กำแพงเมืองจีน





กำแพงเมืองจีน











































‘มิเคยขึ้นกำแพงเมืองจีน หาใช่ลูกผู้ชายไม่’… เป็นคำกล่าวจากกลอนบทหนึ่งของท่านประธาน ‘เหมาเจ๋อตง ที่ได้เอ่ยถึง‘ฉางเฉิง’หรือกำแพงเมืองจีน สิ่งปลูกสร้างทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อการป้องกันประเทศ จนถูกนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง



ทั้งนี้เพราะกำแพงเมืองจีนเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวจีนทั้งชาติที่ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานที่สุด อีกทั้งอิฐหินและดินทั้งหมดที่นำมาร่วมสร้างเป็นกำแพง ล้วนมาจากหยาดเหงื่อเลือดเนื้อและชีวิตของบรรพบุรุษแห่งชนชาติจีนทั้งสิ้น



กำแพงเมืองจีนจึงเปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานให้คนรุ่นหลังได้หวนระลึกถึงความเกรียงไกรของบรรพชนรุ่นก่อน ที่แม้จะไร้ซึ่งเครื่องมืออันทันสมัยก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกได้




ด้วยความโด่งดังระบือนามของฉินซีฮ่องเต้ ราชวงศ์ฉิน อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า กำแพงเมืองจีนเริ่มก่อสร้างครั้งแรกในยุคสมัยของพระองค์



แต่แท้ที่จริงแล้วกำแพงเมืองจีนที่มีประวัติอันยาวนานกว่า 2,000 ปี ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์โจว คือเมื่อราว 700 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยกษัตริย์แคว้นโจว ได้ริเริ่มดำเนินการก่อสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากแคว้นอื่นๆ อันได้แก่แคว้นฉี, แคว้นเยี่ยน, แคว้นเว่ย, แคว้นจ้าว, และแคว้นฉิน ...ซึ่งต่อมาแคว้นเหล่านี้ ก็ได้หันมาลงมือก่อสร้างกำแพงต้านข้าศึกตามอย่างแคว้นโจวหรือราชวงศ์โจวบ้าง




เมื่อย่างเข้าสู่ยุคสมัยของฉินซีฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์ฉิน ซึ่งต่อมาได้ผนึกรวมทั้งหกแคว้นมาเป็นแคว้นใหญ่ หนึ่งแคว้นหรือหนึ่งประเทศแล้ว ก็ได้ทำการเชื่อมกำแพงเมืองจีนทางตอนเหนือของแคว้นฉิน แคว้นเยี่ยน และแคว้นจ้าวเข้าด้วยกัน ..รวมทั้งในยุคสมัยต่อมาในภายหลังคือสมัยราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์หมิง ก็ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อเติมออกไปอีก




กำแพงเมืองจีนมีความยาวทั้งหมดประมาณ 14,600 ลี้ หรือประมาณ 6,700 กิโลเมตร (บางเอกสารบอกว่า 6,350 กิโลเมตร) จึงเรียกว่า กำแพงหมื่นลี้ ..ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ คือ



ส่วนกำแพงที่เป็นกำแพงอิฐภายนอก ภายในเป็นหิน ดิน ทราย หรืออื่นๆ มีความสูงประมาณ 3 - 8 เมตร ยอดกำแพงกว้างประมาณ 4 - 6 เมตร



ส่วนหอสังเกตการณ์ จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยชั้นบนใช้คอยสอดส่องและยิงธนูต่อสู้ข้าศึก และชั้นล่างถูกซอยออกเป็นห้องเล็กๆ ใช้เก็บสรรพาวุธ รวมถึงเป็นที่พักนอนของเหล่าทหารหาญ



ส่วนที่ 3 คือป้อมปราการ หรืออาจเรียกว่า ตัวด่าน มักสร้างไว้ตามจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์



และส่วนที่ 4 คือ หอส่งสัญญาณ ซึ่งเป็นส่วนที่ตั้งอยู่นอกเขตกำแพง ตามยอดเขาหรือที่ที่ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากที่ไกลๆ ..ตอนกลางคืนจะใช้วิธีจุดไฟแจ้งเหตุ ส่วนกลางวันใช้เป็นควันไฟสัญญาณแทน ...อย่างไรก็ตามในภายหลัง มีเผ่าเร่ร่อนจากมองโกเลียและแมนจูเรีย สามารถบุกฝ่ากำแพงเมืองจีนได้สำเร็จ





ปัจจุบันส่วนที่หลงเหลือให้เห็นเป็นรูปกำแพง อยู่ ณ กรุงปักกิ่ง(18 ด่าน) นครเทียนจิน(2 ด่าน) มณฑลกันซู่(20 ด่าน) มณฑลเหอเป่ย(43 ด่าน) มณฑลเหลียวหนิง( 2 ด่าน) มณฑลหนิงเซี่ย(15 ด่าน) มณฑลซันซี(61 ด่าน) และมณฑลส่านซี(24 ด่าน) ล้วนเป็นกำแพงเมืองที่ก่อสร้างในสมัยราชวงศ์หมิงทั้งสิ้น โดยสุดทางด้านตะวันออก คือ ด่านซันไห่กวน ในมณฑลเหอเป่ย และสุดทางด้านตะวันตก คือ ด่านเจียอี้ว์กวน ในมณฑลกันซู่



อนึ่ง กำแพงเมืองจีนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530











































สีแดง คือ กำแพงเมืองจีน







มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกำแพงเมืองจีนที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยทราบ



1. มองเห็นได้จากดวงจันทร์?


เราไม่สามารถมองเห็นกำแพงเมืองจีนได้จากระยะไกลมากเช่นจากดวงจันทร์ตามที่มีเสียงเล่าเสียงลือกัน ..คำยืนยันนี้เกิดขึ้นจากปากของนักบินอวกาศของประเทศจีนเอง ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดที่สร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่จะสามารถมองเห็นจากดวงจันทร์ได้ ..ยกเว้นจากความสูงระดับ Low Earth Orbit เราอาจจะมองเห็นกำแพงเมืองจีนได้แต่ต้องมีทัศนวิสัยดีและรู้จักจุดที่จะสังเกตมอง



เหตุที่เราไม่อาจจะมองเห็นกำแพงเมืองจีนได้ในระยะไกลมาก ก็เพราะสีของกำแพงเมืองจีนจะกลืนไปกับสีของพื้นผิวของโลกนั่นเอง เชิญอ่านบทความภาษาอังกฤษ เพิ่มเติม




2. กำแพงยาวตลอด?


ความจริงแล้วกำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้นในหลายยุคหลายรัชสมัย กินเวลานับพันปี โดยบางช่วงจะเป็นการเชื่อมต่อกำแพงเข้าด้วยกัน แต่ไม่ได้ต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด ...โดยว่ากันว่า ‘ด่านปาต๋าหลิ่ง’ ใกล้กับกรุงปักกิ่งเป็นที่ขึ้นชื่อว่ายังคงมีสภาพสมบูรณ์ และเป็นจุดเที่ยวชมกำแพงเมืองจีนที่ดีที่สุดในปัจจุบัน




3. สุสานของผู้ก่อสร้าง?


มีการบันทึกไว้ไว่า นักโทษจากสงครามและทาสกว่า 1 ล้านคนถูกบังคับมาเป็นแรงงานเพื่อก่อสร้างกำแพงเมืองจีน ซึ่งจำนวนมากได้เสียชีวิตลงเนื่องจากความเหน็ดเหนื่อย ความหิวโหย และสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ โดยศพของผู้เสียชีวิตก็จะถูกฝังอยู่ข้างๆกำแพงนั่นเอง



นานนับศตวรรษแล้วที่กำแพงเมืองจีนได้ชื่อว่าเป็นสุสานที่มีความยาวที่สุดในโลก และกล่าวกันว่าทุกๆ หนึ่งฟุตของกำแพงก็คือหนึ่งชีวิตของผู้ก่อสร้างกำแพงนั่นเอง




4. ยาวเท่าไหร่แน่?


ความยาวของกำแพงเมืองจีน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครทราบความยาวที่แท้จริง เพราะกำแพงไม่ได้ยาวเป็นผืนเดียวกันตลอด บางตอนแยกห่างกันมาก อีกทั้งปัจจุบันซึ่งนับเวลาจากวันเริ่มก่อสร้าง นับเป็นเวลาพันปีแล้ว บางส่วนจึงได้พังทลายลงเป็นผืนดิน ทำให้การวัดความยาวที่แน่นอนกระทำได้ยาก



ในภาษาจีนจะเรียกกำแพงเมืองจีนว่า "กำแพงยาวหมื่นลี้" (หนึ่งลี้มีความยาวประมาณ 1/3 ไมล์) โดยประมาณคร่าวๆกำแพงเมืองจีนจะมีความยาวประมาณ 4 พันไมล์ หรือ 6,350 กิโลเมตร ทอดผ่านทะเลทราย ทุ่งหญ้า ป่าละเมาะ และภูเขา ความสูงของกำแพงเมืองจีนประมาณ 7 เมตร และกว้างประมาณ 5 เมตร แต่ไม่ได้สูงเท่ากันและกว้างเท่ากันตลอด




5. ป้องกันการรุกรานได้จริงหรือ?


การเข้าครองอำนาจของมองโกลและต่อมาของแมนจูเรียต่อเมืองจีน เกิดขึ้นจากความอ่อนแอของราชวงศ์จีนที่ปกครองจีนในสมัยนั้น มากกว่าไม่ใช่เกิดจากการที่กำแพงเมืองจีนด้อยประสิทธิภาพ



พวกเขาใช้โอกาสในขณะที่เกิดกบฎภายใน เข้ายึดครองประเทศจีน โดยมีการต่อต้านจากภายใน ที่น้อยมาก




6. เป็นเพียงกำแพงยาวๆ?


กำแพงเมืองจีนไม่ได้เป็นแค่กำแพงยาวๆ ..ทุกระยะทางประมาณ 300 ถึง 500 เมตร จะมีป้อมหรือด่าน เพื่อใช้เป็นจุดเตรียมสะเบียง เตรียมอาวุธ จุดสับเปลี่ยนเวรยาม และเป็นที่นอนหลับพักผ่อน



ป้อมหรือด่าน ซึ่งมีจำนวนมากกว่า1หมื่นแห่งนี้ ยังมีแท่นที่ใช้กำบังอาวุธ มีรูใหญ่บนกำแพงเพื่อใช้สำหรับการสังเกตการณ์และยิงธนู และมีที่สำหรับปักธงและส่งสัญญานต่างๆ

























7. เป็นเส้นทางขนส่ง?

ในอดีต กำแพงเมืองจีนถูกใช้เป็นเส้นทางคมนาคม จริง ..เพราะช่วยให้การคมนาคมขนส่งบนเส้นทางทุรกันดาร เช่นตามเทือกเขา เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย แต่ก็ทำลายกำแพงเมืองจีนให้ชำรุดทรุดโทรมลงเร็ว




8. สร้างด้วยอะไร?


ในระยะแรก ก่อนที่จะมีการใช้อิฐ กำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้นด้วยหิน ดิน ไม้ และอื่นๆ เช่น มีการแพ็คดินไว้ระหว่างไม้แผ่นใหญ่ และมัดไว้ด้วยเสื่อทอ



ในระยะต่อมาเมื่อมีการใช้อิฐ ก็จะใช้อิฐไว้รอบนอก ส่วนภายในจะใช้ดินและหินอัดแน่น ..ในบางจุด กำแพงถูกสร้างขึ้นด้วยหินแกรนิต หรือด้วยดินเผา ..ทางตะวันตกของจีน กำแพงถูกสร้างขึ้นด้วยโคลน ส่วนบริเวณใกล้กับกรุงปักกิ่งคือเมืองหลวง บางส่วนของกำแพงถูกสร้างขึ้นด้วยหินอ่อน



กำแพงเมืองจีนที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง โดยใช้วัตถุดิบประเภทหินทั้งด้านข้างกำแพง และด้านบน




9. สภาพในขณะนี้?


ผลการสำรวจของนักอนุรักษ์เมื่อปีพ.ศ.2547 บอกว่ากำแพงเมืองจีนที่เคยยาวประมาณ 6,350 กิโลเมตรในอดีต ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 1/3 เท่านั้น และกำลังจะสั้นลงๆ เรื่อยๆ



เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะกำแพงเมืองจีนไม่ได้ถูกทะนุบำรุงรักษาและอนุรักษ์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในดินแดนไกลๆ ชาวไร่ชาวนาซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับกำแพงเมืองจีน จะไม่สนใจประกาศของรัฐบาลที่กำหนดให้กำแพงเมืองจีนเป็นสมบัติของชาติที่จะต้องช่วยกันรักษา ..เขาเหล่านั้นกลับใช้อิฐใช้หินของกำแพงเมืองจีน เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆโดยไม่เจตนา




10 ตำนานของเมิ้งเจียงหนี่ว์?


เมิ้งเจียงหนี่ว์ เป็นหญิงชาวบ้าน เธอเดินฝ่าลมหนาวมุ่งหน้าขึ้นเหนือเพื่อนำเสื้อกันหนาวที่เธอบรรจงเย็บมากับมือ หวังจะไปมอบให้สามีที่ถูกเกณฑ์ไปเป็นแรงงานก่อสร้างกำแพงเมืองจีน



หลังจากการเดินทางอันยาวนาน ในที่สุดเธอก็บุกบั่นจนไปถึงค่ายพักแรงงานก่อสร้าง เธอเที่ยวเดินถามหาสามีไปทั่ว แต่กลับต้องพบกับข่าวร้าย สามีอันเป็นที่รักของเธอได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้นานแล้ว เนื่องจากทนทรมานกับความยากลำบากและสภาพอากาศที่โหดร้ายไม่ไหว และศพของเขาก็ถูกฝังอยู่ภายใต้กำแพงเมืองจีนนั่นเอง



เธอร่ำไห้คร่ำครวญน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด จนทำให้กำแพงเมืองจีนบางส่วนพังทลายลง เผยให้เห็นซากไร้วิญญาณของสามีเธอ เมื่อนั้นเอง เธอก็ตัดสินใจกระโดดลงไปใช้ศีรษะพุ่งชนกำแพงตายอยู่เคียงข้างสามีของเธอ



แม้ว่าชื่อของเธอ จะไม่ปรากฏในประวัติศาสตร์ ..จะมีก็แต่ในเพียงตำนาน แต่ชาวจีนทั้งหลายก็เชื่อกันว่าเรื่องของเธอเป็นเรื่องจริง เธออยู่ในยุคสมัยของราชวงศ์ถัง และมีอนุสาวรีย์ของเธอ อยู่ ณ วัดแห่งหนึ่งใกล้ๆกับด่านซันไห่กวน




11 กระโดดข้ามกำแพงเมืองจีน?

ในปีพ.ศ.2548 นายแดนนี่ เวย์ จากรัฐคาลิฟอร์เนีย อายุ31ปี เขาทำสถิติเป็นบุคคลคนแรกที่กระโดดข้ามกำแพงเมืองจีนโดยใช้สเก๊ตบอร์ด ..ท่ามกลางฝูงชนชาวจีนที่ไปยืนแหงนคอบนกำแพงเมืองจีนเพื่อดูเขาทำลายสถิติ เขาพุ่งสเก๊ตบอร์ดด้วยความเร็ว 50 ไมล์ต่อชั่วโมง จึงสามารถกระโดดข้ามกำแพงเมืองจีนได้ในการกระโดดครั้งที่ 5



ก่อนหน้านี้ ในปีพ.ศ.2546 นายหวัง เจี่ยเซียง จากเมืองชานซี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเคยหวังจะทำลายสถิตินี้ โดยใช้จักรยานเป็นเครื่องมือกระโดดข้ามมาแล้ว แต่เขาทำไม่สำเร็จ เขาตกลงมาเสียชีวิต




นี่เป็นเรื่องจริงที่อาจจะยังไม่มีใครรู้ เกี่ยวกับกำแพงเมืองจีน.













yyswim







Create Date : 28 มิถุนายน 2551
Last Update : 28 มิถุนายน 2551 1:18:48 น. 34 comments
Counter : 9146 Pageviews.

 



อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะพี่ชาย


ชอบมากเลยค่ะตั้งแต่เด็กๆๆเล้วค่ะ
** กำแพงเมืองจีน **


เป็นอะไรที่มหัศจรรย์..ที่สุดของโลกสำหรับคุณแคทเลยค่ะ
ภาพสวยๆอีกแล้วสิค่ะนิ
อยากไปจังเลยค่ะ..แต่ไม่รู้จะมีโอกาสไหมนิ..!!!



น่าเสียดายจังเลยนะค่ะ
ของสวยๆๆน่าอัศจรรย์แล้วนี้กำลังจะสูญเสียแล้วสิ



ซึ่งใจในความรักของ** แม่นางเมิ้งเจียงหนี่ว์ **จังเลยค่ะ
ผู้หญิงมักจะมอบรักที่มั่นคงให้กับชายที่รักเสมอเลย


วันนี้วันหยุดพักผ่อนบ้างนะค่ะ
มีความสุขมากๆๆนะค่ะ



โดย: cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:6:54:05 น.  

 
ขอบคุณค่ะสำหรับรูปภาพที่หาชมยาก งดงามมากนะคะ
ผู้ถ่ายภาพสามารถตั้งมุมกล้องได้เยี่ยมทีเดียว

ขอบคุณหลายๆเด๊อ..
[ได้รับความรู้อย่างมากๆค่ะ]


โดย: nathanon วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:7:11:23 น.  

 
เคยไปเที่ยวอยู่สองครั้งแต่ไม่เคยมีความรู้กับกำแพงเมืองจีนเท่าไร รู้แต่ว่าถ้ามาจีนต้องไปกำแพงเมืองจีนแค่นั้นเอง

วันนี้คุณสินนำมาให้อ่านขอบคุณนะค่ะ

ปล.แต่ถามว่าประทับใจไหม ขอตอบว่าเฉยๆ ค่ะ


โดย: thattron วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:8:29:10 น.  

 
เข้ามาอ่านค่ะ รู้เยอะดี


โดย: กษมน (กษมน ) วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:9:00:13 น.  

 
ได้ข้อมูลดีดี เพียบเลยคับ จีนสุดยอดจริง ๆ


โดย: The Kop Civil วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:9:24:51 น.  

 

ถึงเดอะ คอบ ...

วันนี้ผมจะไปดูแบดไทยแลนด์โอเพ่น รอบรอง ครับ


คุณไปหรือเปล่า?


โดย: yyswim วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:10:10:54 น.  

 
ขอบคุณที่หาอาหารดี ๆ มาให้สมองค่ะคุณ yyswim



โดย: อ้ายมะเดี่ยว วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:11:34:13 น.  

 
สวัสดีวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ ..
อืมมม .. เห็นระยะทางก็เหนื่อยแล้ววว
ชอบภาพที่สองจังค่ะ สวยดี สบายตา ..
มาบล็อคนี้ทีไรได้ชมภาพสวยแถมเนื้อหาเพียบ
ขอบคุณนะคะ ..

แต่ถ้าเน้นเที่ยวเพลินๆ ไม่ค่อยมีสาระ
ก็ไปเที่ยวบ้านอุ่นรักบ้างนะคะ

ป.ล. มีความสุขวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ


โดย: บ้านอุ่นรัก วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:17:10:17 น.  

 
สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์แบบนี้นะค่ะ
ที่สร้างขึ้นมาด้วยเลือดเนื้อและความตั้งใจของคน
ลงมือทำ .. เหนื่อย หนัก แต่ก็ได้ใช้ประโยชน์
กันเต็มที่ และยังมีผลต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
ที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ...
และกลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกด้วย ..

แต่ก็เหมือนทุกที่ว่า ... สิ่งก่อสร้างเหล่านี้
ถ้าหากว่าไม่ดูแลให้ดี ก็มีแต่เสื่อม กับ โทรม
อย่างกำแพงเมืองจีนเค้าเริ่มจะมีบางส่วนที่สั้นลง
กว่าเดิม เพราะการบูรณะมีไม่ถึง ... น่าเห็นใจนะค่ะ
เพราะว่ากำแพงเค้ายาวดีจริงๆ ...


โดย: JewNid วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:17:24:05 น.  

 
ภาพสวยค่ะ เพิ่งไปเที่ยวมาเดือนมีนาคมปีนี้เองค่ะ


โดย: t_karnya (t_karnya ) วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:18:03:58 น.  

 

เพราะคิดถึงจึงมาหา เพียงอยากบอกให้รู้ว่า ยังไม่ลืมเธอ จากอุ้ม
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

ยังรับสภาพห้องสุขาที่เมืองจีนไม่ได้
ไม่งั้นป่านนี้อุ้มไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนแล้วล่ะพี่สิน
หลับฝันดีเจ้าค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:22:46:48 น.  

 
แวะมาทักทายยามเช้าครับผม...

อย่าลืมนัดของเรานะครับ อิอิ

แล้วลุงสิน อย่าลืม เก็บภาพงานวัน c0ncert

มาฝากด้วยนะคร๊าบ


โดย: Tahannam วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:4:56:48 น.  

 


ขอบคุณมากๆค่ะ ที่ไปอวยพรวันเกิดให้กับมัมมี๊โลมา จ๋อมแจ๋ม

มีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ

กำแพงเมืองจีนนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ ถึงขนาดมองเห็นได้จากดวงจันทร์เชียว


โดย: VA_Dolphin วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:10:12:49 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ ครับ สำหรับเรื่องนี้ หลายเรื่องไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย

ขอบคุณอีกทีครับผม


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:12:57:10 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ

ช่วงนี้พรายทรายยุ่ง ๆ น่ะค่ะ
ไม่ค่อยมีเวลาออนไลน์
ไว้งานเสร็จแล้วจะแวะมาอีกทีนะคะ

ขอบคุณที่แวะไปสตูดิโอริมหาด
กีฬากับพรายทราย
ก็เป็นอยู่อย่างเดียวว่ายน้ำ นี่ล่ะ

มีโอกาสคงได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันนะคะ


โดย: พรายทราย วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:14:21:59 น.  

 


ภาพสวยมากกกกกกกก
อลังการจริงๆ ถ่ายได้ไงเนี่ย


ข้อมูลก็แน่นปึ๊ก
หลายเรื่องเลยที่เพิ่งทราบจ๊ะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:17:13:57 น.  

 
มีความสุขขอให้สนุกกับสิ่งที่ชอบนะค่ะ
พี่ชายคนดีเสมอ

ก๊ฬาเป็นยาวิเศษเสมอค่ะสำหรับชีวิต
ด้านจิตใจส่วนหนึ่งของเราค่ะ
มีความสุขวันหยุดนะค่ะ





โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:17:21:07 น.  

 
ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดสุวรรณดาราราม ก็น่าสรุปได้ว่าเป็นภาพที่สำเร็จสมบูรณ์สมัยรัตนโกสินทร์ แต่....ทำไมตำราบางเล่มจึงระบุว่าวาดสมัยอยุธยาตอนปลายและก็วาดเสร็จสมบูรณ์ด้วย

ในความคิดส่วนตัวนะคะ เคยคิดว่าสมัยอยุธยาตอนปลายมีศึกสงครามและรัชกาลที่1ทรงเป็นทหารเอกออกรบตลอดเวลา ไฉนเลยจะมีเวลามาสร้างวัดและวาดภาพได้สวยงามขนาดนี้

ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับรายละเอียดที่ชัดเจน.....
ขอบคุณค่ะ


โดย: nathanon วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:19:28:06 น.  

 


พี่สินคะ..


ข้อมูลเยี่ยมเลยค่ะ
เข้ามาในที่นี้ ไม่เคยผิดหวังเลยค่ะ




โดย: Nok_Noah วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:19:32:26 น.  

 


เพื่อนๆ...มีใครเคยแวะไปเยี่ยมบล๊อกของคุณZanthaบ้าง ....คุณตี๋น้อย เขาเป็นกูรูด้านการท่องเที่ยวครับ เขาได้สายสะพายด้าน Best Travel Blog ด้วย... ผมเองก็โหวตให้คุณตี๋น้อย


เมื่อปีพ.ศ.2548 คุณตี๋น้อย เคยเขียนบล๊อกเรื่อง ‘กำแพงเมืองจีน’ ไว้สามตอน

ผมขออนุญาตทำลิ๊งก์ไปให้ที่บล๊อกคุณตี๋น้อย นะครับ เผื่อว่าจะมีใครๆอยากอ่านบล๊อกเรื่องนั้น

ตอนแรก ‘กำแพงเมืองจีน First Pass:ShanHaiGuan’ เชิญเปิดอ่านที่นี่

ตอนที่สอง ‘กำแพงเมืองจีนที่ริมทะเล LaoLongTou’ เชิญเปิดอ่านที่นี่

และตอนที่สาม ‘กำแพงเมืองจีนที่ Jiu Men Kou’ เชิญเปิดอ่านที่นี่


(หมายเหตุ บล๊อกของคุณตี๋น้อยอาจจะโหลดช้านิดหนึ่ง คาดว่าคงจะเพราะมีรูปเยอะมาก)



ตัวอย่างรูปภาพในตอนที่สาม



















โดย: yyswim วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:21:50:17 น.  

 
หวัดดีคับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในบลอก จริง ๆ คับ เมื่อวานผมนั่งตรงโซนหลังโต๊ะกรรมการนะคับ ส่วนวันนี้นั่งตรงที่เดียวกับ จขบ.นั่งเมื่อวาน จะไปขอลายเซ็นต์ หลิน ตัน ก็ลืมเอาหนังสือไปคับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:22:15:18 น.  

 


โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:10:49:32 น.  

 
โห จขบ.ชมซะ ผมไม่หล่อขนาดนั้นหรอกคับ วันนี้มาลุ้นแทมมี่ต่อคับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:14:42:26 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนบล็อคของผมนะครับ ^^


โดย: bluecandleshop วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:14:54:57 น.  

 


พีบาว...

นองซ๊าวมาเมืองคอน
นองซ๊าวกินหนมจีนทุกวัน
นำยาหรอย
นองซ๊าวติดใจหนมจีน
แต่ม้ายติดใจพีบาวแถวนี้
แบบวาเค้าชอบเอิดนอง
นองนั่งเฉยๆก็มาเอิด
ถูกเมียดึงหูป๊าบบบบ
อยาไปเอิดนองเค้าน๊า
เดียวน้องเค๊าดกใจ
อ้ายหัว..... (เซนเซอร์)นี้ อิอิ





โดย: นองซ๊าวดีดี IP: 117.47.87.228 วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:15:00:04 น.  

 



โดย: บ้านอุ่นรัก วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:15:07:17 น.  

 
เออ..แล้วอย่างอาหารจานเด็ด
เมนูพระกระโดดกำแพง หมายถึงกำแพงเมืองจีนนี้หรือเปล่าเอ่ย

โอ้โฮ ถ้ากินแล้วพระยังกระโดดกำแพงเมืองจีนได้
แสดงว่าต้องมียาชูกำลังมหาศาลเลยซิคร้าบ
อิอิ


โดย: กูรูขอบสนาม IP: 124.121.89.247 วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:16:23:08 น.  

 
ภาพสวยมากคับ ชอบๆๆ (โดยเฉพาะภาพคู่แต่งงาน)

ดูยิ่งใหญ่ดี ไม่น่าเชื่อว่าจะสร้างได้ หุๆๆ


โดย: prezcot วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:16:53:10 น.  

 
คุณสิน ...

เรื่องเด็กข้างบ้านพู่ .. เห็นด้วยเลยค่ะ
เด็กสมัยนี้เค้าอยากรู้อยากเห็น บางทีอาจจะบอกว่า
อยากรู้อยากเห็นก่อนวัยอันควรด้วยซ้ำอ่ะคะ
ของอย่างนี้เป็นเรื่องธรรมชาตินะคะ ต้องมีคน
คอยสอน สั่ง แล้วก็ต้องพุดกันว่า เรื่องแบบนี้
เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ว่าบ้านเรานี่
บางคนเค้าแบบว่าไม่ชอบคุย ประมาณว่าเรื่องลับๆ
เรื่องไม่ดี เค้าก็เลยต้องแอบทำกัน ซึ่งแอบทำ
ไม่ว่า แต่ว่าผลของการแอบบางทีมันไม่สวย
น่ะสิค่ะ เลยต้องบอกว่ามีอะไรก็ขอให้บอก หรือว่า
ให้พูดกัน พ่อแม่ล่ะสำคัญล่ะค่ะ ต้องคอยดู
คอยสังเกต ...




โดย: JewNid วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:18:27:07 น.  

 
ได้รับความรู้มากเลยครับ
เห็นแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมีความพยายามสร้างกันได้ขนาดนี้

ขอบคุณนะครับที่แวะไปดูตัวตนผม


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:20:30:50 น.  

 
ดีใจจริง ๆ ครับ

ถ้าหนังสือผมเป็นรูปร่างจะแจ้งข่าวท่านพี่เลย

ขอบคุณครับ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:31:10 น.  

 
โรสขอบพระคุณ คุณสินมากนะคะ ที่ไปเยี่ยมน้องทิชาของโรส

คิดว่าถ้าโต ก็จะสนับสนุนให้เล่นกิฬาค่ะ


โดย: นายกุหลาบ วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:22:20 น.  

 
คนจีนโบราณนี่เก่งจริง ๆ

สร้างกำแพงคนทางราบนี่ว่ายากแล้วนะ

สร้างบนภูเขาอีก..แถมยังสร้างข้ามภูเขาหลายลูกอีกต่างหาก

ยังไงถ้าชาตินี้มีโอกาส..ขอไปไต่กำแพงเมืองจีนสักรอบละกัน

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะค้า


โดย: จุฑาธิป ทิมแจ่ม IP: 117.47.53.245 วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:19:55:38 น.  

 
เท่าที่ผมรู้ก็แค่ หลังจากสิ้นขงเบ้ง จูล่ง กวนอู เล่าปี่ เตียฮุย ข้งเบ่งมีศิษย์ อยู่คนนึงซึ่งขงเบ้งฝากฝังไว้มาก เพราะเชื้อพระวงศ์เดียวที่เหลือคือ ลูกของเล่าปี่ แต่ลูกของเล่าปี่ เป็นคน ที่ไม่รู้จักโต ทำให้ปัญหาใหญ่ตกอยู่ที่ขงเบ้ง ขงเบ้ง ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับคิดหาวิธีเพื่อจะเอาชัยชนะสุมาอี้ ให้ได้ แต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเพราะขงเบ้งคำนวณดวงชะตา ว่าจะสิ้นอายุไข จึงทำการ สะเดาะเคราะห์ โดยการเก็บตัวในที่พัก7 วัน และจุดเทียนไว้รอบกาย ซึ่งถึงวันที่6 สุมาอี้ ได้คำนวณดวงชะตาขงเบ้ง ละได้รู้ว่าขงเบ้งชะตาจะขาด จึงนำทหาร ก่อกวน สุดท้าย ทหารเอกของขงเบ้ง เปิดประตู เข้าไปในที่พัก ทำให้ลมพัดเทียนทั้งหมดดับ สิ้น เข้าวันต่อมาขงเบ้งก็สิ้นชีพ กลางทหารนับหมื่น คำสุดท้ายที่ได้เอ่ย
***
หลังจากช่วยท่านเล่าปี่รวมแผ่นดินเป็นหนึ่งได้แล้ว จะกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดอย่างสงบสุข ทำไร่ทำนาตามประสา แต่ท้ายสุดแล้วไม่มีโอกาสเลยที่จะได้กลับไป โงลังกั๋งอีกครั้ง ต้องคอยรับใช้ท่านเล่าปี่ผู้พนมมือไหว้ทั่งสิบทิศ ตลอดถึงลูกหลานจนนาทีสุดท้ายของชีวิตมาเยือน
***

เมื่อหลัง ขงเบ้งสิ้นไป ก็มีศิษย์คนหนึ่งของขงเบ้ง ที่ฝากฝังไว้จะให้ช่วยลูกของเล่าปี่ได้ เป็นฮ่องเต้ แต่กลับผิดพลาดด้วย ประสบการณ์น้อย จึงได้ถูกฆ่าตายเสียก่อน ส่วนลูกของเล่าปี่ ที่เป็นคนขี้เมา ก็ฆ่าลูกสุมาอี้ ที่เป็นอ่องเต้ และ ได้หนีไป จากนั้น อิ๋งเจิ้ง และได้ นามว่า จิ๋นซีฮ่องเต้ และได้สร้างกำแพงเมืองจีนขึ้นมา (ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วย)


โดย: ฟิล์ม IP: 117.47.72.206 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:19:30:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
28 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.