|
ถึงทุกวันนี้แล้วยังจะมีใครสงสัยอีกบ้างมั๊ยว่า อีพวก J.Kim Mania มันเป็นใคร หลายคนคงรู้จักกันแล้วไม่มากก็น้อย อีกหลายคนคงยังนั่งส่ายหน้า แมร่งเป็นใครว่ะ แต่ถ้าบอกว่าอีพวกเนี้ยมันชอบพี่คิ้มล่ะ ง่ายขึ้นรึยัง กลุ่มคนธรรมด๊า ธรรมดา ที่หลากหลายทั้ง (รสนิยม) ทางเพศและหน้าตา แต่พออยู่รวมๆกันแล้วน่ากลัวชิบ..(หาย)
เมื่อช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ตุลาคม 50 โปรดเอื้อเฟื้อสตรีมี..คัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมๆกับ Grand Opening J.Kim Mania ให้พี่คิ้มได้รู้จัก (อย่างเป็นทางการเช่นกัน) หลังจากที่มีคนเอาปูนขาวมาหยอดรู อีพวก J.Kim Mania ก็ทะลึ่งพรวดออกมาจากโคลนตม (นี่..คนรึหอยหลอดว่ะเนี่ย ) 15 ตุลาคม 51 สตรีคนเดิมหายคันได้ไม่นาน (แสดงว่ายังคันอยู่เรื่อยๆ..อืม) หันมาออกพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มใหม่ในชื่อว่า อีคิ้ม คนเริงไมค์ แรกๆที่รู้ชื่อหนังสือ แหม..กรูล่ะไม่กล้าออกเสียงประโยคนำ กลัวตัวแม่โดนตบกระโหลก โทษฐานหมั่นไส้เป็นการส่วนตัว ( อ้าว..เกี่ยวกันป่ะเนี่ย )
บูธเนชั่น M31 ตำแหน่งเดิมกับปีที่แล้วเป๊ะ อีคิ้ม คนเริงไมค์ ตั้งโชว์ ( ของดี ) อะหล่างฉ่าง กล้าโคตร..หยิบมาลูบๆคลำๆ พลิกหน้าพลิกหลัง ( เอ้า เฮ้ย..อย่าคิดเยอะ ตามคนเขียนล่ะ) ก่อนจะซื้อให้สมาชิกผู้ยากไร้และห่างไกลความเจริญ (แต่ไม่ฝากตังค์กรู..อือนะ ) แบ่งกับเก้ว่า ช้างจะซื้อให้น้องจอย เด็กน้อยที่เคยเจอกันเมื่องาน Commart Pattaya นิวาศสถานอยู่ชลบุรีนู่นแน่ะ ส่วนเก้ถอยอีกหนึ่งเล่มให้ เบลล์ สาวน้อยใจงามนามเพราะ จากแดนจิงโจ้ ในที่สุดก็ได้มาคนล่ะ 2 เล่ม เอี้ยวตัวจะเดินขึ้นข้างบนก็มาเจอเข้ากับน้องอิม ที่ตัวโตสูงขึ้นเยอะ ในวัย 14-15 น้องสูงทิ้งห่างพี่ๆหมดเลย
ช้าง มากินข้าวกับพี่หน่อยซิ พี่ขวัญโทรมาในช่วงเที่ยงวัน Next Station เพชรบุรี ติ๊ด...ติ๊ด.. เอ๊ะ..พี่ขวัญอยู่ไหนว่ะ ทำไมเสียงมันยังกับอยู่รถไฟฟ้าล่ะ ไหนบอกน้องว่ามาไม่ได้ พี่ขวัญหลอกดาวนี่หว่า พอไปรับมากินข้าว ฟังเหตุผลแล้วได้แต่นับถือ จริงๆต้องไปโรงงานที่ชลบุรีแท้ แต่แอบชิ่ง (ด้วยความร่วมมือของพี่วัฒน์เป็นอย่างดี ) มาจนได้ ไม่นานปาล์มกะหมอก็หอบช่อดอกไม้มาถึง เดินขึ้นไปนั่งดูกาละแมร์ ขวัญใจอีกคนของปาล์ม
นักข่าวเพียบ !! หนึ่งในนั้นคือ แจ็คกอรีน นักข่าวทีวีพูลที่ปาล์มปลื้มนักหนา เป็นช้างอีกหล่ะที่หน้าด้านเดินไปขอถ่ายรูป ไม่หนำใจปาล์มมันก็ให้ช้างพาไปถ่ายรูปคู่ ซึ่งทำเอาปาล์มหมองไปเลย ยังไม่พอมันยังใช้ให้ช้างถ่ายรูปคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ทั้ง พี่แมร์ เจ้าของงาน พี่ไก่ มีสุข พี่ปุ้ย พิมลวรรณ พี่นีน่า กุลนัดดา 4 สาว ผู้หญิงถึงผู้หญิง และอีกหลายต่อหลายคน
แต่พอไม่รู้จะเล่นอะไรกันหมอก็เอาห่อขนมมาเป็น Reflect ส่องหน้าปาล์มทำให้ดู Bright ขึ้นทันตาเห็น ครื้นเครงกันเสียงดังกว่าที่เค้าสัมภาษณ์บนเวทีซะอีก จนกาละแมร์ ลงจากเวทีมาให้นักข่าวรุม ช้างก็ได้แรงผลักดันจากปาล์มอีกครั้ง ให้ไปถ่ายรูป เดินแหวกวงนักข่าวไปจ๊ะเอ๋กับ โอปอลล์ ปณิสรา เดินคุณนายมาเชียว ช้างเลยวกกลับไปพาพี่ขวัญ หมอและปาล์มมาถ่ายรูปด้วยกัน
อื้ออึงกันอยู่พักใหญ่ พออิ่มตัวกับรูปที่อยากได้ก็ปลีกตัวกลับมานั่งที่เดิม จนเกือบ 3 โมงพี่แอนก็มาถึง พร้อมอุปกรณ์ครบเซ็ต กล้องวีดีโอ 1 ตัว กล้อง DSLR อีก 1 ตัว แบ่งกับเก้ไปคนละตัว เท่ากับว่าช้างมี 2 อันที่จริงพี่ขวัญก็เสนอตัวจะช่วย แต่ลองเอากล้องไปเล่นๆดูแล้วท่าจะไม่เวิร์ค พี่ขวัญเลยส่งกลับมาเหมือนเดิม
มองข้ามฝากไป ชะรอยแอบเห็นพี่ต๋อม เวปมาสเตอร์กับน้องแป้ง ยืนอยู่ไกลๆ เลยเป็นอาสาสมัครเดินเข้าไปทักทายซะหน่อย หืออือ กันนิดหน่อยก่อนที่เดินกลับมาที่เดิม บนเวที คุณกุ๊ก จากเรื่องเล่าเช้านี้กำลังสัมภาษณ์ใครสักคน ซึ่งพวกเราไม่ได้สนใจเอาซะเลย แถมเสียงดังใส่อีกต่างหาก อย่างงี้หล่ะ รวมกันทีไรไม่อับอายก็ขายหน้า มีอยู่สองอย่างนี่หล่ะ
จวนเจียนเวลา ทีเฝ้ารอ รถโตโยต้าสีดำคันงามก็แตะเบรก ปล่อย พี่คิ้ม ลงจากรถเดินผ่านพี่ยามหน้าเข้มเข้ามาภายในงาน พี่เปิ้ล ป้ามาแล้วไปเลยดิ ปาล์มมันขับไล่ไสส่ง เดินไปยืนอยู่กับพี่ต๋อมอีกครั้ง พอพี่คิ้มก้าวพ้นธรณีประตู ก็โผเข้าทักทายพี่ต๋อม นัวกันอยู่พักนึงพอพี่คิ้มหันมาเห็นช้าง พวกเราอยู่ไหนอ่ะ พี่คิ้มส่ายสายตามอง นู่น... ช้างชี้นิ้ว จากพื้นที่ที่ว่างเปล่า ไม่นานก็แน่นเอียดเต็มไปด้วยคนที่รุมล้อมขอลายเซ็น นักข่าวบางสำนักก็มาขอสัมภาษณ์พี่คิ้ม
ถอยฉากออกมา J.Kim Mania ก็ตามมาสมทบยืนเม้าท์มอยกับพี่ข้าวตูอย่างที่เคยเป็น หันไปมองพี่คิ้มท่ามกลางแสงแฟลช พี่คิ้ม (ในเวลานี้) ดูเปล่งรัศมีเฮ้ากวง อยู่ในตัว เพราะคนพวกนี้หล่ะ คนที่ขอถ่ายรูป คนที่ขอลายเซ็น นักข่าว สื่อต่างๆเปิดช่องว่างให้พี่คิ้มได้เป็นอย่างที่ควรจะเป็น (มาตั้งนานแล้ว) ต้องขอบคุณพี่ฉอด สายทิพย์ เจ้าแม่เอ-ไทม์ ที่ทำให้พี่มีวันนี้ สำนึกบุญคุณไม่เคยสิ้นไปจากพี่คิ้มเมื่อต้องตอบคำถามนักข่าวทุกครั้งๆ
ถ่อมตนมีคนแล เพชรแท้มีคนเห็น เนี่ยหล่ะ พี่คิ้ม
วงนักข่าวต้องแตกกระเจิงเพราะทีมงานเนชั่นมาขอตัวพี่คิ้มไปเตรียมขึ้นเวที เมื่อ ตุลา 50 อาตุ่ย พุทธชาติรับหน้าที่พิธีกร ปีนี้ยังคงเป็นคนของเอ-ไทม์ เหมือนเดิม แต่จัดจ้านกว่าอาตุ่ยเยอะเลย คนที่เราเจอกันเมื่อตอนต้นงานนั่นหล่ะ
โอปอลล์ รับหน้าที่พิธีกรของปีนี้ไป ขอเสียงปรบมือ (เน้นเสียงแบบโอปอลล์) ให้พี่คิ้ม ด้วยคะ เปาะแปะๆเสียงปรบมือปนกับเสียงกรี๊ดกร๊าด พี่คิ้มก้าวขึ้นเวทีและเริ่มพูดคุย การสัมภาษณ์เนื้อหายาวเหยียด กินเวลาไปเกือบชั่วโมง ซึ่งมันก็เร็วเหมือนโกหก อาจจะเป็นเพราะอารมณ์ขันของพี่คิ้ม บวกกับท่าทางจิกๆแรงๆ ของโอปอลล์ ที่เรียกเสียงหัวเราะได้อยู่เนืองๆ (อันนี้ช้างฟังมั่งไม่ฟังมั่ง มัวแต่ถ่ายรูปกับอัดวีดีโอ พอจะตั้งใจฟังจริงๆ จบซะงั้น...แป่ว!! )
แต่มีที่ชอบอยู่ช่วงนึงที่พี่คิ้มพูดถึงการเติบโตท่ามกลางคนหลายๆรุ่น ตั้งแต่เด็กไปจนคนแก่ ทำให้พี่คิ้มเห็นสัจจะธรรมว่าที่สุดแล้วคนทุกคนก็เท่าๆกัน วันนี้เราสดใสดแข็งแรงในร่างกายอันเข้มแข็ง แต่วันนึงความหนุ่มสาวก็จะจากเราไปในที่สุด วันนี้กับผู้ชายที่เรารักเค้ายังเป็นเค้าที่ดูดี แต่วันนึงที่ความแก่และเสื่อมสภาพมาเยือน เราจะยังดูแลเขาต่อไปได้อีกมั๊ย
โอ้โห..ฟังแล้วไม่บรรลุหรอก เพราะช้างยังเป็นคนธรรมดา ธรรมดาเสียจนยังหนีเรื่องนี้ไม่พ้น แต่อย่างน้อยก็ยังทำให้คิดได้ว่าวันนี้เราไม่ต้องดิ้นรนหาความเจ็บปวดใส่ตัว เพราะวันนึงมันจะมาหาเราเอง ร่างกายที่ร่วงโรยจะทำให้เราเจ็บปวด โรคภัยจะทำให้เราอ่อนแอ เราจะต้องทุกข์ทนอยู่ในร่างกายแบบนั้นจนกว่าจะหมดลมกันไปในที่สุด
ไม่ต้องลงว่าทำไมมันขาดช่วง ขออนุญาติตัดลงเป็นเป็นตอนสองนะคะ ตอนนี้ยาว รูปเยอะค่ะ
ร้อยเรียงเรื่องราว โดย ช้างน้อย นำเสนอ โดย บูเก้ Apple & Bouquet Productions...
| |
รูปสวยมากกกกกกก