อังเดร อากัสซี่


อังเดร อากัสซี่




(บล๊อกเรื่องนี้ เขียนมอบให้กับ คุณ ซีPLUS)





การแข่งขันเทนนิสยูเอส โอเพ่น อันเป็น แกรนด์สแลม รายการสุดท้ายของปีนี้ ชิงเงินรางวัลรวม 18,585,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7,434 ล้านบาท) จะเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม - วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2549 ณ บิลลี่ จีน คิง เนชั่นแนล เทนนิส เซนเตอร์ ใน ฟลัชชิ่ง เมโดว์ส เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา







ความพิเศษสุดของ ยูเอส โอเพ่น ในปีนี้ที่แฟนเทนนิสทั่วโลกต่างจ้องมองด้วยความสนใจ ก็คือ "โรเจอร์ เฟเดอเรอร์" นักหวดหนุ่มมือ 1 ของโลกชาวสวิส แชมป์เก่าเทนนิสยูเอส โอเพ่นปีที่แล้ว อาจต้องมาพบกับ "ราฟาเอล นาดาล" มือ 2 ของโลกจากสเปน ในรอบชิงอีกครั้ง และจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของ "อังเดร อากัสซี่" ยอดนักเทนนิสผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งจะถือเป็นการอำลาคอร์ตเทนนิสอย่างเป็นทางการ หลังจากทุ่มเทให้กับเทนนิสมานานกว่า 20 ปี จนมีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังที่กล้ามเนื้อหลัง








อากัสซี่ เทิร์นโปรมาตั้งแต่วัยเพียง 16 ปีเมื่อปี 1986 เขาใช้เวลาเพียงปีเดียวก็หยิบแชมป์ชายเดี่ยวมาครองได้สำเร็จ และต่อมาในปี 1988 เขาก็คว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการ ในปลายปีนั้นเองเขาก็ทำเงินรางวัลสะสมไปแล้วกว่า 2 ล้านดอลลาร์ หลังจากลงเล่นทั้งหมด 43 รายการ ซึ่งไม่เคยมีนักเทนนิสคนใดเคยทำได้มาก่อน







ขณะนี้ด้วยวัย 36 ปี อากัสซี่ ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย ได้แชมป์แกรนด์สแลม มาแล้วถึง 8 รายการ จำแนกเป็น


ออสเตรเลียน โอเพ่น 4 สมัย ( Australian : Winner 1995, 2000, 2001, 2003. Semifinal 1996, 2004.)

เฟรนช์ โอเพ่น 1 สมัย (French : Winner 1999. Runner-up 1990, 1991. Semifinal 1988, 1992.)

วิมเบิลดัน 1 สมัย (Wimbledon : Winner 1992. Runner-up 1999. Semifinal 1995, 2000, 2001.)

ยูเอส โอเพ่น 2 สมัย (U.S : Winner 1994, 1999. Runner-up 1990, 1995, 2002, 2005. Semifinal 1988, 1989, 1996, 2003.)

กวาดเงินรางวัลไปแล้วทั้งสิ้น 31,110,975 ดอลลาร์(ประมาณ 1,151 ล้านบาท )









เมื่อปี 1992 อากัสซี่ สร้างความประหลาดใจเมื่อเขาคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน เป็นสมัยแรกในวัย 22 ปี โดยเขาเอาชนะได้ทั้ง จอห์น แม็กเอนโร และ บอริส เบ๊กเกอร์ ในยุคนั้นเขาเป็นนักเทนนิสที่เปี่ยมไปด้วยสีสันอย่างที่สุด ด้วยวัยหนุ่มที่มีภาพพจน์ของ "ขบถ" อย่างเต็มตัว ผมยาวประบ่าเหมือนร็อกสตาร์ สวมเสื้อลงแข่งที่มีมีลวดลาย และสวมกางเกงบลูยีนส์ เขาจึงเป็นที่มาของฉายา "ไอ้หนุ่มบลูยีนส์"





เมื่อปี 1999 การคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ของเขาที่กรุงปารีส ส่งผลให้เขาเป็นนักเทนนิสชายคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ครบทั้ง 4 รายการ


และหลังจากที่เขามีครอบครัวที่งดงามกับ "สเตฟฟี่ กราฟ" และเป็น "หนุ่มใหญ่" เต็มตัว " เขาก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองทั้งหมด ด้วยการโกนผม ชุดที่แข่งขันทุกครั้งจะเป็นสีเรียบๆ ไม่ฟู่ฟ่าเหมือนอย่างที่เคยเป็นอีกเลย







"มีคนถามผมว่า ผมจะทำอะไรต่อไปหลังจากนี้ ที่ผมบอกได้ก็คือ อยากจะทำ “อย่างอื่น” ที่แตกต่างไปจากการเล่นเทนนิสดูบ้าง" อากัสซี่เผยความในใจกับผู้สื่อข่าว


"อย่างอื่น" ที่ว่า สายสืบสืบมาได้ว่า คือ การร่วมมือกับ "ไมเคิล มิน่า" เจ้าของรางวัล "เชฟ ออฟ เดอะ เยียร์ 2005" เพื่อเปิดภัตตาคารสักแห่งหรือสองแห่ง และจะผลิตเฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์ "อากัสซี่-กราฟ" ขึ้นมา….













ผลการแข่งขันยูเอส โอเพ่น ประจำปี 2006 อากัสซี่ ผ่านรอบแรกชายเดี่ยวไปได้ หลังพลิกกลับมาเอาชนะ อังเดร พาเวล จากโรมาเนีย 3-1 โดยเซ็ตแรกเขาเป็นฝ่ายแพ้ก่อน และกลับมาเอาชนะได้ในสามเซ็ตหลัง ด้วยคะแนน 6-7 (4-7), 7-6 (10-8), 7-6 (8-6), และ 6-2

ศึกเทนนิส แกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น ที่สนาม บิลลี่ จีน คิง เนชั่นแนล เทนนิส เซ็นเตอร์ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการแข่งขันรอบแรก คู่ที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ ชาวอเมริกันมากที่สุด ก็คือการดวลแร็กเก็ตระหว่าง อังเดร อากัสซี่ วัย 36 ปี กับ อังเดร พาเวล นักเทนนิสหน้าหล่อฝีมือดี จากดินแดนผีดิบ โรมาเนีย

โดยเริ่มต้นด้วยการที่ อากัสซี่ พ่ายไทเบรกในเซ็ตแรกให้แก่ พาเวล 6-7 (4-7) แต่ในเซตที่สอง ก็สามารถแก้ตัวด้วยการเอาชนะไทเบรกคืนมา 7-6 (10-8) เมื่อมาถึงเซตที่สาม แฟนๆก็รู้สึกหวั่นใจเมื่อ อากัสซี่ พลาดท่าตามหลังห่างถึง 0-4 เกม แต่สุดท้าย อาศัยด้วยประสบการณ์ที่เหนือกว่าจึงพลิกกลับมาเล่นถึงไทเบรก และกลับมาชนะสำเร็จในเซ็ตที่สาม 7-6 (8-6) ก่อนจะปิดแมตช์ในเซตที่ 4 ลงได้ 6-2 ใช้เวลาแข่งขันไปทั้งสิ้น 3 ชั่วโมงครึ่ง


ภายหลังการแข่งขัน อากัสซี่ เผยความความรู้สึกกับสื่อว่า “ผมมาที่นี่เพื่อเล่นให้ได้ 6 แมตช์หรือมากกว่านั้น ผมต้องการมาโชว์ความสามารถให้ได้มากที่สุด แม้จะรู้สึกกดดันอยู่บ้าง แต่ผมก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน ที่สำคัญ ผมรู้สึกภาคภูมิใจและยินดีที่ได้มาในวันดีๆเช่นนี้ สำหรับการแข่งขันในวันนี้ ผมผ่านสามเซตแรกมาได้ ต้องถือว่าเป็นโชคดีทีเดียว ผมรู้สึกยอดเยี่ยมจริงๆ ”


หลังชัยชนะแมตช์นี้ อากัสซี่จะไปพบกับ มาร์กอส แบ็กดาติส มือ 8 ของรายการ จากไซปรัส ในวันพฤหัสบดี 31 สิงหาคม ตามวัน-เวลาท้องถิ่น หลังจากที่ แบ็กดาติส สามารถเอาชนะ อเล็กซานเดอร์ วาสเก้ จากเยอรมนี มาได้ 3-0 เซต 7-6 (7-1), 7-6 (9-7), และ 6-3










อังเดร อากัสซี่ โปรไฟล์


Andre Kirk Agassi (USA)

Birthdate: 29-Apr-70 (36 ปีที่แล้ว)

Birthplace: Las Vegas, Nevada, USA

Residence: Las Vegas, Nevada, USA


อากัสซี่สมัยเป็นเด็ก(พ่อ, อากัสซี่, แม่, และพี่ชาย)





Height: 180 cm.

Weight: 77 kg.

Plays: Right-handed (ถนัดขวา)

Racquet: Head Flexpoint Radical

Shoes: Adidas ClimCool Feather II

Clothing: Adidas

Turned Pro: 1986 (วัยเพียง 16 ปี)

Highest Career Ranking: #1

Coach: Darren Cahill (โค๊ชคนปัจจุบัน)








อากัสซี่ เข้าสู่วงการลูกสักหลาดอาชีพครั้งแรกในปี 1986 ตอนนั้นเขามีวัยเพียงแค่ 16 ปี และด้วยความหนุ่มคะนองบวกกับความเฮี้ยวของอากัสซี่ ทำให้ตัวเขากลายเป็นขวัญใจของแฟนเทนนิสสาวๆ เกือบทั่วสหรัฐฯ ไม่เว้นแม้แต่ดาราภาพยนตร์ อย่าง บาร์บาร่า สไตรแซนด์


ความร้อนแรงของอากัสซี่ กู่ ไม่กลับเมื่อเขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ครั้งแรกในชีวิตมาครอง ได้สำเร็จ จากรายการ วิมเบิลดัน ในปี 1992 เป็นชัยชนะเหนือคู่แข่งอย่าง จอห์น แม็กเอนโร และ บอริส เบ๊กเกอร์


จอห์น แม็กเอนโร, อังเดร อากัสซี่, พีท แซมพราส, และ จิม คูเรียร์ ในทีมเดวิสคัพ ปี 1992




แต่แล้ว อากัสซี่ ก็ประกาศแยกทางกับโค้ชของเขาเอง นิค บอเรตเทียรี่ และเขาก็ได้โค้ชคนใหม่ คือ แบรด กิลเบิร์ท ผู้ที่มีส่วนช่วย อากัสซี่ คว้าแชมป์แกรนด์สแลม 6 รายการ และรวมไปถึงคว้าเหรียญทองโอลิมปิกที่เมืองแอตแลนตา สหรัฐอเมริกาด้วย







อากัสซี่ ได้พบรักกับ บรู๊ค ชิลด์ส ดาราภาพยนตร์สาวชื่อดังของฮอลลีวู้ด ทั้งคู่เริ่มควงกันครั้งแรกในเดือนเมษายน ปี1993 ก่อนที่จะลงเอยด้วยการเข้าสู่พิธีวิวาห์ในปี 1995 ในช่วงเวลานั้นเส้นทางรักของ อากัสซี่ ดูเหมือนจะหวานชื่น แต่ผลงานในคอร์ตเทนนิสกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เวลาผ่านไปเจ้าหนุ่มบลูยีนส์จอมเฮี้ยว อากัสซี่ เริ่มรู้ซึ้งถึงปัญหานี้





และในที่สุดในเดือนเมษายน ปี 1997 หลังใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกันมาสองปี บรู๊ค ชีลด์ส และ อากัสซี่ ก็แยกทางกัน ด้วยเหตุผลที่ อากัสซี่ กล่าวปรารภว่า

"ความรักเพียงอย่างเดียวไม่ทำให้ชีวิตแต่งงานไปรอดได้"



หลังจากเลิกรากับบรู๊ค ชิลด์ส เส้นทางนักเทนนิสอาชีพของ อากัสซี่ ก็กลับเรืองรองขึ้นมาใหม่


ในปี 1999 อากัสซี่ คว้าแชมป์ แกรนด์สแลม รายการเฟรนช์ โอเพ่น ทำให้เขากลายเป็นนักเทนนิส รายถัดจาก ร็อด เลเวอร์ นักเทนนิสชื่อดังในยุค 60 ที่เป็นผู้คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 รายการ ซึ่งในโลกนี้มีเพียง 5 คน


Agassi is one of five men in the history of the sport to win all four Grand Slam tournaments in their careers - joining Rod Laver, Don Budge, Roy Emerson and Fred Perry.


พร้อมกันนี้ อากัสซี่ ก็เริ่มมีความสัมพันธ์ใหม่นอกสนามกับนักเทนนิสสาวชาวเยอรมัน "สเตฟฟี่ กราฟ" ที่ผลพวงงอกเงยขึ้น คือ ผลงานในคอร์ตของ อากัสซี่ ดีขึ้นเป็นลำดับ







สุดท้ายสองคนก็แต่งงานกัน ตลอดระยะเวลาที่ อากัสซี่ ครองชีวิตคู่ร่วมกับ "กราฟ" อากัสซี่ ดูจะกลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ใช้อารมณ์ในการแข่งขันน้อยลง และมีความมุ่งมั่นเพื่อเอาชัยชนะเข้ามาแทนที่


ผู้คนในแวดวงลูกสักหลาดต่างพากันเม้าธ์อย่างสนุกปากว่า โฟร์แฮนด์ ของ อากัสซี่ ที่ดีวันดีคืนขึ้นนั้น เป็นเพราะได้ฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำกับ ‘กราฟ’ อดีตนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกนั่นเอง





ทั้งนี้ไม่ว่า ‘กราฟ’ จะเป็นคู่ซ้อมให้อากัสซี่ จริงตามข่าวที่เม้าธ์หรือไม่ แต่ชีวิตครองรักใหม่ของอากัสซี่ ดูจะเป็นแรงขับดันสำคัญที่ทำให้ นักเทนนิสวัย 36 ปี เดินหน้าเพื่อล่าตำแหน่งเป็นมืออันดับต้นๆของโลกต่อไป


‘เพอร์รี่ โรเจอร์’ ผู้จัดการส่วนตัวของอากัสซี่ กล่าวถึงความสำคัญของครอบครัวที่มีต่อผลงานในสนามของ อากัสซี่ ว่า

“ที่ผ่านมา อากัสซี่ พยายามจะหาความลงตัวระหว่างชีวิตครอบครัว กับการแข่งขันในสนาม และดูเหมือนว่ากราฟฟี่ คือผู้ที่ทำให้ทั้งสองเรื่องของ อากัสซี่ ลงตัวได้อย่างสวยงาม”








ปัจจุบันอากัสซี่ และกราฟใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกันมาได้ 5 ปีแล้ว หลังจากที่เข้าพิธีวิวาห์ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2001 หลังจากนั้นสี่วัน กราฟก็ให้กำเนิดบุตรชาย ยาเดน กิล และในเดือนตุลาคมปี 2003 สองสามีภรรยา ก็ได้ลูกคนที่สองเป็นบุตรสาว มีชื่อว่า ยาซ แอล







อากัสซี่ คงจะรัก กราฟ มาก ลองฟังถ้อยคำที่เขาแอบหยอดให้ภรรยาสุดที่รักก่อนที่จะลงแข่งขันรายการ เฟรนช์ โอเพ่น


“เป็นเรื่องยากที่จะเล่นเทนนิสกับภรรยาของตัวเอง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบังคับสายตาให้จับจ้องมองอยู่ที่ลูก ใจอยากจะมองแต่หน้าเมียรักเท่านั้น"



เส้นทางชีวิตนักเทนนิสอาชีพกว่า 20 ปีของอากัสซี่ จนถึงวันนี้ เรียกได้ว่าเดินผ่านจุดอิ่มตัวมาไกล เพราะนอกจากจะคว้าถ้วยแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 ใบ อากัสซี่ ยังสะสมถ้วยเอทีพีได้ครบถึง 60 รายการ


ล่าสุดเขาเพิ่งจะโชว์ฟอร์มคว้าแชมป์ รายการเมอร์เซเดส เบนซ์ คัพไปได้อีก



สถิติที่แปลกอย่างหนึ่งของเขาก็คือ เขาไม่ผิดอะไรกับ "รถไฟเหาะตีลังกา" เพราะชีวิตของเขาขึ้นลงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างที่สุด…จาก "เจ้าหนุ่มบลูยีนส์" ผมยาวสุดแซบซ่าและรักการออกงานสังคม กลายเป็น"แฟมิลี่แมน"ที่รักศรีภรรยาเป็นที่สุด...จากมือ 1 ของโลก ตกสู่ มืออันดับ 141 ของโลก แล้วกลับขึ้นสู่จุดสูงสุด มือ 1 ของโลกอีกครั้ง...จาก มือรองที่ผูกปีแพ้แซมพราส ในรอบชิงแกรนด์สแลม 4 หนแรก กลายเป็นนักเทนนิสชายคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 พื้นผิว(ซึ่งแม้แต่แซมพราสก็ยังทำไม่ได้)


และเขายังเป็น มือ 1 ของโลกผู้ที่มีอายุมากที่สุด นับตั้งแต่มีการจัดอันดับเป็นต้นมาด้วย(ขณะมีอายุ 33 ปี)



ทั้งหมดนี้พิสูจน์ว่า ไฟในตัวของนักเทนนิสลูกครึ่งอิหร่าน จากรัฐเท็กซัสยังคงลุกโชน ดังเช่นช่วงวันแรกๆที่เขาเทิร์นโปรเมื่ออายุ16 ปี เหตุผลที่ อากัสซี่ สามารถยืนหยัดเป็นยอดในวงการโลกเทนนิสมาได้นานขนาดนี้ นอกจากจะเป็นเพราะฝีมือและการฝึกซ้อมอย่างหนักของเขาแล้ว ครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง





แม่บ้านที่ดีอย่าง ‘กราฟ’ รวมทั้งลูกๆที่แสนน่ารัก ได้ทำหน้าที่เป็นลมใต้ปีกผลักดันจน อังเดร อากัสซี่ เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลกเทนนิสยืนยงนานหลายปี.












โดย yyswim




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2549
6 comments
Last Update : 1 กันยายน 2549 11:18:51 น.
Counter : 13655 Pageviews.

 



เพื่อนนักเทนนิสยกย่องสดุดี




นักเทนนิสชายหญิงชื่อดังระดับโลก อย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 1 ของโลกชาวสวิส, เลย์ตัน ฮิววิตต์ มือ 6 ของโลกจากออสเตรเลีย, มารัต ซาฟิน จากรัสเซีย, ทิม เฮนแมน จากอังกฤษ, อเมลี โมเรสโม่ มือ 1 ของโลกชาวฝรั่งเศส และ คิม ไครจ์สเตอร์ส จากเบลเยียม ต่างกล่าวเชิดชู อังเดร อากัสซี่ นักหวดจอมเก๋าชาวสหรัฐฯ หลังจากลงเล่นในสนาม วิมเบิลดัน ซึ่งตอนแรกกำหนดว่าจะเป็นรายการสุดท้ายในอาชีพลูกสักหลาดของเขา



เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2549 อากัสซี่ ปิดฉากรายการ วิมเบิลดัน นี้เพียงแค่รอบ 3 เมื่อพ่ายให้กับ ราฟาเอล นาดาล นักหวดดาวรุ่งชาวสเปนมือ 2 ของโลก 0-3 เซต 6-7(5-7),2-6,4-6


หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน นักเทนนิสชื่อดังของโลก ต่างได้ออกมากล่าวถึงนักเทนนิสรุ่นพี่คนนี้ด้วยความประทับใจและซาบซึ้ง ทั้งในเรื่องความสำเร็จในชีวิตบนคอร์ตและความสำเร็จในชีวิตส่วนตัว ที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเทนนิสรุ่นใหม่ต่อไป





โดยเริ่มจาก เฟด-เอ็กซ์ กล่าวด้วยความประทับใจว่า "เราต้องเสียตำนานอันยิ่งใหญ่ของโลกไปอีกคน มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย แต่ อากัสซี่ ก็ได้ประสบการณ์และความสำเร็จ ผมโชคดีที่ครั้งหนึ่งเคยเล่นเทนนิสกับเขา มันเป็นสำเร็จที่เหลือเชื่อที่เขาคว้าแชมป์แกรนด์ สแลมได้ทั้ง 4 รายการ"



เลย์ตัน ฮิววิตต์




ด้าน เลย์ตัน ฮิววิตต์ เผยว่า อากัสซี่ คือต้นแบบของนักเทนนิส "กีฬาเทนนิสเป็นหนี้ อากัสซี่ มากมาย เพราะว่าเขามีชื่อเสียงในทางการตลาด ทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักกีฬาประเภทนี้ แถมยังเป็นแบบอย่างในเรื่องการวางตัวและบุคลิกภาพ โดยเฉพาะนักเทนนิสรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้ามา ผมเชื่อว่าการสวมเสื้อผ้าสไตล์ร็อค ใส่ต่างหู ผมยาว มันเป็นภาพที่แตกต่างกันมาก สำหรับนักเทนนิสในยุคปัจจุบัน ซึ่งมันเป็นเรื่องช่วยปลุกสีสันให้กับกีฬานี้เป็นอย่างดี"


ทิม เฮนแมน กล่าวว่า "เมื่อปีที่แล้ว ในเดือนกันยายน ในรายการ ยูเอส โอเพ่น อากัสซี่ ลงเล่นเมื่อตอนที่เขาอายุ 35 ปี มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ผมแน่ใจว่าเขาแทบจะไม่ต้องรื้อฟื้นหรือปรับปรุงฝีมือเลย"


คนสุดท้ายของนักเทนนิสชายคือ มารัต ซาฟิน จากรัสเซีย เขาเอ่ยปากชมว่า รุ่นพี่คนนี้คือผู้ช่วยสร้างความบันเทิงแก่วงการเทนนิส "เขาเป็นนักเทนนิสคนแรกที่สร้างสีสันให้กับวงการแร็กเก็ต มีความสำเร็จมากมายทั้งแกรนด์ สแลม และทุกอย่าง แต่เรื่องของการแต่งตัว กางเกงที่เป็นเอกลักษณ์ แฟชั่นที่เขานำเข้ามาในวงการนี้ แถมยังเป็นคนที่มีความสามารถ อากัสซี่ คือ อากัสซี่ เขาเหมือนกับสินค้าแบรนด์เนม"



ทางด้านนักเทนนิสหญิง อเมลี โมเรสโม่ มือ 1 ชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า "อากัสซี่ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในอาชีพนี้ ฉันคิดว่าช่วงเวลาที่ทำให้คิดถึงเขา น่าจะเป็นปี 1999 ที่เขาคว้าแกรนด์ สแลม เฟรนช์ โอเพ่น การกลับมาสู่แมตช์อีกครั้ง ทั้งๆที่โดนนำ 2 เซต ซึ่งหลายคนคิดว่าเขาจะต้องพลาดโอกาสทองอย่างแน่นอน แต่ไม่เลย เขากลับมาครองแชมป์ได้อย่างงดงาม"


ทางด้าน สาวคิม ไครจ์สเตอร์ส จากเบลเยี่ยม เธอกล่าวว่า "บางครั้งฉันยังจำสายตาของ อากัสซี่ ตอนเล่นได้ เขามีความมุ่งมั่นและตั้งใจมาก ฉันไม่เคยเห็นใครเป็นแบบนี้มาก่อน เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเมื่อได้เห็นด้วยตาตัวเอง ขนาดแค่เรื่องแบ็คแฮนด์ก็เหลือเชื่อแล้ว ถ้าฉันหวดได้อย่างเขา ฉันคงกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก"


 

โดย: yyswim 22 กันยายน 2549 23:27:36 น.  

 



ให้คำแนะนำรุ่นน้อง




อังเดร อากัสซี่ นักเทนนิสขวัญใจชาวอเมริกันออกมาให้คำแนะนำนักเทนนิสรุ่นน้องร่วมชาติอย่าง แอนดี้ ร็อดดิค และ เจมส์ เบล็ค ให้พยายามดึงความสามารถของตัวเองออกมาเรื่อยๆ และยกระดับมาตรฐานการเล่นให้สูงขึ้น หากหวังจะประสบความสำเร็จ และเป็นตำนานนักหวดอย่างคนอื่นๆ


แอนดี้ ร็อดดิค (ซ้าย)




อากัสซี่ ยอดนักเทนนิสวัย 36 ปี ซึ่งลงทำศึกเทนนิสรายการ เลกก์ เมสัน คลาสสิกเป็นครั้งที่ 17 ของตัวเขาเอง ก่อนที่จะถึงศึกเทนนิส แกรนด์ สแลม รายการสุดท้าย ยูเอส โอเพ่นในปีนี้ เขากล่าวให้คำแนะนำแก่รุ่นน้องว่า


"คุณจะต้องหาทางดึงความสามารถในตัวคุณออกมาเรื่อยๆ เพื่อหาทางพัฒนาและพยายามยกระดับมาตรฐานตัวคุณเองอย่างต่อเนื่อง และหวังว่ามันจะทำให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ"


และ อากัสซี่ ยังกล่าวอีกว่า "มันยากขึ้นเรื่อยๆที่จะอยู่ในจุดสูงสุดของวงการเทนนิส เมื่อวงการเทนนิสเติบโตเป็นสากลมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้จะมีแต่เพิ่มแรงกดดันให้กับ "เอ-ร็อด" ที่จะครบอายุ 24 ปี ในระหว่างการแข่งขันยูเอส โอเพ่น ที่ฟลัชชิ่ง เมโดว์ส เช่นเดียวกัน "เบล็ค" วัย 26 ปี


"ในสนามนั้น มันเป็นสภาพที่มีการแข่งขันสูง มันเป็นกีฬาสากลที่มีผู้เล่นชั้นยอดหลายคนทุ่มเทอย่างมากให้กับสิ่งที่พวกเขาทำ และคำแนะนำของผมจะเป็นการบอกให้พวกเขาก้มตาก้มตาฝึกซ้อมต่อไป และคิดถึงแต่การพัฒนาให้ดีขึ้น โดยไม่สนว่าคุณจะมีอันดับโลกเท่าไร ไม่สนว่าคุณจะเคยผ่านอะไรมาบ้าง"


เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 8 รายการ กล่าวเพิ่มเติมถึง การอุทิศตัวเองเพื่อการเป็นเบอร์หนึ่งของวงการเทนนิส เพื่อเข้าไปสานต่อความสำเร็จของสองยุคที่ผ่านมา


"ผมคิดว่าอย่างแรกเลย ในสองยุคของวงการเทนนิสของอเมริกัน นับตั้งแต่ (จิมมี่) คอนเนอร์ส และ (จอห์น) แม็คเอ็นโร แล้วมาถึง พีท (แซมพราส), ไมเคิ่ล (ชาง), จิม (คูร์เรียร์) และผม ถ้าคุณดูที่แชมป์แกรนด์สแลมที่พวกเขาคว้ามาได้ มันเป็นมาตรฐานที่สูงมาก มันเป็นกลุ่มพิเศษของเหล่านักเทนนิสชายที่ประสบความสำเร็จถึงขั้นนั้น"


"เมื่อมองไปที่ เจมส์ (เบล็ค) และ แอนดี้ (ร็อดดิค) พวกเขามีความสามารถ และมีความเป็นนักกีฬาที่จะทำได้เช่นเดียวกัน แอนดี้ เคยขึ้นไปถึงจุดสูงสุดมาแล้ว เขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาได้ 1 รายการ เขาเรียนรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร และเขาคงพยายามทำให้ได้แบบนั้นอีก และผมคิดว่าเราคงจะได้สิ่งที่ดีที่สุดจากตัวของ เบล็ค เช่นเดียวกัน"


 

โดย: yyswim 22 กันยายน 2549 23:28:25 น.  

 



แนะนำเคล็ดลับ







อากัสซี่ ผู้ที่ได้ชื่อว่า รีเทิร์นลูกเสิร์ฟได้ยอดเยี่ยม ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเคล็ดลับการเล่นเทนนิส ช็อตที่เขาถนัด ว่า


1. "คุณต้องพยายามอ่านจังหวะลูกเสิร์ฟของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ต้องสังเกตให้ได้ว่า พอเขาโยนลูกขึ้นไปแล้ว ขั้นต่อไปเขาจะทำอะไร อีกนานเท่าไร จะได้เตรียมตัวรับมือได้ถูก สังเกตให้ได้ว่าตอนแร็กเกตสัมผัสกับลูก อยู่ด้านในหรือด้านนอก จะได้รู้ว่าเขาจะเสิร์ฟลูกแฟลต หรือเสิร์ฟสไลซ์"


2. "การโยนลูกของเขาสำคัญมาก ต้องสังเกตให้ดีๆ เพราะบางครั้งฝ่ายตรงข้ามอาจจะโยนลูกออกด้านข้างของตัวเองเพื่อเตรียมเสิร์ฟลูกมุมกว้าง หรือไม่ก็อาจโยนลูกให้ลอยคล้อยไปด้านหลังศีรษะ เพื่อเตรียมจะอัดใส่แบ๊คแฮนด์ของเรา"





3. "โดยปกติแล้ว ถ้าเราจัดระเบียบร่างกายให้พร้อมสำหรับการรีเทิร์นลูกเสิร์ฟ ก็สามารถจะโต้ตอบฝ่ายเสิร์ฟด้วยช็อตงามๆได้ อย่างผม ผมจะปล่อยให้การรีเทิร์นลูกเสิร์ฟ ขึ้นอยู่กับการ "บิดสะโพก" เป็นหลัก แรกสุดเลย คุณต้องพยายามจินตนาการว่า ด้ามแร็กเกตของเราติดกาวแน่นอยู่ตรงท้อง(เช่น ถ้าเราหันหน้าไปหาฝ่ายตรงข้าม ปลายแร็กเกตก็จะชี้ไปทางนั้นด้วย) เมื่อเป็นเช่นนี้ เวลาเราบิดสะโพกที แร็กเกตก็จะหันตามเราไปด้วย ซึ่งทำให้ง่ายต่อการตั้งท่าเตรียมตัวรับลูกเสิร์ฟไปด้วย


ผมมีหลักการฝึกบิดสะโพกง่ายๆ มาแนะนำกัน คือให้เรายืนเตรียมพร้อมในท่ารีเทิร์นลูกเสิร์ฟ จากนั้นก็ให้เพื่อนหรือโค้ชตะโกนว่า "โฟร์แฮนด์" หรือ "แบ๊คแฮนด์" แล้วให้เรารีบหันไปตามทิศทางนั้นๆ ทันที ฝึกให้ชำนาญนะครับ เพราะการบิดสะโพกให้เร็ว ไม่ได้มีประโยชน์แค่เพิ่มปฏิกิริยาตอบสนองของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยระวังไม่ให้เราหวดลูกบอลแรงเกินความจำเป็นด้วย อ้อ! เคล็ดลับของการบิดสะโพกให้ได้ดี อยู่ที่เทคนิคการเล่นกราวน์สโตรกที่มีประสิทธิภาพด้วยนะครับ"


 

โดย: yyswim 22 กันยายน 2549 23:29:15 น.  

 



10 นักเทนนิสผู้ใจบุญ





ถึงแม้จุดสูงสุดของนักกีฬาคือความสำเร็จในสนามแข่งขันและเงินรางวัล แต่คุณค่าและภาพลักษณ์ที่แท้จริงของนักกีฬานั้น ไม่ได้หยุดอยู่ที่จำนวนถ้วยและเงินรางวัล แต่อยู่ที่การช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส และทำเป็นประจำด้วย



1. อังเดร อากัสซี่


– วัยหนุ่มของเขาอาจจะเปรี้ยวเข็ดฟันไปสักหน่อย แต่หลังจากที่เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เริ่มสร้างครอบครัวจริงจัง อดีตเจ้าหนุ่มบลูยีนส์คนนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน







มูลนิธิ อังเดร อากัสซี่ เพื่อการกุศลก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1994 ( 12 ปีที่แล้ว)โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาทุนสนับสนุนกิจกรรมด้านนันทนาการและการศึกษาให้แก่เด็กๆ ผู้ด้อยโอกาสในรัฐเนวาดา


และหลายปีที่ผ่านไป มูลนิธินี้ระดมทุนได้กว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และช่วยเหลือองค์กรต่างๆได้มากกว่า 20 แห่ง และทุกปี อากัสซี่ ก็จะเป็นเจ้าภาพจัดคอนเสิร์ตการกุศล “แกรนด์สแลม ฟอร์ ชิลเดร้น” ซึ่งมีดาราและศิลปินระดับโลกอย่าง ร็อบบี้ วิลเลียมส์ เซลีน ดิออน เอลตัน จอห์น บาร์บาร่า สตรัยแซนด์ และ อัชเชอร์ แวะเวียนกันมาเป็นแขกพิเศษบนเวทีมิได้ขาด



2. แพตทริค ราฟเตอร์


– นักเทนนิสชาวออสซี่ที่โด่งดังในอดีต (ปัจจุบัน คือ เลย์ตันฮิววิตต์) ไม่แต่จะเป็นขวัญใจของเพื่อนร่วมชาติเรื่องผลงานในสนามเพียงอย่างเดียว ถ้าจะกล่าวให้ชัด ชีวิตนอกสนามของเขา เขาเป็นที่รักของแฟนสักหลาดทั่วโลกยิ่งกว่าด้วยซ้ำไป!


หลังจากได้แชมป์ยูเอส โอเพ่น ในปี 1998 แล้ว ราฟเตอร์ก็บริจาคเงินรางวัลที่ได้รับให้กับมูลนิธิเด็ก สตาร์ไลต์ ในทันที ซึ่งนำไปสู่การสร้างห้องดูแลผู้ป่วยเด็กพิเศษ ในรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย


ในปีถัดมา เขาก็ตั้งมูลนิธิเพื่อเด็กของตัวเองขึ้น โดยทุกๆปี ราฟเตอร์จะบริจาคเงินรางวัลที่ได้รับจากการแข่งขัน เข้าสมทบทุนทุกครั้ง ทุกวันนี้ ราฟเตอร์ ได้พี่สาวกับแม่ช่วยกันบริหารมูลนิธิดังกล่าว โดยมีเป้าหมายหลักเพียงหนึ่งเดียว คือ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนในรุ่นต่อไป



3. แอนดี้ ร็อดดิก


– หนุ่มอเมริกันตั้งมูลนิธิ แอนดี้ ร็อดดิก ขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างโอกาสทางการศึกษา และมอบปัจจัยพื้นฐานให้กับเด็กๆที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยหรือถูกทารุณกรรม


ทุกๆ ปี ร็อดดิก จะจัดกิจกรรมนาน 3 วัน เพื่อหาทุนเข้ามูลนิธิ ทั้งการแสดงคอนเสิร์ต จัดแข่งเทนนิสนัดพิเศษ รวมถึงงานกาลาดินเนอร์ที่มีคนดังมาร่วมงานมากมาย


ในปี 2004 มูลนิธิของ ร็อดดิก ออกริสต์แบนด์ สายรัดข้อมือ "โน คอมโพรไมส์" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ริสต์แบนด์ "ลิฟ สตรอง" ของ แลนซ์ อาร์มสตรอง แชมป์ตูร์ เดอ ฟร้องซ์ 7 สมัย สินค้าชิ้นนี้ขายดีไปทั่วโลก



4. ทิม เฮนแมน


- ถึงผลงานในสนามในปัจจุบันจะไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนแต่ก่อน แต่หนุ่มเมืองผู้ดีผู้นี้ก็ไม่เคยปล่อยให้งานด้านการกุศลของตัวเอง แผ่วตามเกมเทนนิสแต่อย่างใด


นอกจากจะเคยเป็นประธานมูลนิธิของเอทีพีแล้ว เฮนแมน ยังตั้งมูลนิธิของตัวเองในชื่อ คิดส์ แอท ฮาร์ทส์ เพื่อช่วยเด็กด้อยโอกาส ตั้งแต่ปี 2000 แล้ว และในปีที่แล้ว เฮนแมน ได้หันไปจับมือกับ เฟร้นช์ คอนเนคชั่น แบรนด์เสื้อผ้าสาขาอังกฤษ ผลิตริสต์แบนด์ออกขายระดมทุนเข้ามูลนิธิได้มหาศาลเช่นเดียวกับมูลนิธิของร็อดดิก



5. โรเจอร์ เฟเดอเรอร์


- เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า สถานะมือ 1 ของโลก ของเฟเดอเรอร์นั้น ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ฝีมือระดับเทพของเขาเท่านั้น เพราะบุคลิกนอกสนามของเขา มนุษยสัมพันธ์นอกสนามของเขา ก็ทำให้ใครต่อใครยอมรับว่าความเป็นมือ 1 ของโลกของเขาไปด้วย





เฟเดอเรอร์ ก่อตั้งมูลนิธิของตัวเองขึ้นมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เขามอบให้คุณแม่ ลีนเน็ตต์ ของเขาเป็นผู้บริหารงาน เป้าหมายหลักของมูลนิธิ คือ ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในแอฟริกาใต้ และใช้กีฬาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทนนิส เป็นสื่อกลางสร้างโอกาสให้กับเยาวชนทั่วโลก และนอกจากนั้น เฟดเอ็กซ์ ยังตอบรับเป็นทูตพิเศษให้กับ องค์การยูนิเซฟ อีกด้วย



6. กุสตาโว เคอร์เท่น


– “กูก้า” ได้รับเลือกให้ครองรางวัล "อาร์เธอร์ แอช เพื่อมนุษยชน" ประจำปี 2003 ของเอทีพีทัวร์ อันเนื่องมาจากกิจกรรมการกุศลที่ไม่เคยหยุดนิ่งของเขา


“กูก้า” เป็นเช่นเดียวกับ นักกีฬาซุปเปอร์สตาร์ชาวบราซิเลียนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอล นักกรีฑา ที่ได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมชาติให้มีสถานะประดุจพระเจ้าของพวกเขา ซึ่งหนุ่ม“กูก้า” ชื่อเล่นของ กุสตาโว เคอร์เท่น ก็ตอบแทนสังคมด้วยการตั้งสถาบันเทนนิสขึ้นมา เพื่อสอนทักษะเทนนิส ตั้งแต่ระดับพื้นฐานให้กับเด็กๆ ในประเทศบราซิล ด้วยหวังว่าสักวันหนึ่ง เด็กๆ เหล่านี้จะเติบโตขึ้นมา มีโอกาสที่ดีเหมือนกับตัวเขาบ้าง



7. คิม ไคลจ์สเตอร์ส


– หากเอ่ยถึงนักเทนนิสใจบุญแล้ว หากไม่มีชื่อของสาวเบลเยียมผู้นี้อยู่ด้วย ลิสต์ท็อปเท็นนี้ ก็คงจะไม่สมบูรณ์


ว่ากันว่า ไคลจ์สเตอร์ส จะเป็นนักเทนนิสคนแรกๆที่ตอบรับการเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลของทัวร์นาเมนท์ต่างๆ อย่างจริงใจ...อย่างสม่ำเสมอ เธอไม่เพียงแต่จะมอบทุนส่วนตัวเพื่อสนับสนุนมูลนิธิต่างๆเท่านั้น แต่ยังยินดีที่จะสละเวลาส่วนตัวไปเยี่ยม เยียนเด็กๆ ผู้ป่วยในโครงการต่างๆ ไม่เคยขาด


ช่วงปลายปี 2004 ต่อต้นปี 2005 ที่หลายประเทศในแถบเอเชีย ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์ สึนามิ ไคลจ์สเตอร์ส เป็นหนึ่งในนักกีฬาคนแรกๆ (อีกเช่นเคย) ที่เข้าร่วมเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ให้กับเด็กกำพร้าในอินเดียใต้ และสนับสนุนทั้งเงินและเวลาของตัวเอง ด้วยความห่วงใยในเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างแท้จริง



8. เจมส์ เบลค


- เบลคอาจจะไม่มีมูลนิธิเป็นของตัวเองเหมือนกับนักเทนนิสคนอื่นๆ แต่หนุ่มผิวดำผู้นี้ก็ให้การสนับสนุนกิจกรรมการกุศลขององค์กรต่างๆ เรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นสมาคมเทนนิสสหรัฐ หรืองานบุญของไนกี้ สปอนเซอร์ของตัวเขาเอง


ผลงานด้านการกุศลที่เด่นที่สุดของ เบลค ก็คือ การยอมสละผมทรง เดดล็อค อันเป็นเครื่องหมายการค้าของตัวเอง เมื่อปี 2004 เพื่อหารายได้เข้าการกุศลแห่งหนึ่ง!!!!!!



9. มาร์ติน่า ฮินกีส


- ช่วงที่ว่างเว้นจากสนามเทนนิสไปพักใหญ่ ช่วงนั้นอดีตนักหวดสาวมือ 1 ของโลกก็มีเวลาได้ทำงานเพื่อสังคมอย่างเต็มที่ โดยทำหน้าที่ทูตพิเศษของทั้งองค์การอนามัยโลก และองค์การยูนิเซฟ


และเมื่อตอนคัมแบ๊คกลับมาชั่วคราว ที่พัทยาเมื่อปีก่อน ฮินกีส ก็ตัดสินใจบริจาคเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันมอบให้กับมูลนิธิของบ้านเราทันที นอกจากนี้ เธอยังให้การสนับสนุนมูลนิธิท้องถิ่นต่างๆทุกครั้ง ที่เธอเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ...โดยไม่มุ่งหวังว่าจะต้องให้สื่อมวลชนมาสนใจแต่อย่างใด



10. พี่น้องตระกูลวิลเลี่ยมส์


– ถึงแม้ชื่อเสียงในโลกเซเลบริตี้ของพวกเธอทั้งสอง จะดังสนั่นกว่ากิจกรรมงานบุญต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่า 2 พี่น้องนักหวดสักหลาดชาวอเมริกันจะละเลย หรือไม่ใส่ใจงานกุศลต่างๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ


เมื่อปีที่แล้ว วีนัส กับ เซเรน่า จัดเทนนิสรายการพิเศษ "ซิสเตอร์ส ทัวร์" ไปตามเมืองใหญ่ 3 เมืองในสหรัฐ ตามโครงการของแมคโดนัลด์ เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวของเด็กที่ล้มป่วยด้วยโรคร้าย


และเมื่อถูกถามถึงการลงแรงและลงทุนเพื่อเด็กๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย วีนัส ก็ตอบอย่างอารมณ์ดีเสมอว่า "เพราะเราอยากทำให้เทนนิสของเรา มีอะไรที่ต่างออกไปบ้างนะค่ะ"



หมายเหตุจากเจ้าของบล๊อก : สงสัยนักเทนนิสของไทยคงจะตกสำรวจ!!!!!!!


 

โดย: yyswim 22 กันยายน 2549 23:30:14 น.  

 




รักษาถ้วยวิมเบิลดันของบียอร์น บอร์ก








อากัสซี่ ซื้อใจแฟนเทนนิสทั่วโลกอีกครั้ง ด้วยการออกมาประกาศว่า เขาเตรียมที่จะทำทุกหนทางเพื่อไม่ให้ถ้วยรางวัลชนะเลิศเทนนิสแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ของ บียอร์น บอร์ก อดีตยอดตำนานนักเทนนิสมือ 1 ของโลก ต้องตกไปอยู่ในมือของคนนอกวงการลูกสักหลาด เมื่อถ้วยดังกล่าวจะถูกนำมาประมูล เพราะบียอร์น บอร์ก ต้องการนำเงินมากู้วิกฤติทางการเงินของตน





บียอร์น บอร์ก เป็นนักเทนนิสคนเดียวในตำนานที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลม รายการ วิมเบิลดัน ได้ 5 สมัยติดต่อกัน ระหว่างปี 1976-1980 เขาเตรียมจะนำถ้วยรางวัลประวัติศาสตร์ชิ้นนี้ พร้อมด้วยไม้แร็กเกตที่เขาเคยใช้ในการเอาชนะ จอห์น แม็คเอ็นโร อดีตนักหวดชาวอเมริกัน ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เมื่อปี 1980 ออกมาเปิดประมูล เพื่อนำเงินมาแก้ปัญหาทางการเงิน





อากัสซี่กล่าวว่า จะขอรวบรวมเพื่อนฝูงในวงการให้มาช่วยกันเพื่อป้องกันไม่ให้ถ้วยรางวัลเกียรติยศดังกล่าวตกไปอยู่ในมือของคนที่ไม่คู่ควร แม้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าหากได้มาแล้ว จะนำไปทำอะไร จึงจะดีที่สุด แต่คาดว่าน่าจะเป็นการนำไปเก็บรักษาเอาไว้ ในที่ที่ทุกคนในวงการเทนนิสจะได้มีโอกาสชื่นชมร่วมกัน


"ผมคิดว่าคุณไม่ควรเป็นเจ้าของมัน ถ้าคุณไม่ได้ชนะการแข่งขันมาด้วยตัวคุณเอง ผมคิดว่าคงมีหลายคนที่มานี่ เพื่อช่วยเขาในสถานการณ์นี้ ผมหารือเรื่องนี้กับคนของผมแล้ว ให้หาทางรวบรวมคนมาเพื่อคว้าถ้วยนี้ และเพื่อที่จะเล่นตามกติกาเพื่อที่จะซื้อถ้วยนี้ให้ได้"



"มีคนมากมายที่อาสาจะเข้ามาช่วย วิมเบิลดันก็เรื่องหนึ่ง ตัวผมก็เรื่องหนึ่ง ความคิดของผมเกี่ยวกับถ้วยรางวัลพวกนี้ ก็คือ ถ้าหากมันไม่ได้ตกไปอยู่ในมือของเจ้าของที่เหมาะสม หรือไม่ได้อยู่ในพิพิธภัณฑ์ มันคงเป็นอะไรที่เลวร้ายมาก" อากัสซี่ กล่าว



ทั้งนี้ คาดว่าถ้วยรางวัลดังกล่าว น่าจะประมูลได้เงินไม่ต่ำกว่า 200,000 - 300,000 ปอนด์ หรือประมาณ 14-21 ล้านบาท ซึ่งรายได้จำนวนนี้ จะช่วยให้อดีตแชมป์แกรนด์สแลม 11 รายการ ที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก เพราะเขาสูญเสียเงินไปจำนวนมากจากการทำธุรกิจ และจากการหย่าขาดกับภรรยา.


 

โดย: yyswim 22 กันยายน 2549 23:31:05 น.  

 



ผมขออภัยครับ


เพราะเกิดความผิดพลาดขึ้นโดยเจ้าของบล๊อกเอง เป็นเหตุให้คอมเมนต์ดีๆของเพื่อน เกือบ 50 คอมเมนต์ สูญหายไปหมดเลยครับ....ผมเองก็เสียดายครับ

 

โดย: yyswim 22 กันยายน 2549 23:35:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.