เซี่ยงไฮ้
เซี่ยงไฮ้ Hazy Pudong and the Pearl Tower เซี่ยงไฮ้จัดเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มั่งคั่งที่สุดของจีน ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อคนต่อปีเท่ากับ 15,802 หยวน หรือประมาณ 2,312 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 85,544 บาท และอัตราการเติบโตของรายได้ต่อหัวต่อคนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการบริโภคก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย การกู้ยืมเงินในเซี่ยงไฮ้กลายเป็นเรื่องปกติสามัญ การเพิ่มขึ้นของเงินกู้มาจากการที่รัฐอนุญาตให้ประชาชนเป็นเจ้าของบ้าน และธุรกิจรับจำนองก็เติบโตขึ้น Shanghai Architecture by day เซี่ยงไฮ้ถือว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งของจีนที่มีประชากรชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ เพราะมีจำนวนชาวต่างชาติประมาณ 3-5 แสนคน ทำให้ลักษณะของสินค้าและธุรกิจมีแนวโน้มเอื้อต่อการจับจ่ายใช้สอยของชาวต่างชาติ มีสินค้าต่างประเทศจำนวนมากขายในเซี่ยงไฮ้ และชาวจีนในเซี่ยงไฮ้เองก็มีลักษณะการบริโภคที่ค่อนข้างติดยึดในตัวแบรนด์สินค้า สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสถานะและการรับประกันเรื่องคุณภาพ ผู้บริโภคยินดีจ่ายในราคาสูง เพราะต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดี เราจึงพบเห็นถนนที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมอย่าง Nanjing, Huaihai คับคั่งไปด้วยผู้คน ในขณะที่สินค้าราคาถูก ของปลอมอยู่ห่างออกไปอีก 1 ถึง 2 ช่วงตึกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมที่สำคัญคือ คนรุ่นใหม่ที่เริ่มเข้าสู่สังคมของการทำงาน วัยรุ่นจำนวนมาก และลูกเพียงคนเดียวในครอบครัว กำลังเข้าสู่วัฒนธรรมที่เรียกว่า Mall culture ธุรกิจค้าปลีกในห้างสรรพสินค้า แหล่งบันเทิง เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว คนกลุ่มนี้พร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อช้อปปิ้งถึงแม้จะเป็นการก่อสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นก็ตาม และนิยมวัฒนธรรมในการให้ของขวัญ การเลี้ยงต้อนรับแขกอย่างเลิศหรู ในส่วนของตลาดการค้าอาหาร ผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นแรงผลักดันอย่างมากให้เกิดอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานและอาหารที่อุ่นแล้วรับประทานได้ทันที ขายดียิ่งขึ้นในร้านขายปลีก แนวโน้มที่เกิดขึ้นคือวัยรุ่นและวัยทำงานเริ่มต้นค้นพบว่า เวลาของตนมีน้อยลงจึงต้องเลือกรับประทานอาหารที่สะดวกรวดเร็ว และถึงแม้รายได้ต่อหัวของประชากรในเซี่ยงไฮ้จะสูง แต่จากรายงานก็มีเรื่องที่น่าประหลาดใจ เนื่องจากพบว่าสัดส่วนที่จับจ่ายเพื่อการบริโภคอาหารของชาวเซี่ยงไฮ้ จัดว่ามีสัดส่วนสูงที่สุดในประเทศ ทั้งที่โดยปกติแล้วในเมืองทั่วไปประชากรที่มีรายได้สูงมักจะมีสัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านบริโภคอาหารที่ลดลง ชาวเซี่ยงไฮ้ใช้จ่ายในการกินอาหารเย็นนอกบ้านมีสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการบริโภคสัตว์น้ำที่มีสัดส่วนสูงกว่าเมืองอื่น ๆ สูงกว่าถึงเกือบ 3 เท่า ยกเว้นเมืองซีเจียง สัตว์น้ำที่นิยมมากคือ ปูและหอย นอกจากนี้ชาวเซี่ยงไฮ้ยังนิยมบริโภคผลิตภัณฑ์นม สูงกว่าเมืองอื่นๆเกือบ 2 เท่า ดังนั้นเซี่ยงไฮ้จึงเป็นเมืองที่น่าสนใจสำหรับการจำหน่ายอาหารนำเข้า(จากต่างชาติและไทย) ธุรกิจค้าปลีกอาหารเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ ในปี 2547 มูลค่าการค้าส่งและค้าปลีกสินค้าในหมวดอาหาร เครื่องดื่ม สุรา และยาสูบสูงถึง 130 ล้านหยวน (16.24 พันล้านดอลล์ลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 600.88 พันล้านบาทไทย) ธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติมีการเติบโตอย่างรวจเร็ว ไม่ว่าจะเป็น Carrefour, Metro, Lotus, Trust-Mart, Auchon, RT Mart และซุเปอร์มาร์เก็ตเชนของจีนเอง เช่น Lianhua, Hualian and Nonggongshang. จำนวนทั้งหมดนี้ที่รวมกันในเซี่ยงไฮ้เกือบจะเท่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศจีน ส่วนธุรกิจบริการอาหาร โรงแรม ภัตตาคารก็เจริญเติบโตอย่างสูงไม่แพ้กัน เพราะวัฒนธรรมการนิยมบริโภคอาหารเย็นนอกบ้าน ร้านอาหารแบบตะวันตกและแบบผสมผสานสองวัฒนธรรม มีพบเห็นได้ทั่วไปในเซี่ยงไฮ้ มีตัวเลขจดทะเบียนทั้งหมดเกือบ 30,000 ราย ในจำนวนมีมากกว่า 1,000 รายเป็นร้านอาหารแบบตะวันตกล้วนๆ ธุรกิจภัตตาคารแบบมีระดับสำหรับผู้บริโภคที่มีรายได้สูงก็กำลังมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก และร้านอาหารเหล่านี้ก็มีความต้องการใช้อาหารนำเข้าเป็นส่วนใหญ่เช่นเดียวกับธุรกิจโรงแรม Holiday Iinn นอกจากเซี่ยงไฮ้จะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญแล้ว เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองท่าและเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปสู่ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันตกของจีนที่สำคัญด้วย เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีโครงสร้างสาธารณูปโภคด้านลอจิสติกส์ที่ดี ทั้งด้านการเคลียร์เอกสารศุลกากร การตรวจสอบ การแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งล้วนแต่มีประสิทธิภาพและมีความสะดวก Olympic monument with old hotel และยิ่งไปกว่านั้น เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองหลักในการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาประเทศ ซึ่งจะมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกๆครั้งจำนวนมาก ดังนั้นเซี่ยงไฮ้จึงเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงและเป็นตลาดที่มีโอกาสสำหรับอาหารแปรรูปนำเข้าจากไทย.Metropolitan Museum, an architecture museum โดย yyswim
Create Date : 28 สิงหาคม 2549
Last Update : 30 สิงหาคม 2549 8:47:59 น.
40 comments
Counter : 4807 Pageviews.
Bicycle Delivery
ข่าวจาก พีเพิลเดลี่ 23/08/06กลุ่มรัฐบาลท้องถิ่นหัวเมืองใหญ่จีน เซี่ยงไฮ้ กวางตุ้ง ฝูเจี้ยน(ฮกเกี้ยน)และอีกหลายมณฑล พร้อมใจกันปรับค่าแรงขั้นต่ำครั้งใหญ่ สืบเนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างร้อนแรง
เซี่ยงไฮ้ ยังคงครองแชมป์ค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดในประเทศ มีการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 750 หยวนต่อเดือน จากเดิมคือระดับ 690 หยวนต่อเดือน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน และทางนครเซี่ยงไฮ้ได้อธิบายว่าค่าแรงขั้นต่ำนี้คือรายได้สุทธิ ไม่รวมค่าประกันสังคม และค่าที่พักอาศัย ที่หน่วยงานจะต้องเป็นผู้จ่าย
ด้านหัวเมืองใหญ่แห่งเขตเศรษฐกิจแดนใต้ กว่างตงหรือกวางตุ้งนั้น ปรับค่าแรงขั้นต่ำแยกเป็นชั้นๆสำหรับการบังคับใช้ในโซนพื้นที่ต่างๆ โดยมีอัตราตั้งแต่ 450 หยวน จนถึง 810 หยวน
โดยชั้นที่ 1 ปรับเป็น 780 หยวนต่อเดือน ใช้ใน กว่างโจว (กวางเจา)
ชั้นที่ 2 ปรับเป็น 690 หยวน ใช้ใน เจินไห่ ฝอซัน ตงหวั่น จงซัน
ชั้นที่ 3 ปรับเป็น 600 หยวน ชั้นที่ 4 ปรับเป็น 500 หยวน และชั้นที่ 5 ปรับเป็น 450 หยวนต่อเดือน
ส่วนเซินเจิ้น ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปรับเป็น 810 หยวน
นอกเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่าง เป่าอัน หลงกั่ง ปรับเป็น 700 หยวนต่อเดือน
การปรับใหม่ครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะใน กว่างตง ที่มีแรงงานภาคเกษตรกรรมถึง 23 ล้านคน ทำให้ค่าแรงขั้นต่ำของ กว่างตง จะสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 17.8%
นับเป็นการปรับครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา
ด้านฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 400-650 หยวน
เซี่ยเหมิน มีอัตราสูงสุดอยู่ที่ 650 หยวน สูงขึ้นจากปีก่อน 50 หยวน
ส่วน ฝูโจว หนันผิง ซันหมิง หลงเหยียน จะมีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 400 หยวน สูงกว่าปีก่อน 80 หยวน.