ชาวสหรัฐอเมริกามอบหนังใหญ่ 30 รายการคืนสู่ประเทศไทย
 
หนังใหญ่ทำจากผืนหนังวัวฉลุภาพตัวละครตามเรื่องที่เล่น เช่น รามเกียรติ์ อุณรุท อิเหนา ใช้ยกจอรับเงาตัวหนังที่เชิดขึ้นหน้าไฟในเวลากลางคืน จัดเป็นมหรสพหรือการละเล่นชั้นสูงนิยมใช้แสดงในงานพระราชพิธี และงานสมโภชต่างๆของราชสำนัก
สันนิษฐานว่ามีมาแล้วแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาก่อนสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สืบทอดมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะหนังใหญ่ชุดพระนครไหว ฝีมือช่างสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ถือว่าเป็นหนังใหญ่ชุดงามที่สุด รวมทั้งหนังใหญ่ที่สร้างด้วยฝีมืออาจารย์ฤทธิ์ นายช่างใหญ่คนสำคัญแห่งเมืองเพชรบุรี ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ หนังใหญ่ใช้แสดงเฉพาะงานพระศพเจ้านาย จนในที่สุดการสร้างและการละเล่นหนังใหญ่ก็ไม่เป็นที่นิยมในสังคมไทย
พ.ศ. ๒๕๕๒ ชาวสหรัฐอเมริกา ชื่อ Dr.Sarah M Bekker พร้อมสามี Dr.Konrad Bekker มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี แจ้งความประสงค์ ขอมอบโบราณวัตถุให้กับรัฐบาลไทยคือหนังใหญ่จำนวน ๓๐ รายการ ซึ่งรับซื้อต่อมาจากชาวเยอรมันชื่อนาง Irmgard Eisenhofer ภรรยา ของนาย Emil Eisenhofer ผู้ซื้อมาจากนักเชิดหนังชาวไทยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ โดยหนังใหญ่ชุดนี้เคยจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์เครื่องหนังเยอรมัน (The German Leather Museum)ที่ Offenbach, Main เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗
  ทางสถานทูตจึงแจ้งเรื่องดังกล่าวผ่านกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ มายังกรมศิลปากร เพื่อให้พิจารณาว่าสมควรรับเข้าเป็นสมบัติของชาติหรือไม่ ซึ่งกรมศิลปากรเห็นสมควรรับมอบไว้ เพราะมีคุณค่าด้านประวัติศาสตร์ และศิลปกรรม พ.ศ. ๒๕๕๓ กรมศิลปากรขอความอนุเคราะห์ให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี เป็นผู้แทนรับมอบหนังใหญ่ทั้ง ๓๐ รายการ และช่วยดำเนินการจัดส่งคืนมายังประเทศไทยทางเรือ โดยกรมศิลปากรเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบรรจุหีบห่อและขนส่ง
ศิลปากรมอบหมายให้สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการรับหนังใหญ่จากด่านศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพ เข้ามาเก็บรักษาไว้ที่คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
 
หนังใหญ่ทั้ง ๓๐ รายการ มีขนาดแตกต่างกัน ขนาดใหญ่ กว้าง ๑๒๐- ๑๕๐ เซนติเมตร สูง ๑๕๐- ๑๗๕ เซนติเมตร จำนวน ๑๓ รายการ ขนาดกลาง กว้าง ๙๐- ๑๒๕ เซนติเมตร สูง ๘๕- ๑๔๐ เซนติเมตร จำนวน ๗ รายการ และขนาดเล็ก กว้าง ๔๐- ๗๕ เซนติเมตร สูง ๗๐- ๑๕๐ เซนติเมตร จำนวน ๑๐ รายการ
ส่วนใหญ่เป็นตัวภาพในเรื่องรามเกียรติ์ ประกอบด้วย
หนังจับ หนังที่มีภาพในตัวเรื่องตั้งแต่ ๒ ตัวขึ้นไป ทำท่ารบหรือจับกัน หนังคเนจร หนังภาพเดี่ยว หน้าเสี้ยว อยู่ในท่าเดิน หนังง่า หนังภาพเดี่ยว หน้าเสี้ยว ทำท่าเหาะ คือยกขาข้างใดข้างหนึ่ง หนังเมือง หนังที่ประกอบด้วยภาพอาคาร เช่น ปราสาท ราชวัง วิมาน หนังเบ็ดเตล็ด หนังอื่นๆ เช่น ตัวตลก สัตว์ต่างๆในเรื่อง
จัดเป็นโบราณวัตถุ ศิลปะรัตนโกสินทร์ อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๔- ๒๕ หนังใหญ่เกือบ ๑๐ รายการในหนังชุดนี้ ทำขึ้นด้วยฝีมือประณีตงดงามยิ่ง คล้ายคลึงกับหนังใหญ่ชุดพระนครไหว และแม้ว่าทั้งหมดจะมีสภาพชำรุด ตัวหนังบิดงอ และฉีกขาดตามกาลเวลา แต่คุณค่าความสำคัญโดยเฉพาะ ด้านศิลปกรรมยังคงอยู่ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติสืบไป

//www.finearts.go.th/taxonomy/term/11
โดยปรกติผมจะไม่ copy&past ข่าวมาจาก internet ยกเว้นคราวนี้ ที่ได้อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ของกรมศิลปากรแล้วรู้สึกดีใจ เพราะการแกะสลักหนังใหญ่แทบจะไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
แม้จะมีการสร้างใหม่ก็ยากที่จะทำได้เหมือนเช่นในอดีต เนื่องจากการขาดช่วงการสืบต่อมาหลายช่วงอายุคน การได้ตัวหนังชุดนี้กลับมาจะช่วยต่อลมหายใจของศิลปะไทยชนิดนี้ หวังว่าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจะได้ซ่อมแซมและจัดแสดงหนังใหญ่ชุดนี้
ไม่ว่าวันนั้นมันจะนานสักเท่าใด ผมก็จะรอ
Create Date : 26 มีนาคม 2555 |
|
2 comments |
Last Update : 26 มีนาคม 2555 16:27:57 น. |
Counter : 3666 Pageviews. |
 |
|
กลับคืนสู่บ้านเดิมที่เขาได้จากไปด้วยค่ะ
แบบว่าไปเที่ยวไหน อะไร ๆ ก็อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ในเมืองใหญ่และกรุงเทพ ฯ