บ่น ๆ ขับรถลืมดึงเบรคมือแถมถอยรถเกือบชนบ้านตัวเองตรงที่ป๊านอนอยู่อีก
พยายามจะลืม แต่มันก็ยังค้างใจอยู่ ทำอะไรแป๊บ ๆ มันก็แว้ปกลับมาคิดอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจ และ ไม่ได้อยากจะจำเล้ย
จิตก็แบบนี้ล่ะนะ ไว้ยิ่งกว่าลิง คิดโน่น คิดนี่ตลอดเวลา เราไม่เคยรู้เท่าทันมันเล้ย
เรื่องแรก
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มีโอกาสขับรถพาหม่าม้าไป shopping ที่งาน Nike ตรงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ซึ่งเราเนี่ย ไม่ชอบขับรถ กลัวการขับรถ กลัวชน + มีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีกับการขับรถ แล้วขับรถน้อยมาก ปีละ 2-3 ครั้งเองมั้ง เพราะไม่อยากขับ + หลีกเลี่ยงตลอด แต่คราวนี้อยากไปช้อปแต่ป๊าไม่อยากไป ก็เลยไปกัน 2 คนแม่ลูก
ขาไปก็ไม่มีปัญหา พยายามมีสติที่สุดในการขับรถ (แต่ใจก็ชอบคิดว่าต้องมีปัญหา + กลัวชนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะไปชนเค้า หรือ จอดติดไฟแดงแล้วกลัวเค้าจะมาชนเรา) มันความคิดที่ดึงดูดสิ่งที่ไม่ดีมาเข้าตัวก็พยายามคิดให้น้อยที่สุด
แต่ขากลับเนี่ยสิ พอดีจะออกรถแต่มีรถจอดขวางอยู่เลยเข็นกัน 2 คนแม่ลูก ไอ้รถที่รอจะจอดที่เราก็ลงมาช่วยเข็นจะได้เร็วขึ้น ด้วยความเกรงใจเลยรีบสตาร์ทรถแล้วขับออกมา แต่รู้สึกว่าทำไมเหยียบคันเร่งแล้วรถมันอืด ๆ หว่า กว่าจะรู้ตัวว่าลืมดึงเบรกมือก็ล่อไป 5 กิโลแล้วมั้ง กลัวเลย
แถมตอนจอดรถเข้าบ้าน มันเป็น slope ขึ้นบ้านเพราะบ้านยกสูงกว่าถนน แล้วพอถอยก็จำได้ว่าป๊ากะม้าชอบว่า ๆ ทำไมเวลาถอยขึ้นแล้วชอบเบรคตอนล้อจะอยู่ตรงกลาง slope แล้วเดินหน้าตั้งลำ คราวนี้ก็เลยถอยขึ้นทีเดียวเลยแล้วลืมเบรค เกือบชนหน้าต่างกำแพงบ้านตัวเองแน่ะ แล้วตรงหน้าต่างนั้น ถ้าชนเข้ามาเป็นโซฟาที่ป๊านอนอยู่พอดี
หลอนไปเลยกรู ขนาดนอนจะหลับ ๆ ใจมันก็คิดถึงเรื่องนี้มาทั้งอาทิตย์เลยอ่ะ นี่ขนาดไม่ชนนะ แค่เกือบ ๆ อีกนิดเดียวนั่นล่ะ
เรื่องที่ 2
วันนี้ ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำที่โรงอาหาร มีน้องนักศึกษามาชน เราก็กรี๊ด ตกใจ เพราะชามก๋วยเตี๋ยวเกือบเท ดีนะประคองทัน ไม่งั้นมันได้ราดเราไม่ก็น้องเค้าแน่นอน คน 2-3 โต๊ะหันมากันหมด น้องคนนั้น (หันหลัง) ก็หยุด แล้วน้องเค้าก็รีบเดินจากไป เฮ้อ เคืองเด็กสมัยนี้จริง ๆ ปากหนักเหลือเกิน ขอโทษ เนี่ยพูดเป็นมั้ย เสียใจที่ไม่เห็นหน้า ตอนนั้นโกรธขนาดว่าจะเทชามก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ นั้นใส่เลย (โหดไปมั้ย มันเป็นแว้ปนึงเท่านั้น) เป็นเรานะ จะรีบขอโทษเลย แต่ก็นะ แต่ละคน ร้อยพ่อพันแม่ เค้าอาจจะคิดว่าก็ไม่ได้หกจะขอโทษทำไมก็ได้ อุตส่าห์เรียนเก่งเข้ามอรัฐแถวสยามได้ แต่ทำไมคิดได้แค่นี้นะ ก็ได้แต่พยายามให้อภัย อโหสิกรรมให้ เพราะไม่อยากติดหนี้กรรมกันข้ามภพข้ามชาติ แต่มันเคืองจริง ๆ ก็พยายามลืมอยู่แต่ยังค้างใจอยู่ (ถ้าลืมได้ก็คงไม่เอามาเขียนหรอกเนอะ)
เรื่องสุดท้าย เมื่อกี๊ เพื่อนสนิทเราที่เป็นเมเนเจอร์เค้าฝากพี่อีกคนในออฟฟิศซื้อกาแฟปั่น S&P มา เพราะวันนี้มันซื้อ 1 แถม 1 แล้วพอดีมันเข้าประชุม กว่าเราจะมาเห็น มันก็ละลายไปครึ่งแก้วแล้ว (โต๊ะไม่ได้ติดกัน แต่ว่าจะเดินไปเม้าซะหน่อย) โมโหแทนเพื่อนจัง ทำไมลูกน้องที่นั่งโต๊ะข้างกันไม่ช่วยเอาไปแช่ตู้เย็นให้หน่อยวะ เราก็ถามนะว่าหัวหน้าเธอไปไหน เค้าก็บอกว่าประชุม แล้วเราก็ถามต่อว่าแล้วกาแฟนี่มาตั้งที่โต๊ะนานรึยัง เค้าก็บอกว่าซักพักแล้ว แต่เท่าที่เห็นคือมันละลายไปครึ่งแก้วแล้ว เหลือแต่ไอ้วิปครีมข้างบนอ่ะที่ไม่ละลาย ทำไมเค้าไม่มี common sense หรือคิดเผื่อให้เลยว่า อ๋อ ตอนนี้นายประชุม ไปเอาเข้าตู้เย็นให้ดีกว่า เพราะเดี๋ยวละลายหมดจะไม่อร่อยไรเงี้ย
เซ็ง ๆ ระบายหมดแล้ว หวังว่าเรื่องพวกนี้มันจะไม่มาค้างในหัวให้เราหงุดหงิดอีกนะ อยากลืมมาก ๆ เพราะมันไร้สาระสุด ๆ แต่เดี๋ยว ๆ มันก็แว้ปเข้ามาอีกแล้ว ทำไมการทำงานของจิตคนเรานั้นมันไวได้ขนาดนี้นะ นี่ขนาดเคยฝึกมาบ้างแล้วนะ ยังไม่รู้เท่าทันมันได้ตลอดเลย
Create Date : 19 มิถุนายน 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 19 มิถุนายน 2552 16:14:10 น. |
Counter : 1873 Pageviews. |
|
|
|