เช้าวันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เวลา 6.28 น. เป็นเช้าที่ยังคงความมืดครึ้ม โดยปกติแล้วเวลาประมาณนี้ของหลายวันก่อนหน้านี้ ท้องฟ้าคงเริ่มสดใสขึ้นบ้าง แต่วันนี้ฝนตกพรำๆ ผู้หญิงคนนึงเธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งฝ่าสายฝน ในมือเธอถือสิ่งของบางอย่างเอาไว้แน่น เพราะเธอรู้ดีว่ามันสำคัญกับเช้านี้ของเธอเพียงใด หญิงสาวในชุดเสื้อขาวกางเกงดำ สวมรองเท้าแบบสบายๆ รอยยิ้มบนใบหน้าบ่งบอกว่าวันนี้คงเป็นวันที่แสนจะพิเศษของเธอ
เธอเดินมุ่งหน้าเข้าไปยังตึกที่ทำงาน แวะหยิบ Bangkok Postและจดหมายที่ถูกส่งมา ในกล่องจดหมายติดมือ ก่อนที่เธอจะหายเข้าลิฟท์ไป โผล่อีกทีก็ชั้น 8 เธอก้มลงไขกุญแจหน้าประตู เดินตรงเข้าไปสแกนบัตรเปิดประตูชั้นใน เธอหย่อนก้นบานๆลงบนเก้าอี้ตัวประจำก่อนจะถอนหายใจยาวๆ เฮ้อ...อ....ถึงซะที เธอบ่นด้วยความเคยชิน จัดแจงกิจวัตรตลอด 6 ปีที่เธอทำมันไม่เคยขาด ด้วยการเดินไล่เปิดไฟทั้ง office เปิดเครื่องซีร็อก เปิดตู้กดน้ำ สุดท้ายเอาจดหมายวางตามโต๊ะ เป็นอันเสร็จสิ้นภาระกิจ เธอไม่ได้เป็นแม่บ้านแต่อย่างใด หน้าที่การงานที่แท้จริงของเธอยังคงเป็น Insurance Broker เหมือนเดิม ที่พูดมาทั้งหมดคุณกำลังอ่านชีวิตประจำวันของช้างเอง เขียนถึงตัวเองซะสวยงามเชียว เอาความจริงป่ะ ความจริงก็คือ เมื่อเช้าฝนตกปอยๆช้างสับขาสั้นๆของตัวเอง แข่งกับสายฝนที่ขยันตกแต่เช้า ในมือกุมถุงข้าวเช้าไว้แน่น เพราะมันทำให้ช้างอิ่มท้องในเช้านี้ ส่วนเสื้อผ้าก็คุ้ยหมดตู้ Mix & Match ได้มาอย่างที่บอกข้างต้น รู้ทั้งรู้ว่าใส่สีขาวแล้วจะอ้วน (มาก) ก็ยังพยายามจะใส่ ยังจำเดปสีดำที่เคยใส่ไปที่ร้าน New Stories ได้มั๊ย นั่นแหละ ช้างไม่เข็ดกับความอึดอัด เขม่วพุงเบียดตัวเองลงไป ใส่มาอีกจนได้ วันนี้ช้างมีทัวร์ลง J.Kim Traveller (คู่แข่ง A-Time Traveller) พอดีทนเสียงลูกทัวร์รบเร้าไม่ไหว จัดการพานำเที่ยวสตูดิโอ JSL กันอีกแล้ว ทัวร์อื่นพาไปดู หมีแพนด้า ช่วงช่วง-หลินฮุย ที่เชียงใหม่ แต่ทัวร์ของเราพาไปหาชะนีตัวแม่ที่ห่างหายหน้ากันไปตั้งแต่จบ คอนเสริ์ต คิ้ม ไรเดอร์ (เขียนไปเสียวสันหลัง..แปล๊บๆ) อย่างที่บอกว่า J.Kim Mania หลายคนบ่นคิดถึงพี่คิ้มเป็นแถวๆ แต่ช่วงนี้รุ่นเยาว์ก็ต้องรับน้องบ้าง เปิดเทอมบ้าง หัวใจเลยว้าวุ่นกันหมด พี่ใหญ่บางท่านก็ติดภาระกิจเพื่อปากท้อง บางคนก็..ม่าย..ฉะ...บาย..(ทำเสียงแบบ เอ็ดดี้ ผีหน้ารักด้วยนะ) เหลือก็แต่ชะนีน้อย 2 คน ที่ทั้งชีวิตนี้สะกดเป็นแต่คำว่า ว่-า-ง ไม่ใช่ใครอื่น ช้างน้อยกะบูเก้ เองค๊า ที่ตามมาเป็นภาระ เอ้ย เป็นเพื่อนก็เห็นจะหนีไม่พ้น สาวเกินร้อย ( ร้อยเอ็ดง่ะ..ขำป่ะ..ไม่ขำงั้น...ผ่าน) เพื่อนปูน หรือนู๋กูน ที่ทุกคนรู้จัก รวบรัดตัดความมาถึงตอนเย็นบรรยากาศเริ่มอึมครึม เสียงโทรศัพท์ลึกลับก็ดังขึ้น ช้างก้มหน้าดู NPlam calling รับปั๊บ เสียงแหลมๆที่คุ้นเคยก็เร่งเร้าให้ช้างต้องเดินลงไปหาข้างล่าง เด็กดำมาพร้อมหมอคู่หู ในมือประคอง Cup Cake หน้าตาน่าเอ็นดูมา 3 กล่อง อันนี้ให้ป้า....อันนี้ให้พี่ข้าวตู....พี่เปิ้ล ถือดีๆได้ป่ะ วุ้ย..ลำบากได้อีกนะเนี่ย ยืนคุยกันพักใหญ่ ก่อนที่ช้างต้องรีบขึ้นเพราะไม่งั้นเจ้านายจะไหวตัวทัน ไล่ช้างออกซะก่อน... ขึ้นมาถึงฝนที่ตั้งเค้าก็เทลงมาห่าใหญ่ เสียงผู้คนใน office แซวช้างกันระงม เฮ้ย..เปิ้ล เสร็จแน่ อดไปดูพี่คิ้มแน่ๆ เอ่อ เยาะเย้ยถากถางกันเข้าไป ช้างเลยต้องนั่งทำตาเศร้า รอให้ฝนซาซะก่อน (แหม ไอ้เราก็ยังVirginลืมปักตะไคร้ได้ไง) เกือบ ชั่วโมงฝนก็เริ่มซาเม็ดลง เอาล่ะเริ่มออกเดินทางซะที Plan แรกที่ตั้งไว้กะว่าจะโดยสารเรือคลองแสนแสบ ไปขึ้นตรงลาดพร้าว 132 ซะหน่อย แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจไปรถไฟฟ้าใต้ดินแทน พอถึงสถานีสุทธิสารก็ต้องยืนคอยเก้สักพัก พอเก้มาถึงเราก็ขึ้นไปหารถแท็กซี่ แต่พอบอกว่าไปลาดพร้าวเท่านั้นหล่ะ ส่ายหน้ากันใหญ่ เมื่อสถานะการณ์บังคับ สองชะนีน้อยเลยต้องขึ้นรถเมล์...เบียดเป็นปลากระป๋องอยู่ได้ไม่นาน สองชะนีน้อยสบตากับเป็นนัยๆ ลงดีกว่า ยืนนานกว่านี้เก้าต์จะกำเริบ ลงไปตรงลาดพร้าว 41 ต่อรถแท็กซี่สมใจ ตอนนี้ฝนก็หยุดตก (ซะที) ใช้เวลาอยู่ในรถร่วมๆชั่วโมง ค่อยๆกระดึบๆไปเรื่อย ตลอดเวลาเราสองคนก็รับสาย ปูน ที่ไปถึงก่อนล่วงหน้านี้แล้ว ให้หลังจากการวางสายเจ้าปูนไม่เท่าไร พี่แท็กซี่ก็พาเราสองคนมาถีบลง อืม..พามาส่งหน้าสตูจนได้ มาอัดรายการหรอครับ พี่ยามถามแบบไม่ดูหนังหน้าเราเลย ดูหน้าหนูก่อนซิ น่าจะมายกไฟมากกว่านะคะพี่ ครื้นเครงกับพี่ยามได้ที่แล้ว ก็เดินไปหาปูน กวาดสายตาไปรอบๆ ไร้วี่แววพี่กบใหญ่ แต่เห็นอะไรบวมๆอยู่ลิบๆ นั่น ป่อยป๊อย นี่นา เดินเข้าไปทักซะหน่อย นังเปิ้ล ฉันพึ่งลบเบอร์หล่อนเมื่อวานนี้เอง เพื่อนสาวส่งเสียงดังกลางหมู่นักศึกษา ทักป๊อยเรียบร้อย พี่กบใหญ่ก็ออกมาต้อนรับพวกเรา เสื้อสวยจังเลย... พี่กบใหญ่ทำเสียงตื่นเต้นที่ได้เห็นเสื้อ Club อืม..ดีใจจังที่พี่เค้าชอบ เข้าไปในสตู วันนี้เก้าอี้หนาแน่นกว่าที่เคย นอกจากนักศึกษาขาประจำแล้ว ยังมี แฟนคลับของ แก้ม The Star มาด้วย ไม่นานพี่ทินเดินออกมาทักทายกลุ่มคนดู พอพี่ทินหันมาเจอคงจะจำพวกเราได้หรือเปล่าไม่แน่ใจ พี่ทินก็ทัก อ้าว แฟนคลับ ยี่โกวนินา สิ้นเสียงพี่ทิน พี่คิ้มก็เดินออกมา ฮึ้ย..ผมบ็อบมาเชียว นะป้า ออกมาถึงก็ซ้อมเพลง Perhaps Love Korean Version เป็นอันดับแรก
เริ่มอัดจากเบรก 2 ก่อน เอ้อ..เทปแรกเป็น น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ เทปสองที่เราจะได้ดูกันเป็นเทปของนางเอกตลอดกาลพี่จิ๊ก เนาวรัตน์ แค่ชื่อก็มีฮาแล้ว เนื้อหาขอรายการตอนที่สัมภาษณ์พี่จิ๊ก ก็จะเป็นเกี่ยวกับซีรีย์เกาหลี คุยกันได้ออกรถออกชาติ เพราะพี่คิ้มเองก็ชอบซีรีย์เกาหลีพอสมควร รู้ถึงขนาดรายได้ของ เบยองจุน ว่าปีนึงรายได้ตกอยู่ที่เท่าไรดังขนาดประเทศญี่ปุ่นจะสร้างอนุเสาวรีย์ให้กับ เบยองจุนแถมยังรู้ความหมายของภาษาเกาหลีหลายๆคำซะด้วย
ตัดเข้า Kim Hot News | แหล่งข่าว (พี่ทิน) รายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พี่คิ้มพาพี่ทินไปตัดผมที่ร้านพี่ป๊อก เชลซี พี่คิ้มก็เลยจอดรถทิ้งไว้ พารากอน แล้วพากันนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีศาลาแดง ออกจากรถไฟฟ้ามาก็เจอะกับฝนที่กระหน่ำตกเป็นบ้าเป็นหลัง พี่ทินเลยหันไปบอกพี่คิ้มว่าจะซื้อร่ม แต่อะไรมาดลใจพี่ทินให้เปลี่ยนใจไม่ซื้อร่มแบบกระทันหันก็ไม่รู้ พี่เชื่อใจผมมั๊ย เดี๋ยวผมพาเดินแบบไม่เปียกฝน ดูพี่ทินให้ความหวังพี่คิ้มซิ ทั้งๆที่รถไฟฟ้าสถานีศาลาแดงมันเชื่อมต่อกับ Robinson แท้ๆ แต่พี่ทินดันพาพี่คิ้มเดินข้างล่างขนานไปกับรางรถไฟฟ้าเพื่อหลบฝน | | แน่นอนว่ามันหลบได้ระยะนึงเท่านั้น พอถึงทางต้องโผล่ตรงธนิยะ พี่คิ้มกับพี่ทินก็เลยเข้าตาจน ต้องเดินเปียกฝนเพราะรางรถไฟฟ้ามันตรงไป แต่พี่คิ้ม พี่ทินต้องเลี้ยวนี่ซิ อีกไม่ถึงร้อยเมตรจะถึงตึกชาญอิสระ พี่ ผมว่าซื้อร่มกันเถอะ พี่ทินหันมานึกถึงร่มอีกครั้ง ทั้งๆที่ควรจะซื้อมาตั้งแต่เริ่มเดิน พี่คิ้มก็เช่งพี่ทินไปหนึ่งดอก โทษฐานพา ยี่โกวมาลำบาก เพราะไหนจะรองเท้าส้นสูง 4 นิ้วที่ใส่ไป ไหนถนนจะลื่น พี่เกาะแขนผม ความปรารถนาดีของพี่ทินตอนเห็นพี่คิ้มต้องเดินกระย่องกระแย่ง พี่คิ้มบอกว่า เหมือนเป็นคนแก่เดินงกๆเงิ้นๆยังไงยังงั้น ตอนท้ายเสร็จธุระส่วนตัว เจอพี่ปริ๊นที่พกร่มมาเพียงอันเดียว 3 คนใต้ร่มคันน้อย สรุปสามคนก็เปียกกันหมด จากนั้นทั้งหมดก็โดดขึ้นรถตุ๊กตุ๊ก ในราคา 30 บาท พี่ทินบอกว่าตุ๊กตุ๊กยังไม่ทันตกลง 3 คนก็ขึ้นไปนั่งหน้านิ่งๆเรียบร้อย
จบข่าว สั้นช่วงที่ 1
|
กลับเข้ามาที่รายการคืนนี้วันนั้นกันต่อ บนเวทีมีพี่ผัดไท นิลุบล แขกรับเชิญพิเศษเข้ามาเพิ่มสีสรร ยิ่งทำให้การสนทนาออกรสออกชาติยิ่งขึ้นเพราะพี่ผัดก็เป็นหนึ่งในสาวกซีรีย์เกาหลีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการทดสอบว่าพี่จิ๊กเป็นสาวกตัวจริงหรือไม่ด้วยการเอา รูป Di-cut บรรดาดาราเกาหลีมาให้พี่จิ๊กทายชื่อ ทายถูกมั่งไม่ถูกมั่ง ทำเอาสองพิธีกรเริ่มไม่แน่ใจความเป็นสาวกของพี่จิ๊กซะแล้ว
ตัดเข้า Kim Hot News กันอีกครั้ง | ช้างเอ่ยปากถามพี่ทินถึงเรื่องที่บินไปหัวหิน ในตอนแรกพี่ทินไม่ยอมบอกว่าไปทำไม ช้างก็ไม่ลดละความพยายาม ช้าง : พี่ทินอย่าเล่นตัวซิ นี่ยังไม่เคลียร์กรณีพี่คิ้มแกะปูให้กินเลยนะ FC จับกลุ่มคุยว่าพี่จะจีบพี่คิ้มป่าวเนี่ย พี่ทิน: โอ๊ย ไม่กล้าจีบหรอก เอ่อ คม ชัด ลึก ออกแล้วหรอ ไม่เห็นใครบอกพี่เลยอ่ะ เห็นสกู๊ปรึยัง รูปสวยมั๊ย เท่าที่ช้างคาดคะเนว่าพี่ทินคงเข้าใจผิด ในที่สุดช้างก็รู้จนได้ว่าไปหัวหินทำไม....จบข่าวสั้น ช่วงที่2 | |
มายังไงกันเนี่ยเด็กๆ ขับรถมาป่ะ พี่คิ้มยืนถามอยู่บนเวที มารถแท็กซี่คะ โอ๊ย รวยกันจริงๆนะ พี่คิ้มก้าวเท้าลงจากเวทีมายืนคุยข้างๆ
พี่คิ้ม : นี่ๆ พี่ไปตัดผมมาแหล่ะ
ช้าง : ได้ข่าวว่าพี่ทินพาไปเปียกฝนด้วยนินา
พี่คิ้ม : เออ ทินมันเอ๋อๆน่ะ
ช้าง : พี่ไก่ตัดสั้นเลยหรอ
พี่คิ้มไม่ตอบอะไร แต่หมุนตัวให้ดูแทน แล้วก็พบกับเฉลย ว่าผมข้างหน้าที่สั้นเพราะตัดมาจริงๆ แต่ผมข้างหลังถูกม้วนเอาไว้
อ่านต่อตอนสองนะคะ
ร้อยเรียงเรื่องราว โดย ช้างน้อย นำเสนอ โดย บูเก้ Apple & Bouquet Productions... |
อยากเจอป้าจะแย่อยู่แว้ว
ป้าทำผมทรงนี้แร้วดูเด็กขึ้นเรยนะเนี่ย
เหนตอนแรกปลาก้อตกใจนึกว่าป้าตัดผมสั้นซ้าอีก อิอิ
คิดถึงป้าแระก้อพี่ๆทุกคนมากเรยนะค่ะ
อยากเจอจังค่ะ
หวังว่าอีกม่ายนานคงเจอกานนะค่ะ