ของฝาก&ตำนานลิปสติก...ครั้งแรก

ไปเยอรมันกลับมามันก็ต้องมีของฝาก 555555555555555555
ที่บ้านแฟนได้ทานชอคโกแลตฝรั่งเศส ส่วนบ้านเรานั้นเอาจริงๆ
เยอะกว่ามากเลย ฮ่าๆๆ 

พ่อ ได้ของโปรด คือ กาแฟ Jacob ที่ขายทั่วไปในเยอรมัน
เห็นว่าซื้อเมืองไทยแพง บางคนดื่มแล้วติดใจ เราก็เลยว่า
ถ้าฝากพ่อ ก็กาแฟนี่แหละ แฟนก็ซื้อให้พ่อจริงๆ รสชาติ
คงต้องรอกาแฟ 2 ขวดใหญ่ก่อนหน้าหมดก่อน 555

แม่ ได้ของใหม่(โชคดี?) คือ ลิปสติกสีชมพูบานเย็นเข้มๆ นิดนึง
ตอนแรกดูในรูปมันแป๋นมาก ซึ่งแม่ชอบสีแป๋นๆ แต่เอาจริงๆ
มันดันเข้มกว่าในรูป ซึ่งแม่ก็โอเค ยอมรับได้ พอแม่เอามาทา
จริงๆ คือ ทาแล้ว สีดูสวยมากอ่ะ แม่ดูสวยขึ้นกว่าตอนที่ทา
สีชมพูแป๋นๆ ซะอีก และเป็นความโชคดีของแม่ ที่แฟนซื้อให้
เพราะไม่กี่วันก่อนหน้า หลานน้อยตัวแสบเอากระเป๋า
เครื่องสำอางค์แม่ไปปาเล่น ไม่ต้องบอก พังพินาศทุกอย่าง
ลิปสติกเละเทะทุกแท่ง แป้งพับแตกละเอียดกระจุย 555
พี่ชายเราก็ซื้อใช้ให้แม่ใหม่ แต่แม่บอกว่า ลิปสติกไม่ต้อง
มีคนซื้อให้แล้ว 5555555555555555555555555555

ส่วนเรา ไม่ต้องพูดถึง เยอะมากๆ ได้ทั้งกระเป๋าใส่อุปกรณ์อาบน้ำ
เพราะเราเดินทางบ่อย ปกติก็เอายัดๆ กล่องโยนลงกระเป๋าไป 55
(คือเราไม่สนใจพวกแบรนด์เนม ซื้อมาเราก็ไม่ใช่ เราใช้ที่ทำเอง
มันถูกจริตกว่าด้วย แบบก็เป็นแบบที่เราชอบ พวก luxury แบรนด์
ต่างๆ คือ เราไม่โอเคกับดีไซน์มันอ่ะ แพง แต่ไม่สวยอะไรเลย
แบรนด์ที่เราชอบ ก็เป็นแบรนด์เฉพาะมากๆ ไม่มีขายในไทย
ไม่มีขายทั่วไป เพราะดันเป็นดีไซน์เนอร์ดังจากหลายๆ ประเทศ 55
รสนิยมเรา ต่อให้รวยล้นฟ้า ก็หาของที่เราชอบให้ไม่ได้อยู่ดี
ยกเว้นแฟนเรานี่แหละ หาได้ทุกอย่างที่เอามาให้ยังไงเราก็ชอบ)

ได้ลิปสติก 3 แท่ง (จะใช้ยังไงให้หมด 55) แท่งนึงซื้อในห้าง
ร้านเดียวกับของแม่ แต่อีก 2 แท่งเป็นอันที่เราขอแฟนซื้อให้
อยากลองใช้ เพราะมันไม่ผสมสารเคมี ซึ่งน่าพอใจมากๆๆ
เราเอามาทาทีทั้ง 3 แท่งเลย บอกเลย รวมแล้ว เป็นสีปากเรา
แฟนเลยถาม ตกลงนี่ทาแล้วจริงๆ ใช่ไหม 5555555

ได้แชมพู ซึ่งขอซื้อให้มาลอง ราคา 70 บาท 55 โคตรดี น้ำตาจิไหล
เราใช้แชมพูในไทยไม่ไหวแล้ว ยิ่งใช้ผมยิ่งร่วงหนักขึ้นเรื่อยๆ
พอใช้แชมพูของเยอรมัน งานดีมาก ผมอย่างกับคืนวัยเด็ก ผมนิ่ม
ผมดูฟู รู้สึกเหมือนผมกลับมามีชีวิตงี้ รู้สึกดีมากๆ ไว้หาทางซื้อ
เข้ามาไทยดู จริงๆ ก็มีเพื่อนอยู่เยอรมันเหมือนกัน อาจจะฝากเขา
ส่งมาให้ ภาษีแฟนบอกจะจัดการให้ถ้าจะเอาจริงๆ 555

ได้ครีม สำหรับทาหน้า และออย สำหรับ มาร์คหน้า ซึ่งดีมากๆ
ทั้งคู่ ชอบมากๆ รวมๆ ราคามันไม่แพงอ่ะ ทั้งหมดไม่ถึง 1,000

ได้แยม โอวัลตินและผงโอวัลติน ต้นตำรับจาก switzerland
ซึ่งก็ชื่อเขียนเป็นอย่างอื่นนะ แต่ชื่อที่เราคุ้นๆ กันคือ โอวัลติน
แฟนซื้อแบบเป็น Bar มาให้ชิมด้วย แท่งนึงเท่าเซียงไฮ้
แต่ว่าราคาต่อแท่งคือ 30 บาท แพง แต่อร่อยกว่าหลายเท่า
แยมโอวัลติน ก็อร่อยมากๆ กรุบๆ กรอบๆ หวานพอดีๆ
ผงโอวัลติน ยังไม่ได้ชิม รู้แต่ว่า ขายมาเป็นร้อยปีแล้ว 555555
แต่ดูจากส่วนประกอบแล้ว ยังไงรสชาติก็ดีกว่าที่ขายบ้านเราแน่ๆ
บ้านเรามันลดต้นทุน จนของมันเสียรสชาติเดิมไปหมดแล้ว

ได้มีดพกจาก Victorinox และ Zwilling ของ Victorinox
เป็นชุดมีดพกทหาร มีชื่อเสียงที่สุดของสวิตละแหละ
มีให้ใช้งานหลากหลายดีนะ ชอบๆ ส่วนของ Zwilling
อันนี้คล้ายๆ แต่เป็นชุด nail care พกแบบมีดพกอ่ะ
มันพับๆๆ ไว้ มีทั้งกรรไกรตัดเล็บ ทั้งกรรไกรน้อย
มีดเล็กๆ และตะไบ ซึ่งใบมีดดีงามมากๆๆ 55555555
แฟนว่า ซื้อมา 3 อัน อันนึงเก็บไว้ใช้เอง อีกอันให้เรา
แต่มันจะเหลืออีกอันนึง ไม่รู้จะให้ใคร เลยบอกว่า
งั้นถ้าพ่อแม่มาคราวหน้าก็ฝากให้พ่อแม่ด้วยเลย
ถือไม่ถือไม่รู้นะ แต่เราเอาเหรียญบาทให้แฟนก่อนละ 55

ได้มีดปอกผลไม้ไว้ใช้ส่วนตัว ของ Zwilling แฟนซื้อให้
เฉพาะเลย กับมีดหั่นขนมปัง เป็นเซ็ทๆ ใช้แล้วก็ดีมากๆ
ไปเยอรมันก็ต้องสินค้าพวก Zwilling นี่แหละเด็ดสุด

ส่วนแฟนซื้อของให้ตัวเองเยอะอยู่ บางส่วนซื้อให้เราไว้ใช้
อย่างชุดกรรไกรตัดเล็บเป็น set ดีงามมากๆๆ เราใช้ก่อนเลย
แล้วก็กรรไกรตัดเล็บเท้าที่หนาๆ พ่อแม่เรามาหาเรา
แฟนก็เลยรีบเอาอุปกรณ์มาให้เรา เราก็ได้ตัดเล็บเท้าให้พ่อ
ก็มาเจอว่า เล็บเท้าพ่อมันยาวจนบางนิ้วมันฉีกแล้วด้วย
ก็เลยไปบอกพี่ชายว่า วันหลังตัดเล็บเท้าให้พ่อด้วยละกัน
เราตัดให้พ่อมาตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว ตัดให้ตลอด เรื่อยๆ
จนอายุปูนนี้นี่แหละ พี่ก็รับปาก แต่ก็อาจจะไม่ทำ

แฟนตลกอย่างนึง กลัวแม่ตัวเองขโมยของๆ ตัวเองกลับบ้านอีก
เลยเอากระเป๋าเดินทางอีกใบ ซึ่งซื้อใหม่ มาไว้ที่ห้องของเรา
ข้างในก็มีของๆ เรากับกระเป๋าใบที่ 3 ของแฟนเราที่ซื้อมา
และโหดที่สุดคือ หินลับมีดของ Zwilling นี่แหละ หนักมากๆ
เป็นเซ็ท 2 เบอร์ แฟนจะเอามาลับมีด Zwilling ทั้งหมดในบ้าน
เพราะเหล็กของเยอรมันมันดีที่สุดแล้ว และเนื้อมันก็แข็งมาก
ใช้หินทั่วไปลับ หินพังก่อนมีดคม ก็ต้องใช้ของเฉพาะ 5555
เราก็เพิ่งจะเอากระเป๋าส่งต่อให้แฟนไม่กี่วันก่อนหน้านี้เอง

แฟนว่า ถ้าตรวจจริงจัง อาจจะต้องจ่ายภาษี แต่ของที่ซื้อให้
เราแต่ละอย่าง มันราคาแบบ 30 บาท 50 บาท 70 บาท
เก็บภาษี บาทสองบาท มันคงไม่ทำหรอก แต่ถ้าศุลกากรจะเก็บ
ภาษีกล้อง แม่งจะเอาใบเสร็จในไทยไปตบหน้ามัน 555555
พร้อมบอกเลย ถ้ากะจะเรียกแพงเกินราคาสินค้าในใบเสร็จ
หรือ เรียกภาษีจากของที่สำแดงไว้ก่อนออกนอกประเทศ
จะเอาชื่อเจ้าหน้าที่ไปฟ้อง ม.157 เอาสิ อยากกินเงินคนอื่นดีนัก
หมดอนาคตทั้งชีวิต กล้าแลกไหมล่ะ พร้อมจัดให้นะ 5555 
 

---

ตำนานลิปสติกของแม่

แฟนเรา งง เรามาก ทำไมเราถึงบอกว่า ลิปสติก คือ
ของฝากที่แม่ชอบมากที่สุด เราก็เลยเล่าถึงความเป็นมา
มันเป็นเรื่องของความซุกซนของเราเอง ช่วงประถม
ตอนนั้น ไม่รู้ว่า ลิปสติก คืออะไร เห็นแต่แม่เอามาทาๆ
มีอยู่ครั้งนึง ที่แม่ฝากเราหมุนปิดให้ ด้วยความเด็ก
เราหมุนคนละด้านกับการปิด คือ หมุนเปิดลิปสติกแม่
จนสุดหลอด จนแท่งมันหักลงไปจูบพื้นทั้งแท่ง 55555
ส่วนปลอกมันอยู่ในมือเราอ่ะ แม่โมโหเรามาก 5555

ไม่ต้องถามอาการเรานะ หน้าซีด เหงื่อตก หลักฐาน
คามือขนาดนี้ 55555555555555555555555555

ไม่ มันยังไม่จบเพียงเท่านี้ ความไม่รู้ของเรา มันยังมีต่อ
ตอนที่น้าสะใภ้พาเราไปร้านเจ้เล้งครั้งแรก เราก็แอบไปซื้อ
ลิปสติกสีชมพูแป๋นๆ มาให้แม่ ตอนเลือกอ่ะ ดีใจมาก
เอาเงินเก็บไปซื้อของให้พ่อแม่ 55555555555555555
เงินเก็บตอน ม.ต้น ก็ไม่มากไม่มาย จากการขายของเล่นๆ
แต่ก็ไม่วาย พลาดอีกจนได้... เราหมุนลิปสติกเล่นไปๆ มาๆ
แล้วลืมเปิดฝา... ไม่ต้องถามว่า เหลือไหม ไม่เหลือเหมือนเดิม
ลิปสติกหัวหัก ส่วนนึงแปะติดอยู่ที่ฝา ดีว่าเป็นของฝากแม่
แม่เลยไม่โมโหมาก แต่ก็บ่นๆ เสียของ 555555555555

ตั้งแต่นั้นมา เราก็ซื้อแต่ลิปสติกให้แม่มาตลอดเลยแหละ
ทำงาน ได้เงินเดือนเดือนแรก พ่อแม่ไม่ขอเงิน เพราะเคย
เอาให้ไปหมดแล้ว ตอนสมัยฝึกงาน ได้มาหลายหมื่น
เอาให้พ่อแม่หมดเลย พอเงินเดือนเดือนแรก พ่อขอ
เป็นเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ ส่วนของแม่เป็นลิปสติกสีเดิมๆ

ไปญี่ปุ่น ก็ไม่ลืม ซื้อลิปสติกกลับมาฝากแม่เหมือนเดิม
ซื้อเสื้อให้พ่อและพี่ๆ 2 คน เหมือนเดิม 5555555555

แต่ลิปสติกแม่ แม่โมโหมาก ตอนที่มาหาเราแล้วบ่นว่า
หลานสุดที่รัก เอาไปปาเล่น โดยมี "พ่อ" เป็น "ผู้สมรู้ร่วมคิด"
คือ พ่อเห็นหลานหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางค์แม่ไปเล่น
พ่อไม่รู้ว่า กระเป๋าอันไหนเป็นอันไหน ก็เลยปล่อยหลานเล่น
มารู้ตัวอีกที มันก็เละเทะพังพินาศหมดทุกอย่างในกระเป๋า
ใบนั้น ตอนแรกก็กังวลว่า ครีมกันแดดที่เราซื้อให้จะโดนไหม
อันนั้นไม่โดน ขวดละเกือบ 1,000 ยังไม่ทันจะแกะใช้
ถ้าขวดเละ นี่เราก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ

เราก็เล่าเรื่องที่แม่มาบ่นให้แฟนฟังด้วยเหมือนกัน 
แฟนว่า ที่ซื้อให้นี่โชคดีไปเลยนะเนี่ย ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่
พี่คนกลางเรามีงอนด้วย ถามหาของฝากจากแฟนเรา 55555
เราก็บอก ทำไม!!!!!! ทีพี่สะใภ้ก็ยังไม่เคยซื้ออะไรให้กรูกะมึงเลย
ขนาดพ่อแม่ก็ไม่เคยซื้อให้ นี่แฟนซื้อให้พ่อแม่ก็ดีเท่าไหร่แล้ว 555
จนแต่งเข้ามาแล้ว ก็ยังไม่เคยซื้ออะไรให้พ่อแม่ซักกะชิ้นเดียว
บอกจะซื้อกระเป๋าให้แม่ ผ่านมาหลายปีแล้ว ก็ยังไม่เคยซื้อให้
ไม่เห็นแม้แต่เงา มีแต่แม่เราอ่ะ ซื้อของให้เขาใช้ตลอด 

Create Date : 21 มีนาคม 2562 Last Update : 21 มีนาคม 2562 4:32:13 น. Counter : 612 Pageviews.		4 comments
Share Tweet