จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
กฏหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2 - ภาค4 ลักษณะ2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง (หมวด 2)

ภาค4 ลักษณะ2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง

หมวด2 วิธียึดทรัพย์

มาตรา 303: การยึดเอกสารและสังหาริมทรัพย์มีรูปร่างของลูกหนี้ ตามคำพิพากษานั้น ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดทำโดย
(1) นำเอาเอกสารหรือทรัพย์สินนั้นมาและฝากไว้ ณ สถานที่ใดหรือ แก่บุคคลใดตามที่เห็นสมควร และแจ้งการยึดนั้นให้ลูกหนี้ตาม คำพิพากษาทราบ หรือ
(2) มอบไว้ในความอารักขาของลูกหนี้ตามคำพิพากษาโดยความ ยินยอมของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา หรือมอบไว้ในอารักขาของบุคคล อื่นใดซึ่งครอบครองทรัพย์สินนั้นอยู่ และแจ้งการยึดให้ลูกหนี้หรือ บุคคลเช่นว่านั้นทราบ กับต้องกระทำให้การยึดนั้นเห็นประจักษ์แจ้ง โดยการประทับตราหรือกระทำโดยวิธีอื่นใดที่สมควร
การยึดสังหาริมทรัพย์มีรูปร่างนั้น ครอบไปถึงดอกผลแห่งทรัพย์ นั้นด้ว

มาตรา 304: การยึดอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดทำโดยนำเอาหนังสือสำคัญสำหรับทรัพย์สิน นั้นมา และฝากไว้ ณ สถานที่ใด หรือแก่บุคคลใดตามที่เห็นสมควร และแจ้งการยึดนั้นให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าพนักงานที่ดิน ผู้มีหน้าที่ทราบ ให้เจ้าพนักงานที่ดินบันทึกการยึดไว้ในทะเบียน ถ้าหนังสือสำคัญยังไม่ได้ออก หรือนำมาแสดงไม่ได้หรือหาไม่พบ ให้ถือว่าการที่ได้แจ้งการยึดต่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาและเจ้าพนักงาน ที่ดินนั้น เป็นการยึดตามกฎหมายแล้ว
การยึดอสังหาริมทรัพย์นั้น ครอบไปถึงเครื่องอุปกรณ์และดอก ผลนิตินัยของอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วย เว้นแต่จะได้มีกฎหมายบัญญัติ ไว้เป็นอย่างอื่น ดอกผลธรรมดาที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องเป็น ผู้เก็บเกี่ยวหรือบุคคลอื่นเก็บเกี่ยวในนามของลูกหนี้นั้นเมื่อเจ้าพนักงาน บังคับคดีได้แจ้งเป็นหนังสือให้ทราบในขณะทำการยึดว่า จะทำการ เก็บเกี่ยวเองแล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีอาจจัดให้เก็บเกี่ยวดอกผลนั้น ได้เมื่อถึงกำหนด และทำการขายทอดตลาดตามบทบัญญัติในลักษณะนี้

มาตรา 305: การยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาดั่ง บัญญัติไว้ในสอง มาตรา ก่อนนี้ มีผลดั่งต่อไปนี้
(1) การที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ก่อให้เกิด โอนหรือเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิทธิในทรัพย์สินที่ถูกยึดภายหลังที่ได้ทำการยึดไว้แล้วนั้น หาอาจ ใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ ถึงแม้ ว่าราคาแห่งทรัพย์สินนั้นจะเกินกว่าจำนวนหนี้ตามคำพิพากษาและ ค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องและการบังคับคดี และลูกหนี้ตาม คำพิพากษาได้จำหน่ายทรัพย์สินเพียงส่วนที่เกินจำนวนนั้นก็ตาม
(2) ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้รับมอบให้เป็นผู้อารักขา สังหาริมทรัพย์มีรูปร่างที่ถูกยึด หรือเป็นผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่ ถูกยึดลูกหนี้ชอบที่จะใช้ทรัพย์สินเช่นว่านั้นได้ตามสมควร แต่ถ้า พนักงานบังคับคดีเห็นว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะทำให้ทรัพย์ที่ได้ รับมอบไว้ในอารักขา หรือทรัพย์ที่อยู่ในครอบครองเสียหาย หรือ เกลือกจะเสียหาย โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นเองหรือเมื่อเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษาหรือบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สิน นั้นร้องขอ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะระวังรักษาทรัพย์สินนั้นเสียเอง หรือตั้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการทรัพย์สินนั้นก็ได้

มาตรา 306: เมื่อได้ยึดสังหาริมทรัพย์มีรูปร่างเหมือน อสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดหรือบางส่วนของลูกหนี้ตามคำพิพากษา แล้วให้เจ้าพนักงานบังคับคดียื่นคำขอต่อศาลขอให้สั่งอนุญาตให้ขาย ทอดตลาดทรัพย์สินนั้น ถ้าไม่มีผู้คัดค้านในการขายทรัพย์ ภายใต้ บังคับบทบัญญัติ มาตรา 307 ให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอ แล้วให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งให้ทราบซึ่งคำสั่งขอศาลและวัน ขายทอดตลาดแก่บรรดาผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สิน ที่จะขายทอดตลาดซึ่งทราบได้ตามทะเบียน หรือโดยประการอื่น
คำสั่งอนุญาตของศาลตาม มาตรานี้ ให้เป็นที่สุด

มาตรา 307: ถ้ารายได้ประจำปีจากอสังหาริมทรัพย์หรือการ ประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกสิกรรมของลูกหนี้ตาม คำพิพากษา อาจเพียงพอที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษา พร้อมด้วย ค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องและการบังคับคดี เมื่อศาลเห็น สมควรหรือเมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาร้องขอ ศาลอาจมีคำสั่งตั้ง ผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์หรือการประกอบกิจการเหล่านั้นได้และ บังคับให้มอบเงินรายได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนต่อเจ้าพนักงาน บังคับคดีภายในเวลาและกำหนดตามที่ศาลเห็นสมควร แทนการ สั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
คำสั่งของศาลตาม มาตรานี้ ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ได้และ คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด

มาตรา 308: เมื่อศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ขายแล้วเจ้าพนักงาน บังคับคดีอาจขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดได้เมื่อพ้นระยะเวลาอย่าง น้อยห้าวันนับแต่วันที่ยึด การขายนั้นให้ดำเนินตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และกฎกระทรวงว่าด้วยการนั้น และตามข้อกำหนดของศาลซึ่งระบุไว้ในคำสั่งอนุญาตให้ขายทรัพย์สิน นั้น ถ้าหากมี
บทบัญญัติแห่ง มาตรานี้ ไม่ให้ใช้บังคับแก่ทรัพย์อันมีสภาพเป็น ของสดของเสียได้ ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจที่จะขาย ได้ทันที โดยวิธีขายทอดตลาด หรือวิธีอื่นที่สมควร

มาตรา 309: ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตาม คำพิพากษานั้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติตามข้อบังคับต่อไปนี้
(1) ในการขายทรัพย์สินที่มีหลายสิ่งด้วยกัน ให้แยกขายทีละสิ่ง ต่อเนื่องกันไป แต่
(ก) เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจจัดสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีราคา เล็กน้อยรวมขายเป็นกอง ๆ ได้เสมอ และ
(ข) เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจจัดสังหาริมทรัพย์หรือ
อสังหาริมทรัพย์สองสิ่งหรือกว่านั้นขึ้นไป รวมขายไปด้วยกันได้ในเมื่อเป็น ที่คาดหมายได้ว่า เงินรายได้ในการขายจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
(2) ในการขายอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และทรัพย์สินนั้นอาจ แบ่งแยกออกได้เป็นตอน ๆ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจขาย ทรัพย์สินนั้นเป็นตอน ๆ ได้ ในเมื่อเป็นที่คาดหมายได้ว่าเงินรายได้ ในการขายทรัพย์สินบางตอนจะเพียงพอแก่พอแก่การบังคับคดี หรือว่าเงินรายได้ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนั้น
(3) ในการขายทรัพย์สินหลายสิ่งด้วยกัน เจ้าพนักงานบังคับคดี มีอำนาจกำหนดลำดับที่จะขายทรัพย์สินนั้น
บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินซึ่งจะต้องขาย อาจร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรวมหรือแยกทรัพย์สิน หรือ ขอให้ขายทรัพย์สินนั้นตามลำดับที่กำหนดไว้ หรือจะร้องคัดค้าน คำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่สั่งตามสามอนุ มาตรา ก่อนนั้นก็ได้ ในกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมปฏิบัติตามคำร้องขอหรือ คำคัดค้านเช่นว่านั้น ผู้ร้องจะยื่นคำขอต่อศาลโดยทำเป็นคำร้อง ภายในสองวันนับตั้งแต่วันปฏิเสธ เพื่อขอให้มีคำสั่งชี้ขาดในเรื่องนั้น ก็ได้ คำสั่งของศาลให้เป็นที่สุด และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเลื่อน การขายไปจนกว่าศาลจะได้มีคำสั่ง หรือจนกว่าจะได้พ้นระยะเวลา ซึ่งให้นำเรื่องขึ้นสู่ศาลได้

มาตรา 309ทวิ ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตาม คำพิพากษานั้นก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเคาะไม้ขายให้แก่ผู้เสนอ ราคาสูงสุดที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าเป็นราคาที่สมควรขายได้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบุคคลผู้มีส่วน ได้เสียในการบังคับคดีอาจคัดค้านว่าราคาดังกล่าวมีจำนวนต่ำเกิน สมควร ในกรณีเช่นว่านี้ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเลื่อนการขายทอด ตลาดทรัพย์สินไป และในการขายทอดตลาดทรัพย์สินครั้งต่อ ๆ ไป หากมีผู้เสนอราคาสูงสุดในจำนวนไม่น้อยกว่าจำนวนที่ผู้เสนอราคา สูงสุดได้เสนอในการขายทอดตลาดทรัพย์สินครั้งก่อนให้เจ้าพนักงาน บังคับคดีเคาะไม้ขายให้แก่ผู้เสนอราคานั้นได้
ในกรณีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือ บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีเห็นว่าราคาที่ได้จากการขาย ทอดตลาดทรัพย์สินมีจำนวนต่ำเกินสมควรและการขายทอดตลาด ทรัพย์สินในราคาต่ำเกินสมควรนั้นเกิดจากการคบคิดกันฉ้อฉลใน ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้าสู้ราคาหรือความไม่สุจริตหรือความ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการ ปฏิบัติหน้าที่ บุคคลดังกล่าวอาจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่ง เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์สินตามบทบัญญัติแห่งลักษณะนี้ และเมื่อศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าคำร้องนั้นรับฟังได้ ให้ศาลมีคำสั่ง อนุญาตตามคำร้องนั้น
ให้นำบทบัญญัติในวรรคสาม วรรคสี่ วรรคห้า และวรรคหกของ มาตรา 296 มาใช้บังคับแก่การยื่นคำร้องตามวรรคสองโดยอนุโลม
คำสั่งของศาลตามวรรคสองให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ได้ และ คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด

มาตรา 310: เมื่อได้มีการยึดทรัพย์แล้ว สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ อันมีต่อบุคคลภายนอกนั้น ให้จัดการดังต่อไปนี้
(1) ถ้าเป็นพันธบัตรและหลักทรัพย์ที่เป็นประกันซึ่งเป็นของลูกหนี้ ตามคำพิพากษา (ออกให้แก่ผู้ถือหรือออกในนามของลูกหนี้ตาม คำพิพากษา) เจ้าพนักงานบังคับคดีจะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาต ให้จำหน่ายสิ่งเหล่านั้นตามรายการขานราคาในวันที่ขายก็ได้ หากสิ่งเหล่านั้นได้มีรายการขานราคากำหนดไว้ ณ สถานแลกเปลี่ยน หรือจะขายโดยวิธีขายทอดตลาดดังบัญญัติไว้ในลักษณะนี้ก็ได้ ถ้ามิ ได้ทำคำขอเช่นว่านั้น หรือคำขอถูกยกเสีย ให้ขายสิ่งเหล่านั้นโดย วิธีขายทอดตลาด
(2) ถ้าเป็นตราสารเปลี่ยนมือ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีร้องขอให้ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำหน่ายตามราคาที่ปรากฏในตราสารหรือราคา ต่ำกว่านั้นตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดถ้าศาลสั่งยกคำขอให้นำ ตราสารนั้นออกขายทอดตลาด
(3) ถ้าเป็นสิทธิเรียกร้องอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ใน มาตรา 310ทวิ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกบุคคลซึ่ง ต้องรับผิดในการชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องนั้น ๆ ให้มาศาล ถ้าบุคคล นั้นมาศาลและยินยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ให้ศาล จดรายงานไว้ ถ้าบุคคลนั้นไม่มาศาลหรือไม่ยินยอมชำระหนี้ดังกล่าว แล้วเมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ เจ้าหนี้ฟ้องตามเอกสารที่ได้ยึดนั้น และถ้าศาลพิพากษาในที่สุดให้ เจ้าหนี้เป็นผู้ชนะคดี เจ้าหนี้ต้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดทราบ จำนวนเงินที่รับชำระหนี้จากการนั้นด้วย คำสั่งอนุญาตของศาลใน มาตรานี้ ให้เป็นที่สุด

มาตรา 310ทวิ ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิเรียกร้องต่อ บุคคลภายนอกให้ชำระเงินจำนวนเงินหรือเรียกให้ส่งมอบสิ่งของ นอกจากที่กำหนดไว้ใน มาตรา 310 ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัด และจำหน่ายไปตามที่บัญญัติไว้ในห้า มาตรา ต่อไปนี้

มาตรา 311: สิทธิเรียกร้องซึ่งระบุไว้ใน มาตรา 310ทวิ นั้นให้ อายัดได้โดยคำสั่งอายัดซึ่งศาลได้ออกให้ตามที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องฝ่ายเดียว และเจ้าหนี้ได้นำส่งให้แก่ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและบุคคลซึ่งต้องรับผิดเพื่อการชำระเงิน หรือ ส่งมอบสิ่งของนั้น
เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลอาจกำหนดไว้ในหมายบังคับคดีให้ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจบังคับสิทธิเรียกร้องตาม มาตรา 310ทวิ ก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ถือว่าคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับ คดีเป็นคำสั่งอายัดของศาล
คำสั่งอายัดนั้นอาจออกให้ได้ไม่ว่าหนี้ของบุคคลภายนอกนั้นจะมี ข้อโต้แย้งหรือมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขหรือว่าได้กำหนดจำนวนไว้แน่นอน หรือไม่
คำสั่งนั้นต้องมีข้อห้ามลูกหนี้ตามคำพิพากษาให้งดเว้นการจำหน่าย สิทธิเรียกร้องตั้งแต่ขณะที่ได้ส่งคำสั่งนั้นให้ และมีข้อห้ามบุคคลภายนอก ไม่ให้ชำระเงินหรือส่งมอบสิ่งของให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา แต่ให้ ชำระหรือส่งมอบให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ณ เวลา หรือภายในเวลา ตามที่กำหนดไว้ในคำสั่ง

มาตรา 312: ถ้าบุคคลภายนอกที่ได้รับคำสั่งอายัดทรัพย์ปฏิเสธ หรือโต้แย้งหนี้ที่เรียกร้องเอาแก่ตน ศาลอาจทำการไต่สวนและ (1) ถ้าศาลเป็นที่พอใจว่าหนี้ที่เรียกร้องนั้นมีอยู่จริง ก็ให้มีคำสั่งให้บุคคล ภายนอกปฏิบัติตามคำสั่งอายัด หรือ (2) ถ้าศาลเห็นว่ารูปเรื่องจะ ทำให้เสร็จเด็ดขาดไม่ได้สะดวกโดยวิธีไต่สวน ก็ให้มีคำสั่งอย่างอื่นใด ในอันที่จะให้เรื่องเสร็จเด็ดขาดไปได้ตามที่เห็นสมควร
ถ้าคำสั่งอายัดทรัพย์นั้นไม่มีการคัดค้าน หรือศาลได้มีคำสั่งรับรอง ดัง กล่าวแล้ว และบุคคลภายนอกมิได้ปฏิบัติตามนั้น เจ้าพนักงาน บังคับคดีอาจร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแก่บุคคลภายนอกนั้น และดำเนินการไปเสมือนหนึ่งว่าบุคคลนั้นเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ถ้าค่าแห่งสิทธิเรียกร้องซึ่งอายัดไว้นั้นต้องเสื่อมเสียไปเพราะ ความผิดของบุคคลภายนอก เนื่องจากการที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ไม่ว่าด้วยประการใด ๆ บุคคลภายนอกเช่นว่านั้นต้องรับผิดใช้ค่า สินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อความเสียหายใด ๆ ซึ่งเกิดขึ้นแก่เจ้าหนี้นั้น

มาตรา 313: การอายัดสิทธิเรียกร้องแห่งรายได้เป็นคราว ๆ นั้น รวมตลอดถึงจำนวนเงินซึ่งถึงกำหนดชำระภายหลังการอายัดนั้นด้วย
ถ้าสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งมีต่อบุคคลภายนอก ในอันที่จะเรียกให้ชำระเงินจำนวนหนึ่งนั้น มีการจำนองเป็นประกัน การอายัดสิทธิเรียกร้องให้รวมตลอดถึงการจำนองด้วย แต่ทั้งนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องแจ้งคำสั่งอายัดทรัพย์นั้นไปยังเจ้าพนักงาน ที่ดิน และให้เจ้าพนักงานที่ดินจดแจ้งไว้ในทะเบียนที่ดิน

มาตรา 314: การอายัดสิทธิเรียกร้องดั่งบัญญัติไว้ในสอง มาตรา ก่อนนี้ให้มีผลดั่งต่อไปนี้
(1) การที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ก่อให้เกิด โอนหรือเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิทธิเรียกร้องที่ได้ถูกอายัดภายหลังที่ได้ทำการอายัดไว้แล้วนั้น หาอาจใช้ยันแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ ถึงแม้ว่าราคาแห่งสิทธิเรียกร้องนั้นจะเกินกว่าจำนวนหนี้ตาม คำพิพากษาและค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องและการบังคับคดี และลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้จำหน่ายสิทธิเรียกร้องนั้นเพียงส่วน ที่เกินจำนวนนั้นก็ตาม
(2) ถ้าค่าแห่งสิทธิเรียกร้องซึ่งอายัดไว้นั้นต้องเสื่อมเสียไปเพราะ ความผิดของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ๆ ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อความเสียหายใด ๆ ซึ่งเกิดขึ้นแก่ ลูกหนี้นั้น
(3) การชำระหนี้โดยบุคคลภายนอกตามที่ระบุไว้ในคำสั่งอายัด ทรัพย์นั้นให้ถือว่าเป็นการชำระหนี้ตามกฎหมาย

มาตรา 315: ถ้าสิ่งของที่จะต้องส่งมอบตามสิทธิเรียกร้องที่ถูก อายัดนั้นได้ส่งมอบให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีไปแล้ว ให้เจ้าพนักงาน บังคับคดีนำออกขายโดยการขายทอดตลาดดั่งที่บัญญัติไว้ในลักษณะนี้
ถ้าการจำหน่ายสิทธิเรียกร้องที่ถูกอายัดนั้นกระทำได้โดยยาก เนื่องจากการชำระหนี้นั้นต้องอาศัยการชำระหนี้ตอบแทน หรือด้วย เหตุอื่นใดและการบังคับคดีอาจล่าช้าเป็นการเสียหายแก่คู่ความทุก ฝ่าย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือแก่บุคคลผู้มีส่วนได้เสีย เมื่อคู่ความ หรือบุคคลเช่นว่านั้นหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีร้องขอ ศาลจะมีคำสั่ง กำหนดให้การจำหน่ายโดยวิธีอื่นก็ได้

มาตรา 316: ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำบัญชีรายละเอียดแสดง จำนวนเงินทั้งหมดที่ได้ยึดหรือได้มาจากการจำหน่ายทรัพย์สินของ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือที่ได้วางไว้กับตน นอกจากนี้ให้เจ้าพนักงาน บังคับคดีทำบัญชีพิเศษสำหรับทรัพย์สินแต่ละรายซึ่งอยู่ในบังคับการ จำนองหรือบุริมสิทธิพิเศษ ซึ่งได้มีการแจ้งให้ทราบโดยชอบแล้ว ตามที่กล่าวไว้ใน มาตรา 289
ภายใต้บังคับ มาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติลักษณะล้มละลาย และ มาตรา 292 ถึง 295 แห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการรอ หรือการงดการบังคับคดีให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดสรรหรือแบ่งเฉลี่ย เงินนั้นดั่งบัญญัติไว้ใน มาตรา ต่อไปนี้

มาตรา 317: ในกรณีที่จะต้องบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ซึ่งได้พิพากษาหรือสั่งโดยจำเลยขาดนัดนั้นห้ามมิให้เฉลี่ยเงินที่ได้มา จนกว่าระยะหกเดือนจะได้ล่วงพ้นไปแล้วนับแต่วันยึดทรัพย์ หรือ อายัดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา แต่ถ้าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา แสดงให้ศาลเป็นที่พอใจว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ทราบถึงคดีซึ่ง ขอให้มีการบังคับแล้วมิให้นำบทบัญญัติแห่ง มาตรานี้ มาใช้บังคับ

มาตรา 318: ในกรณีที่มีเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแต่คนเดียวขอ ร้องให้บังคับคดี และมิได้มีการแจ้งให้ทราบซึ่งการจำนองหรือบุริมสิทธิ เหนือทรัพย์สินที่จำหน่ายได้มาดั่งที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 289 เมื่อ ได้จัดการจำหน่ายทรัพย์สินเสร็จ และได้หักค่าฤชาธรรมเนียมใน การบังคับคดีไว้แล้ว ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินตามจำนวนหนี้ ในคำพิพากษา และค่าฤชาธรรมเนียมในการฟ้องร้องให้แก่เจ้าหนี้ ตามคำพิพากษา เพียงเท่าที่เงินรายได้จำนวนสุทธิจะพอแก่การที่ จะจ่ายให้ได้

มาตรา 319: ในกรณีที่มีเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหลายคนร้องขอ ให้บังคับคดี หรือได้มีการแจ้งให้ทราบซึ่งการจำนองหรือบุริมสิทธิ เหนือทรัพย์สินที่จำหน่ายได้มาดั่งที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 289 เมื่อ ได้จัดการจำหน่ายทรัพย์สินเสร็จและได้หักค่าฤชาธรรมเนียมในการ บังคับคดีไว้แล้ว ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำบัญชีส่วนเฉลี่ย แสดงจำนวนเงินที่จ่ายให้แก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา หรือเจ้าหนี้ บุริมสิทธิแต่ละคน จากเงินรายได้จำนวนสุทธิที่พอแก่การที่จะจ่าย ให้ตามสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้เหล่านั้น ตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือตามประมวลกฎหมายนี้ ว่าด้วยการจ่ายเงินเช่นว่านี้ และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีส่ง คำบอกกล่าวไปยังเจ้าหนี้เหล่านั้นขอให้ตรวจสอบบัญชีเช่น ว่านั้น และให้แถลงข้อคัดค้านภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ส่งคำบอก กล่าว
ถ้าไม่ยื่นคำแถลงภายในเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าบัญชีส่วนเฉลี่ย นั้นเป็นที่สุด และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ เหล่านั้นตามบัญชี

มาตรา 320: ในกรณีดั่งบัญญัติไว้ใน มาตรา ก่อนนี้ ถ้ามีเจ้าหนี้ คนเดียวหรือหลายคนดั่งกล่าวแล้ว ยื่นคำแถลงคัดค้านบัญชีส่วนเฉลี่ย ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายในเวลาที่กำหนดไว้ ให้เจ้าพนักงาน บังคับคดีออกหมายเรียกให้เจ้าหนี้ทุกคนมาในเวลา และ ณ สถานที่ ตามที่เห็นสมควร แต่ต้องให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามวัน
เจ้าหนี้จะไปตามหมายเรียกเช่นว่านั้นด้วยตนเอง หรือจะให้ผู้แทน ที่ได้รับมอบอำนาจโดยชอบไป และกระทำการแทนในกิจการทั้งหลาย อันเกี่ยวแก่เรื่องนั้นก็ได้
เมื่อได้ตรวจพิจารณาคำแถลงและฟังคำชี้แจงของเจ้าหนี้ผู้ที่มา ตามหมายเรียกแล้ว ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำคำสั่งยืนตาม หรือ แก้ไขบัญชีส่วนเฉลี่ยนั้น แล้วให้อ่านให้เจ้าหนี้ที่มานั้นฟัง และให้ เจ้าหนี้ลงลายมือชื่อรับทราบไว้เป็นหลักฐาน และให้ส่งคำสั่งนั้นไปยัง เจ้าหนี้ผู้ซึ่งมิได้มาตามหมายเรียกด้วยถ้าหากมี
ถ้าเจ้าหนี้คนใดไม่พอใจคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าหนี้ นั้นชอบที่จะยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องคัดค้านคำสั่งนั้นต่อศาลชั้นต้น ได้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้อ่าน หรือที่ได้ส่งคำสั่งแล้วแต่กรณี แต่ถ้าเจ้าหนี้ที่ยื่นคำยื่นคำขอนั้นมิได้ไปตามหมายเรียกของ เจ้าพนักงานบังคับคดี และไม่สามารถแสดงเหตุผลดีในการที่ไม่ไป ต่อหน้าเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้น ให้ศาลนั้นยกคำขอนั้นเสีย คำสั่งของศาลที่ออกตามความในวรรคนี้ให้เป็นที่สุด
ถ้าเจ้าหนี้ซึ่งได้มาตามหมายเรียกทุกคนได้ยินยอมตามคำสั่งของ เจ้าพนักงานบังคับคดีและลงลายมือชื่อไว้เป็นพยานหลักฐานในการ ยินยอมนั้นแล้วและถ้าเจ้าหนี้ผู้ไม่มา ซึ่งมีสิทธิคัดค้านคำสั่งได้ มิได้ยื่นคำคัดค้านภายในเวลากำหนด ให้ถือว่าบัญชีส่วนเฉลี่ยนั้น เป็นที่สุด และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ตามนั้น
ถ้าเจ้าหนี้ผู้มีสิทธิคัดค้านคำสั่งได้ยื่นคำคัดค้าน ดั่งที่บัญญัติไว้ ข้างต้นแล้ว ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเลื่อนการจ่ายส่วนเฉลี่ยไป จนกว่าศาลได้มีคำสั่งแล้ว หรือทำการจ่ายส่วนเฉลี่ยชั่วคราว ดั่งที่ บัญญัติไว้ใน มาตรา ต่อไป
บทบัญญัติ มาตรานี้ ให้ใช้บังคับแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ในเรื่อง ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีด้วยโดยอนุโลม

มาตรา 321: เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่า ถ้าจะเลื่อนการจ่าย ส่วนเฉลี่ยไปจนกว่าได้จำหน่ายทรัพย์สินที่ประสงค์จะบังคับทั้งหมด หรือจนกว่าการร้องทั้งหมดที่มาสู่ศาลได้เสร็จเด็ดขาดแล้ว จะทำให้ บุคคลผู้มีส่วนเฉลี่ยในเงินรายได้แห่งทรัพย์สินที่บังคับนั้นทุกคนหรือ คนใดคนหนึ่งได้รับความเสียหาย เจ้าพนักงานบังคับคดีมีสิทธิที่จะ แบ่งเงินรายได้เท่าที่พอแก่การที่จะจ่ายให้ดั่งที่บัญญัติไว้ในสอง มาตรา ก่อนได้ ในเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้กันเงินไว้ สำหรับชำระค่าฤชาธรรมเนียมทั้งหมดในการบังคับคดีที่เกิดขึ้น หรือจะเกิดขึ้นต่อไป และสำหรับชำระการเรียกร้องใด ๆ ที่ยังมี ข้อโต้แย้งไว้แล้ว

มาตรา 322: เมื่อผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีทุกคนได้รับส่วนแบ่ง เป็นที่พอใจแล้ว ถ้ายังมีเงินที่จำหน่ายทรัพย์สินได้เหลืออยู่และเงิน ที่ยังเหลือเช่นว่านั้นได้ถูกอายัดตาม มาตรา 291 หรือโดยประการอื่น ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจำหน่ายส่วนที่เหลือนั้นตาม มาตรา 291 หรือตามคำสั่งอายัดทรัพย์แล้วแต่กรณี
ถ้าเงินรายได้จำนวนสุทธิที่จำหน่ายทรัพย์สินได้มานั้น ไม่ต้องการ ใช้สำหรับการบังคับคดีต่อไปก็ดี หรือมีเงินเหลืออยู่ภายหลังที่ได้หัก ชำระค่าฤชาธรรมเนียมและจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ทุกคนเป็นที่พอใจแล้ว ก็ดี ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินรายได้จำนวนสุทธิหรือส่วนที่ เหลือนั้นให้แก่ลูกหนี้ ตามคำพิพากษา และถ้าทรัพย์สินของบุคคล ภายนอกต้องถูกจำหน่ายไป เพื่อประโยชน์แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ให้จ่ายเงินรายได้จำนวนสุทธินั้นแก่บุคคลภายนอกตามสิทธิเรียกร้อง ของบุคคลภายนอกที่มีอยู่ต่อลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ถ้าได้จำหน่ายสังหาริมทรัพย์รายใดไปแล้วตาม มาตรา 288 และ ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดเป็นคุณแก่ผู้เรียกร้อง ให้ศาลหรือ เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่จำหน่ายได้แก่ผู้เรียกร้องไป

มาตรา 323: บรรดาเงินต่าง ๆ ที่ค้างจ่ายอยู่ในศาลหรือที่ เจ้าพนักงานบังคับคดี ถ้าผู้มีสิทธิมิได้เรียกเอาภายในห้าปี ให้ตก เป็นของแผ่นดิน


Create Date : 12 ตุลาคม 2548
Last Update : 12 ตุลาคม 2548 1:05:29 น. 11 comments
Counter : 1618 Pageviews.

 
^ข้างบนจะเขียนเพิ่มเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้ามาแล้วเห็นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมานะคะ


โดย: ไร้นาม วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:1:03:48 น.  

 
ยังไม่จบอีกเหรอเนี่ย >_<

วันศุกร์นี้ไปงานหนังสือกันไหมจ๊ะ ไว้เราจะโทรหาน้า


โดย: ชาบุ วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:22:43:39 น.  

 
--- ชาบุ ---

ลงไปเก้าวิชาจ้า บ้าไปแล้ว


โดย: ไร้นาม วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:7:13:42 น.  

 
9 วิชา ไม่สติเฟื่อง คงไม่ลงขนาดนี้แน่ๆ


โดย: noom_no1 วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:21:51:55 น.  

 
--- คุณ noom_no1 ---

อิอิ ความจริงคือ งก หน่วยกิตค่ะ
เห็นมี 24 หน่วยให้ลงเลยใช้โควต้าหมด

3 หน่วย 6 วิชา
2 หน่วย 3 วิชา

ไหวไม่ไหว ก็ว่ากันอีกที


โดย: ไร้นาม วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:23:14:19 น.  

 
นี่ ๆ หนูอุ๊ เราว่า คำว่า สติเฟื่อง นี่ เค้าใช้เรียกพวกเพี้ยน ๆ นะจ๊ะ hahaha เอ๊ะ จะเป็นการยุให้เคืองกันไหมเนี่ย - -'


โดย: ชาบุ วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:8:16:41 น.  

 
อุ๊ ดูแลตัวเองด้วย เราเป็นหวัดอีกแล้ว เบื่อๆ


โดย: เป่าจิน วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:16:57:28 น.  

 
สอบเสร็จก่อนแล้วจ้า.. เย้ๆ เลยพอมีเวลามาตามดู blog ของเพื่อนๆ ซะกะที

โดย: JA~ IP: 202.28.181.7 วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:13:59:50 น.  

 
คิดถึงจ้า.. รักษาเนื้อรักษาตัว แล้วไว้มาเจอกันน๊า..


โดย: JA~ IP: 202.28.181.7 วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:14:04:48 น.  

 
--- ชาบุ ---

อั้นแน่มีแอบมายุยง ^^'


--- เป่าจิน ---

เหรอ งั้นแววก็รักษาตัวด้วยนะ
นอนเยอะๆ


--- JA~ ---

เย้ๆ สอบเสร็จ (เริ่มอิจฉาตาร้อน อืมๆ)
แล้วไว้นัดเจอกันน้า...



โดย: ไร้นาม วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:22:25:55 น.  

 
มีใครอยู่อะเปล่า


โดย: คนจน IP: 125.26.121.61 วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:10:25:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.