อัดต่อช่วงเบรกที่ 3 จับประเด็นคุยกันเรื่องความรักของพี่จิ๊ก กับคุณ ส. อ่ะ..อ่ะ ไม่ใช่เฮีย ส. นะ พอพี่ทินได้ยินชื่อนี้ก็เลยแซวพี่คิ้ม “คนละ ส. ครับคุณคิ้ม ผมเห็นคุณคิ้มพูดถึงคุณ ส.คนนั้นตลอดเลย” แซวซะพี่คิ้มเขินหน้าแดงเลย

เอาล่ะพี่คิ้มต้องไปเปลี่ยนชุด หายไปพักนึง ออกมาอีกทีพร้อมกับแปลงร่างเป็นสาวดอย กับพี่ทิน ที่เป็นหนุ่มเก็บชา

ออกมาถึงพี่ทินก็คึกเต้นเหยงๆไปรอบเวที ส่วนพี่คิ้มก็ซ้อมเพลง เกาซันชิง หรือ อารีซัน เพลงดังสมัย 30 ปีที่แล้วเห็นจะได้ ท่อนแร็ปก็ได้พี่ทินนี่หล่ะมาเป็นลูกคู่ โชคดีที่อาป๊าสอนพี่ทินร้องมาตั้งแต่เด็กๆ พี่ทินเลยร้องได้คล่องปาก

เริ่มอัดเบรกนี้เป็นช่วงเปิดรายการ พอพี่คิ้มร้องเพลง พี่จิ๊ก พร้อมแดนซ์เซอร์เต้นๆ ดนตรีเบาลง พี่ทินพูดเข้ารายการ

เป็นอันเสร็จสิ้นการอัดรายการวันนี้ พี่คิ้มถอดหัว.......อืม.ไม่ซิ ถอดหมวกที่ใส่มาตั้งแต่ต้นที่โคตรหนักออกเป็นอย่างแรก

เด็กนักศึกษากรูเข้ามารุมถ่ายรูป J.Kim Mania ทั้ง 3 ก็เอาของเข้าไปให้ มีทั้ง ขอนแก่น OTOP แหนมเนือง ,หมูยอ,ข้าวแช่สุขุมวิท,ขนมกุฎีจีน  นอกนั้นขนมหวานๆที่เด็กดำฝากมาตั้งแต่ต้น ส่งทั้งหมดไปให้พี่คิ้ม พอรับเท่านั้นหล่ะ ถึงกับร้อง โอ้วววว.....

น่าจะถูกใจนะ เห็นอย่างนี้ก็คุ้มแล้วล่ะที่ปูนอุตส่าห์หอบหิ้วมาตั้งไกล จริงๆแล้วไม่ได้เจตนาเอาขนมมาบังหน้า เพื่อให้อะไรๆมันง่ายขึ้น ขอหยิบคำพูดพี่แก้วมาพูดซะหน่อย “พอเวลาเรากินอะไร เราก็อยากให้คนที่รักกินอย่างนั้น” และพวกเราไม่ได้รู้สึกว่าพี่คิ้มเป็นคนอื่นคนไกล ถึงแม้ว่าพี่คิ้มจะบ่นๆๆๆเรื่องซื้อของให้ก็เถอะ

พี่คิ้ม :      กลับกันยังไง

ช้าง :        เดี๋ยวเดินออกไปคะ

พี่คิ้ม :      ไม่ต้องเลยเดี๋ยวติดรถพี่ไป เดี๋ยวพี่ไปส่ง , ไปเปิ้ล พาเข้าไปข้างใน

3 J.Kim Mania เดินตามพี่คิ้มเข้าไปข้างในต้อยๆ ยืนรอหน้าห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวไม่ช้าไม่นาน พี่ข้าวตูเดินออกมา

“เด็กๆ มาช่วยพี่หน่อยเร็ว...ถือโอกาสใช้เลย” เดินเข้าไปในห้อง หยิบข้าวของทั้งหมดของพี่คิ้ม มีทั้งชุดเดสสีม่วงเข้ม กล่องรองเท้า / กรอบรูป และของๆพวกเรา เอาไปใส่ท้ายรถ

เดินออกไปคั่วพี่ยาม เอ้ย..ไปแลกบัตร “รอแป๊บนึงนะเด็กๆ” เสียงพี่คิ้มตะโกนไล่หลังมาแต่ไกล อึดใจเดียวรถก็มาเสยหน้า อืม..เกยอยู่ต่อหน้าพวกเรา โดยมีพี่คิ้มเป็นสารถี ถือว่าเป็นเกียรติสุดๆสำหรับชีวิตการเป็นแฟนคลับเลยทีเดียว

สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นบนรถแน่นอนว่า อาการเกร็ง ย่อมมาเป็นอันดับแรก พี่คิ้ม พี่ข้าวตูเลยทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงด้วยการชวนคุยไปตลอดทาง แล้วสิ่งที่สะท้อนออกมาจากบทสนทนา นั้นสื่อให้เห็นความคิด ความอ่านของพี่คิ้ม ที่พวกเราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน บางเรื่องที่น่าจะกระทบใจพี่คิ้ม พอเอาเข้าจริงกลับเป็นคนรอบข้างพี่คิ้มที่เสียหลัก และกลับกลายเป็นพี่คิ้มเองที่เรื่องใดๆก็ไม่อาจเจาะเข้าไปทำร้ายจิตใจพี่คิ้มได้

พี่คิ้ม : คนอย่างพี่สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกจะตาย เรื่องโดนด่าในเน็ตอ่ะ ธรรมดามากๆสำหรับพี่

บางเรื่องที่คุยกันอาจจะไม่ใช่แค่การถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไปแต่หมายถึงการเอาใจใส่ความเป็นไป ของคนคุ้ยเคย

พี่คิ้ม : พี่แก้วสบายดีมั๊ย งานการเป็นยังไงบ้าง / ปาล์มเป็นยังไงบ้าง จะเรียนอะไร / น้องคนที่เข้ามาใหม่(พลอย)ทำอะไร เจอหญิงคราวที่แล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ บอกน้องๆนะว่าไม่ต้องกลัวพี่ หรือทันทีที่รู้ว่าปูนมาจาก ขอนแก่นและต้องกลับขอนแก่นในวันเดียวกัน พี่คิ้มก็ขับรถจากลาดพร้าว ไปส่งปูนขึ้นรถที่หมอชิตใหม่  ส่งเก้ลงปากซอย ท้ายสุดบึ่งรถเพื่อให้ช้างกลับบ้าน ทันรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้าย

แม้กระทั่งคำสั่งสอนเรื่องการวางตัวในสังคม ที่พี่คิ้มปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้

สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะไม่ใช่คำพูดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในรถ เป็นเพียงเศษเสี้ยวของหลายๆ ความรู้สึก บรรยากาศในรถเลยอบอวลไปด้วยความรู้สึกดีๆที่ยากเกินจะอธิบายความได้หมด เมื่อลงรถช้างรู้ทันทีว่า “ เลือกคนถูกแล้ว ”

ช้างไม่ได้เขียนให้แฟนคลับทุกคนต้องมาอิจฉา และหาโอกาสใกล้ชิดพี่คิ้ม มันไม่ใช่เรื่องของการฉวยโอกาส แต่มันต้องใช้ทั้งเวลาและความจริงใจ สั่งสมรอจนถึงวันอันสมควร  ตั้งแต่วันเริ่มต้นที่ช้างชอบพี่คิ้มมาเวลาผ่านมาเป็น 10 ปี ช้างและ J.Kim Mania หลายคนใช้เวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาในการแสดงความจริงใจ แม้ในวันเริ่มต้นยังคงไม่เห็นปลายทางที่สวยงาม แต่ J.Kim Mania เชื่อเสมอว่า สักวันจะเป็นของเราในที่สุด ตลอดเวลาอยากขอบคุณจากใจ ที่พี่คิ้มได้ให้ประสบการณ์ดีๆและได้รับความรู้สึกของพวกเราทั้งหมด ไปไว้ในมุมใดมุมนึงของหัวใจ แม้ว่ามันจะเป็นแค่มุมเล็กๆก็ตามที แค่นั้นก็มากเกินพอแล้วสำหรับ หัวใจ (จะ) วาย ที่ให้กัน มาตลอด

ท้ายเรื่อง

Kim Gossip

ช้าง :  พี่ไก่ คอนเสิร์ต Devil Divas มีป่าวอ่ะ

พี่คิ้ม:  มีซิ ป่านนี้ขายสปอนเซอร์ได้แล้วมั๊ง

........................                       

ช้าง :  มีคนอ้างใช้ชื่อพี่ใน hi5 ด้วยนะ แต่ปาล์มจัดการให้แล้ว

พี่คิ้ม :  เห็นไปบอกว่า ป้าเล่นคอมไม่เป็นใช่มั๊ย

พี่ข้าวตู :  ดูภูมิใจยังไงไม่รู้เนอะ  ป้าฉันใช้คอมไม่เป็น แต่เอ๊ะ..เหมือนว่าป้าเลย..แต่ก็ไม่เป็นไร

พี่คิ้ม :  เหอะ...เหอะ..

……………..

พี่คิ้ม :  เมื่อวานมีหนังสือดารามาสัมภาษณ์พี่ เค้าถามพี่ว่าที่พี่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ เป็นเพราะพี่มีความพยายามใช่มั๊ย พี่ก็ตอบไปว่าพี่ไม่เคยประสบความสำเร็จ แล้วที่พี่มีทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะพี่อ่อนน้อมถ่อมตน พี่อยากให้น้องๆรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน แล้วโอกาสดีๆก็จะเข้ามาในชีวิต หนังสือที่พี่คิ้มสัมภาษณ์ ถ้าช้างเดาไม่ผิดน่าจะเป็น Gossip Star เล่มเล็กนะ เตรียมหาซื้อก็แล้วกัน

................

ป.ล

จากเปิ้ล : ขอบคุณสำหรับคำติชมและแนะนำดี เกี่ยวงานเขียนของเปิ้ลนะคะพี่ไก่ มันเป็นกำลังใจกองโต ให้เปิ้ลมีกำลังใจเขียนมันต่อไป ดีใจที่สุดที่รู้ว่าพี่โอเคกับสิ่งที่เปิ้ลเขียน ถ้าเป็นอย่างที่พี่ไก่คิดไว้จริงๆเปิ้ลจะเอาไปให้พี่อ่านเป็นคนแรกคะ 

จากเก้ : ขอโทษมิตรรักแฟนเพลงทุกคนด้วยที่ลงช้า โดนทวงยังกะติดหนี้พนันบอล ตั้งแต่เจ้านักเขียนตัวดีไปจนถึงพี่เกือบใหญ่สุดของกลุ่ม ลงแล้วนะจ๊ะ ที่ต้องตัดให้มีสองตอนเพราะว่ามันย๊าว ยาว แล้วก็ที่ช้าเพราะมัวแต่หารูปไมโครโฟนอยู่กว่าจะถูกใจ สุดท้ายขอบคุณพี่คิ้มมาก ๆ นะคะ

ร้อยเรียงเรื่องราว โดย ช้างน้อย นำเสนอ โดย บูเก้
Apple & Bouquet Productions...