ครึ่งโลก...ครั้งแรก
เพราะแฟนมีเดินทางไปดูงานที่ประเทศเยอรมัน เราไม่ได้เดินทางไปด้วย
แต่ก็ช่วยเหลือแฟนทุกอย่าง หาลิสของฝากที่น่าจะซื้อกลับมาบ้านเรา
จะไม่ซื้อของตาม souvenir shop เด็ดขาด คือมันเป็นของไร้สาระเกินไป
จริงๆ ก็ไม่ได้ช่วยหาแค่พวกของฝาก หาทั้งร้านอาหาร และจุดถ่ายภาพ
หาตำแหน่งร้านที่สามารถซื้อของได้ทั้งหมด และพวกกิจกรรมที่น่าไปเล่น
ตามเมืองที่แฟนเราไปเที่ยวต่อ

วันที่แฟนออกเดินทาง เขาออกเช้ามาก ประมาณตี 5 เรายังไม่ตื่น 555+
แต่คือเราช่วยเขาเต็มที่แล้ว ในส่วนของเรา และเราก็มั่นใจว่ายังไงก็ได้คุยกัน
เราไม่ไปส่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ซึ่งมันก็จริงๆ

ในระหว่างที่แฟนเราเดินทาง เราก็ตื่นเต้นแทน แต่ก็กลัวเครื่องเขาตกด้วย
ก็เลยหา flight ที่เค้าบิน แล้วก็ตามเช็กทั้งหมดเลย แล้วก็ทำให้เราได้รู้ว่า
จริงๆ แล้ว flight ที่อยู่ในระหว่างบินในปัจจุบัน มันดู live เส้นทางที่บิน
ณ เวลาปัจจุบันได้ด้วย เลยรู้สึกว่า เออ! มันดีแฮะ แบบนี้คนที่บ้านสบายใจมากๆ
ถ้ากลัวเครื่องบินหาย ก็แค่ดู live ติดตามเส้นทางบินก็เพียงพอแล้ว

การเดินทางของแฟน แฟนได้ไปแวะเที่ยวที่กาต้า เขาก็เข้าไปเที่ยวในเมืองด้วย
ไปเที่ยวที่ไหน เจออะไรมา ก็ถ่ายรูปส่งมาให้เราดูอยู่ตลอดทั้งวัน
บางทีก็ส่งมาเป็นคลิป video สั้นๆ ก็ได้เห็นสภาพเมืองของโดฮา กาต้า
ได้ดูคลิปการแสดง folk song ที่แฟนเราถ่ายส่งมาให้ดู เราก็ไปค้นหาอีก
ก็ไปเจอว่า เขามีกิจกรรมโปรโมทวัฒนธรรมโดยการจัด folk song 
จากเมืองต่างๆ ให้มาแสดงในรอบเวลาที่กำหนด ตามจุดที่กำหนด
ระยะเวลากิจกรรมประมาณครึ่งปี ซึ่งถือว่าได้ผลนะ ดนตรีก็ออกแขกๆ
แต่คือมันก็มีเสน่ห์ในแบบของมันอ่ะ ชอบมาก

ระหว่างนั้นแฟนเราทานอะไรมา ก็ส่งรูปมาให้ดู อะไรที่เราสงสัย
แฟนเราก็จะถ่ายเป็นคลิปมา แฟนคงคิดว่าเราเก่งมาก 55555+
เพราะของที่อยู่ในจาน เราเดาส่วนประกอบมันถูกหลายอย่าง
จริงๆ ก็แค่คนชอบทำอาหาร ก็พอจะเดามันออกได้บ้างน่ะนะ
จนพอแฟนไปถึงเยอรมัน ก็ส่งมาทั้งคลิป ทั้งรูปอาหาร 555+
ช่วงที่แฟนมีเรียน เราก็ไม่ได้ส่งอะไรไปกวนเขาเลย เพราะว่า
แฟนเอา schedule ทั้งหมดของเขาในช่วงเรียนให้เราตั้งแต่ก่อนบิน
เราก็เลยรู้เวลาว่า ตอนไหนเขาจะว่าง ตอนไหนเขาจะมีเรียน

พอเรียนจนครบ ก็เป็นช่วงเวลาว่าง ก็ไปเที่ยวตามที่ต่างๆ 
ไปซื้อของฝาก แฟนเราถ่ายรูปส่งให้เราตลอดทุกๆ 10 นาที 
คือเราก็ไม่ได้ขอให้เขาถ่ายรูปส่งมาเยอะและถี่ขนาดนี้ 555+
เราบอกเขาแค่ว่า ถ้าเจออะไรน่าสนใจก็ถ่ายรูปส่งมาด้วย
อยากเห็นอะไรที่มันแตกต่างจากบ้านเรา ชอบ กลายเป็นว่า
แฟนรายงานกิจกรรมของตัวเองตลอดเวลา 55555555+

ซื้อของจนหมดตัว ก็บ่น จะซื้อของฝากพ่อแม่เรา ก็ถ่ายรูป
ส่งมาให้ด้วย แฟนไม่รู้จะซื้ออะไรให้แม่เรา เราก็เลยบอกว่า
ซื้อลิปสติกให้เลย แม่ชอบสีชมพูแบบแป๋นๆๆ เลย 
(สีตามที่เรา hilight 555+) แล้วแฟนก็ซื้อมาจริงๆ 5555
(พอกลับมาไทย เราก็เลยเล่าให้ฟังว่า ทำไมเราถึงชอบซื้อลิปสติกให้แม่)
ของพ่อเราเป็นกาแฟเยอรมัน ส่วนของๆ เรา เอาจริงๆ 
แฟนซื้อให้เยอะมาก 555+ ทั้งกระเป๋าใส่ของสำหรับอาบน้ำ
สำหรับเดินทาง ทั้งลิปสติก แชมพู ครีม ของกินที่เราอยากกิน
เราฝากแค่ของไม่แพง แต่แฟนซื้อมาให้รวมๆ คือ
หยิบของแพงมากๆ มาให้ด้วย

แล้วแฟนเราก็ไปเที่ยว switzerland ต่อ ไปเที่ยว 2 เมือง
คือ Lucerne กับ Zurich ซึ่ง 2 เมืองนี้ เราก็ส่ง photo spot 
ให้ หาร้านอาหารให้ หาของฝากที่น่าซื้อกลับมาเมืองไทย
ตอนแฟนไป Lucerne แรกๆ ก็เที่ยวกับเพื่อนๆ จนพอ
แยกเที่ยวเพราะเจอ Lucerne Carnival ที่จัดปีละครั้ง
เป็นขบวน parade รอบที่ 2 ในระยะกิจกรรม 7 วัน

Lucerne Carnival เป็นอะไรที่เรารอคอยมาตั้งแต่แฟนไป
เราหาดูคลิป แล้วเราก็กรี๊ด เพราะมันดูสนุกสนานมากๆ
เราเรียกแฟนมาดู แล้วแฟนก็บอกว่า ยังไงก็จะ video call
ให้เราดู ตอนแรกก็ไปติดแหง่กอยู่บนเขา 1 ชม. เพราะหิมะตก
เรางอนแฟนเราไปพักนึง แล้วเราก็บอกแฟนว่า ถ้ารีบวิ่ง
ไปถนนเส้นสุดท้ายที่ขบวนเดิน Carnival ก็น่าจะทันนะ
พอลงไปได้ ก็รีบ call หาเราเลย เราได้ดูผ่านจอ สนุกมาก
สัญญาณภาพอาจจะไม่ค่อยดี แต่โดยรวม เราพอใจมากๆ
แล้วก็หายงอนแฟนเลย 5555555555555555555555+

แต่ก่อนจะได้ดู live สด Carnival เราก็บ่นแฟนเราใหญ่
ทำไมต้องไปตามเพื่อน ทำไมไม่ช่างแม่งเพื่อนไปเลย
ไหนบอกว่า จะไปเที่ยวเองแล้วไง ไม่สนเพื่อนแล้วไง
ทำไมยังไปแต่กับกลุ่มเพื่อนอีก อะไรแบบนี้ ซึ่งเราไม่รู้
ว่าสุดท้ายแล้ว มันส่งผลกับแฟนเราในวันถัดมาด้วย
แฟนเราออกจากที่พัก เดินทางไป Zurich คนเดียว
ออกเดินทางก่อนเพื่อนคนอื่นๆ 2 ชม.

พอแฟนไปถึง Zurich ก็ไปตาม plan ที่วางไว้กับเรา
มีผิดแผนบ้างเล็กน้อย คือ กะจะไปเที่ยวก่อนแล้วค่อย shop
กลายเป็นว่า พอไปถึง ก็รีบไป shop ของก่อน แล้ว
เอากลับไปฝากที่โรงแรม แล้วสะพายเป้ ออกไปเที่ยวต่อ
ถ่ายรูปส่งมาให้เราเรื่อยๆ ไปร้านอาหารที่เราเลือกๆ ให้
ร้านแรกเป็นร้านพิซซ่า ร้านที่ 2 เป็นร้านขายสลัด
ร้านที่ 3 ไปไม่ทัน มันเป็นร้านอาหารพื้นเมืองของซูริค
เป็นร้านที่ไม่ได้มีในแนะนำ แต่เป็นร้านที่คนท้องถิ่น
ชอบไปทานกันเป็นประจำ สำหรับมื้อพิเศษของแต่ละบ้าน

ตอนที่หาจุดถ่ายภาพ ก็ไปเจอภาพนึง เป็นวิวบนยอดดอย
ตอนเห็นรูปบอกเราว่า ยังไงก็จะไปที่นี่ให้ได้ แล้วแฟนเราก็ไป
นั่งรถรางไปเที่ยวเองเลย 5555555555555555555555+
ถ่ายรูปมา แต่ก็ตกรถรางไปเสี้ยวนาที วิ่งไม่ทันรถออก 55+
สุดท้ายเลยได้รอรถรางรอบถัดมา แล้วพระอาทิตย์กำลังตกดิน
แฟนนั่งอยู่หน้าสถานี แสงสีมันโคตรสวยยยยยยยยยยย 


เราชอบรูปแบบนี้มาก แล้วเราก็ชอบถ่ายรูปเวลาพระอาทิตย์ตกดินที่สุด
เพราะมันเป็นช่วงเวลา 10 นาทีที่มีค่ามากๆ แสงสวยๆ กระทบเมฆ
ช่วงสั้นๆ มันสวยอยู่แค่นั้น ถ้าไม่ได้ถ่ายแล้ว มันจะรู้สึกเสียดายมาก
เราคงอัพรูปแค่รูปเดียว เพราะส่วนใหญ่อยู่ในกล้องแฟนเราทั้งหมด
รูปที่เรามีเป็นรูปแฟนกับสถานที่ บางทีก็เป็นวิวสวยๆ แต่เราชอบรูปนี้
ก็อัพให้ดูเท่านี้ก็คงพอ เพราะแฟนเราเค้าอยากตั้งเป็นกระทู้เอาเอง
555

หลังจากนั้นก็ไปร้านอาหารเลย แล้วแฟนเราก็ตกใจกับสภาพร้าน
ร้านท้องถิ่น ตั้งอยู่ข้างร้าน McDonald และ StarBucks
แล้วร้านคนแน่นมากๆ อาหารพร้อมน้ำดื่ม รวมกันแล้วไม่ถึง 20 ฟรัง
รสชาติอร่อยมากๆ ทั้งอาหารและน้ำดื่ม สรุปแล้วแฟนเราประทับใจ
ร้านนี้มากที่สุด เราเองก็ตกใจ ร้านท้องถิ่น กล้าตั้งสู้กับร้านดัง
ระดับโลก แล้วยังขายดีมากๆ อาหารรสชาติดีมากๆ และเยอะมากๆ
ร้านก็น่ารักมากๆ ด้วย ตอนแรกที่เจอร้านนี้ ไม่คิดว่ามันจะดี
เรากับแฟนก็ทำใจกลางๆ แต่พอไปอ่านประวัติร้านดู
เป็นร้านที่น่าสนใจตั้งแต่ยังไม่ได้ไป พอไปแล้วแฟนประทับใจกลับมา
แฟนบอกว่า คำแรกที่กัด ทำให้ลืมเบอร์เกอร์ตาม fastfood
ทั้งหมดที่เคยกินไปเลย มันละมุนมาก รสชาติทุกอย่างพอดี
อาหารปรุงสุกพอดี ไม่สุกจนเกินไป เนื้อสัตว์ก็อร่อยแบบงานดี

กลายเป็นเราสร้างความประทับใจให้แฟนเรา กับการเที่ยว
ในวันนั้นทั้งวัน ตาม plan ที่วางกันไว้ ทำให้เขามีความสุขมาก
แฟนเรากลับมาวันถัดมา ก็รีบมาหาเราหลังจากพักผ่อนไปครึ่งวัน
แฟนบอกเราว่า ตลอดเวลาที่อยู่ที่โน่น คิดถึงอย่างเดียว
คือ อยากให้เราไปอยู่ ให้เราไปเห็น ไปสัมผัสตรงนั้นด้วยกันกับเขา
เราเองก็อยากไปมาก แต่เพราะเขาไปกับมหาวิทยาลัย
เขาจะยุ่งกับตรงนั้นมาก และเราชอบหลงทาง ถ้าเราตามไป
แน่นอน เขาต้องห่วงจนไม่ได้เรียนแน่ๆ ก็เลยว่า
ไว้คราวหน้าไปด้วยกันนะ ก็ตกลงว่า หลังจากนี้ ไปไหนไปด้วยกัน

และมารู้จากแฟนว่า พี่รูมเมทที่นอนกับแฟนเราบ่นใหญ่เลย
รู้งี้ไปเที่ยวทริปส่วนตัวของแฟนเราดีกว่า มันดูน่าสนุก
รูปก็สวย วิวก็สวย ร้านอาหารที่เล่าให้ฟังก็น่าไปทั้งหมด
ไปเดินส่งสาวๆ shopping ตามแหล่ง shop ทั้งวันโคตรเบื่อ
อะไรแบบนั้น เราก็ เออนะ ไม่คิดว่าที่ๆ จัดกับแฟน
มันจะทำให้คนอื่นเขาอยากไปเที่ยวซะงั้น 55555555555+

จริงๆ ก่อนหน้านี้แฟนก็บอกว่า เราน่าจะรับจัดทริปเที่ยวให้คนอื่นนะ
ซึ่งเอาจริงๆ ร้านกับสถานที่ๆ เราเลือก แฟนเราประทับใจทั้งหมด
ส่วนทริปที่ไปกับเพื่อน แฟนเรากลับรู้สึกว่า ไม่สนุก สวยจริง
แต่ว่า ไม่ค่อยสนุก ไม่ค่อยประทับใจ อะไรมากมายขนาดนั้น
เราว่ามันเป็นงานที่เสียเวลามากนะ จัดทริปให้คนอื่นๆ น่ะ
แล้วมันต้องทุ่มเวลามากด้วย ถ้าจะให้จัดจริงๆ คงต้องแยก
ตามที่คนทั่วไปเค้ารับจัด​​​​​​​ คือ แค่สถานที่ท่องเที่ยว ราคานึง
เฉพาะร้านอาหาร ราคานึง เฉพาะของฝาก ก็อีกราคานึง
เหมารวมทั้งหมด ราคานึง ถ้าให้จัดกระชั้นชิด ก็จะแพงมากๆ
ราคาในการจัดส่วนละประมาณ 3000-4000 

เราก็เพิ่งรู้ราคาหลังจากที่ลองค้นหาข้อมูลดู แพงมาก
แต่ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหม เราคิดว่า มันคุ้มค่ากว่าการที่จะเทียวหา
สถานที่ท่องเที่ยว หาร้านอาหารเอง เราใช้เวลา 1 สัปดาห์
ในการจัดทริปต่างๆ ให้แฟนเราทั้งหมด คือมันเยอะมากๆ
แล้วต้องคัด ต้องดูว่า เค้าชอบไหม เค้าสนใจไหมอีก
เราเองก็ไม่เคยไป เพียงแค่หาอ่าน ค้นหาดูรูปเท่าที่มี
แต่ผลลัพท์ของการจัดทริปให้แฟน กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เรา
รู้สึกว่า เราก็ทำมันได้ดีมาก ทำให้คนที่ไม่ค่อยสนใจโลก
รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เรามอบให้ แค่หาข้อมูลให้นิดหน่อย
แต่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้แฟน เราเองก็ดีใจมาก
มีความสุขมากๆ ตามเค้าไปด้วยนะ

ทุกวันนี้ ก็คิดนะ ว่า ทำไมเราโชคดีจัง รู้สึกดีใจมากๆๆ
เราไม่ต้องไปคอยบีบบังคับ ไปเหวี่ยง ไปวีนแฟน
ให้ต้องรายงานให้รู้ทุกเรื่อง อาจจะเพราะเราเป็นคนสบายๆ
แฟนก็เลยบอกเราทุกเรื่อง ไปไหนมาไหนกับใครก็บอกหมด
ไปเรียนไปเที่ยวอยู่ต่างประเทศครึ่งเดือน ก็ส่งรูปให้ดูตลอด
ส่งให้ดูทุกวัน ไม่ส่งอาหาร ก็ส่งรูปสถานที่ท่องเที่ยว
ที่ๆ ไปมาให้ดูอยู่ตลอด เราก็ถามแฟนเรานะ ว่า 
ส่งรูปให้เราบ่อยมากๆ แชทกับเราตลอดแบบนี้
เพื่อนไม่แซวหรอ ว่ากลัวเมีย อะไรแบบนี้ 5555555555+
แฟนก็บอกว่า ไม่หรอก เพราะไม่มีใครเห็นตอนคุยกัน
เห็นแค่ตอนที่ video call บนยอดดอยเฉยๆ อะไรแบบนั้น

แล้วแฟนเราก็ตลกมาก แฟนบอกคนอื่นๆ ว่า ผมมีแฟนแล้ว
แต่ไม่ให้เพื่อนๆ เจอ (ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากเจอ 555555555)
แล้วก็เคยบังเอิญเจอกันในร้านอาหารอยู่ครั้งนึง ทุกคนมองเรา
แล้วแบบมองเหมือนมีคำถาม ทำไมถึงกล้าคบกับคนนี้ 5555+
คือเราหน้าเป็นเด็ก ม.ปลายเลย ส่วนแฟนเราก็หน้าเลยอายุ
มันเลยดูเหมือน อาเสี่ยเลี้ยงเด็ก อะไรประมาณนั้น 55555+
ทั้งที่จริงก็อายุเท่ากันนะ แล้วแฟนก็ชอบบอกคนอื่นว่า เราดุมาก
อะไรแบบนั้น แล้วก็มีมาบอกเราว่า จะให้เค้าบอกว่า
แฟนเค้าใจดีมาก น่ารักมากๆ เข้าใจทุกอย่าง ใส่ใจเค้าทุกอย่าง
ทำอาหารก็อร่อย งานบ้านก็ดูแลดีมาก ปรึกษางานได้ทุกเรื่อง
แถมเวลางอน ก็ชอบงอนเอง ชงเอง ตบเอง แล้วหายงอนเองอีก
พูดงี้ทุกคน ก็อยากเจอสิ ยิ่งพวกผู้ชายคงอยากแย่งจีบอีก อะไรแบบนี้
ก็ต้องพูดว่า ดุมากไว้ก่อน ซึ่งฟังไปก็ขำไป เข้าใจคิดนะพ่อคู๊ณณณ 555+



Create Date : 09 มีนาคม 2562
Last Update : 9 มีนาคม 2562 2:28:34 น.
Counter : 541 Pageviews.

4 comments
  
รอบหน้าค่อยไปด้วยกัน
รอบนี้ส่งแฟนไปเซอร์เวย์ก่อน 555
ด้วยเทคโนโลยีในยุคนี้
ดีจังเลยนะครับ
เห็นรูปทางไลน์
คุยผ่านทางไลน์ก็ได้
เที่ยวเองก็สะดวกดี
เสริชกูเกิ้ลแมพได้

ที่ว่ามาพี่ก๋าทำไม่เป็นเลยนะนั่น
เวลาไปเที่ยวมาดามเป็นคนจัดการให้หมดเลย 5555


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2562 เวลา:20:32:01 น.
  


อรุณสวัสดิ์ครับน้องเหม่ง

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2562 เวลา:6:21:56 น.
  
ภาพในบล็อกคือ กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ครับ
ดอยหลวงเชียงดาว
พี่ก๋ายังไม่เคยขึ้นไปเลย
ชวนมาดามเธอไม่ไปแน่นอน
ห้องน้ำสำหรับเธอเป็นเรื่องใหญ่มากครับ 5555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2562 เวลา:19:56:48 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2562 เวลา:6:25:16 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Princezz Matcha Latte
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มะมะมะเหม่ง เองงับ!!! ทุกวันนี้ไม่เดิน เพราะกลิ้งได้
^_^
มีนาคม 2562

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
14
15
17
18
19
20
22
23
24
25
28
29
30
31
 
 
All Blog