หลักกฏหมายเอกชน
ความหมายและลักษณะของกฏหมาย
ระเบียบของสังคม - ศีลธรรม - ศาสนา - จารีตประเพณี
ปรัชญาทางกฏหมาย - แนวคิดธรรมชาติ: Plato, Aristotle, Cirero (มนุษย์สามารถนำเอากฏเกณฑ์ ความเห็นถูกผิดตามธรรมชาติ หรือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมีถูกต้องชอบธรรมมีเหตุผลในจิตใจมนุษย์มาใช้เป็นกฏหมายเพื่อบังคับ หรือควบคุมความประพฤติของมนุษย์ในสังคมให้อยู่ร่วมกันได้) - แนวคิดฝ่ายบ้านเมือง: John Austin (รัฐาธิปัตย์ หรือผู้ปกครองเป็นผู้ที่สามารถใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือข้อบังคับของผู้มีอำนาจในการที่จะปกครองบ้านเมืองและปราบปรามผู้ที่ทำลายความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้) - แนวคิดฝ่ายสังคมนิยม: Carl Marx, Lenin (กฏหมายเป็นปรากฏการณ์ที่มีผลสะท้อนมาจากเศรษฐกิจและบ้านเมือง ไม่ใช่สิ่งจำเป็นตลอดไปแต่จะมีความจำเป็นอยู่ชั่วขณะเพื่อจัดระเบียบและกลไกต่างๆ ของสังคม เป็นเครื่องมือของรัฐที่จะนำมาใช้เพื่อส่วนรวมเป็นใหญ่) - แนวคิดสำนักประวัติศาสตร์: Savigny (กฏหมายเป็นสิ่งที่เกิดจากความรู้สึกทางศีลธรรม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของประชาชาติที่ค่อยๆ วิวัฒนาการไป)
กฏหมาย คือ คำสั่งหรือขอบังคับของรัฐาธิปัตย์ที่ได้บัญญัติขึ้น เพื่อกำหนดความประพฤติของประชาชนที่อยู่ในรัฐหรือประเทศของตน หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ยอมประพฤติปฏิบัติตามก็จะมีความผิดและต้องถูกลงโทษด้วย
ลักษณะของกฏหมาย 1. ต้องเป็นคำสั่งหรือข้อบังคับ 2. มาจากรัฐาธิปัตย์ 3. เป็นข้อบังคับที่ใช้ได้ทั่วไป 4. ต้องใช้ได้เสมอไป 5. ต้องมีสภาพบังคับ (โทษ - ประหารชีวิต, จำคุก, กักขัง, ปรับ, ริบทรัพย์)
กฏหมายเอกชน คือ กฏหมายที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนด้วยกัน กำหนดถึงสิทธิทางแพ่งอันเป็นสิทธิทางกฏหมายที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งใช้ยันกับบุคคลอื่นได้ แบ่งเป็น กฏหมายแพ่ง และ กฏหมายพาณิชย์
ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 - หลักทั่วไป บรรพ 2 - หนี้ บรรพ 3 - เอกเทศสัญญา บรรพ 4 - ทรัพย์สิน บรรพ 5 - ครอบครัว บรรพ 6 - มรดก
การใช้กฏหมาย
[1] ผู้ใช้กฏหมาย 1. ศาลยุติธรรม 2. เจ้าพนักงาน 3. ราษฏร
[2] วันเริ่มใช้กฏหมาย 1. ให้ใช้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (เร่งด่วน) 2. ให้ใช้ตั้งแต่วันถัดไปจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (default) 3. กำหนดเวลาให้ใช้ในอนาคต (เพื่อให้เจ้าพนักงานและประชาชนเตรียมพร้อม) 4. ให้ใช้บังคับย้อนหลัง (ไม่ค่อยใช้)
[3] สถานที่ใช้กฏหมาย 1. ใช้บังคับทั่วราชอาณาจักร (พื้นดิน, ทะเลอ่าวไทย/ทะเลอาณาเขต, พื้นอากาศ, เรือไทย/อากาศยานไทย) 2. ใช้เฉพาะบางท้องที่ (ส่วนท้องถิ่น) 3. ใช้บังคับถึงการกระทำนอกราชอาณาจักร
[4] บุคคลที่กฏหมายบังคับใช้ 1. ข้อยกเว้นตามกฏหมายไทย (พระมหากษัตริย์, สมาชิกรัฐสภาจากการฟ้องร้องในถ้อยแถลงในสภา) 2. ข้อยกเว้นตามกฏหมายอื่นๆ (ประมุขของรัฐต่างประเทศ, ฑูตและบุคคลในคณะฑูต)
[5] การใช้กฏหมายกับข้อเท็จจริง - ทางอาญา (นำบทบัญญัติของกฏหมายอาญา) - ทางแพ่ง (นำบทบัญญัติของกฏหมายแพ่ง)
การตีความกฏหมาย
1. การตีความตามตัวอักษร 2. การตีความตามเจตนารมณ์ - วิเคราะห์ถ้อยคำ - วิเคราะห์จากตำแหน่งหรือหมวดหมู่ของกฏหมาย - วิเคราะห์จากประเภทของกฏหมาย - วิเคราะห์ถึงสถาณการณ์ในขณะที่บัญญัติกฏหมายนั้น
การอุดช่องว่างและการยกเลิกกฏหมาย
การอุดช่องว่าง 1. ถ้าไม่มีบทกฏหมายที่จะยกมาปรับแก่คดีได้ให้วินิจฉันคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น 2. ถ้าไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฏหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง 3. ในกรณีที่ไม่มีบทกฏหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง ก็ให้วินิจฉัยตามหลักกฏหมายทั่วไป
การยกเลิกกฏหมาย 1. โดยตรง 2. โดยปริยาย 3. โดยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ 4. โดยคำพิพากษาของศาล
สิทธิ หน้าที่ และ เสรีภาพตามกฏหมาย
ความหมายของสิทธิ - สิทธิในสถานะของบุคคล - สิทธิในทางหนี้ - สิทธิในทางทรัพย์
การได้มาซึ่งสิทธิ 1. โดยนิติกรรม (เจตนา, ชอบด้วยกฏหมาย, ใจสมัคร, มุ่งตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์, เพื่อให้เกิดการเคลื่อนในสิทธิ) 2. โดยนิติเหตุ (ละเมิด, ลาภมิควรได้, จัดการงานนอกสั่ง) 3. โดยผลของกฏหมาย (โดยการเกิดหรือสถานะของบุคคล, มรดก, ครอบครองปรปักษ์, อาศัยหลักส่วนควบ, การเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย
กฏหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าดวยบุคคล
หมวด 1 บุคคลธรรมดา
สภาพบุคคล
การเริ่มสภาพบุคคล - การคลอดแล้ว - การอยู่รอดเป็นทารก
สิทธิของทารกในครรภ์มารดา* - สิทธิในการรับมรดก - สิทธิในครอบครัว
*Note: ทารกในครรภ์มารดาก็สามารถมีสิทธิต่างๆ ได้ หากว่าภายหลังคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารก
วันเกิดของบุคคล - ทางแพ่ง (ใช้สิทธิทางกฏหมายได้เมื่ออายุ 20 หรือทำการสมรสเมื่ออายุ 17 ปีบริบูรณ์; ผู้เยาว์ทำพินัยกรรมได้เมื่ออายุ 15 ปีบริบูรณ์; บุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีจะรับบุตรบุญธรรมมิได้) - ทางอาญา (เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีทำผิดไม่ต้องรับโทษ; 7-14 ไม่ต้องรับโทษแต่ศาลมีอำนาจดำเนินการส่งไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกอบรม; 14-17 ปีให้ศาลพิจารณาแล้ววินิจฉัยถ้าไม่ผิดลงโทษตามมาตรา 74 ถ้าผิดลดความผิดลงกึ่งหนึ่งตามมาตรา 75; 17-20 ปีลงโทษโดยลดโทษหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งได้ตามมาตรา 76)
การนับอายุของบุคคล - ให้เริ่มแต่วันเกิด - ถ้าไม่รู้วันเกิดแต่รู้เดือน ให้นับตั้งแต่วันที่ 1 - ถ้าไม่รู้เดือน แต่รู้ปี ให้นับตั้งแต่วันต้นปีปฏิทิน
การสิ้นสภาพบุคคล - สิ้นสุดลงเมื่อตาย (โดยธรรมชาติ หรือ ตามกฏหมาย/สาบสูญ)
ระยะเวลาที่ถือว่าผู้ไม่อยู่ถึงแก่ความตาย - ไปจากภูมิลำเนาและไม่มีใครรู้แน่เป็นเวลา 5 ปี (หรือ 2 ปีในกรณีพิเศษ) - ผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการร้องขอต่อศาลให้บุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญ - ศาลได้มีคำสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญ
สิทธิประกอบสภาพบุคคล 1. สัญชาติ (ดินแดน/สายโลหิต) 2. ชื่อ (ชื่อตัว/ชื่อรอง/ชื่อสกุล/ชื่ออื่นๆ) 3. ภูมิลำเนา 4. สถานะบุคคล (นิติเหตุ/นิติกรรม)
ความสามารถ - ในการมีสิทธิ - ในการใช้สิทธิ (โดยธรรมชาติ/โดยกฏหมาย)
หมวด 2 นิติบุคคล
ความหมายและประเภทของนิติบุคคล
นิติบุคคล คือ บุคคลตามกฏหมายที่สมมติขึ้นมา และรับรองให้มีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา กล่าวคือ นิติบุคคลสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินได้ จำหน่ายจ่ายโดนทรัพย์สินได้ เป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ได้
ประเภทของนิติบุคคล - ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ - ตามกฏหมายอื่น (พรบ สหกรณ์, พรบ มหาวิทยาลัย)
Create Date : 16 ตุลาคม 2548 |
Last Update : 16 ตุลาคม 2548 22:26:31 น. |
|
15 comments
|
Counter : 3664 Pageviews. |
 |
|
|