Bloggang.com : whitebouquet : J.Kim Mania บุกวังดอกท้อ ตอน สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ...

J.Kim Mania บุกวังดอกท้อ ตอน สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ...


	เก้งปากอ่าว : ใครว่ะ เจนนิเฟอร์ คิ้ม เก้งหน้ากิมจิ : เอ้า อีนี่นิ ก็คนที่ร้อง “ ตะวันลับฟ้าเมื่อตอนเย็นๆ...” ไงละมรึง ช้างกับเก้แอบมองหน้า ตอนเก้งสองนางคุยกันในร้าน KFC ที่มานั่งโต๊ะติดกันโดยบังเอิญ ช้างกับเก้ได้แต่อึกอัก นั่งฟังเก้งเถียงกันเรื่อง พี่คิ้ม เก้งปากอ่าว : หน้าตาเป็นยังไงว้า เจนนิเฟอร์ คิ้ม เนี่ย เก้งหน้ากิมจิ : กรูก็ไม่แน่ใจว่ะ ( อ้าว เมื่อกี้พึ่งจะร้องเพลงเค้าไปนะเฟ้ย ) เก้งปากอ่าว : นั่นรึเปล่าว่ะ เจนนิเฟอร์ คิ้ม นางชี้มือไปที่ป้าแก่ๆอ้วนๆคนนึงที่ยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์ ซึ่งช้างกับเก้เหลียวตามที่นางชี้ เก้งหน้ากิมจิ : กรูว่าไม่ใช่ว่ะ เอ่อ กรูก็ว่ามันไม่ใช่หรอก ช้างแอบบอกสองนางในใจ แหม วุ้ย คันไม้คันมืออยากจะเอาหน้าพี่คิ้มให้ดูเหลือเกิน นี่โว้ย ป้ากรูหน้าตาอย่างงี้ แต่คิดแล้วว่าถ้ามีอะไรขึ้นมาช้างคงไม่อาจสู้แรงสองเก้งได้ เลยได้แต่นั่งเฉยก้มหน้าเล่นเกมส์ต่อไป ช่วงเที่ยงของวันจันทร์ พี่แอน ช้าง เก้และหมอ มาสุ่มหัวกันที่เซ็ลทรัล ลาดพร้าว ตามข่าวที่พี่ขวัญส่งมาให้ว่าวันนี้พี่คิ้มมาเป็นพิธีกรในงาน พรีวิว 50 หนุ่มโสดในฝันของนิตยสาร คลีโอ อีกไม่นานบนเวทีเล็กจะมีหนุ่มโสดมายืนโชว์ตัวให้พี่คิ้มล่วงละเมิดทางเพศผ่านทางสายตา และวาจาที่แทะโลม วันนี้เป็นวันนึงที่พวกเราพยายามรวมตัวกันให้ครบ โดยพี่แอน โทรเทียวไล้เทียวขื่อพี่แก้ว “อยู่ไหนแล้วคะพี่ แอนกับน้องๆมาถึงแล้วนะ รีบตามมานะคะ” ส่วนช้างก็ส่ง sms จิกพี่ขวัญตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนเจ้าปาล์มไม่ต้องมีใครโทรหามัน เดี๋ยวมันก็โทรมาจิกเองหล่ะ “ พี่เปิ้ล ป้ามากี่โมง เดี๋ยว 2 โมงครึ่ง หนูตามไปนะ ” นั่นง่ะ เห็นมั๊ย โทรมาจริงๆด้วย เอาล่ะเราทราบกันคร่าวๆแล้วว่าแต่ละคนทำอะไรกันอยู่บ้าง ตอนนี้เราคงต้องรอเวลาเลิกเรียน เลิกงานกันสักหน่อย ส่วนบนเวที หญิง สุกัญญา ไรวินท์ ที่ใครๆว่าป้าเป็นอาหงั่วม่า ก็มาเอ็นเตอร์เทนผู้ร่วมงานไปพลางๆ พร้อมกับบอกสิ่งที่พวกเราสะท้านจิต “วันนี้ 4 โมงเย็นจะได้พบกับหนุ่มโสด 50 คนกับพิธีกรฝีปากกล้า พี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม” แล่วๆ มานั่งตั้งแต่เที่ยง พี่คิ้มดั๊นขึ้น 4 โมงเย็น ให้มันได้อย่างนี้ซิ อืม... “หนู เดี๋ยวพี่กลับไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยว 4โมงครึ่งเจอกัน ” พี่แอนรีบชิงกลับไปทำงาน หลังจากหลงเชื่อว่าพี่คิ้มมาเที่ยง ข้าราชการไทยจงเจริญ เย้ !! พี่แอนไปแล้วเหลือช้าง เก้ และหมอ เอาไว้ให้เดียวดาย ( อู้ย เพ้อ ) ตัดตอนมาที่เวลาเลิกเรียนของเด็กๆ บรรยากาศเริ่มคึกคัก หนูๆน้องๆในชุด นักเรียน นิสิต นักศึกษา เดินกันให้ว่อน ดูแล้วลายตามึนหัว ช้าง เก้ และหมอก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ โดยไม่ทันได้สังเกตุวัตถุดำๆที่เดินผ่านไป “ นิ!! ถ้าจะไม่มีใครเห็นหนูกันสักคนก็ได้อีกนะ ” ปาล์มที่พึ่งมาถึงก็เริ่มเหวี่ยง ก่อนที่จะลากหมอไปเดินข้างล่าง ใกล้ถึงเวลาเริ่มงาน หนุ่มๆทั้งหมดมารวมตัวกัน โดยมีพี่ตือ เป็นแม่งานคุมเข้มนำหนุ่มๆออกมาจัดคิว คนเดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มมุงแน่นขึ้นเรื่อยๆ ช้างกับเก้ก็เดินไปหามุมดีๆบ้างดีกว่า ในที่สุดก็มายืนแฝงตัวข้างเวที 4 โมงกว่างานจึงเริ่ม แท่น แท้น แท๊น เปิดตัวพิธีกรสาวเสียงสวยของเรา พี่คิ้มมากับชุดเดรสลำลองสบายๆที่ช้างคุ้นชิน เพราะเคยเห็นที่ร้าน snop มาแล้ว “ขอต้อนรับทุกท่าน เข้าสู่งาน พรีวิว 50 หนุ่มโสดคลีโอคะ ” พี่คิ้มกล่าวเพื่อเริ่มงาน ตามคิวแล้ว หลังจากกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้แล้ว ก็จะเชิญหนุ่มๆขึ้นมาโชว์ตัวบนเวที สำหรับงานๆนี้เป็นการจับงานยากอีกงานนึงของพี่คิ้ม ด้วยการเป็นพิธีกรในรายการคืนนี้ วันนั้น เพียงไม่นาน จับงานเปิดตัวหนังสือมีคนเศร้ากว่าเราตั้งเยอะ ของคลื่น กรีนเวฟ ที่พี่คิ้มมีเป็นประสบการณ์มาบ้าง แต่ถ้าจะเทียบกันแล้ว งานนี้ก็ท้าทายไม่น้อย เพราะสองงานที่กล่าวมาข้างต้น พี่คิ้มยังมีตัวช่วยในรายการคืนนี้ วันนั้นเป็นพี่ทิน มีพี่อ้อย นภาพร เป็นตัวช่วยในงานเปิดหนังสือ แต่งานนี้พี่คิ้มต้องฉายเดี่ยว ประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาสอนพี่คิ้มได้แค่บางส่วน อีกหลายๆส่วนพี่คิ้มคงต้องใช้ไหวพริบ แก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า และยังต้องสร้างความพออกพอใจให้กับลูกค้าที่นั่งหน้าเข้ม คิ้วขมวดอยู่ด้านหน้าอีกด้วย “ ขอเชิญ หนุ่มๆชุดแรกขึ้นมาบนเวทีได้เลยคะ ” สิ้นเสียงพี่คิ้ม หนุ่มๆก็ทยอยขึ้นโชว์ความแมนบนเวทีโดยมีพี่คิ้มแทะโลม อืม สัมภาษณ์ ข้างล่างก็มีกองเชียร์ หน้าม้า ของเหล่าหนุ่มหล่อมากรี๊ดกร๊าด ช้างหันไปดู โถ่แม่คุณของพี่ ยังอยู่ในชุดนักเรียน ม.ปลายกันอยู่เลย อ่อนหัดจริงๆ พ่อแม่รู้มั๊ยว่าเลิกเรียนก็มากรี๊ดผู้ชาย “ พี่แทน !! ” น้องหนูยังมุ่งมั่น กับหนึงในหนุ่มที่เข้าประกวด แถมยังหลอกตากล้องสาวฝรั่งตาน้ำข้าวมาถ่ายรูปให้อีกแน่ะ ยังไม่พอน้องหนูยังพ่นภาษาอังกฤษข้ามหัวช้างไปข้ามหัวช้างมา ท่ามกลางสงครามน้ำลาย อากาศก็ร้อนทั้งๆที่จัดในห้างแท้ๆ ช้างเริ่มฟาดงวงฟาดงา บนเวทีพี่คิ้มไล่สัมภาษณ์หนุ่มๆทีละคน ไล่ต้อนด้วยคำถามซะหนุ่มๆจนมุม บางรายที่ร่างกายบึกบึน วงแขนเป็นกล้ามปู พี่คิ้มถึงกับระทวย ในใจคงอยากร้องเพลง “ วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ อุ้ย !! น่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ น่ากระซิกเบียดกายกระแซะ แล้ววางมือแหมะ ไว้ตรงหัวเข่า อยากกระซิบเบาๆว่าตอนนี้เหงาใจจังเลย...อือหือ หล่อจัง..” ฮอร์โมนเพศถูกกระตุ้นให้พุ่งพล่านก็เมื่อตอนที่พี่คิ้มท้าทายให้หนุ่มก้ามปูถอดเสื้อโชว์ biceps “ take it off take it off hey..yeah !” พี่คิ้มส่งเสียงเร่งเร้าให้บรรยากาศร้อนฉ่ายิ่งขึ้น คิวงานจะเป็นการสัมภาษณ์หนุ่มๆ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ช่วง สลับกับการเล่นเกมส์ แจกของรางวัล ผู้ร่วมชมงานที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ไม่ค่อยมี feedback กลับมาเท่าไหร่ พี่คิ้มเลยต้องงัดกลเม็ดเด็ดพรายเอามาทำให้เจ้าของงานที่เริ่มหน้าเครียด สนุก แต่ก็ไม่วายที่จะทำให้พี่คิ้มแอบเหวี่ยงหน่อยๆ แต่มันก็ผ่านไปได้ แม้บางเหตุการณ์จะทำให้พี่คิ้มกระอักกระอ่วน หลังจากหนุ่มๆชุดแรกลงไป 3 หนุ่มวง Squeeze Animal ก็มาโชว์ 2 เพลง “ พี่คิ้ม ช่วยพูดถ่วงเวลาหน่อยนะคะ จนกว่าวงจะเซ็ตเสร็จ ” ทีมงานมากระซิบ “ เอ่อ ต้องรอหน่อยนึงนะคะ พอดีผู้ชายยังไม่เสร็จ ...ยังเซ็ตเครื่องดนตรีไม่เสร็จ ”พี่คิ้มกระเซ้า แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่นานพอดู นานพอที่พี่คิ้มจะหมดมุข จนแล้วจนรอด “ รอนานๆแบบนี้ร้องเพลงให้ฟังดีมั๊ย ” พี่คิ้มเสนอ ประกอบกับข้างเวทีส่งเสียงว่าอยากฟัง “ น่าเสียดาย ไม่มีแบ็คกิ้งแทร็ค” พี่คิ้มบ่นเสียดาย ช้างหันไปประสานสายตากับเก้ “เอามั๊ย หนูมีสำรองในกระเป๋า ” ช้างกับเก้ประสานเสียงกัน ขอให้บอกเถอะ เพลงอะไรมีหมด เป็น FC ที่ดีต้องคอยเป็นกองหนุนด้วย ช่วงนี้พี่คิ้มก็มาพักข้างเวทีตรงที่ช้างยืนอยู่ พี่คิ้มมานั่งตรงบันไดทบทวน อ่าน Script “ ขอโทษคะ...” เสียงขอแหวกทางดังมาจากด้านหลัง ในขณะที่ช้างกำลังจะหันไปมอง พี่ข้าวตูก็แหวกคนดูมาถึงตัวพอดี “ ป้าอยู่ไหน ” พี่ข้าวตูถามหาพี่คิ้ม “ นั่งอยู่นี่ ” ช้างชี้มือ พี่ข้าวตูมาเติมแป้ง ทาลิปสติก เพิ่มให้พี่คิ้ม ก่อนจะแหวกวงเดินกลับไป พอจบโชว์จาก 3 หนุ่ม Squeeze Animal พี่คิ้มก็ก้าวขึ้นไปประจำที่ เชิญหนุ่มๆกลุ่มที่เหลือขึ้นมาสวาปาม เอ้ย สัมภาษณ์ต่อ เมื่อเริ่มไล่ถามทีละคนจนถึงกระทาชายนายนึงที่หุ่นล่ำบั๊กทีเดียว “ โอ้โห ล่ำได้อีกนะ มองเผินๆนึกว่าเป็นนักยกน้ำหนัก ” พอชายหนุ่มนายนั้นบอกคุณประโยชน์และสรรพคุณ ที่ถึงพร้อมไปด้วยการศึกษาจากเหล่าทัพและเป็นถึงทหารเรือสหรัฐ ก่อนจะกลับมาเป็นบอดี้การ์ดให้กับผู้บริหารปูนซีเมนต์ไทย ขาดอย่างเดียวหน้าตาออกแนวลุงไปซักหน่อย อายุอานามแค่ 30 หน้าทรยศอายุจริงๆ “ ถอดเสื้อโชว์กล้ามดีกว่า” พี่คิ้มส่งเสียงเชียร์ให้ถอดเสื้อ พอกระทาชายนายนี้ถอดปั๊บ ไม่หนำใจเจ๊ “ นี่คุณกล้าเขวี้ยงเสื้อให้คนดูมั๊ย ” พี่คิ้มท้าทาย หนุ่มคนนั้นอึกอักนิดหน่อย ก่อนจะตัดสินใจเขวี้ยงเสื้อออกไปยังกลุ่มคนดู เหลือคำท้าสุดท้ายที่จะทำให้เจ๊บรรลุเป้าหมาย “ ตั้งแต่เกิดมาดิฉันยังไม่เคยโดนผู้ชายคนไหนอุ้ม ยกเว้นเตี่ยดิฉันที่อุ้มตอนดิฉันเกิด” พี่คิ้มเท้าความ “ ไหนลองอุ้มดิฉันซิ จะไหวมั๊ย ” ตบมุขเรียกเสียงเฮจากคนดู ชายหนุ่มสำรวจน้ำหนักที่ยืนอยู่ตรงหน้าทันที ครุ่นคิดอยู่ครู่นึงก่อนจะตัดสินใจรับคำท้า (อย่างเลี่ยงไม่ได้) เชื่อมั๊ยว่าในที่นั้น ตรงนั้น ไม่มีใครคิดหรอกว่าพี่คิ้มจะกล้า แต่เมื่อพูดแบบนั้นออกไปแล้ว ชายหนุ่มรับคำท้าแล้ว พี่คิ้มก็ต้องเดินเกมส์รุกต่อไป พอพี่คิ้มจัดระเบียบร่างกายตัวเองพร้อม ก็หันไปวึ่นวือใส่กลุ่มคนดูแก้เขิน “ อ่ะ คุณถนัดทางไหน ” พี่คิ้มถามความมั่นใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่หนุ่มนายนั้นจะอุ้มพี่คิ้มจนตัวลอย คนดู กรี๊ดกันใหญ่ (รวมถึงช้าง) ช่างภาพรัวชัตเตอร์กันพรึบพรับ เชื่อว่าได้ลงหนังสือ Gossip ดาราสักเล่มแน่ๆ แต่ตัวแม่อย่างพี่คิ้มจะมานอนนิ่งไม่ไหวติงก็ใช่ที่ เคยเห็นโฆษณาแชมพูมั๊ย ตอนสระผมเสร็จต้องมีสะบัดบ๊อบโชว์ อ่ะน่านหล่ะ พี่คิ้มเนียนสะบัดบ๊อบ อู้ลันล้า... อย่าพึ่งตื่นเต้นกับท่าสวยๆของพี่คิ้ม ไปดูหนุ่มนายนั้นกันก่อนดีกว่า “ อู้ยๆมีมือสั่นนะ ” แรงสั่นสะเทือน ทำให้พี่คิ้มถึงกับออกปาก พร้อมกับการทิ้งตัวกลับสู่พื้น หนุ่มคนนั้นจะได้คะแนนโหวตรึเปล่า อันนี้ช้างไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นคะแนนพิศวาสส่วนตัวจากพี่คิ้ม งานนี้รับไปเต็มๆ ไม่ว่าผู้หญิงจะกล้าแกร่ง ปากเก่ง เสียงดัง โวยวายแค่ไหน สุดท้ายมันก็ผู้หญิงอยู่วันยันค่ำ เจอแบบนี้เข้าไปเป็นใครก็ระทวยได้เหมือนกัน ไม่เฉพาะแต่พี่คิ้มหรอก เชื่อซิ พอจบสิ่งมหัศจรรย์ของโลกไปแล้ว พี่คิ้มก็กลับมาสัมภาษณ์หนุ่มๆที่เหลือด้านบน “ ไหน คุณ 3 คนถอดเสื้อออกซิ” พี่คิ้มแสร้งให้ 3 หนุ่มหุ่นใกล้เคียงกันถอดเสื้อออก แต่คงไม่สาแก่ใจ “ เอายังงี้ดีกว่า ทุกคนที่ยืนบนเวที ถอดเสื้อให้หมดเลย ” งานนี้มีฮือฮา หนุ่มๆทั้งหมดจำต้องถอดแต่โดยดี แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับ 1 ในผู้เข้าประกวด ที่จัดอยู่ในกลุ่มอายุน้อยที่สุด และเป็นอดีตนักร้องวง G-JR ถูกผู้จัดการส่วนตัวดึงแขนลากลงจากเวที อันเนื่องจากไม่พอใจที่ให้เด็กในสังกัดมายืนถอดเสื้อต่อฐาระกำนัล เล่นเอาผู้จัดงาน งง กันเป็นแถบๆ แต่งานก็ต้องดำเนินต่อไป พอไถ่ถามเสร็จ ก็สลับเป็นโชว์จากนักร้องดูโอ โฟร์-มด พี่คิ้มลงจากเวทีมายืนที่เดิม ช้างก็พลั้งปากเล่าให้พี่คิ้มฟัง (ปากหมาจริงๆ ช้างเนี่ย) พี่คิ้มตอบมาสั้นๆได้ใจความว่า “เดี๋ยวอีกหน่อย ก็ต้องถอดอยู่ดี ” อืม...จัดไป หันมาอีกที ยัยฝรั่งที่มาเชียร์ผู้เข้าประกวด ก็พ่นภาษาอังกฤษถามว่าช้างมาเชียร์ใคร แล่วๆ ช้างก็พ่นกลับไปที่แปลเป็นไทยได้ความว่า “ ยู เห็นไหม คนที่นั่งอยู่เนี่ย (พี่คิ้ม) เป็นคนที่ไอมาเชียร์ ” ฝรั่งทำหน้าแปลกใจ “ ยูรู้จักมั๊ย” ช้างถามฝรั่งกลับ “ ไอ รู้จัก she เป็น singer ใช่ไหม ” ฝรั่งตอบเล่นเอาช้างอึ้ง เพราะย้อนกลับไปนึกถึงนังสองเก้งที่เจอเมื่อขามา แมร่งเป็นคนไทยแท้ๆ เสือกไม่รู้จักป้ากรูซะได้ “ แล้วยูรู้ไหม she ชื่ออะไร” ช้างลองใจฝรั่ง “เยส เยส ไอ รู้ she ชื่อ เจนนิเฟอร์ คิ้ม” โอ้ย ช้างอยากจะกรี๊ด...ปลาบปลื้ม พ่นภาษาใส่กันเสร็จ ฝรั่งก็ขอให้ช้างถ่ายรูปคู่ระหว่างเธอกับพี่คิ้ม อู้ย ป้านี่ ดังในแถบสแกดิเนเวีย ก็ไม่บอก International จริงๆเชียว สองสาว โฟร์-มด ร้องเพลงโชว์จบแล้ว พี่คิ้มกลับไปบนเวทีอีกครั้ง ปิดท้ายกันด้วยการขึ้นมาโชว์ตัวบนเวทีของหนุ่มๆทั้งหมด เพื่อให้สื่อมวลชนเก็บภาพความประทับใจ เป็นอันจบงาน ช้างกับเก้เดินไปรวมกลุ่มกับสมาชิกที่เหลือ ซึ่งตอนนี้มีพี่แก้ว พี่ขวัญมาสมทบแล้ว หลายครั้งมีคนสงสัยว่าการใช้ชีวิตแบบไหนที่จะทำให้เป็นที่ยอมรับ เมื่อไม่นานมานี้ช้างพึ่งสอนน้องที่รู้จักคนนึงว่า (หน้าตาไม่น่าสอนใครได้เล๊ย ) คนเราทุกคนมีรูปแบบการใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง เราทุกคนเกิดมาเพื่อแปลกและแตกต่างจากคนอื่นๆ เรามีเวลาคนนิดคนละหน่อยที่จะใช้ชีวิตบนโลกสีตุ่นๆใบนี้ หากเรามัวเสียเวลาอยู่กับการคิดมากเรื่องของคนอื่น เราจะเสียสิ่งที่เรียกว่า “ความสุข” ไปโดยปริยาย เพราะช้างเชื่อว่าใครๆก็อยากมีกันทั้งนั้นหล่ะ ไอ้ความสุข เนี่ย แต่ก็นั่นอีกแหล่ะ “ ความสุข” ของใครก็ของมัน แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน บางคนแค่ได้กินอาหารกับคนที่ชอบก็มีความสุขได้ บางคนเห็นใบไม้ปลิวก็มีความสุขกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ส่วนบางคนอาจมีความสุขอยู่กับโลกที่เคว้งคว้าง และการได้อยู่นิ่งๆสงบๆกับหนังสือที่โปรดปรานเค้าก็เรียกมันว่าความสุขได้ อยู่ที่เราจะจับเอามุมไหนของความสุขมาใส่เอาไว้ในชิวิต เมื่อ 3ใน4 ส่วนของชีวิต เราหมดไปกับการทำงานเลี้ยงชีพให้อยู่รอด ส่วนที่เหลือเรามีเอาไว้ใช้สอยอย่างฟุ่มเฟือยตามใจอยาก แล้วเราอาจไม่จำเป็นต้องมีความสุขกับทุกๆวัน บางวันเราอาจทุกข์ เหงา เศร้า หรือเสียใจ มีน้ำตา ก็ย่อมได้ เพราะเรายังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาๆคนนึงนั่นเอง คราวนี้ “ความสุข” ของ J.Kim Mania ถูกสะกดไว้ด้วยตัวเลข 2238 ทุกนาทีที่มองตา ทุกเวลาที่ได้ใกล้ ทุกลมหายใจที่ได้กอด อยากบอกเหลือเกินว่า เจนนิเฟอร์ คิ้ม ฉันรักเธอ.. ป.ล. สุดท้ายพี่คิ้มก็บัวแล้งน้ำกันไป หนุ่มๆกลับกันหมดเลย แต่มาให้สดชื่นชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดีกว่าเปลี่ยว เอ้ย เหี่ยวอยู่คนเดียว อืม... ร้อยเรียงเรื่องราว โดย ช้างน้อย นำเสนอ โดย บูเก้ Apple & Bouquet Productions...

Create Date : 13 กันยายน 2551

Last Update : 13 กันยายน 2551 0:38:34 น.

4 comments

Counter : 796 Pageviews.

โดย: ความสุขเล็กๆ

วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:6:46:38 น.

“ ความสุข” ของใครก็ของมัน แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน บางคนแค่ได้กินอาหารกับคนที่ชอบก็มีความสุขได้ บางคนเห็นใบไม้ปลิวก็มีความสุขกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้

"..ส่วนบางคนอาจมีความสุขอยู่กับโลกที่เคว้งคว้าง.."

ชอบประโยคนี้จัง..ช้าง

โดย: Bell IP: 115.128.6.39 วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:10:25:14 น.

“ความสุข” ของ J.Kim Mania ถูกสะกดไว้ด้วยตัวเลข 2238 ทุกนาทีที่มองตา ทุกเวลาที่ได้ใกล้ ทุกลมหายใจที่ได้กอด อยากบอกเหลือเกินว่า เจนนิเฟอร์ คิ้ม ฉันรักเธอ..

ชอบประโยคอันนี้จัง....อยากกอดป้าจังเลย
แล้วรหัส 2238 มันคืออะไรอ่ะช้าง พี่งง !

โดย: P'Ann Ja IP: 125.25.39.177 วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:17:56:49 น.

ความสุขของJ.KimMania ชอบคำเนี้ยอ่าค้าบบ บ

โดย: น้องกัลย์ค้าบบ บ IP: 117.47.149.198 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:18:17:50 น.