รับเลือดบริสุทธิ์สักขวดมั้ย?



รับเลือดบริสุทธิ์สักขวดมั้ย?






บริจาคเลือดเพื่อตนเอง




เราสามารถจะบริจาคเลือดให้กับตนเองได้ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของเราโดยตรง เพราะ



1. เป็นเลือดบริสุทธิ์จากตัวเราเองที่ฝากเก็บไว้ ซึ่งจะปลอดภัยจากการติดเชื้อ แน่นอนกว่าการที่เราจะรับเลือดจากผู้บริจาคทั่วไป เช่น โรคตับอักเสบ โรคเอดส์ หรือมาเลเรีย แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากก็ตาม



2. ไม่ต้องเสี่ยงกับการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการได้รับเลือดของผู้บริจาคทั่วไป เช่นการแพ้เลือด หรือเม็ดเลือดแดงแตก



3. จะมีการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมาเร็ว ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นได้เร็ว เพราะเป็นเลือดของเราเอง



4. ลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบเลือด



5. มีเลือดสำรองของตนเองไว้ใช้เองในกรณีที่จำเป็น เพราะในบางช่วงเวลาอาจจะไม่มีเลือดบริจาคสำรองกรุ๊ปของเราเอาไว้ใช้กับตัวเรา และเมื่อบริจาคแล้ว ธนาคารเลือดจะสำรองเลือดของเรานั้นไว้นาน จนกว่าจะไม่จำเป็นต้องใช้กับเราแล้ว จึงจะนำไปมอบให้ผู้รับบริจาคท่านอื่น






ผู้ที่เหมาะสมกับการบริจาคเลือดเพื่อตนเอง



1. เป็นผู้ที่กำหนดวันทำการผ่าตัดได้แน่นอน (ผ่าตัดไม่ฉุกเฉิน)



2. เป็นผู้ที่มีหมู่เลือดที่หายาก



3. เป็นผู้ที่เคยมีประวัติ เคยได้รับเลือดแล้วเกิดอาการแพ้ขณะให้เลือด





คุณสมบัติของผู้ที่จะบริจาคเลือดเพื่อตนเอง



1. น้ำหนักมากกว่า 45 กิโลกรัม



2. อายุอยู่ระหว่าง 17-60 ปี



3. เพศหญิงหรือชายก็ได้ แต่ถ้าเป็นเพศหญิงต้องไม่อยู่ในระยะตั้งครรภ์



4. ต้องไม่เป็นโรคที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ



5. ผู้ป่วยไม่ซีดไม่อ่อนเพลียเกินไป












ปริมาณเลือดที่จะเจาะ



ปริมาณเลือดที่จะเจาะในแต่ละครั้ง คือ 350-450 ซีซี ( 1 หน่วย ) ซึ่งแล้วแต่ความแข็งแรงของแต่ละบุคคล ที่จะไม่ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ..อย่างไรก็ตามในบางครั้งอาจจะเกิดอาการเวียนศีรษะบ้าง แต่ถ้าได้พักผ่อนสักครู่อาการก็จะดีขึ้นได้เอง





ก่อนที่จะบริจาคเลือด



แพทย์มักจะให้ยาเพิ่มธาตุเหล็ก รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 1 เดือน หลังจากบริจาคเลือดครั้งสุดท้าย เพื่อให้ร่างกายได้นำไปสร้างเม็ดเลือด





ความถี่ของการเจาะเลือด



1. เจาะครั้งละ 1 หน่วย ( ยูนิต )



2. หน่วยสุดท้าย จะต้องเจาะก่อนวันผ่าตัดอย่างน้อย 72 ชั่วโมง



3. ปริมาณเลือดที่เตรียมไว้ก่อนผ่าตัด ไม่ควรจะเกิน 3 หน่วย เพื่อไม่ให้เลือดของหน่วยแรกหมดอายุเสียก่อน






เรียบเรียงจาก “การบริจาคโลหิต เพื่อการผ่าตัดของตนเอง” โดยคุณ หมอพนมกร





ผมต้องขออภัยเพื่อนๆที่ยังหาข้อมูลในเรื่องนี้ให้ไม่สมบูรณ์



ข้อมูลที่ยังขาด ก็เช่นว่า จะไปติดต่อที่ไหนได้บ้าง? จะต้องมีค่าใช้จ่ายหรือไม่?



เพื่อนคนใดรู้ กรุณาช่วยคอมเมนต์ให้เพิ่มเติมด้วย






ต้องการติดต่อ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย …. 1871 ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ….โทรศัพท์ 0-2252-4106-9, 0-2252-4211-3, 0-2252-8181-9 ต่อ 4303-5







โดย yyswim









Create Date : 23 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 8 มิถุนายน 2551 11:51:51 น. 41 comments
Counter : 2399 Pageviews.

 



บริจาคเลือดจากรกของลูก




หลังจากที่ลูกคลอดออกมาแล้ว รกก็จะคลอดตามออกมา เมื่อลูกอยู่ในครรภ์ “รก” จะเป็นเสมือนแหล่งอาหารที่สำคัญ และปัจจุบันแพทย์ยังพบว่าเลือดที่อยู่ในรก สามารถจะช่วยชีวิตผู้ป่วยจากโรคต่างๆได้ถึง 70 กว่าโรค


ในเลือดที่เหลืออยู่ในสายสะดือส่วนที่ติดกับรก ซึ่งจะถูกตัดทิ้งไปพร้อมกับรก จะมีเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากรก ซึ่งเปรียบเสมือนกับไขกระดูก

เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด ซึ่งเป็นแม่พิมพ์ในการสร้างเม็ดเลือดและระบบภูมิคุ้นกัน และสามารถนำไปปลูกถ่ายรักษาผู้ป่วยโรคไขกระดูก โดยเฉพาะผู้ป่วยเด็กได้



เดิมที การปลูกถ่ายจะใช้ไขกระดูกจากบุคคลอื่นที่มีลักษณะที่เข้ากันได้ แต่ด้วยความจำกัดหลายประการ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากรกจึงได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะข้อดีของการต่อต้านกับสารแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายต่ำ หาได้ง่าย และควบคุมการติดเชื้อได้ดี



ขณะคลอดแม้ว่า เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดส่วนมาก จะเคลื่อนไปอยู่ในไขกระดูกเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังไหลเวียนอยู่ภายในเลือดของสายสะดือลูกและรก โดยหลังจากคลอดลูกเรียบร้อยแล้ว สูติแพทย์จะทำการผูกสายสะดือลูกแล้วจึงหนีบ(Clamp) แล้วตัดสายสะดือ เมื่อส่งลูกให้กุมารแพทย์ดูแลเรียบร้อยแล้ว สูติแพทย์จึงเริ่มดำเนินการเก็บเลือดจากสายสะดือตามขั้นตอน



หลังจากได้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากรกตามปริมาณที่เหมาะสมแล้ว สูติแพทย์ก็จะนำไปแช่แข็งในถังไนโตรเจน(อุณหภูมิ –196 องศาเซลเซียส) เลือดตัวอย่างจากเซลล์ต้นกำเนิดนี้จะถูกนำไปตรวจการติดเชื้อและ HLA


หาก HLA ของผู้ป่วยและเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากรกที่ได้จากการรับบริจาคตรงกัน แพทย์จึงจะนำไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยต่อไป



การบริจาค


คุณแม่สามารถจะบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากรกได้ หากมีคุณสมบัติครบถ้วนตั้งแต่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ตั้งครรภ์เดี่ยว มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 37 สัปดาห์ขึ้นไป ผ่านการตรวจกรองการติดเชื้อ เช่น เชื้อซิฟิลิส ตับอักเสบ บี ซี และโรคเอดส์ โดยให้ผลเป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจะให้กำเนิดลูกที่ผิดปกติ และน้ำหนักของทารกโดยประมาณไม่ต่ำกว่า 2,500 กรัม


ถ้าทั้งบิดาและมารดาเป็นพาหะของโรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมียทั้งสองฝ่าย ทารกจะมีอัตราเสี่ยงเป็นโรคสูง ทางแพทย์จะไม่รับบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากรก แต่ถ้าเป็นเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็สามารถจะรับบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากรกได้



ขั้นตอนการบริจาค


เริ่มโดยแพทย์จะให้ข้อมูลเรื่องการบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากรกแก่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ โดยคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะได้รับการร้องขอจากแพทย์ให้กรอกรายละเอียดในหนังสือแสดงความยินยอมการบริจาค เพื่อการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตให้กับผู้ป่วย เมื่อถึงวันคลอด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะทำการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากรก




นอกจากเลือดจากรกของลูกคุณแม่จะมีประโยชน์มหาศาล คุณแม่สามารถจะเก็บเลือดจากรกไว้ใช้ในโอกาสหน้า เผื่อลูกของคุณแม่อาจจะมีโรค ที่ต้องการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดอีกด้วย



หากต้องการรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต ศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยได้ หรือที่หน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หมายเลขโทรศัพท์ 0 2256 4824, 0 2256 4830



เรียบเรียงจาก“ธนาคารเลือดจากรก”
เขียนโดย รศ นพ ธีระพงศ์ เจริญวิทย์




เรื่องนี้ ผมนำมาลงในBlogไว้ด้วย เพราะมีลักษณะใกล้เคียงกันกับ

“การบริจาคโลหิตเพื่อตนเอง”



โดย: yyswim วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:18:08:29 น.  

 
ไม่เคยรู้มาก่อนนะเนี่ย..
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ


โดย: ดอกพิกุลจะร่วง วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:18:20:54 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ


โดย: VinKaBees วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:18:32:23 น.  

 
เนื้อหาน่าสนใจมากเลยครับ เรื่องการบริจาคเลือดสำหรับสำรองให้ตนเองสมัยก่อนใช้ในคนที่มีกรุ๊ปเลือดหายาก แต่เดี๋ยวนี้คนปกติๆมีเลือดสำรองเก็บไว้ก้ดี เพราะโรคติดต่อทางเลือดมันเยอะ ถึงแม้จะกรองตรวจโรคแล้ว แต่มันก็ไม่ชัวร์ปลอดภัยเต็มร้อย
และถึงแม้ไม่บริจาคสำรองสำหรับตนเอง แต่บริจาคให้คนอื่นๆก็ดี เพราะอุบัติเหตุมีอยุ่ทุกวัน คนป่วยต้องการใช้เลือดก็มีไม่น้อยเช่นกัน


โดย: Carlziess Lens วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:18:56:09 น.  

 
เข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ได้เลยครับ

ไม่รู้จะมีประโยชน์หรือเปล่า


โดย: noom_no1 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:07:52 น.  

 


โดย: noom_no1 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:18:34 น.  

 
อ่า

บริจาคอย่างอื่นได้เป่าคะ

เปสยังเด็กอยุ่น้า

อินู๋เปส แวะมาซน..


โดย: ~oกิ๊กกะโป๋ โลเปสo~ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:24:20 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่า


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:31:19 น.  

 
ไม่หวายอ่ะน้องสิน อ่านไป 1 ใน 3 แล้วมือไม้อ่อน แบบว่ากลัวเลือดมั๊กๆๆ แค่พูดถึงก็ใจไม่ดีและ ถ้าเห็นไม่ต้องพูดถึง เหอๆๆๆ ส่วนเรื่องบริจาคเลือดเนี่ย ไม่ไหวอ่ะ ลำดับที่สองที่กลัวคือเข็ม แล้วเข็มเจาะเลือดนะ รูใหญ่มาก.ก.ก.ก เห็นแล้วก็จะเป็นลม ไหนจะถูกจิ้มปลายนิ้วเพื่อตรวจ group เลือดอีก เจ็บอ่ะ เลยขอ บายดีก่า
โอย ไม่หวายและ นิ้วหมดแรง key ไปดีก่า ไว้ blog ใหม่จามาเยี่ยมเน้อ


โดย: ladybear (ladybear ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:57:04 น.  

 
อืมมมม ยังทำใจไม่ได้ครับ เห็นเลือดแล้วจะเป็นลม ยิ่งถ้าได้กลิ่นด้วยละก็ โอยยย แย่เลย

แต่ผมว่าดีครับที่จะบริจาดเลือดเพื่อตัวเองนะ ไม่เคยนึกมาก่อนเลยจริงๆ


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:01:02 น.  

 
เจาะไม่ได้อ่าครับ นน. น้อยกว่าที่กำหนด หุหุหุ


โดย: Due_n วันที่: 23 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:21:29 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูลดีดี...
บริจาคเลือด...เพื่อตัวเอง

ปัญหาก็คือ...กำหนดไม่ได้ค่ะ ว่าจะผ่าวันไหน
ที่สำคัญ บังเอิญอยู่ในกลุ่มคนใจบุญค่ะ

...หมู่เลือดหาได้ง่ายค่ะ ถือว่าโชคดีไป...
เคยมีญาติที่กำลังจะผ่าตัด
เขาระบุว่า อยากจะได้เลือดของคนที่เขารู้จัก
เพราะไม่อยากเสี่ยง

ไม่ตอนนั้น MDA เพิ่งบริจาคไป ก็เลยไม่ได้ช่วยเขาค่ะ

ขอใช้เลือดบริสุทธิ์ ไปช่วยคนอื่นดีกว่าค่ะ...
ที่สภากาชาด เขามักจะมีไปรษณียบัตรมาบอกว่า

เลือดของคุณ.... ได้บริจาคไปแล้ว เมื่อวันที่....
อ่านแล้ว ชื่นใจจริงๆ ค่ะ

สวัสดีตอนเช้าค่ะ


โดย: mda IP: 203.159.0.10 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:16:33 น.  

 
ไม่เลวๆ เลือดสำรองเพื่อตัวเอง

ยังจำได้หรือเปล่า? ที่ผมเคยถามว่าเคยมีแนวคิดวิธีการโด๊ปเลือดของนักกีฬา โดยการถ่ายเลือดของตัวเองช่วงที่มีความสมบูรณ์ทีสุด ว่ากันว่าช่วงนั้นมีเม็ดเลือดแดงมาก มีผลทำให้นักกีฬาเหนื่อยช้ากว่าเดิม อีกทั้งยังไม่ตื่นเต้นง่ายเกินไปด้วย เมื่อเดือนก่อนผมได้อ่านเจอบทความที่ว่านี้อีกแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน กีฬาประเภทอะไร แต่เป็นข่าวดังอยู่เหมือนกันว่าผิดหรือไม่ผิด

เลือดสำรองเพื่อตัวเอง ไม่รู้เข้าข่ายการโด๊ปหรือเปล่านะ
จริงๆแล้วเมื่อซัก 10 กว่าปีก่อนนี่ผมบริจาคเลือดเป็นประจำเลยนะ ต้องนั้นมีรถมารับบริจาคถึงที่ทำงานเลย เป็นประจำ บริจาคทุกครั้ง แต่พอยุค imf ไม่ได้ทำงาน บ. ไปหากินอยู่แถว ปราจีน ติดเชื้อ "มาลาเรีย" รักษาตัวอยู่พักใหญ่ดีที่ไม่ตาย ตั้งแต่นั้นยังไม่เคยบริจาคเลือดอีกเลย ไม่รู้เชื้อมันยังอยู่อีกหรือเปล่า


โดย: merf1970 IP: 61.91.196.84 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:17:29 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมบล๊อกครับ

ขอบคุณสำหรับคำชมครับ




โดย: VinKaBees วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:31:24 น.  

 
ขอบคุณมากๆนะคะ
และขอบคุณคำอวยพรดีดี
สำหรับเจ้าติโตด้วยค่ะ


โดย: prncess วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:39:22 น.  

 
สวัสดียามเที่ยงฮะลุงสิน

หนาวแล้วไม่สบายหรือเปล่าฮะ รักษษสุขภาพมากๆนะฮะ


โดย: err_or วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:53:15 น.  

 
จากประสบการณ์ตรงของข้าพบว่า....
เมื่อข้ามีความจำเป็นต้องผ่าตัดหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทสืบเนื่องจากอาการปวดหลัง...
ข้าเสียเลือดไปมากแต่ไม่ต้องให้เลือดเพิ่มเพราะร่างกายของข้าสร้างเม็ดเลือดใหม่ทดแทนรวดเร็ว...
สอดคล้องกับข้อที่.3 ของนายเดะเลย

จงบริจาคโลหิตเถิดแล้วผลดีจะเกิดแก่ร่างกายของเราเองครับผม...


โดย: U2 IP: 61.90.184.202 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:01:57 น.  

 
คุณดอกพิกุลร่วง….. ผมขอขอบคุณคุณด้วยเช่นกัน ที่คุณเข้ามาอ่าน ขอบคุณคับ

คุณVinKaBees……กรุณาเข้ามาสองรอบ ผมก็ขอบคุณคุณเช่นกัน

..เพื่อนๆคับ บทความในBlog ของคุณVinKaBees มีคุณค่าทุกบทความเลยคับ ลองแวะไปอ่านเถิดคับ เพื่อนๆอาจชอบ สินขอรับรองว่าจะไม่เสียเวลาอ่าน



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:56:19 น.  

 
Carlziess Lens…..ปลื้มคับที่หมอชอบเรื่องนี้ เห็นด้วยกับที่หมอเขียนคอมเมนต์

หนุ่ม….. ถ้าเป็นแฟน ขอกอดที ได้สิ่งที่อยากได้เรยยย ข้อมูลที่ให้เหมือนสะพานบุญทีเดียว แท๊งค์กิ้ว!!!

น้องเปส…. น้องยังเด็ก รอให้น้องโตกว่านี้มีเรื่องสนุกอีกเพียบ จุ๊ จุ๊ จุ๊ อย่าซน ห้ามไม่ฟัง เด๋ว เบิ๊ดกาโหลก น๊า



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:57:03 น.  

 
แม่นางค้างคาว….. ขอบคุณที่มาอ่าน

คุณพี่lady bear….. ลองอ่านเม้นต์ผม ดูซิ ผมก้อเกียดเข็ม ไม่น้อยคนอื่น ร๊อก!!!
Blog เรื่องหน้าผมจะชวนเข้าวัดล่ะนะ ไปพบพระคุณเจ้า



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:57:42 น.  

 
พ่อน้องโจ……เคยบอกแล้วนะ เรากรุ๊ป(ไม่ชอบ)เลือด เดียวกัน ฮา ฮา ฮา

ดิว….. ทำอะไรถึงผอม อย่าทำอย่างที่พี่ทำ บ่อย เน้อ ตัวเบาทู๊กกวัน แฮ่ะ แฮ่ะ ใครคิดแบบนั้น ขอให้จู๊ดๆ เพราะคิดผิด

MDA….. คนรักเด็กเดินเข้ามา หวัดดีค้าบ ผมก็กรุ๊ปโอเหมือนกันค้าบ ข้อมูลที่คุณบอกน่าสนใจดี…. เหอ เหอ หวัดดีตอนค่ำ แล้วกินข้าวกับใคร อยู่ล่ะ



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:58:40 น.  

 
Merf…..จำได้เสมอ คำถามนั้น เพียงแต่ข้อมูลของนักกีฬายังค้นไม่เจอ ว่าเอาเลือดตัวเองมาโด๊ปตัวเอง ได้ขนาดไหน จำได้ว่าคุณMe2U ก้อเคยช่วยเสริมไว้เหมือนกันว่า ยังไม่เจอข้อมูลนี้ แบบจะจะ ไม่งั้นเราทั้งสอง คงจะเขียนลงBlogแล้ว
ก้อคงยังมีเชื้ออยู่ในเลือด มั้ง ….เชื้อบ้า Up Blog



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:59:22 น.  

 
เจ้าหญิง…. วันคล้ายวันเกิด หลานติโต ทั้งคน ใครๆก็อยากร่วมอวยพรคับ

มะเอ๋อ….. เออ กรูสบายดี ยังไปออกกำลังกายทุกเย็น ยกเว้นวันนี้ ไปดู หลานพอตเตอร์มันลงแข่งเวทไตรภาคี มาว่ะ เอ็งชวนแฟนไปดูหรือยัง หนังดี อิ๊บอ๋าย กรูชมนาว๊อยยย/font>



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:00:02 น.  

 
U2……เออ ข้ารู้เรื่อง เรื่องที่เอ็งไม่สบาย แต่เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าที่เอ็งหายเร็ว เพราะกรรมดีที่แกบริจาคโลหิตให้ผู้อื่น ทุกสามเดือน
”..ข้าเสียเลือดไปมาก แต่ไม่ต้องให้เลือดเพิ่ม เพราะร่างกายของข้า สร้างเม็ดเลือดใหม่ทดแทนรวดเร็ว...จงบริจาคโลหิตเถิดแล้วผลดี จะเกิดแก่ร่างกายของเราเอง”
เพื่อนๆค้าบ บริจาคเลือด ดีจริงๆนะค้าบ ถ้าเพื่อนๆมีโอกาส ทำเลยค้าบ ตั้งแต่ 5ธันวามหาราช ปีนี้ ยังทันค้าบ เริ่มฟิตตัวกันเลย



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:00:40 น.  

 
มีข้อสงสัยค่ะ อยากทราบว่า yyswim ได้มาจากไหนอ่ะ
วันนี้สงสัยแว๊บขึ้นมาอ่ะ

มารอเข้าวัด จริงๆ แล้วพี่ไม่ชอบเข้าวัด เพราะไม่รู้จะเข้าไปทำไมอ่ะ เผื่ออ่าน blog น้องสินแล้วความคิดจะเปลี่ยนไปมั่ง


โดย: ladybear (ladybear ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:15:06 น.  

 
ซึ้งพี่ว่ายทำไมแปลงร่างเป็นหมอใจดี บอกกล่าวในสิ่งที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน ที่สำคัญไม่เห็นเวลารับบริจาคเลือดเขาจะเขียนบอกกล่าว ประโยชน์การถ่ายเลือดออกจากร่างกายง่ายๆแบบนี้ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้กันเลยยย ทำไม


โดย: btea วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:35:16 น.  

 
คุณพี่lady bear…. ชื่อ yyswim ผมตั้งมานานมากแล้ว เอ…กี่ปีแล้วละเนี่ย เด๋วขอนับก่อน ราวๆปี2538 เห็นจะได้

ชื่อแรกที่ตั้ง เป็นคำที่เขียนยาว มีความหมายตรงกะงานที่ทำเป๊ะเลย แต่เพราะเขียนยาว ใช้ในงานน่ะพอได้ (เด๋วนี้ก้อยังใช้อยู่)

ทีนี้ พอจะใช้กะเพื่อนๆ ก้อเกรงใจเพื่อน หนึ่งเพราะมันยาวบอกแล้วจำยาก สองอยากจะได้คำที่ไม่ใช่เป็นทางการ(เรื่องงาน)นัก



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:32:17 น.  

 
ก้อมานึกว่าตนเองชอบอะไร ที่จะบอกถึงลักษณะตัวตน ที่พอบอกไป เพื่อนๆนึกแล้วรู้ได้ทันที ก้อมีอยู่สองอย่าง อย่างหนึ่งคือ swim อีกอย่างคือ sex

เห็นมั้ย!!!! วกเข้าเนื้อแท้จนได้ (บอกโหม๊ด) แต่คำหลังขอตัดออก เพราะเพื่อนผู้หญิงคงรับไม่ได้



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:33:06 น.  

 
ทีนี้ก้อเหลือแต่คำแรก ทำไมเป็นคำนี้ลองคลิกอ่านที่นี่ เคยอ่านแล้ว ม้าง??

บังเอิญ คำว่าswim ในHotmail มีคนใช้เยอะคับ ก้อต้องหาคำมาเพิ่ม ซิ …คำที่มาเพิ่ม ก้อ อยากจะได้แบบที่มันง่ายๆ แต่ควรจะมีความหมาย ผมก็เลยเล่นคำย่อ ซะเลย Why You Swim เป็น yyswim ก้อ แหม๊ ว่ายว่ายสวิม ไง …ตรงมั้ย?



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:33:50 น.  

 

ที่จริง ผมมีอีกอย่างนะ… ลับคับ ผมไม่เคยบอกใคร …คือผมไม่ค่อยชอบเลย ที่จะเป็นคนลำดับแรกๆ เช่น aaswim 11swim มันกระดากว่ะ ที่จะเป็นบุคคลลำดับต้นๆ ก้อเกือบจะใช้ zzswim ไปแล้วเหมือนกัน แต่ความหมาย มันเน๊อะ เหลือเกิน ….หลับหลับสวิม ฟังแล้ว ไม่ค่อยจะเป็นมงคลเลย



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:34:32 น.  

 

ชื่อผม …ผมถูกถามบ่อยไป ไม่รู้ผมจะเคยเป็นโจรใต้มาหรือเปล่าเนาะ ….คนอยากจะซักประวัติบ่อยจัง

อ่อ ไม่แน่ อาจจะเป็นเพราะผมปากร้าย ก้อได้

เชื่อเหอะ เพื่อนในBlogหลายคน เขาไม่คบผมแล้ว เพราะความที่ป่วนเขาไปทั่ว เขียนเม้นต์ ตะละครั้ง …สมควรถูกโกรธจิงจิง พระเจ้าข้า!!!!!

คอมที่บ้านผม แกล้งผมอีกแระ …ส่งข้อมูลทั้งหมด มันไม่ยอมไป …ต้องทยอยส่ง …มันถึงจะทำงาน….ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:35:20 น.  

 
BTA…..เออ จริงซินะ เรื่องบริจาคเลือดให้ตนเอง คนรู้กันไม่มากนัก น่าที่จะมีการบอกกล่าวเผยแพร่ให้รู้กันกว้างขวางนะ

ผมเชื่อว่า จะมีคนอาสาบริจาคโลหิตเพื่อตนเองกันมากขึ้น ทีนี้พอเจ้าของเขาไม่ได้ใช้ และจะถึงรอบที่จะบริจาครอบใหม่ ก้อจะได้นำโลหิตนั้นมามอบให้ผู้อื่นได้….เออเนอะ ผมไม่รู้คับ



โดย: yyswim วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:42:20 น.  

 
ยังเลย ยังไม่เคยเลยคะ กลัวเจ็บ
นอนดึกประจำคะ ก็เลยไม่กล้า


โดย: ตะวันสีชมพู วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:47:17 น.  

 
ก็ชมกันเกินไปครับ ข้าน้อยมิบังอาจ

สงสัยต้องให้ที่พักที่เวกัสฟรีข้อหา โปรโมทบล๊อกคริๆ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม

คนชอบเฟด แฟนผี และเกิดเดือนเดียวกัน คริๆๆๆ


โดย: VinKaBees วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:05:51 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณสิน
วันนี้ได้ความรู้เพิ่มค่ะ เรื่องนามแฝงของคุณสิน

ไม่ชอบเป็นคนแรก จนเกือบจะเป็นคนสุดท้าย

อักษร "y" เทียบเคียงกับตัว "ว" จะไทยหรืออังกฤษ ก็อยู่ลำดับท้ายๆ
ไม่เหมือนคนที่ชื่อ "อ" เทียบได้กับตัว "A"
อยากจะเป็นคนสุดท้าย แต่ต้องกลายเป็ยคนแรกทุกครั้ง

คาดว่าจะได้บริจาคเลือกในวันพ่อค่ะ หลังจากไปบริจาคมาเมื่อวันแม่ที่ผ่านมา


โดย: mda IP: 203.159.0.10 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:09:50 น.  

 
บริจาคเลือดเป็นสิ่งที่ดีต่อตน และสังคม
มาสนับสนุนครับ


โดย: เงือกลม วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:19:57 น.  

 
ลุงสิน ผมไปดูแฮรี่แข่งตั้งแต่วันลอยกระทงงะ หนีหมาชิมันไปหลังจากนั่งกกกอดให้มันลดความกลัวเสียงประทัดงะ

แต่ผมว่ามันตัดเนื้อไปเยอะเหมือนกันอะลุง เด๋วจะรอดูภาคต่อไปจะประสานเนื้อหาที่ขาดไปยังไงอะ

กินไรยังงะลุง


โดย: err_or วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:24:18 น.  

 
เป็นเรื่องที่น่าสนใจ
เพิ่งรู้นะเนี่ย........


โดย: ผ่านมาเจอ IP: 203.113.32.6 วันที่: 27 ธันวาคม 2548 เวลา:14:44:35 น.  

 
src=https://www.bloggang.com/emo/emo15.gif>


โดย: อาภา IP: 124.157.246.230 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:16:22:28 น.  

 
สีนยึพะ


โดย: ตี่ IP: 124.157.246.230 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:16:25:15 น.  

 
เคยได้รับเลือดเพราะป่วยเป็นโรคG-6 PD บกพร่องแล้วหลังจากกลับบ้านมาก็ได้--โรคลมพิศ--มาแทนทรมาร มากๆเลยจะเป็นเวลาออกแดด เข้าห้องแอร์ ตื่นเต้น มีเซ็ก รู้สึกอาย เครียด แล้วจะหลีกเลี่ยงไงไหวหละ อยากเล่นกีฬาก็ไม่ได้เล่นอยากให้ผู้รู้ช่วยตอบทีว่าเกี่ยวกับการได้รับเลือดคราวนั้นไหม มีวิธีรักษาให้หายไหมเป็นมา 10 ปีแล้วหรือว่าต้องตายแล้วเกิดไหม่จึงจะหนีมันพ้น.....................................................................................................................................................................................


โดย: น้ำหวาน IP: 202.91.19.205 วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:4:24:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
23 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.