ละไมในลาว : around เวียงจันทร์ยันวังเวียง

ละไมในลาว around เวียงจันทร์ยันวังเวียง : 25 กุมภาพันธ์ 2553



เกือบสิบห้าปีที่ไม่ได้เดินทางโดยรถทัวร์ ทำเอากระดี้กระด๊าเป็นพิเศษ ที่รู้ว่าจะต้องเดินทางไปหลวงพระบางโดยรถทัวร์ จากเชียงใหม่ถึงอุดรธานี ทำเอายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ระหว่างรอรถออก แต่ก็คงจะตื่นเต้นน้อยกว่าเจ้าตัวเล็กที่มาส่งแม่เดินทางถึงที่นั่งชั้นสองของรถ ก่อนจะโบกมือหยอย ๆ กระโดดเหย็ง ๆ เป็นเวลานานสองนานจนรถลับสายตา

ปวดคอเป็นบ้า.. ความรู้สึกที่สัมผัสได้ตลอดการเดินทางจากเชียงใหม่ถึงอุดร หลับ ๆ ตื่น ๆ ถึงอุดรในเช้าวันศุกร์ สะโหลสะเหล่ลงรถทัวร์ คว้ากระเป๋าแบบงง ๆ กระโดดขึ้นรถตู้ต่อไปยังหนองคายใช้เวลาราว 30 นาทีจากสถานีขนส่งอุดรถึงบริษัททัวร์เพื่อแวะล้างหน้าล้างตา







และก็มีเหตุการณ์ให้ระทึก พี่โยหนึ่งในสมาชิกดันลืมพาสปอร์ตไว้อีกบริษัทเพื่อเตรียมตัวไปบาหลีทันทีที่เสร็จจากทริปนี้ แต่ด้วยความที่เป็นนักเดินทางท่องโลกรายเดือนอย่างพี่โย ไร้อุปสรรค จัดการด้วยการให้คนส่งพาสปอร์ตตามไปรอที่โรงแรมในหลวงพระบางช่วงระหว่างที่ลูกทัวร์ยังคงลั้นลาอยู่เวียงจันทร์และวังเวียง

แวะทานอาหารเช้าในตัวเมืองหนองคาย ดูเป็นเมืองเล็ก ๆ ค่อนข้างสงบ มื้อแรกวันนี้ เป็นข้าวต้ม ไข่กระทะ กับขนมปังฝรั่งเศส สมกับเป็นเมืองค้าคายชายแดนติดกับประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ส่งกลิ่นอายมาตั้งแต่ยังไม่ข้ามฝั่ง


ล้อหมุนผ่าน สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ทำเอาใจแห้งเหือดตามแม่น้ำโขงที่แห้งขอดไปเยอะ สลับสับเปลี่ยนรถตู้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ทำความรู้จักกับ “น้องปาลี” ไกด์สาวแห่งเมืองลาวหน้าหวานพอเป็นพิธี เปิดตัวบริการด้วยการพาไปช็อปปิ้งร้านเครื่องเงินแท้ของลาว เอาใจวัยป้านักช็อปอย่างรู้ใจ

ไม่ถูกและไม่แพง ราคากลาง ๆ ราคาต่อรองได้ ใกล้เคียงกับร้านเครื่องเงินแถวถนนวัวลายเชียงใหม่ หากแต่นี้เป็นเครื่องเงินของเมืองลาวไม่ของเมืองเรา ซักชิ้นไม่เห็นเป็นไร และแล้วก็สอยมาจนได้ สร้อยเงินสองเส้น กิ๊บเก๋ถูกใจไม่น้อย







น้องปาลีพาไปกราบนมัสการ “พระธาตุหลวง” ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ที่สวยที่สุดในประเทศลาว (เค้าว่างั้น) จุดธูปขอพรพระให้เดินทางโดยปลอดภัยในช่วงระหว่างที่อยู่ในลาว เดินวนขวารอบพระธาตุหนึ่งรอบ ว่ากันว่าเดินวนหนึ่งรอบอายุยืน 100 ปี 3 รอบ 300 ปี แต่ไม่มีใครยักกะเดินสามรอบ ด้วยแสงตะวันสาดส่องแบบไม่สงสารคนต่างถิ่น จำต้องเร่งรีบทำเวลาเดินหาแอร์คอนดิชั่นรมกายในรถตู้เพื่อเดินทางต่อ


ไม่ลืมที่จะแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่ “อนุสาวรีย์ประตูชัย” สถาปัตยกรรมผสมผสานลาวล้านช้าง กับฝรั่งเศส สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและเอกราช แชะสองแชะพอเป็นพิธีและมีหลักฐานการเดินทาง ก่อนเดินทางไปต่อยัง “เจ้าแม่หลักเมือง” ที่ วัดศรีเมือง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของทั้งชาวไทยและลาว ขอพรพระท่านแล้ว ไม่ลืมขอแพเจ้าแม่ให้ท่านเมตตาดูแลอีกแห่งให้อุ่นใจในการเดินทางในครั้งนี้


แวะรับประทานอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ใกล้แม่น้ำโขง ทำให้รับคลื่นโทรศัพท์ได้ โทรเข้า-ออกด้วยเรทของประเทศไทย คนมีห่วงข้างหลังไม่ลืมถามหาซิมโทรศัพท์ลาว ซึ่งน้องปาลีหาให้ไม่ยาก ราคาค่าซิม 50 บาท บัตรเติมเงินมีขายราคา 100 และ 200 บาท อัตราค่าโทรนาทีละ 9 บาท ถูกกว่าเปิดโรมมิ่งเป็นไหน ๆ

เพราะคนโทรก็เสียคนรับก็เสีย นาทีละ 39 บาทกว่า แล้วจะเปิดโรมมิ่งทำไมให้เสียเวลา สู้ซื้อซิมลาวดีกว่า โทรเข้าเข้าออกแสนสบายใจ ระหว่างทางแวะแหล่งช็อปปิ้งของก็อปแบรนด์เนม อาทิ กระเป๋าและมือถือราคาถูก ในเมืองเวียงจันทร์ แต่ไม่ถูกใจซักเท่าไหร่ ต่างคนต่างเดินชมไม่มีใครเสียสะตุ้งสะตังค์







จากเวียงจันทร์ถึงวังเวียง ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตรที่ทำเอานอนแทบไม่หลับ ทั้งที่ใจอยากเก็บเรี่ยวแรงไว้ลุยต่อ เผลอหลับเป็นคอเคล็ด จากแรงกระแทกของพะนักพิง ยึดท้ายหาดรถผิดคิดจนคอแทบหัก น้องปาลีก็ไม่มีไมค์เวลาเล่าเรื่องราวอะไร ได้ยินมั้งไม่ได้ยินมั้ง ได้แต่นั่งกระเด็นกระดอนอย่างเมามันอยู่ข้างหลัง เอาเถอะ เรามันน้องเล็กกระดูกเหล็กสมควรเสียสละให้ผู้ใหญ่วัยเกษียณอยู่ข้างหน้าน่ะ ถูกแล้ว

อีตอนเสียสะตังค์ให้ค่าบำรุงถนนระหว่างทาง เพราะลาวจะทำการซ่อมแซมถนนในหน้าแล้งของทุกปี มีแอบเคืองเล็กน้อย ค้อนขวับในใจอยากได้เงินคืนมาซื้อยาหม่องแก้เคล็ดขัดยอกทาถูแถวต้นคอซะมากกว่า เอาวะ..ไหน ๆ ก็นอนไม่หลับเบิ่งตามองวิถีชีวิตของชนชาวลาวกันแก้ง่วงดีกว่า ว่าเค้ากินเค้าอยู่กันยังไง อย่างน้อยก็มีต้นไม้ใบหญ้าบ้านลาวให้ดู แม้ไม่ต่างจากบ้านเรา แต่นี่เป็นบ้านลาว ..ก็ยังดีน่า


แวะยืดเส้นยืดสายที่หมู่บ้านชาวประมง “บ้านท่าปลา” มีปลาแห้ง ปลาร้า ปลากระดี่ แหนมปลาเต็มสองข้างทาง ติดที่ต้องเดินทางอีกหลายวันจำต้องตัดใจจากปลาแห้งตัวใหญ่ใจอยากจะซื้อไปฝากคุณยายอย่างยิ่ง ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ..

แต่มีหมูพวงแดดเดียวนำเสนอ อร่อยมากค่ะ พวงละ 20 บาท รสชาติคล้ายหมูสวรรค์บ้านเรา เดาว่านี่คงเป็นหมูสวรรค์บ้านลาว ไม่เลวจริง ๆ แบ่งกันคนละคำสองคำพอให้รู้ ติดแต่เดินไปทานไป คนขับรถก็แสนดีมาดักรอข้างหน้า ครั้งจะซื้อทานใหม่ก็ไกลเกินกว่าจะย้อนกลับ ไว้เจอข้างหน้าค่อยหาหม่ำละกัน







ถึงที่พัก “The Elephant Crossing Hotel Vang Vieng” สวยน่ารักไม่หยอก ตรงทำเลติดกับแม่น้ำซอง วิวทิวทัศน์ระดับบีบวก ทำเอาหายเพลีย ใจกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที ไม่รีรอให้เสียเวลา โยนกระเป๋าเสร็จ ถลาลงมาข้างล่างเตรียมตัวล่องเรือชมแม่น้ำซอง “กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว” ต่อทันที แดดร่มลมตกสวยได้ที่มีหรือจะพลาด ปล่อยให้ป้าอ้วนคู่นอนพักผ่อนติดตามข่าวสารอันร้อนแรงของเมืองไทยอยู่บนห้องตามเจตนาของป้า

แสงแดดทาบทาแม่น้ำซองยามนี้ ดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ กระโดดลงเรือเปิดปุ่มออนเตรียมกดชัตเตอร์ทันทีที่เรือขยับ วังเวียงสวยสมฉายา “กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว” เมืองแห่งธรรมชาติ ที่มีแม่น้ำซองเป็นอู่ข้าวอู่น้ำล่อเลี้ยงชีวิตของคนในวังเวียง







แม่น้ำซองไหลเอื้อย ฝั่งขวามีรีสอร์ทน่ารักผุดเรียงรายเป็นจุด ๆ พร้อมกับวิถีชีวิตชาวบ้าน บ้างก็จับปลา บ้างก็ซักผ้า บ้างก็มีเด็กมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ฝั่งซ้ายเป็นภูเขาหินสีดำสูงตระหง่าน ระหว่างทางนั่งเรือชมวิว สวนทางกับชาวต่างชาตินั่งห่วงยาง (ยางในรถยนต์) ล่องแม่น้ำซองสวนทางเป็นเส้นสาย

บ้างก็ฉายเดี่ยวเปลี่ยวเหงา ในมือมีกล้องไม่ก็กระป๋องเบียร์ บ้างก็เป็นเกี่ยวก้อยลองมาเป็นคู่ ๆ นี่ถ้าไม่ติดมากับบรรดาป้า ๆ ถ้าได้มากับเพื่อน ๆ มีหวังได้ลองนั่งห่วงยางกันซักตั้ง ท่าทางสนุกสนานกันน่าดู





นี่แหละ กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว สวรรค์บนดินที่ วังเวียง


บางจุดมีสลิงให้ห้อยโหน มีสไลเดอร์แบบฉบับของวังเวียง ผู้บริหารสวนสยามเห็นแล้วยังอาย ภาพผู้คนดริ๊ง แดร็ง ดรั้ง แนวเอ็กตรีมส่วนใหญ่เป็นฝรั่งมังคาหาคนไทยได้น้อย ขาล่องเรือกลับพอดีกับตะวันลับขอบฟ้า เกือบได้เวลาอาหารเย็น ยังพอมีเวลาให้เดินเล่นหน้าโรงแรม มี โรตีลาว ให้ลิ้มลอง จะใส่เครื่องกี่อย่างก็สี่สิบบาทขาดตัว


แต่พอเห็นของสารพัดที่วาง กล้วย ไข่ ไมโล โอวัลติน นม ช็อกโกแล็ต ฯลฯ แล้ว บอกน้อง ๆ ของพี่ใส่ไข่กะกล้วยก็พอ ขายดีซะด้วยต่อคิวยาวกว่าจะได้กิน น้องปาลีมาเฉลยทีหลังว่าแขกมาขายโรตี ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนสาวลาวทนไม่ไหว หันมาเอาดีขายโรตีกันมั้ง จนมีให้เห็นแทบทุกจุดในวังเวียง







ตลาดในวังเวียงยามค่ำคืน ยึดพื้นที่สนามบินเก่าครั้งอเมริการบรากับเวียดนามแล้วใช้ลาวเป็นฐานทัพพร้อมกับลักขโมยทรัพยากรเมืองลาวไปไม่น้อย บรรยากาศเหมือนงานวัด มีกางเต็นท์ขายของ มีปาลูกโป่งที่เรียกแขกได้พอดู ถนนคนเดินในวังเวียง ดูไปคล้ายปาย ต่างกันตรงที่ไม่มีร้านขายของที่ระลึก มีแต่ร้านขายอาหารให้กิน ให้ดื่ม ให้แฮ็งค์ กันเท่านั้น












หกเจ็ดแปดตามเวลามาตรฐานของทัวร์ หกโมงเช้ามอร์นิ่งเคาะ (คอล) เนื่องจากไม่มีโทรศัพท์ในห้องพัก เลยต้องใช้พนักงานเคาะประตูปลุก เจ็ดโมงอาหารเช้า และล้อหมุนแปดโมง สงสัยป้าอ้วนเห็นฉันตื่นตั้งแต่ไก่โห่ เลยไล่ลงไปถ่ายรูปเก็บภาพยามเช้าอย่างรู้ใจ ไปก่อนเถอะหนูไม่ต้องห่วงป้า ..แหะ ๆๆ คว้ากล้องทิ้งป้าสาละวนกับการแต่งตัวทันทีอย่างไม่รีรอให้เสียคำไล่

ค่อย ๆ เก็บภาพวังเวียงยามเช้าอย่างไม่เร่งรีบ เจอคู่รักนักชอบเที่ยวอย่างพี่หยิกและพี่วิทย์มาเก็บภาพก่อนอยู่แล้ว ต่างคนต่างไม่แปลกใจ นึกแล้วต้องเจอกัน ตามประสาคนชอบถ่ายรูปและไม่อยากพลาดทุกช่วงเวลา


เดินไปเดินมาได้เวลาอาหารเช้า ละเมียดละไมทานไปชมวิวกุ้ยหลินเมืองลาวริมแม่น้ำซองไป จะว่าไปวังเวียงนี่มีเสน่ห์ไม่เบา ระหว่างเวียงจันทร์กับวังเวียง ใจมันแอบเทให้วังเวียงแทบไม่เหลือเงาของเวียงจันทร์ บรรยากาศเงียบสงบ วิวทิวทัศน์ระดับบีบวก แบบนี้เอาปายมาแลกก็ไม่ยอม







ได้เวลาเดินทางไป “ถ้ำจัง” ชมประติมากรรมธรรมชาติก่อนที่มุ่งสู่เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง นึกถึงถ้ำทีไร ลมหายใจมันขัด ๆ ด้วยนึกถึงบรรยากาศอันอับ ๆ ชื้น ๆ แต่ไหน ๆ ก็มาถึงที่แล้วลองเข้าไปดูซักตั้งไม่เสียเที่ยว เห็นบันไดขึ้นปากถ้ำทำเอาแอบอ่อนใจ น้องปาลีปลุกปลอบด้วยคำที่ว่า ไปถ้ำคราวนี้รับรองได้เห็นขาอ่อนเมืองลาว สาวได้สาวเอา วุ๊ย..พูดซะทำเอาใจหลายคนร่วมทริปเต้นตึกตักจะได้เห็นขาสาวเมืองลาวก็คราวนี้

ทีไหนได้โดนน้องปาลีต้มซะเปื่อย แต่เห็นจริง ๆ ค่ะ เห็นขาที่แทบอ่อน (แรง) เพราะเดินขึ้นบันไดสูง ทำเอาขาอ่อนเดินแทบไม่ไหว เจอราวบันไดเป็นต้องสาวได้สาวเอา ไม่งั้นหมดแรงกลิ้งตกกระได จำต้องยึดราวบันไดไว้เป็นที่มั่น 5555















ภายในถ้ำจัง ไม่อับอย่างที่คิด อากาศถ่ายเทสะดวก มีทางเดินไม่คับแคบและเปียกชื่นเหมือนบางถ้ำ มีแสงไฟสว่างเป็นจุด ๆ แต่ให้พอมองเห็นลวดลายธรรมชาติสร้างสรรค์ หินงอกหินย้อย

เดินเอ่อระเหยบิ้วอารมณ์ตามเสียงน้องปาลีเอื้อนเอ่ยที่มาแต่ละจุดให้ฟัง ไม่ว่าที่ไหน ๆ ก็จะมีเรื่องราวของมันอยู่เสมอ จินตนาตามน้องปาลีหน่อยจะเป็นไรไป ดูไปดูมา หินงอกตรงนี้ก็ดูเหมือนใช่คำตามน้อง คิดไปคิดมาก็สนุกดี นิยายปรัมปราเมืองลาว












จากเวียงจันทร์มาวังเวียง ขึ้นเขาระดับชั้นอนุบาล แต่จากวังเวียงไปหลวงพระบาง น้องปาลีบอกว่าระดับมหาวิทยาลัย แต่ไม่ต้องกลัว เรามีโซเฟอร์ชั้นเซียนให้อุ่นใจ ระหว่างทางจะแวะให้เข้าห้องน้ำเป็นจุด ๆ ด้วยระยะทาง 240 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเป็นอย่างช้า

วัดจากสายตาสาวเหนือที่ชาชินกับเรื่องดอยเห็นแล้วชิวชิว หากแต่เส้นทางที่เดินทางในวันนี้ มันดูแห้งแล้ง มองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้แห้ง ๆ บวกกับแดดร้อนแผดเผา ที่บ้านเรายังมีต้นไม้สีเขียว ๆ บ้าง ระหว่างทางน้องปาลีเล่าให้ฟังว่า

เมื่อก่อนเมืองหลวงของประเทศลาว อยู่ที่หลวงพระบาง แต่เนื่องด้วยพระไชยเชษฐาเห็นว่า หลวงพระบาง ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตียึดบ้านเมืองจากประเทศพม่า จึงต้องย้ายเมืองหลวงมาที่เวียงจันทร์ ระหว่างที่ทำการขนย้าย คน สัตว์ สิ่งของนั้น ไม่มีถนนหนทาง ไม่มีรถรา ต้องอาศัยเดินบ้าง ขึ่ช้าง ขี่ม้า พอมาถึงวังเวียง ได้หยุดพักก่อนที่จะเดินทางต่อ

ด้วยความที่เดินทางไกล ทำให้มีคนล้มเจ็บ เป็นไข้ป่าป่วยตายจำนวนมาก ทำให้จุดที่พักนี่บรรยากาศดูวังเวง เลยกลายเป็นที่มาของเมืองวังเวียง ออกเสียงคล้าย ๆ วังเวง ที่ปัจจุบันฉันดูยังไงก็ไม่เหลือเค้าวังเวงเหมือนตำนานในอดีต ดูไปดูมามันตรงกันข้ามกับวังเวง เป็นอลเวงด้วยฝรั่งมังค่ายังไงไม่รู้







แวะพักทานอาหารเที่ยงบน ภัตตาคารลอยฟ้า มองวิวทิวทัศน์เกือบ ๆ พาโนราม่าแต่เสียดายที่มีแต่หมอกควันทำให้เห็นภาพแบบลางเลือน เป็นอาหารมื้อที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เหยียบเข้ามาในลาว ไม่เพียงแต่วิวระดับเกรดเอเท่านั้น อาหารที่ใจเทคะแนนให้เป็นดับเบิ้ลเอ โดยเฉพาะน้ำพริกปลากับผักสดอร่อยจริง ๆ ตบท้ายด้วยกาแฟดาว กาแฟลาวที่โด่งดังที่สุดในประเทศลาว

ครึ่งทางหลังคอยเงี่ยหูฟังน้องปาลีบอกเล่า หลักสูตรเรียนหนังสือในลาวไม่มีการเรียนการสอนภาษาไทยเหมือนที่มีสอนภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส แต่คนลาวส่วนใหญ่อ่านออกเขียนภาษาไทยกันได้เอง เออ..เข้าท่าดี ก็เรียนรู้จากละครไทยนี่แหละ เพราะประเทศลาวไม่มีละคร อาศัยดูละครจากประเทศไทย เพราะประชาชนในลาวค่าครองชีพสูง รายได้ต่ำ ราชการในประเทศลาว แทบทุกคนจะต้องมีอาชีพเสริม ไม่อย่างนั้นไม่พอมีอันจะกิน

น้องปาลียังไม่วายมีนิทานกล่อมลูกทัวร์วัยป้า บอกว่าชาวบ้านแถวนี้เลี้ยงวัวแบบบุฟเฟ่ต์ ปล่อยให้หากินเองกลับบ้านเอง โดยการเอาน้ำผสมเกลือให้ทานครั้งแรก แล้วจูงไปจูงกลับ หลังจากนั้นวัวก็จะกลับบ้านได้เองไม่ต้องมีไปต้อน เชื่อไม่เชื่อไม่รู้แต่เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร ก่อนที่จะเล่น “เกมส์ซ่อนตาดำ” (หลับตานอน) ก่อนจะถึงหลวงพระบางหลังจากเต็มพลังซะเต็มพุง








ถึง "เมืองหลวงพระบาง" เลือดลมในร่างเริ่มสูบฉีด ตื่นตัวตื่นตาและตื่นใจเก็บอาการไม่อยู่ เจาะหน้าค่าตาเมืองมรดกโลกอันโด่งดังแห่งเอเชีย มาถึงแล้วซินะ.. หลวงพระบางในฝัน แวะกราบนมัสการ “พระธาตุหมากโม” เป็นวัดที่เก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช เมื่อปี พ.ศ.2075 มีเจดีย์รูปร่างคล้าย ๆ แตงโมผ่าครึ่ง นี่กระมั้งที่เป็นที่มาของชื่อพระธาตุ ตามประวัติกล่าวว่า พระนางพันตีนเขียง อัครมเหสีของเจ้าชึวิตวิชุนราชโปรดให้สร้างขึ้น











ดูสภาพวัดแล้วก็เก่าแก่จริง ๆ มีอาณาบริเวณกว้างขวาง กราบนมัสการพระพุทธรูปเสร็จ เดินวนรอบองค์พระ มีรูปปั้นพระพุทธรูปเก่าแก่ และพระพุทธรูปไม้แกะสลักมากมายวางเรียงรายอยู่ มีป้ายห้ามจับ ตามมารยาทของนักท่องเที่ยว ดูแต่ตามืออย่าต้องของจะเสีย (อยู่แล้ว)

ถึงไม่บอกให้จับแต่เห็นฝุ่นที่เกาะก็ทำเอาไม่กล้าจับอยู่ดี ใจอดคิดไม่ได้ว่า ของโบราณเก่าแก่ควรค่าแก่การรักษาบางอย่าง น่าจะมีวิธีการอนุรักษ์ที่ดีกว่าปล่อยให้ตากแดดตามลมตามยถากรรมแบบนี้







และแล้วในที่สุดก็ถึงไฮไลต์ของทริป นั้นก็คือ “วัดเชียงทอง” วัดที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดในหลวงพระบาง ด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามตระการตา แสดงถึงเอกลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรมของล้านช้าง ที่สร้างขึ้นในราว พ.ศ.2102 – 2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ก่อนที่พระองค์จะทรงย้ายเมืองหลวงไปยังนครเวียงจันทร์

วัดเชียงทอง เปรียบเสมือน วัดประตูเมือง เนื่องจากใช้เป็นท่าเรือ สำหรับการเสด็จประพาสทางชลมารคของกษัตริย์พลวงพระบางในอดีต เห็นพระวิหารที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ทำเอาหัวใจพองโต ไม่พลาดเก็บภาพทุกมุมทุกช็อต ก่อนมาทำการบ้านพอสมควร สมดังคำที่ว่า “ไม่มาวัดเชียงทอง เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง”

เคยอ่านหนังสือของนักเขียนในดวงใจ มีคนรู้จักเธอคนหนึ่งมาหลวงพระบางแล้วไม่ได้มาวัดเชียงทอง จำต้องนั่งรถเกือบ 300 กว่ากิโลเมตรกลับมาหลวงพระบาง เพื่อมาเก็บภาพความประทับใจที่วัดเชียงทองอีกรอบ











วิจิตรงดงามจริง ๆ ค่ะ สวยสมกับเป็นวัดโด่งดังและที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองลาว สวยขลังตามแบบฉบับของหลวงพระบาง จึงมีเสน่ห์ดึงนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย นี่ขนาดไปถึงเอาเย็นย่ำขนาดนี้ ยังเจอไม่ต่ำกว่า 3 - 4 ขบวนทัวร์ ไม่รวมแบคแพคแปกเป้ที่ถือกล้องตัวโต เล็งมุมสวยเดินกันให้ขวัก







จิตรกรรมบนฝาผนังไม่แน่ใจว่าเป็นโบถ์สหรือพระวิหารหลังเล็ก ประดับประดาด้วยกระจกสีวางประติดประต่อเป็นเรื่องราว สะท้อนแสงตะวันยามเย็นระยิบระยับ สีสวยหวานโทนสีชมพูปนม่วง ทำเอากรี๊ดในใจแทบสลบ ก็มุมนี้ไงที่นักเขียนในดวงใจฉันถ่ายภาพไว้ เป็นหนึ่งในสิบภาพจากการเดินทางรอบโลกของเธอที่ฉันชอบซะด้วย

เร็วเท่าใจคิด เรียกปาลีน้องไกด์คนสวยยืนในมุมที่กำหนด พร้อมพุ่งไปทำท่าสวยที่คิดว่า..ฉ้านได้มามุมเดียวตามรอยนักเขียนในดวงใจอีกหนึ่งทริปแล้วเด้อ.. สองแชะแล้วยังไม่หายตื่นเต้น สะกิดแหม่มข้าง ๆ ให้ถ่ายรูปมุมสวยเหมือนฉัน อารามรีบพูดด้วยความดีใจ แหม่มจึงมองมาด้วยสายตางง ๆ เลยรีเพล์ภาพจากกล้องให้ดูถึงบางอ๋อ โอว..เวรี่เวรี่ บิวตี้ฟูล
















เช็คอินที่พักที่ Visoun Namsok Hotel ที่พักระดับ 3 ดาว ความสะอาดใช้ได้ ลากกระเป๋าเข้าห้องเสร็จ ถลาร่อนเมืองมรดกโลกยามเย็นอย่างไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า ช่วงระหว่างรอเวลานัดหมายรถมารับไปทานอาหารเย็น เหนื่อยกับการเดินทางขึ้นเขาลงดอย 240 กิโลเมตรแค่ไหน ใจก็บ่ยั้น ขามันสั่นแต่ใจสู้ ไว้ค่อยนอนพักทีเดียวละกัน







จะเลี้ยวเข้าซอยซ้ายทะลุออกซอยขวา เหลียวหน้าแลหลัง บ้านเมืองในหลวงพระบางช่างดูน่ารักน่าชังไปหมด สมกับเป็นเมืองมรดกโลก เมืองที่องค์กรยูเนสโกยกเครดิตให้เป็นเมืองที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์


ภาพสาวลาวใส่ผ้าซิ้นปั่นจักรยาน ภาพผู้คนดำเนินชีวิตไปตามปกติ ภาพนักท่องเที่ยวแบกกล้องเดินเก็บภาพ บ้างก็เช่าจักรยานปั่นชมรอบเมือง บนท้องถนนเหมือนจะวุ่นวายแต่ดูสงบ ไม่มีเสียงแตรรถอึกทึกครึกโครม มีแต่เสียงกริ่ง กริ๊ง ๆ จากรถจักรยาน ค่อย ๆ เดินละไมอ้อยยิ่งชมเมืองอย่างไม่เร่งรีบ







เห็นร้านติ่มซ่ำอยู่เบื้องหน้า ทำเอาแม่ค้าติ่มซำเมืองไทยแปลกใจ ระคนอยากลิ้มลอง เสียงพี่หยิกพี่วิทย์ชวนทันทีเหมือนรู้ใจ ..ไหน ๆ ก็มาถึงแล้วลองดูซะหน่อยมั้ยจิน เผื่อจะลองเอาไปปรับเปลี่ยนพัฒนาที่ร้าน.. มีหรือจะปฏิเสธ พุ่งเข้าถามไถ่ราคา พี่หยิกไม่วายเตือน ..คนละเข่งนะเว้ย เดี๋ยวมีข้าวเย็นต่อ ทานให้รู้พอ+

ทานพออิ่มรู้ว่านี่แหละติ่มซำหลวงพระบาง จะอร่อยสู้ร้านบ้านเราได้ไง (อันนี้คิดเหมาเข้าข้างตัวเองในใจ อิอิ) ก่อนที่เดินโต๋เต๋หา ตลาดมืด หรือ ตลาดข้าวเหนียว หรือที่นักท่องเที่ยวรู้จักในนาม ถนนคนเดินหลวงพระบาง ถนนย่านช็อปปิ้งอันโด่งดัง











ในที่สุดก็เจอจนได้ พ่อค้าแม่ขายกำลังตั้งร้านเตรียมให้บริการนักท่องเที่ยว ถนนคนเดินที่นี่มีทุกวัน ไม่มีเฉพาะวันเหมือนที่เชียงใหม่ สินค้าไม่ค่อยหลากหลาย แต่มีเสน่ห์ยั่วยวนเงินในกระเป๋าสะตังค์ไม่น้อย

เดินให้รู้ ก่อนที่โบกรถสามล้อกลับที่พัก คิดจะเดินกลับเกรงจะไม่ทันเวลานัดหมาย เอาโปรชัวส์ให้คนขับรถดูต่อรองราคา 20 บาทขาดตัวจากถนนคนเดินไปโรงแรม แต่ว่ากว่าจะถึงทำเอาคนโดยสารยิ้มแปล้ได้กำไร เนื่องจากคนขับรถพาวนรอบเมืองเพราะไม่รู้จักโรงแรม อารามกลัวไม่ได้ลูกค้า รีบต้อนขึ้นรถก่อนที่จะขับรถวนหา แต่ยังราคายังเท่าเดิม











ร้านอาหารน้องปาลีพาไปวันนี้ เต็มไปด้วยพี่ไทยทั้งนั้น ท่าทางจะเป็นร้านรับแขก เสียงโทรโข่งจากไกด์ข้างโต๊ะ ทำให้รู้ว่าทัวร์เชียงใหม่บ้านเดียวกัน ไม่รวมเสียงสนทนาที่ได้ยินทุกย่างก้าวในร้าน สำเนียงไทยทั้งแท่ง เหมือนร้านนี้รับแต่คนไทยเฉพาะยังไงยังงั้น







เติมพลังเต็มอิ่ม ย่อยอาหารด้วยการเดินถนนคนเดินต่อ ตะกี้แค่ออเดิฟ คราวนี้เดินช็อปปิ้งของจริง เดินกันมันส์จริง ๆ แต่เดินได้ไม่สุดสาย เพราะแวะถามไถ่ซื้อของตลอดทาง กวาดเสื้อยืดสกรีน “สบายดีหลวงพะบาง” มาวันแรกเกือบยี่สิบตัวของฝากเพื่อนพ้องน้องพี่ ไม่ลืมหาซื้อผ้าซิ้นไว้ใส่ตักบาตรเช้าตรู่วันพรุ่งนี้

แต่ได้พอยินราคาแล้วซื้อให้ตัวเองไม่ลง หลายร้อยบาทอยู่ ใส่บาตรวันเดียวไม่เห็นต้องลงทุนขนาดนี้ เลยได้เตี่ยวสะดอสีเขียวมาหนึ่งตัว เอาน่า..ทำบุญอยู่ที่จิตใจใช่อยู่ที่เสื้อผ้า แต่งตัวมิดชิด ไม่โชว์เนื้อหนังมังสาอร่าอร่ามเป็นพอ

จัดข้าวจัดของ อาบน้ำอาบท่ากว่าจะหลับปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า ๆ ไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกตื่นตอนตีสี่ เตรียมตัวใส่บาตรในเช้าวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะพล่อยหลับด้วยความชื่นมื่นคืนแรกที่ หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ที่ใคร ๆ ก็โหยหามาสัมผัส....









 

Create Date : 08 มีนาคม 2553
67 comments
Last Update : 9 มีนาคม 2553 11:59:05 น.
Counter : 7903 Pageviews.

 

ถ่ายภาพสวยมากเลยค่ะ เห็นแล้วอยากกลับไปเที่ยวอีก

 

โดย: plenaka 8 มีนาคม 2553 17:57:33 น.  

 

แวะมาดูภาพบรรยากาศในลาวครับ ทริปนี่น่าสนุกนะครับ

 

โดย: yosa 8 มีนาคม 2553 18:31:50 น.  

 

ขอตามไปเที่ยวเมืองลาวด้วยคนนะคะ

 

โดย: Hanlanlaa 8 มีนาคม 2553 18:39:29 น.  

 

เห็นรูปแล้วคิดถึง มีโอกาสแฟงก็อยากกลับไป ไม่รูทำมัยถึงหลงบรรยากาศที่นี้นักก็ไม่รู้

 

โดย: d_regen 8 มีนาคม 2553 19:53:09 น.  

 

เดี๋ยวนี้ลาวดูทันสมัยจริง ๆ ค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 8 มีนาคม 2553 20:29:02 น.  

 

เพิ่งกลับจากลาวเหมือนกันค่ะ
แต่ไปหลวงพระบางเที่ยวนี้เราไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่

ก็เลยข้ามฝั่งไปเมืองแมน
เด็กๆ ที่นั่น และคนที่นั่นยังอัธยาศัยน่ารักเหมือนหลวงพระบางตอนแรกรักเลยค่ะ

กับวังเวียงบ๊ายบายกันเลย ให้เป็นแค่เมืองผ่านทางไม่แวะพักแล้วค่ะ

 

โดย: เพลงฝนต้นลมหนาว 8 มีนาคม 2553 21:33:36 น.  

 




สวัสดีครับ คุณจิน
วันนี้เป็น วันพระ แรม 8 ค่ำ เดือน 4
ก็ขออนุญาตมาเรียนเชิญ ติดตามเรื่อง อานาปานุสติกรรมฐาน ได้ที่บล็อกครับผม

เชิญคลิกที่ลิงค์ ตามด้านล่างเลยนะครับ

ตอนที่ 8 พระสกิทาคามีมรรค
ตอนที่ 9 พระสกิทาคามีมรรค - ราคะ
ตอนที่ 10 พระสกิทาคามีมรรค - ราคะ (ต่อ)
ตอนที่ 11 พระสกิทาคามีมรรค - ราคะ (ต่อ)


...



และขออนุญาต ขอลาพักบล็อก ชั่วคราวนะครับ
เมื่อเสร็จจากภาระกิจการงานแล้ว ก็จะขอมาอัพตอนต่อๆ ไปครับผม

และขอให้มีความสุขสดชื่นนะครับ

 

โดย: หมึกสีดำ 8 มีนาคม 2553 23:41:08 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่จิน


พี่จินเรียงรูปจะอี้แล้วก่เล่าเรื่องราวไปตวย
อ่านแล้วเพลินต๋าดีเน้อครับ

อยกาไปแอ่วลาวเหมือนกั๋นครับ

บ้านเมืองเปิ้นดูแลได้ดีเลย
บางครั้งเฮาก่บ่าจำเป๋นต้องเจริญๆๆๆอย่างเดว
การตี้บ่าเจริญก่ถือเป๋นสเน่ห์อย่างนึ่งเหมือนกั๋น


ต้องขอสุมาตวยครับ
ตะคืนมาทักทายบ่าได้เลย
เพราะองค์ชายหมิงนอนเที่ยงคืนครับ 55555
หมิงหมิงหลับ
ผมก่สลบไปเลย 5555






 

โดย: กะว่าก๋า 9 มีนาคม 2553 5:45:28 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณจิน
ทำงานอย่างมีความสุขนะค่ะ

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 9 มีนาคม 2553 7:37:00 น.  

 

ตามรอยรถทัวร์ไปหลวงพระบาง
ไม่รู้สิ....เมื่อมาที่หลวงพระบาง
หรือชาวลาวเรียกว่า "เมืองหลวง"
มันเหมือนได้กลับเข้าไปในอดีต....
เดินเที่ยว พักผ่อน แบบสบายๆ
ไม่ต้องกังวล...

วังเวียงนี่ ชอบจริงๆ
ชอบจนต้องไปที่นี่2 ครั้งแล้ว
เสียดายตามริมฝั่งแม่น้ำซอง
กำลังมีการก่อสร้างรีสอร์ท มากมาย
ถ้าคุมได้ก็โอเค...แต่ถ้าไม่ได้ อันนี้จะเสียดายมาก

เล่าเรื่องได้เยี่ยม อ่านแล้วเหมือนไปด้วยกันเลย
ขอบคุณ และมีความสุขมากๆครับ

 

โดย: wicsir 9 มีนาคม 2553 9:41:33 น.  

 

มาแล้วจ้ะ

ก่อนหน้านี้พี่เขียนประกาศถึงน้องจินที่บ้านพี่ด้วยนะ...

.......................

ละไมในลาว : around เวียงจันทร์ยันวังเวียง

ตั้งชื่อแบบนี้...เอาใจพี่ไปเลย นี่มันนักเลงภาษาชัดๆ

เห็นแบบนี้แล้วอยากชวนมาเขียนเรื่องท่องเที่ยวในหนังสือเราจริงๆ...

ภาพสวย...ไม่สวยเด้งเกินไป แต่สวยแบบชวนให้ไปเที่ยวจริงๆ

บรรยากาศลาวได้ครบถ้วน

เห็นแล้วพี่อัยย์อยากไปเที่ยวกุ้ยหลินเมืองลาวตามรอยน้องจินจริงๆ

อันนี้อยากไปมานานแระค่ะ แต่ว่าอยากสุดริดเมื่อมาอ่านบล็อกนี้

ก็...คุ้มค่ากะการรอคอยนะจ๊ะ...

เป็นบล็อกเกอร์สุดขยัน ผลงานน่าทึ่งอีกคนนึง

รักนะ จุ๊บๆ

 

โดย: นักล่าน้ำตก 9 มีนาคม 2553 10:36:29 น.  

 

เฮ้อ ด้วยความที่รีบ กลัวโพสไม่ได้

ทำให้ เขียนคำว่า จริงๆ เยอะไปหน่อยอะ

 

โดย: นักล่าน้ำตก 9 มีนาคม 2553 10:38:03 น.  

 

อ้อ...

ที่เมนต์ไป...ยังไม่หมด...ยังมาอีก แต่รอพี่ว่างอีกนิดจ้ะ

 

โดย: นักล่าน้ำตก 9 มีนาคม 2553 10:40:04 น.  

 

ทริปนี้ดูแล้วสนุกสนานกับการท่องเที่ยวที่หลากหลายเลยนะครับ ยังแอบชอบกุ้ยหลินเมืองลาวอยู่ด้วยครับ

 

โดย: ถปรร 9 มีนาคม 2553 11:06:37 น.  

 

สุดยอดมากครับ รีวิวชุดนี้ทำได้สมบูรณ์แบบ ทั้งรูปภาพและเนื้อหา
เห็นพัฒนาการชัดเจนมากครับ


 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 9 มีนาคม 2553 11:23:22 น.  

 

สวัสดีตอนสายๆจ้ะ แม่จิน
ตามมาเที่ยวโตยแล้วจ้า
โอ้ว..ว้าว ภาพเยอะดูจุใจมั่กๆ

ส่วนใหญ่ที่ดูบล๊ิอคเพื่อนๆพาเที่ยว
มักจะอยู่แต่ในหลวงพระบาง
ซึ่งดูๆไปก็คล้ายๆเมืองทางเหนือของไทยโน๊ะ
แต่วังเวียงเนี่ยไม่ค่อยเห็นรีวิวนัก

เราติดใจตั้งแต่เคยดูในทีวีแล้ว
เมืองเค้าเงียบสงบดีจัง
ที่พักตะเองที่วังเวียงก็แสนโรแมนติก
มีวิวแม่น้ำอยู่หน้าบ้านเลย ชอบๆ
แถมตอนเช้ายังได้ไปนั่งเรือชมกุ้ยหลินอีกด้วย
ดูเป็นทริปที่มีความสุขจังเลยจ้า

 

โดย: nLatte 9 มีนาคม 2553 11:29:30 น.  

 

ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้....ที่เป็นของเรา
ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้....ที่ถูกใจเราเสมอไป
ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้....ที่อยู่กับเราตลอดไป

แล้วเราจะอยากได้..อยากมี..อยากเป็น..เพื่ออะไร..??..



ปอป้า ยังไม่สามารถเข้ามาวางเม้นท์ได้ปกติเหมือนเดิม
ตอนนี้กำลังติดต่อให้เจ้าหน้าที่ของทรูมาจัดการให้
แต่ทุกอย่างต้องร้องเพลงรอ เพราะเจ้าหน้าที่วิ่งงานขาขวิดอยู่คนเดียว

จบการรายงานข่าวจากปอป้า..อิ อิ

โชคดี มีความสุขในทุกวันดี ๆ ตลอดไป...นะคะ

 

โดย: พรหมญาณี 9 มีนาคม 2553 12:17:52 น.  

 

เห็นของกินแล้วก็หิวจัง ไข่กระทะน่าหม่ำอ่ะ

 

โดย: blog pu 9 มีนาคม 2553 12:35:09 น.  

 

สวัสดีค่ะ..พี่จิน

หนีน้องเต็นท์ไปเที่ยวเหรอคะนี่

ตอนแรกๆ เพื่อนชวนไปหลวงพระบางตอนสงกรานต์ค่ะ
แต่แล้วก็ต้องตัดใจ ไม่ไปซะงั้น
ด้วยเหตุว่ามีเหตุสำคัญมากมายที่ต้องทำ

เก็บภาพมาเพียบแบบนี้
เวลาจะเอารูปมาลง ตาลายบ้างมั้ยคะ
บางทีหนึ่งถ่ายมาไม่กี่รูป
ยังเลือกแล้วเลือกอีกเลย
ก็พยายามจะหารูปสวยๆ ที่ไม่ค่อยจะมีมาอวดกันอ่ะ

อยากบอกให้อิจฉาอีกนิดว่า
ครั้งนี้ไม่ได้ไปแต่ญี่ปุ่นนะคะ ได้ไปเกาหลีอีกที่นึงด้วยล่ะ

 

โดย: chenyuye 9 มีนาคม 2553 13:34:00 น.  

 

มาดามเลือกเสื้อสีดำเพื่ออำพรางพุงซะมีสุดฤทธิ์ครับปี้จิน 55555

แล้วก่ได้ผลเมือนกั๋น
ซะมีดูเข้มเต๋มร้อย 55555


วางความจริง
ยังเหลือสิ่งใดให้วาง

.
.
.


ต๋อนเขียนผมนึกถึงโศลกเซนอยู่หลายบทเลยครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 9 มีนาคม 2553 14:17:50 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณจิน

พักนี้ทั้งยุ่งและป่วยครบสูตรเลยค่ะ เลยไม่ได้แวะมาทักทายกันสักเท่าไหร่ ไม่ว่ากันนะคะ ขอบคุณที่ยังแวะเวียนไปทักทายกันค่ะ

 

โดย: จอมยุทธไร้หัวใจ 9 มีนาคม 2553 14:31:02 น.  

 

มาเที่ยวหลวงพะบางต่ออีกหน่อย

ตอนพี่ไปลาวใต้...รู้สึกว่าของก็แพงดับจิตอยู่นะ

ไปลาว...ใครคิดว่าถูก ...แพงอ่า

แต่ยังไงก็เป็นประเทศที่ประทับใจที่สุด ผู้คนเค้ายังมีน้ำจิตน้ำใจ

ถ้าได้ไปเที่ยวหน้า จะใส่ผ้าพันคอแบบน้องจินบ้าง

ดูเข้าบรรยากาศดีเนอะ...

แต่กล้องแบบน้องจิน พี่อัยย์ไม่มีปัญญาอะค่ะ...ขอแบบป๊อกแป๊กละกัน ง่ายดี เบาดี...

 

โดย: นักล่าน้ำตก 9 มีนาคม 2553 14:43:20 น.  

 

บรรยากาศดีเนอะ ..น่าไปอ่ะ
แต่เปิ้นยังบ่าได้อ่านโดยละเอียด
เด๋วค่ำๆแวะมาอ่านใหม่ ..
ต๋อนนี้ไปยะเค้กฮื้อลูกค้าก่อนเด้อ..

ปล. อยากพายเรือมั่งอ่ะ ..แล้วฉากหลังอย่างงามเลยง่ะ
เริ่ดด..เหมือนภาพวาดเลย ..

ไปแระ ..
จุ๊ฟๆ

 

โดย: Nongpurch 9 มีนาคม 2553 14:45:03 น.  

 

ตามน้องจินถึงวังเวียงแระ
ติดใจความงดงามของธรรมชาติบ้านเขา
ไฝ่ฝันว่าจะต้องไปลาวให้ได้
มีลูกน้องเป็นสาวลาวหลายคนแระ
...
เด๊วจะตามไปหลวงพระบางอีก
ตอนนี้งานเข้า ขอลงรถก่อน อิอิ
ปูลู....ได้เที่ยวอีกแล้วง่ะ ฉาเจงๆเลย

 

โดย: พี่ปูนิ่ม 9 มีนาคม 2553 14:51:27 น.  

 

หนึ่งเริ่มออกเดินทางคืนวันที่ 23/3 กลับคืนวันที่ 28/3 จ้ะ


เดินทางครั้งเดียว แต่ได้ไปเที่ยว 2 ประเทศเลย
อยู่ที่ละ 2 วันค่ะ

ไปกับที่เรียนของน้องชายค่ะ

จริงๆ แล้วอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างเดียวเหมือนกัน
จะได้เที่ยวได้หลายที่หลายจุดหน่อย
แต่อันนี้เค้าจัดทริปกันไว้แล้ว
ก็เลยออกความคิดเห็นไม่ได้ค่ะ

 

โดย: chenyuye 9 มีนาคม 2553 15:17:25 น.  

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามเที่ยวเมืองลาวด้วยคนครับ

มาบล็อกนี้แล้วเพลินดีจังเลยครับ ไดชมภาพถ่ายสวย ๆ สลับกับการอ่านเรื่องราว อ่านไปด้วยชมไปด้วย ได้อรรถรสคล้าย ๆ กับได้ไปเที่ยวมาจริง ๆ เลยครับ ที่สำคัญภาพถ่ายเยอะดีครับ

เห็นจากในภาพแล้วชอบอยู่ 1 อย่างก็คือ ที่ประเทสลาวไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างให้ดูรกหูรกตาเท่าไหร่เลยคับ ดูจากในภาพแล้วส่วนใหญ่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้มากเลย เห็นแบบนี้แล้วก็นึกอิจฉาคนลาวไม่ได้ที่ยังมีธรรมชาติสวย ๆ หลงเหลืออยู่อีกเยอะ

แต่อย่างว่าล่ะครับ ระหว่างความเจริญ กับ ธรรมชาติ มนุษย์เราคงต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งครับ

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 9 มีนาคม 2553 15:19:58 น.  

 

เอ๊ะ ทำไมพี่เมนท์ไม่ได้

ลองใหม่

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 9 มีนาคม 2553 16:11:57 น.  

 

อีกที....

หลวงพะบาง (เขียนอย่างนี้เหรอ) ประเทศลาว เป็นอีกที่หมายหนึ่งที่พี่อยากไปมาก

เข้ามาบ้านนี้ทุกครั้ง จะพูดเหมือนใครหลายคน
น่าจะ "รวมเล่ม" เล่าเรื่องได้สนุก ไม่เยิ่นเย้อ น่าติดตาม

รูปหน่ะ มีอีกมั้ย จัดมาอีก "อย่าได้แคร์" น้อง...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 9 มีนาคม 2553 16:14:25 น.  

 

หวัดดีค่ะ คุณ จิน นึกว่าหายไปไหน ไปแอ่วเมืองลาวนี่เอง ฉายเดี่ยวเลยนะ.. ดูคล้าย ๆบ้านเรานะ ..ธรรมชาติดี ชอบถ้ำ สวยดี .. ขอบคุณที่เอาภาพงาม ๆมาฝาก เอาลูกหมามาแลก อ่ะ..ค่ะ..
Photobucket

 

โดย: tifun 9 มีนาคม 2553 17:28:01 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณจิน

แอบไปเที่ยวลาวมานี่เอง
สวยและมีเสน่ห์มากๆเลยค่ะ
นุ่นเคยไปแต่หลวงพระบางและเวียงจันค่ะ
วังเวียงไม่เคยไปเลยค่ะ
เห็นแฟนบอกว่า ธรรมชาติสวยมากๆ
พอมาเห็นรูปที่จินนำมาฝาก บรรยากาศดีจังเลย
สงบเงียบอย่างนี้แหละค่ะที่นุ่นชอบ
ขออนุญาตเซฟบางภาพนะคะ

 

โดย: Petite Elisa 9 มีนาคม 2553 19:51:01 น.  

 

เห็นแล้วอยากไปด้วยจังเลยค่ะน้องจิน ทริปนี้บินเดี่ยวเหรอคะ ลูกชายไม่ร้องตามเหรอคะ ทั้งคนเล็กและคนโต

พี่ไม่ได้เข้ามาเดินเล่นเป็นอาทิตย์เพราะไปช่วยงานศพพ่อสามีค่ะ ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีแต่ช่วงเย็นๆที่ต้องแวะไปนั่งกับแม่ให้หายเหงา บางทีพอแกพูดถึงพ่อก้ยังน้ำตาไหล คงต้องใช้เวลาอีกระยะนึงนะคะ

 

โดย: แม่ปุ้มปุ้ย 9 มีนาคม 2553 19:59:18 น.  

 

ตามมาเที่ยว อย่างจุใจเลยค่ะ..

 

โดย: poongie 9 มีนาคม 2553 20:19:05 น.  

 

โหยยยยยยย

อยากไปงอยโตดโปดอยู่บนหินจังครับ

ชอบปลาร้าชามนั้นมาก

สีสวยดี


ว้าววววววว

 

โดย: มนุษย์กินเห็ด... (เป็ดสวรรค์ ) 9 มีนาคม 2553 20:21:06 น.  

 

เห็นแล้วก้อยากไปหลวงพระบางอีกครั้งจัง

 

โดย: พระจันทร์สัญจร 9 มีนาคม 2553 20:46:04 น.  

 

ชมจนจุใจไปเลยคุณจิน ตะแรกดูเหมือนไม่มีอะไรต่างจากบ้านเรา ติดตามจนจบบ้านเมืองเค้ายังมีป่าไม้และธรรมชาติที่สมบูรณ์มากกว่าเรา.............


หลังคาวัดเชียงทอง คล้าย ๆ วัดสวนดอกบ้านเรา อิ อิ

เขื่อนแม่งัดสวยอย่างที่ใคร ๆ หลายคนพูดถึงจริง ๆ เสียแต่ว่าค่าเรือแพงกว่าค่าที่พัก......หาเวลาไปนอนเล่น ๆ ที่นั่นแล้วจะรู้ว่าสวรรค์บนดินเป็นอย่างไง เราพักที่แพเอกชัย ด้านหน้ามองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น แสงทองยามเช้าสวยมาก เหมาะสำหรับการเก็บภาพ ท้องน้ำกว้างสุดตา.......อยากไปอีกค่ะ

 

โดย: puipom 9 มีนาคม 2553 21:01:53 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

ลาวนี่ ยังไม่เคยขึ้นไปวังเวียงกับลาวเหนือเลยค่ะ แหะๆ

น่าไปเที่ยวเหมือนกันนะคะนี่

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 9 มีนาคม 2553 21:06:26 น.  

 

สวยมากๆเลยค่ะ
น่าไปมั่กๆ

ดูวนไปหลายรอบเลยทีเดียว


ติดใจ อิอิ

 

โดย: fonrin 9 มีนาคม 2553 22:06:46 น.  

 

อืม ๆ ไม่พูดอะไรได้ไหมอ่ะ
เห็นรูปเจ้าของบ้านแล้ว
แบบ อยากแบ่งน้ำหนักให้อ่ะ

ก็คือ ตะเองผอมจังอ่ะ เอาไขมันเราไปซะสิบกิโลบ่ 555

อยากให้ ๆๆๆๆ -- หุหุ

สองพี

 

โดย: SongPee 9 มีนาคม 2553 23:34:53 น.  

 

บ้านเมืองสวยเป็นธรรมชาติ เเถมสอาดกว่าที่คิดไว้
รถทัวว์ดีซิคะ ได้นั่งชมวิว ชอบมากมาย

ขอบคุณที่พาไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามค่ะ

ยูคะ

 

โดย: YUCCA 10 มีนาคม 2553 0:12:57 น.  

 

โอ้โห เที่ยวเยอะมากกกก เที่ยวทีนึงคุ้มเลยอ่ะ

วัดเชียงทองสวยมาก โบสถ์งามจริงๆ

ถนนคนเดินเนี่ยเหมือนที่เชียงใหม่ป่าวอ่ะ ฮี่ๆ

 

โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง 10 มีนาคม 2553 7:25:41 น.  

 

ถ่าพสวยจัง
ดูใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มก็รู้เลยว่าคงมาความสุขกันมาก

 

โดย: maistyle 10 มีนาคม 2553 8:18:54 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่จิน






 

โดย: กะว่าก๋า 10 มีนาคม 2553 8:25:36 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันวันพุธจ้า
นึกว่าคุณจินหายไปไหน ไปลาวนี่เอง

 

โดย: หอมกร 10 มีนาคม 2553 8:58:05 น.  

 

มาเก็บตกรายละเอียดบางอย่างที่ีอาจพลาดไปจ้า...

อืม...อยากกินติ่มซำขึ้นมาละ...

 

โดย: นักล่าน้ำตก 10 มีนาคม 2553 10:47:10 น.  

 

มิงกะลาบา...สวัสดี..ค่ะ

อากาศ..แปรปรวนไปตามสภาวะธรรมชาติ
จิตใจของมนุษย์..แปรปรวนไปตามสภาวะรอบกาย

เรื่องของสภาพอากาศธรรมชาติ เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
แต่เรื่องของสภาพจิตใจ เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้

ธรรมะ...อยู่รอบกายเรา ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนไปหาจากที่ไหน
เรียนรู้ในธรรมชาติรอบกาย แล้วเราก็จะพบกับ..ธรรมะ
เพราะ...ธรรมะ...คือ ธรรมชาติ

โชคดี มีความสุขตลอดไป...นะคะ


 

โดย: พรหมญาณี 10 มีนาคม 2553 12:30:03 น.  

 

แถวฮ้านผม
ฝนบ่าตกเลยครับปี้จิน

ปล. ผมเขียนจดหม้ายก้อมไว้ตี้เมลล์แล้วเน้อครับปี้

 

โดย: กะว่าก๋า 10 มีนาคม 2553 13:19:08 น.  

 

ที่ร้านก่มีลูกค้าตี้เพี้ยนๆนั๊กเหมือนกั๋นครับ 5555
ผมเกยรอจนถึง 4 ทุ่มครับ
ปกติฮ้านปิด 5 โมงมะแลง
แขกคนนี้มาเดินเลือกซื้อของนานมากกกกกกกก

แล้วก่ซื้อบ่านั๊กครับ
แถมของห๋ายแห๋ม 5555

แถมบ่าปอไปลักของตี้โรงแรมตวย

เป็นเคสตี้น่าจดจำแต๊ๆเลยครับ 5555



 

โดย: กะว่าก๋า 10 มีนาคม 2553 13:55:46 น.  

 

เที่ยวคุ้มมากๆเลยนะคะ
เสียดายตอนพุทราไป แค่คืนเดียวเลยไม่ได้ไปวังเวียน
เห็นแล้วน่าสนใจจังเลยค่า

 

โดย: prizella 10 มีนาคม 2553 15:30:45 น.  

 

สวัสดีจ้า คุณจิน

พี่รอดูรูปอยู่นะ...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 10 มีนาคม 2553 15:58:12 น.  

 

สวัสดีครับคุณจิน
ตามมาเที่ยวลาวด้วยคนนะครับ
มีหลายๆ ที่ ที่ผมเคยไปแอ่วด้วยหล่ะครับ เมื่อหลายปีก่อนๆ น่ะครับ

ช่วงนี้งานเยอะมาก ชะแว๊ปไปทำงานก่อนนะครับ....

อิอิอือื

 

โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย 10 มีนาคม 2553 16:17:52 น.  

 

สวัสดีจ้าจิน
ฝนตกจ๊ะ หนักแต่ไม่นาน
หลังจากนั้นก็ครึ้มดีจ๊ะ น่านอนเป็นที่สุดเล้ย

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 10 มีนาคม 2553 16:42:22 น.  

 

กลับมาเระจ้า
มาเที่ยวบล็อคนี่ต่อเลย
คุ้มจังทริปแบบนี้
น่าชื่นชมกลับบรรยากาศแบบนี้มากๆ
อยากไปบ้างนะ
ว่าจะนั่งเรื่อเล่นแบบตัวเองคงจะดี
แต่คงต้องมองเงินในกระเป๋าก่อนงะ อิอิ

ช่วงนี้อ้วนดำเป็นพิเศษอย่างถือสากัน
กลับมาเจอตัวเองในกระจกที่มึนตรึบไปเลย

หนุกหนานสมใจ
ขอพักให้หายเหนื่อยแล้วจะมาแวะทักทายกันใหม่คร้า

ปล.อ่านเรื่องเพลินชมรูปสวยดีจริงๆ

 

โดย: แม่ปู (myroom_pu ) 10 มีนาคม 2553 21:44:27 น.  

 

แวะมาแอ่วตวยแหมรอบนึง ..
อ่านบล็อคนี้แล้ว เหมือนกำลังอ่านหนังสือท่องเที่ยวเลย
เหมือนได้ไปตวยเลยอ่ะ ..ดีๆชอบๆ เปิงใจ๋

ว่าแต่น้องเต๊นท์มาส่งแม่ บ่าไห้เลยก๊ะ ..เก่งอ่ะ
นึกว่าจะไห้หาแม่ สงกะสัยจะชินแระ..ฮี่ๆ
แม่หนีแอ่วหมั่น ..ฮ่าๆๆ

เฮามีความเหมือนกั๋นอย่างนึง ..ผลักภาระไปฮื้อป่อมัน
ดูแลลูกเกือบทั้งหมด ..ฮ่าๆๆ เพราะว่าเกินกำลัง
บ่าว่าจะปาลูกไปหาหมอ ไปแอ่วห้าง ไปแอ่วไหนก็จ่าง
บ่าค่อยผ่อลูกเลย ..สารภาพ (เฮาเหมือนกั๋น)
เกยมีเหตุการ์ณนึง ยะฮื้อบ่ากล้าปาลูกไปไหน
แหมเลย เพราะเกยละสายตากำเดียว ตกคันได
เขี้ยวหน้าหายไป 2 ซี่ เลือดกลบปาก ตั้งแต่นั้นเป๋นต้นมา
ป่อมันเองก็บ่าไว้ใจเฮา เฮาเองก็บ่าไว้ใจตัวเอง
กลัวไปเลยอ่ะ ..

ฮู้สึกว่าตัวเองผ่อลูกบ่าดีเท่าป่อเขา ..



แวะมาโม้ ..จะไปนอนแระ..ตั๋วเอง
ไว้ช่วงสงกรานต์ถ้าบ่าติดหยังตึงจะไปแอ่วหาเด้อ..

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: Nongpurch 10 มีนาคม 2553 21:46:02 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าๆจ้า วันนี้อากาศดี๊ดี นอนไม่อยากตื่น ทำไมไม่เป็นวันเสาร์เนาะ

 

โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง 11 มีนาคม 2553 7:43:13 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่จิน







 

โดย: กะว่าก๋า 11 มีนาคม 2553 8:17:58 น.  

 

เราเองก็อยากไปหลวงพระบาง ใกล้บ้านเรานิดเดียวแต่คลาดทุกที

เก็บรายละเอียดไว้ก่อนก็ได้เน้อ

 

โดย: ostojska 11 มีนาคม 2553 9:19:18 น.  

 

ทิฏฐิวิสุทธิ หมายถึง ความหมดจดแห่งความเห็น
คือ เกิดความรู้ความเข้าใจ มองเห็นนามรูปตามสภาวะที่เป็นจริง
คลายความหลงผิดว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน ลงได้

ขอให้ทุกท่าน มีดวงตาเห็นธรรม มีทิฏฐิวิสุทธิ
พร้อมด้วยความสุขกาย สุขใจ ตลอดกาล...


 

โดย: พรหมญาณี 11 มีนาคม 2553 11:32:07 น.  

 

สวัสดียามเย็นจ้า...คุณจิน

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 11 มีนาคม 2553 16:10:54 น.  

 

สวัสดีจ้า ...

แวะมาทักทายค่ะ มีความสุขมาก ๆ นะคะ ...

 

โดย: ploythana 11 มีนาคม 2553 18:33:37 น.  

 

ตอนนี้กำลังไปเที่ยวที่ไหนค่ะเนี่ย

 

โดย: blog pu 11 มีนาคม 2553 19:45:34 น.  

 

เอาน้ำเย็นมาฝากจ้า
เย็นแล้วอาการจะดีขึ้น
มึนๆกับแดดใช่ปล่ะ

แต่ของบอกว่าที่บ้านอากาศดีมากๆ
ลมเย็นเหมือนก่อนหน้าหนาวเลย
งง เนอะ

 

โดย: แม่ปู (myroom_pu ) 11 มีนาคม 2553 21:00:29 น.  

 

สวัสดียามค่ำค่ะ..พี่จิน

ตอนนี้ก็ปิดร้านแล้วสิเนอะ
ช่วงนี้บรรยากาศที่เชียงใหม่เป็นยังไงบ้าง
มีอไรตื่นเต้นหวาดเสียวหรือเปล่า

แต่เมื่อวานทำเอาหนึ่งเกือบหัวใจวายตายค่ะ
อยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร
มีคำเฉลยที่บ้านค่ะ

 

โดย: chenyuye 11 มีนาคม 2553 22:17:58 น.  

 

สวัสดีจ้าจิน
สบายดีใช่มั๊ยเอ่ย

 

โดย: นุ่มณอ่อนนุช 12 มีนาคม 2553 7:31:23 น.  

 

หวัดดีครับ จินนี่

พักนี้ยุ่งจัด ไม่ได้มาทักทายเลย
แล้ววันนี้ก็วุ่นวายอีก
เอ่อ....
แล้วค่อยมาทักทายใหม่นะครับ

 

โดย: เค-ออส (chaoswalker ) 12 มีนาคม 2553 8:48:42 น.  

 

สวัสดีค่ะ..พี่จิน

แวะเอาเค้กส้มมาฝากจ้า....

 

โดย: chenyuye 12 มีนาคม 2553 9:44:50 น.  

 

หวัดดีเจ้า..คุณจิน ..
เป๋นได หายเจ็บหัว เมาหัว มึนหัวรึยัง
เจออากาศฮ๊อนๆ นี่เหมือนกั๋นเลย ยาพารา
บ่าเกยขาดกระเป๋า ขาดบ่าได้เลยอ่ะ

แล้วจะไปเกาะราชากั๋นเมื่อได ถ้าจำบ่าผิดน่าจะ
บ่ากี่วันเนี่ยละก๊าา.. เป๋นเกาะตี่ไข๋อยากไปขนาดอ่ะ
เล็งมาเมินละ เหมือนกั๋น แต่ก็ได้แค่เล็ง ..ฮี่ๆ

บ่ามีโอกาสลงใต้ซักเตื่อ ปีหน้านี้ต้องไปฮื้อได้ ละ
ปีนี้เกาะบล็อคนี้แอ่วไปก่อนดีก่า


วันนี้ฮับงานไว้จาดดนัก ไปยะก๋านก่อนเด้อ คุณจิน
วันผูกจะไปเกาะกูดแระ .. ละอ่อนที่ร้านก็เปิดร้านไป
ลูกพี่จะไปแอ่ว..ฮี่ๆ ..

 

โดย: Nongpurch 12 มีนาคม 2553 11:18:32 น.  

 

ธรรมจักร... จักร คือ ธรรม, วงล้อธรรม หรือ อาณาจักรธรรม
หมายถึง เทศนากัณฑ์แรกที่พระพุทธเจ้าแสดงแก่พระปัญจวัคคีย์
ปฐมเทศนานั้นมีนามว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการดำเนินชีวิต ท่ามกลางวงล้อแห่งธรรม
คิด-ปรารถนาทำการสิ่งใดอันสุจริต จงสำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ


 

โดย: พรหมญาณี 12 มีนาคม 2553 12:21:04 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


JinnyTent
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือ ชอบถ่ายรูป
& บันทึกเรื่องราว เล่าสู่กันฟัง ^^

ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนพี่น้อง Blog Gang
& ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันค่ะ :-D

Jin
09.9.09
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add JinnyTent's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.