การศึกษาใหม่พบ
ผู้หญิงที่กินอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูง
(อาหารที่มีแป้งขาว-ข้าวขาว-น้ำตาลสูง, โปรตีน-เส้นใยหรือไฟเบอร์ต่ำ)
อาจเพิ่มเสี่ยงเนื้องอกมดลูก (uterine fibrois) ได้ [ Reuters ]
การกินอาหารเร็ว
หรือกินปริมาณมากมีส่วนเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงได้มากกว่าการกินอาหาร
ช้าๆ หรือกินปริมาณน้อยจนถึงปานกลาง
----//----
ภาพที่ 1: แสดงอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง
มดลูกมีขนาดไม่เท่ากัน คือ โตในวัยผู้ใหญ่ และจะโตขึ้นมากถ้าตั้งครรภ์ >
[ kidshealth
]
----//----
ภาพที่ 2: อวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง เริ่มจากด้านล่าง;
vagina = ช่องคลอด; cervix = ปากมดลูก; uterus = มดลูก; fallopian tube =
ท่อรังไข่; ovary = รังไข่ > [ kidshealth ]
----//----
ภาพที่ 3: เนื้องอกมดลูกชนิดไม่ใช่มะเร็ง (uterine
fibroid / myoma uteri / leiomyoma) มักจะเป็นหลายตำแหน่ง ใหญ่บ้างเล็กบ้าง
ทั้งในเนื้อมดลูก ด้านในโพรงมดลูก หรือด้านนอกมดลูก > [ nuff.org ]
เนื้องอกนี้อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยเรื้อรังได้จากการไปกดเบียดอวัยวะ
ข้างเคียง ตกเลือดภายใน เสื่อมสภาพ
...
เนื้องอกนี้เป็นเนื้องอกนี้พบบ่อยที่สุดของระบบอวัยวะสืบ
พันธุ์เพศหญิง พบได้ประมาณ 1/3 ของผู้หญิงวัย 35 ปีขึ้นไป, นั่นคือ
ถ้ามีผู้หญิงอายุ 35-50 ปีเดินมา 3 คน จะพบคนเป็นโรคนี้ 1 คน [
umm.edu ]
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญได้แก่ ประวัติมีโรคนี้ในครอบครัว ผิวดำ
(อาฟริกัน-อเมริกัน ไม่ใช่คล้ำพอดีๆ แบบคนเอเชีย),
โรคนี้อาจพบเพิ่มขึ้นได้ในคนอ้วน หรือเป็นโรคความดันเลือดสูง [
mayoclinic ]; [
umm.edu ]
...
เนื้องอกนี้มีตัวรับฮอร์โมนเพศ (estrogen receptors)
มากกว่าเนื้อเยื่อมดลูกส่วนอื่นๆ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า
ภาวะที่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศหญิงสูงขึ้น เช่น อ้วน ฯลฯ
อาจเพิ่มเสี่ยงโรคนี้
----//----
เนื้องอกมดลูกชนิดไม่ร้าย (uterine fibroids / UB หรือ
myoma uteri / MU - ไม่ใช่มะเร็ง) ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ,
ส่วนน้อยอาจทำให้เกิดภาวะประจำเดือนมามาก ปวดท้องเรื้อรัง ปวดบิดๆ
(cramping) หรือคลำได้ก้อนบริเวณท้องน้อยในผู้หญิงวัยมีประจำเดือน
เนื้องอกนี้มักจะยุบตัวลงไปได้เองหลังหมดประจำเดือน
เนื่องจากระดับฮอร์โมนเพศหญิงลดลง
...
UB พบในผู้หญิงอาฟริกัน-อเมริกัน หรือผู้หญิงผิวดำ
(black women -
ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคนผิวคล้ำกำลังดีแบบคนเอเชียหรือคนไทย) มากเป็น 2-3
เท่าของผู้หญิงสหรัฐฯ ทั่วไป
อ.โรส ราดินและคณะจากมหาวิทยาลัยบอสตัน US
ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้หญิงผิวดำวัยมีประจำเดือน (premenopausal) เกือบ
21,900 คน (ตีพิมพ์ใน Am J Clinical Nutrition)
...
การศึกษานี้ทำโดยการใช้โปรแกรมคำนวณหาค่าดัชนีน้ำตาล
(glycemic index / GI) หรือค่าที่บอกว่า
อาหารชนิดใดกินแล้วทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงต่ำ-เร็วช้าอย่างไร
ตัวอย่างเช่น น้ำตาลมีค่า GI สูงกว่าแป้งขาว-ข้าวขาว, แป้งขาว-ข้าวขาวมีค่า
GI สูงกว่าธัญพืชไม่ขัดสี (เช่น ลูกเดือย ฯลฯ) หรือข้าวกล้อง
...
และคำนวณค่าดัชนีน้ำตาลแบบถ่วงน้ำหนัก (glycemic load)
หรือค่าที่บอกว่า
กินข้าว-แป้ง-น้ำตาลหรืออาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
คิดรวมมากน้อยเท่าไร
ตัวอย่างเช่น ถ้ากินข้าว 1 ทัพพีกับ 2 ทัพพีจะมีค่า GI เท่ากัน แต่มีค่า GL
ไม่เท่ากัน เนื่องจากปริมาณไม่เท่ากัน ฯลฯ
...
โดยทั่วไปแล้ว... อาหารชนิดเดียวกันกินมากๆ
จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่ากินแต่น้อย หรือกินเร็วๆ
จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่ากินช้าๆ
การกินคาร์โบไฮเดรตหรือคาร์บ (ข้าว-แป้ง-น้ำตาล) ล้วนๆ เช่น
ขนมทำจากแป้งใส่น้ำตาล ฯลฯ
มักจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าการกินพร้อมโปรตีน เช่น ไข่ ถั่ว เนื้อ
โปรตีนเกษตร เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ฯลฯ
...
การกินคาร์โบไฮเดรตหรือคาร์บ (ข้าว-แป้ง-น้ำตาล) ล้่วนๆ
มักจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าการกินพร้อมเส้นใย-ไฟเบอร์ เช่น ผัก
ผลไม้ทั้งผล จมูกข้าวสาลี รำข้าว (ฝรั่งทำขายเป็นอาหารเสริมในรูป 'bran')
ฯลฯ
การออกแรง-ออกกำลังก่อนอาหาร หรือหลังอาหาร เช่น ที่คนโบราณเรียกว่า
"เดินย่อยอาหาร (เดินสบายๆ ไม่เร่งรีบ)"
มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหารสูงมากเกินได้เช่นกัน
...
ตัวอย่างอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มช้า-เพิ่ม
นาน ทำให้อิ่มนาน เช่น แอปเปิ้ล ถั่วต้ม ฯลฯ
ตัวอย่างอาหารที่ำทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มเร็ว-ลงเร็ว ทำให้อิ่มไม่นาน
เช่น เครื่องดื่มเติมน้ำตาล ขนมปังขาว ข้าวขาว (ข้าวเหนียวเพิ่มมากที่สุด)
ฯลฯ
...
ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่กินอาหารดัชนีน้ำตาล (GI)
สูงเพิ่มเสี่ยงเนื้องอกมดลูก (UB)
กลไกที่อาจเป็นไปได้ คือ
ระดับน้ำตาลที่สูงทำให้ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมามาก
และระดับอินซูลินสูงทำให้ฮอร์โมนอื่นๆ แปรปรวนตามกันไปเป็นพรวน
...
การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกเริ่ม
จำเป็นต้องรอการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนหรือคัดค้านต่อไป, ทว่า...
บอกเป็นนัยว่า
การลดอาหารกลุ่มแป้งขาว-ข้าวขาว-น้ำตาลลงน่าจะดีกับสุขภาพมากกว่าที่คิด
วิธีหนึ่งที่คนเราน่าจะลองทำดู คือ ค่อยๆ ลดแป้ง-ข้าว-น้ำตาลลง 1/4
ของที่เคยกินมาก่อน, ใส่ผักไปแทน 2 เ่ท่า
หรือถ้าต้องการควบคุมน้ำหนักในระยะยาว ควรลดคาร์บลง 1/3 และใส่ผักไปแทน 2
เท่า ซึ่งถ้า "พกผัก" ติดตัวเป็นประจำ เช่น พกแตงกวา มะเขือเทศ
ผักน้ำพริกที่ไม่ใช่ผักทอด ฯลฯ น่าจะดีทีเดียว
...
ภาวะปวดท้อง
น้อยเรื้อรังส่วนหนึ่งเกิดจากการอักเสบในอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง
ซึ่งสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง คือ การติดกามโรคบางอย่าง เช่น หนองในเทียม ฯลฯ
การไม่สำส่อนทางเพศ และไม่ดื่มหนัก (มักจะตามมาด้วยการพลั้งเผลอ)
มีส่วนช่วยป้องกันกามโรค และภาวะปวดท้องเรื้อรังได้ในระยะยาว
...
ถึงตรงนี้...
ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์
เรา
คลิกลิ้งค์ >
คลิกลำโพง-ธงชาติ > ฟัง-ออกเสียงตามเจ้าของภาษา 3 รอบ
เพื่อให้จำศัพท์ได้ถูกต้องและเร็ว
ย้ำเสียงหนัก (accent)
ที่พยางค์แต้มสี กรณีมีตำแหน่งย้ำเสียง 2 ตำแหน่ง,
ตำแหน่งที่ย้ำเสียงหนักกว่า คือ พยางค์ที่ใช้ตัวอักษรตัวหนา
...
@ [ menstruation ]
> [ เหม่น - s - ตรู - เอ๊ - เฉิ่น ] > //www.thefreedictionary.com/menstruation
> noun = ประจำเดือน
@ [ menses ] > [ เม้น - สีส - z ]
> //www.thefreedictionary.com/Menses
> noun = ประจำเดือน (หลายเดือน)
...
คำเหล่านี้มีรากศัพท์จากภาษาละติน 'mensis / menses' = 'month / months' = เดือน
ซึ่งในที่นี้เป็นเดือนทางจันทรคติ
ประจำเดือนอยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงจันทร์ คือ มักจะมีรอบตรงกับช่วง 28
วันมากกว่า 30 วันแบบปีปฏิทินทั่วไป
...
ศัพท์อื่นๆ ที่มีความหมายทำนองเดียวกันได้แก่
@ period (ช่วงระยะเวลา) = menstrual cycle (รอบเดือน) = menses (มาจากคำว่า
"เดือน") = ประจำเดือน
@ flow (= การไหลของของเหลว) = monthly (= รายเดือน) =
curse (=
คำสาป) = ประจำเดือน (คำกลุ่มหลังนี้เป็นคำภาษาพูด ไม่เป็นทางการ =
informal; in- = ไม่; form = รูปแบบ ทางการ; informal = ไม่เป็นทางการ)
...
@ [ menstrual ] >
[ เม้น - s -
ตรู่ล ] หรือ [ เม้น -
s - ตรู - เอิ่ล; ออกเสียง "เอิ่ล" สั้นๆ ] > //www.thefreedictionary.com/menstrual
> ad่jective = เกี่ยวกับรอบเดือน
...
ติดตามบล็อกของเราได้ทางทวิตเตอร์ > [
Twitter ]
ที่มา
-
-
นพ.วัลลภ
พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์
ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. > 17 มีนาคม 2553.
-
ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อ
การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค
ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล
ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.