อาบไล้ลมหนาว @ Hong Kong - Macau (2)
เมื่อคืนซุกตัวบนที่นอนหนานุ่ม อากาศก็เย็นเป็นใจให้หลับสนิท เช้านี้กว่าจะตะกายลงจากเตียงได้ ก็สิ้นเสียงมอร์นิ่งคอลนู๊น
เก็บเกี่ยวบรรยากาศตามรายทางที่ไปแปลกตาดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ตึกสูงระฟ้า น่านน้ำทะเลเต็มไปด้วย เรือสินค้า เรือยอร์ชสุดหรู และ เรือเร็ววิ่งเหนือผิวน้ำ ท่าเรือที่ดูสะอาดสะอ้าน มีระเบียบ และแม้กระทั่งที่ ๆ กำลังก่อสร้างก็ไม่รกตา
อาหารเช้าวันที่สอง ก็ยังคงเป็น ติ่มซำต้นตำหรับฮ่องกง ที่ ร้านอาหาร Huan Bao ก็อร่อยอะนะ ยอมรับ อิอิ แต่ถ้าที่เจียงใหม่ละก็ต้อง ร้านเต้ยติ่มซำ เต้าอั้นหนาเจ้า ฮิ้วววววว
เมนูได้ใจไปวันนี้ ซาลาเปาทอด ค่ะคุณผู้ชม อร่อยมาก ขอบอก มาทาน ติ่มซำต้นตำหรับฮ่องกง ต้องรีเควสซาลาเปาทอดนะคะ
เป้าหมายแรกของวันนี้คือ Ngong Ping Village ณ เกาะลันตา ที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของฮ่องกง เป็นยังไงต้องตามไปดู แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่า เป็นอะไรที่ประทับใจมากค่ะ
โชคดีมาเช้าไม่เจอมหาชน ต่อคิวขึ้นกระเช้าไปเป็นอย่างช้า ๆ แต่ก็ไม่นานเกินรอ หยิบโปรชัวส์ตามทางเดินมาดู อู้หู..กับราคาเลยค่ะ Standard Cabing HK$2,700 / Crystal Cabin HK$3,200 อยากรู้เป็นเงินไทย ก็คูณ 4 เข้าไปนั่นแหละค่ะ
นี่ถ้ามาเองคงตามรอย พี่วุฒิ & พี่เคท นั่งรถไปกราบพระใหญ่แทนเป็นแน่ นั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าแพงเกิ๊นค่ะ (นี่แหละ ถึงบอกว่ามาฮ่องกงทริปนี้ ประทับใจก็ตรงเนี่ยแหละ อิอิ)
ตอนขึ้นเคเบิ้ลไฟฟ้าที่ เขาโซรัคซาน เกาหลี ว่าตื่นเต้นแล้ว ที่นี่ตื่นเต้นกว่าหลายเท่า ที่โซรัคซาน ได้ภาพสวยของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ไต่ระดับความสูงชัน อย่างเดียว และเพียงสถานีเดียว
แต่ เคเบิ้ลไฟฟ้า ที่นี่ ต้องนั่งกระเช้าไปไหว้พระใหญ่ ถึง 9 สถานี ผ่านภูเขา 9 ลูก เทกวิว 360 องศา แบบ พาโนราม่า กันเลยทีเดียว จึงเป็นที่มาของชื่อ Ngong Ping 360 ค่ะ
แต่ละสถานี ทัศนียภาพสวยสุดยอดมากค่ะ เพียงแค่สถานีแรกก็ตื่นเต็นกับ "อ่าวตุงซุง" และ สนามบินที่ดีที่สุดในโลก เจ้าของรางวัล 7 ปีซ้อน Chek Lap Kok ในมุมสูงอย่างเต็มตา
วิวทิวทัศน์เบื้องล่าง ทำเอามองเพลินลืมความหวาดเสียวไปเลยค่ะ สวยจริง จริ๊ง ไม่ได้โม้^^
อุ๊ย ๆ ลืมเล่าไป ด้านล่างมองเห็น ทางเดินแสนโรแมนติก ด้วยค่ะ น่าเดินมาก ใครที่เป็นคู่รักอยากมาเดินกระหนุงกระหนิงละก็ ลองดูนะคะ^^ แต่ถ้าคบกันนานแล้ว ไม่แนะนำ เพราะทางเดินมันไกลมาก ง้องแง้งกันระหว่างทาง ตัวใครตัวมัน คิคิ
ใช้เวลาราว 20 นาที จาก 9 สถานี จากจุดขึ้นกระเช้ามายัง องค์ Tian Tan ที่ วัดโปหลิน ซึ่งแปลเป็นไทยว่า วัดดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ ค่ะ
ระหว่างทางจากสถานีสุดท้ายไปไหว้องค์พระ มีร้านรวงน่ารักดักปล้นสะตังค์ นี่ถ้าไม่ไกด์คอยเร่งทำเวลา เห็นท่าจะโบยบินไปหลายดอลฯ อยู่^^
..ไม่ใกล้ แต่ก็ไม่ไกลจนเกินไป เพราะทางเดินทำดีมาก อยากจะอ้อยอิงใจแทบขาด แต่ด้วยเวลาที่บล็อกไว้ จำต้องสาวเท้าก้าวไปข้างหน้าห้ามเหลือบมองซ้ายขวา ไม่อย่างนั้น จะสะดุดตา สะดุดใจ พาลไปสะดุดขา ประท้วงไม่ก้าวเอาดื้อ ๆ
นาทีแรกที่สบตาบันไดทางขึ้น อึ้งไปนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ทำให้กะเหรี่ยงเมืองไทยใจถอย มีที่พักเหนื่อยให้เป็นจุด ๆ มาถึงทั้งที ไม่ขึ้นไปกราบไหว้ องค์ Tian Tan เหมือนมาไม่ถึงเนอะ
ตามข้อมูลที่ศึกษาก่อนมาบอกว่า 271 ขั้น จากสายตาน่าจะมากกว่านั้น แต่ตอนขึ้นก้มหน้าก้มตา เหมือนจะจิกเท้าสาวขาให้ขึ้นอย่างเดียว ไม่มีแรงมาคอยนับขั้นบันใดว่ากี่ขั้น
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางโคตะมะ มีความสูง 22 เมตร (ถ้ารวมฐานก็ 71 เมตร) ใหญ่โตมากค่ะ พอเดินไปถึงข้างบนแล้ว ลมพัดเบา เย็นสบาย หายเหนื่อยปลิดทิ้งเลยค่ะ
อยากจะเดินวนให้ครบ 3 รอบ แต่เดินได้แค่รอบเดียวก็ต้องจำใจจากลงมา เนื่องจากเวลาไม่เป็นใจเอาซะเลย
พระโพธิสัตว์ ที่ถวายสักการะเครื่องทานบนลานชั้นแรก มีอยู่ด้วยกัน 6 องค์ แต่ละองค์มีน้ำหนักถึง 2 นั้น มองจากองค์พระโพธิสัตว์มองลงมาข้างล่าง วิวสวยเอาการอยู่ค่ะ
พอเดินลงข้างล่าง มองหาสมาชิกร่วมทริปหายไปหมดเลย จากที่เดิน ก็กลายเป็นกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ไปยังจุดขึ้นกระเช้ากลับ ขอบ่นออกอากาศนิ๊สนุง
..ทำไม๊ ทำไม จะรีบอะไรกันนักหนาน๊อ ของดี วิวดี มีให้ชมไม่รู้จักเก็บเกี่ยวให้เต็มที่ เฮ้ออ..
ตรงจุดขึ้นกระเช้าด้านล่าง มี ห้างซิตี้เกท เอาท์เลต ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อยู่ใกล้ ๆ ให้ช็อปปิ้ง บรรดาของแบรนด์เนมทั้งหลาย ลดมากถึง 70% ถูกยิ่งกว่าถูกเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น Giordano, Bossini, G2000, Esprit, Bally, Nike, Adidas
แต่ก็ไม่ได้ช็อปปิ้งกับเค้าเช่นเคย เพราะ วัดโปหลิน มีอะไรให้น่าชมกว่าเยอะ ลงกระเช้ามาถึง ได้เวลาเดินทางไปยังท่าเรือไปยัง มาเก๊า ต่อทันที
ได้อำลา พี่โอ๋ ไกด์มากอารมณ์ขัน เดินทางสู่ มาเก๊า ด้วย เรือเฟอรี่เทอร์โบเจท เป็นเรือที่ใหญ่พอ ๆ กับเรือเฟอรี่บ้านเราค่ะ แต่ออกจะหรูกว่านิดหน่อย แต่ที่แน่ ๆ เร็วว่าเรือเฟอรี่บ้านเรามากกกก น่าจะเร็วกว่า สปีดโบ๊ท อีกนะ
ม่อยหลับหลังจากที่เรือเริ่มออกจากท่า เลยไม่รู้ว่ากี่นาที กี่ชั่วโมง จากฮ่องกง ถึง มาเก๊า แต่รู้ว่า ระยะทางลากกระเป๋าจากท่าเรือไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวมาก ลากกันฝุ่นตลบ แต่ก็ยิ้มได้ค่ะเพราะด่าน ตม. มี Free WiFi ค่ะ^^
แวะกราบไหว้ อาม่า ที่ วัดอาม่า ว่ากันว่าเป็น วัดเก่าแก่ที่สุด และ มีศิลปะวัตถุเก่าแก่ เป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่คงอยู่ยาวนานที่สุดของ มาเก๊า เลยทีเดียว
จตุรัสด้านหน้า วัดอาม่า เป็นจัตสุรัสที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ด้วยค่ะ
จากนั้นก็ทำเวลาไปชม วิหารเซนต์ปอล โบสถ์แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ วิทยาลัยเซนต์ปอล จนกระทั่งวันหนึ่งได้เกิดเพลิงไหม้ทั้งวิทยาลัยและโบสถ์ เหลือเพียงด้านของโบสถ์ เป็นอนุสรณ์สถาน
ด้านหน้าของตึก ฐานโบสถ์ และบันไดด้านหน้าของโบสถ์ แสดงให้เห็นถึง สไตล์ผสมระหว่างตะวันออกและตะวันตกและมีอยู่ที่นี่ เพียงแห่งเดียวในโลก
ถ่ายรูปหมู่เสร็จสิ้นพิธีการแล้ว ถลาไปหา ทาร์ตไข่ ที่เลื่องลือ ที่ เซนาโดสแคว์ ว่ากันว่ามา มาเก๊า ต้องทาน ทาร์ตไข่ต้นตำหรับ ไม่อย่างนั้นเหมือนมาไม่ถึง ว่ากันแบบนั้นเลย
ทาร์ตไข่ ที่อร่อยต้อง แป้งบาง หน้าไหม้ ไข่นุ่ม นะคะ .. พี่เจนไกด์คนสวยกระซิบบอกค่ะ
เผลอสวาปาม ทาร์ตไข่ ไปหลายชิ้น ลืมไปว่ามี บุฟเฟต์นานาชาติ ที่ ภัตราคารแบมบู ใน เดอะเวเนเชี่ยน รออยู่ ยั่วสายตาขนาดไหน แต่ก็ไม่มีที่จะให้ใส่แล้ว
อิ่มอืดได้ที่ ปรี่ไปช็อปย่อยอาหารบนชั้นสองของ เดอะเวเนเชี่ยน ตระการตามากค่ะ ตกแต่งด้วย สถาปัตยกรรมแบบบารอคธีม ของชาวเวนิส มีร้านค้าแบรนด์ดังทั่วโลกถึง 350 ร้าน มี เรือกอนโดล่า ให้นั่งชมรอบ เวเนเชี่ยน พร้อมกับขับร้องเพลงกล่อมให้เคลิ้มอีกต่างหาก
แต่ก็อีหรอบเดิม เดินวนได้รอบเดียว เพียงแค่กวาดสายตา ได้ของตามออเดอร์เสี่ยที่บ้านอย่างเดียว หมดละเวลา ของตัวเองไม่ได้ซักกะอย่าง
ถอนสมอจาก เวเนเชี่ยน อย่างทิ้งหัวใจไว้ให้ เช็กอินที่ซุกหัวนอนค่ำคืนสุดท้ายของทริปที่ RiO Hotel & Casino เกือบทุกโรงแรมใน มาเก๊า จะมี Casino ให้แขกที่พักด้วย เลยได้กลิ่นบุหรี่เป็นของอภินันทนาการ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เยื้องเข้าโรงแรม
โยนกระเป๋าเข้าห้อง ออกมาเดินเตร่เหล่มอง มาเก๊ายามราตรี ได้นิดเดียว ก็กลับมาแพคกระเป๋า เตรียมตัวเดินทางกลับไทยในเช้าวันรุ่งขึ้น นี่ขนาดไม่ได้ช็อปปิ้งกะเขา กระเป๋ายังบานเบอะได้ขนาดนี้
มาเยือน มาเก๊า เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ยุโรปใจกลางเอเชีย ในทริปนี้ รู้สึกเหมือนฝันไป ไม่ได้ลูบไล้โลมเลีย ทำความรู้จักอย่างที่ใจอยากจะสัมผัสให้ทั่วถึง ฝากไว้ก่อนนะตัวเอง แล้วค่อยมาเก็บเกี่ยวเที่ยวท่องทั่วเกาะกันอีกซักครั้ง^^
แม้จะเป็นทริปทางเลือกอันดับสอง ทริปที่ใจไม่คิดใฝ่ฝันอย่าง กำแพงเมืองจีน ที่ ปักกิ่ง แต่พอได้มาสัมผัส ฮ่องกง มาเก๊า เค้ามีอะไรดี ๆ กว่าที่คิด ที่ควรจะมาสัมผัสให้ได้ซักครั้ง ถึงไม่ใช่ ขาช็อป หรือ ชอบเสี่ยงโชค ก็ตาม
แม้จะไม่มีของที่ใช่อย่าง เกาหลี แม้จะไม่มีที่แสนประทับใจอย่าง ญี่ปุ่น แม้จะไม่มีเรื่องราวให้หวนคิดถึงอย่าง หลวงพระบาง แต่ฉันก็ตั้งใจขอพรอธิฐานเจ้าแม่กวนอิม ที่ รี พัลส์เบย์
..ขอให้หนู ได้กลับมาที่ฮ่องกง อีกซักครั้งนะคะเจ้าแม่ สาธุ สาธุ สาธุ....
Create Date : 04 มกราคม 2555 |
Last Update : 6 มกราคม 2555 18:42:15 น. |
|
57 comments
|
Counter : 3760 Pageviews. |
|
|