ำอุ่นมากๆ ทานของเปรี้ยวๆ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อลดความอยากสูบบุหรี่
7. ออกกำลังกายให้เหงื่อออกบ่อยๆ หรือทำงานอย่าให้มือและสมองอยู่ว่าง หรืออาจทำในสิ่งที่ตนเองชอบในช่วงนั้น เพื่อจะได้ลดความอยากสูบบุหรี่ ..บางคนที่ใช้วิธีรับประทานอาหารน้อยๆแต่บ่อยๆแทนนั้น เพื่อหวังจะให้น้ำลายและน้ำย่อยทำงาน ซึ่งก็อาจจะทำได้ แต่การรับประทานอาหารบ่อยๆโดยไม่ออกกำลังกาย มักจะทำให้ผู้เลิกสูบบุหรี่ มีร่างกายอ้วน
8. บางคนอาจจะต้องการอยู่ภายใต้การบังคับดูแลของแพทย์และพยาบาล ซึ่งก็สามารถทำได้ สำหรับคนที่จิตใจไม่แข็งพอ
มีข้อมูลเพิ่มเติม ร้อยละ 80 ของผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ จะเลิกได้ด้วยตัวเอง และผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ ส่วนใหญ่ใช้วิธีไม่สูบบุหรี่เลย (หักดิบ) ...แต่ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่โดยใช้วิธีค่อยๆลดจำนวนมวนที่สูบลง ส่วนใหญ่จะไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้
การเลิกสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะสูบบุหรี่มานานเท่าใด ไม่ว่าผู้เลิกสูบบุหรี่จะมีอายุมากเท่าไร การเลิกสูบบุหรี่ทันทีจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถึงขนาดเจ็บป่วย จะมีก็แต่อาการหงุดหงิดกระวนกระวายอยากจะสูบบุหรี่
การเลิกสูบบุหรี่ หากสามารถกระทำได้ ร่างกายจะเริ่มปรับตัวในทางที่ดีขึ้นทันที
ภายใน 24 - 48 ชั่วโมง ความดันโลหิตและชีพจรของร่างกายจะปรับสภาพสู่ระดับปกติ ด้วยนิโคตินที่เคยอยู่ในกระแสเลือด รวมทั้งคาร์บอนมอนอกไซด์ที่จับแน่นอยู่กับเม็ดเลือดแดง จะถูกขับออกไปจากร่างกาย
ภายใน 48 ชั่วโมง ความรู้สึกสดชื่นจะบังเกิดขึ้น เพราะร่างกายไม่มีนิโคตินอันใหม่เข้าไปในร่างกาย ปอดจะเริ่มขจัดเสมหะและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกไปจากร่างกาย
ภายใน 72 ชั่วโมง การรับประทานอาหารจะอร่อยขึ้น เพราะตุ่มรับรสที่ลิ้นทำงานได้ดีขึ้น ความรู้สึกเรื่องรสชาติและกลิ่นจะกลับคืนมา นอกจากนั้นกลิ่นตัวของตนก็จะปลอดจากกลิ่นบุหรี่มวนใหม่ด้วย
ภายใน 96 ชั่วโมง ความรู้สึกสงบและสบายตัวจะบังเกิดขึ้น เพราะอาการอยากบุหรี่จะลดลงไปมาก
ภายใน 3 สัปดาห์ การออกกำลังกายจะสามารถกระทำได้มากขึ้น เพราะปอดจะดีขึ้น จะไม่รู้สึกเหนื่อยง่าย และอาการไอจะลดลงเรื่อยๆ
ภายใน 2 เดือน ร่างกายจะมีกำลังแข็งแรงมากขึ้น จะสามารถยกของหนักและอึดมากขึ้น เพราะเลือดสามารถไหลเวียนไปสู่แขนขาได้ดีขึ้น
ภายใน 3 เดือน ร่างกายจะสูดลมหายใจได้เต็มปอดขึ้น เพราะระบบการขจัดสิ่งสกปรกในปอด จะทำงานได้เป็นปกติ ไอน้อยลงมาก การหายใจดีขึ้น ...สำหรับผู้ชาย ในช่วงนี้เชื้ออสุจิจะกลับเคลื่อนไหวได้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติ และจำนวนเชื้ออสุจิก็เพิ่มขึ้นด้วย
ภายใน 5 ปี สุขภาพโดยรวมจะดีขึ้น
อัตราเสี่ยงต่อการเกิดอาการหัวใจขาดเลือด จะลดลง เท่ากับครึ่งหนึ่งของคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่
ภายใน 10-15 ปี อัตราเสี่ยงต่อการป่วยจะลดลง โดยเฉพาะโรคร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นจากพิษภัยของบุหรี่ เช่น มะเร็งปอด
สุขภาพที่แข็งแรง ..ใครจะขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ จากพระ หรือจากเทวดาไม่ได้ดอก ใครอยากจะได้ เขาจะต้องเสาะหาด้วยกำลังร่างกายของตนเองเท่านั้น..
โดย yyswim
Create Date : 31 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2551 0:04:28 น. |
|
36 comments
|
Counter : 11686 Pageviews. |
|
|
|
เผอิญว่าความจริง มันไม่ใช่แบบนี้น่ะสิคะ
ตอนนี้อยากให้แฟนเราลดๆลงซักที แต่มันไม่ทำไรเลย บอกแค่ว่าเรียนจบ เบื่อมากๆ วันที่กำหนดเลิกยังไม่มีเลยค่ะ เราก็ว่าไปแล้ว ทำไมถึงไม่กำหนดวันขึ้นมา
เฮ้ออออออ