ฐานาฐานะ, 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 20:56 น.

GravityOfLove, 19 นาทีที่แล้ว
...
7:59 PM 7/19/2014

             สรุปความได้ดีครับ.

ฐานาฐานะ, 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 20:58 น.

             คำถามในนานาติตถิยสูตร
//84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=2091&Z=2152

             เมื่อศึกษาแล้วได้อะไรบ้าง ได้อุทาหรณ์สอนใจอะไรบ้าง?

GravityOfLove, 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 21:26 น.

             ตอบคำถามในนานาติตถิยสูตร
//84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=2091&Z=2152

            เมื่อศึกษาแล้วได้อะไรบ้าง ได้อุทาหรณ์สอนใจอะไรบ้าง?
            ๑. เทพบุตรสาวกของเดียรถีย์ต่างๆ เหล่านั้นเป็นกัมมวาที นับถือกรรม
เพราะฉะนั้น จึงกระทำบุญทั้งหลายมีทานเป็นต้น แล้วบังเกิดในสวรรค์
             เทพบุตรเหล่านั้นสำคัญว่าเราบังเกิดในสวรรค์ เพราะเลื่อมใสในศาสดาของตน
จึงมาด้วยหมายใจว่า เราจะไปยืนในสำนักของพระทศพล กล่าวคุณศาสดาของเรา
             แต่ก็มีเทพบุตรอื่นกล่าวโต้ตอบโดยกล่าวโทษของศาสดาเหล่านั้น
ว่ากล่าวเท็จ เป็นสุนัขจิ้งจอกสัตว์เลวๆ ใคร่จะตีตนเสมอราชสีห์
             มารร้ายได้เข้าสิงเทพบุตรที่กล่าวโทษของศาสดาเหล่านั้น ให้กล่าวสรรเสริญคุณ
ของศาสดาเหล่านั้นว่า สั่งสอนโดยชอบแล้ว การยึดติดในรูปเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ปรโลก
             ๒. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
                          รูปใดๆ จะอยู่ในโลกนี้หรือโลกหน้า และจะอยู่ในอากาศ
                          มีรัศมีรุ่งเรืองก็ตามที รูปทั้งหมดเหล่านั้น อันมารสรรเสริญแล้ว
                          วางดักสัตว์ไว้แล้ว เหมือนเขาเอาเหยื่อล่อเพื่อฆ่าปลาฉะนั้น
             ๓. อุทาหรณ์สอนใจ
             ๓.๑ สาวกของศาสดาที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะมีความชอบความเลื่อมใสเหมือนๆ กัน
จึงไปด้วยกันได้ เช่น เห็นว่า คนเกิดมาบริสุทธิ์ ไร้กิเลส น่าจะสมเหตุสมผลมากกว่าคำพูดที่ว่า
คนเกิดเพราะมีอวิชชา
             เมื่อได้โอกาส ก็แก้ต่างให้ศาสดาที่ตัวเองเลื่อมใส เช่น แก้ต่างว่า
ท่านสอนเน้นปัจจุบัน ไม่เน้นชาติหน้าซึ่งพิสูจน์ให้เห็นไม่ได้ เป็นต้น
             ๓.๒ เทวดาก็มีทั้งเทวดาที่เป็นสัมมาทิฏฐิและเทวดาที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ
ที่ได้มาบังเกิดในสวรรค์หรือสุคติภูมิเพราะกุศลกรรมอำนวยผล

[แก้ไขการสะกดคำตาม #66]

ฐานาฐานะ, 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 23:03 น.

GravityOfLove, 4 นาทีที่แล้ว
             ตอบคำถามในนานาติตถิยสูตร
//84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=2091&Z=2152
...
9:25 PM 7/19/2014

             ตอบคำถามได้ดีครับ.
             สุขคติภูมิ สะกดว่า สุคติภูมิ
             ขอเสริมเล็กน้อยดังนี้ :-
             การพิจารณาบุคคลผู้ที่ตนจะนับถือเป็นศาสดา หรือแม้กระทั่งผู้เป็น
กัลยาณมิตร อันตนจะคบค้าสมาคมด้วย เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะเหตุว่า
             เมื่อพิจารณาได้ถูกต้อง ก็จะได้โอกาสเลื่อมใสในบุคคลที่น่าเลื่อมใส
ได้ศึกษาประพฤติปฏิบัติในกุศลธรรม อันพระศาสดาที่ควรคู่แก่ความเลื่อมใส
ได้อบรมแนะนำสั่งสอน และแม้กระทั่งคบค้าสมาคมกับบุคคลผู้เป็นกัลยาณมิตร.
             กล่าวโดยสรุปก็คือ ควรพิจารณาข้อวัตรปฏิบัติ และความประพฤติว่า
เป็นกุศลหรืออกุศลหรือไม่อย่างไร? และเพราะเหตุที่บุคคลมักตัดสินบุคคลอื่นๆ
จากอัธยาศัยความชอบใจของตนเองด้วย ดังนั้น ควรที่จะประพฤติปฏิบัติใน
กุศลธรรมด้วย ทำความชอบใจในกุศลธรรมทั้งปวงด้วย.

             คำว่า กัลยาณมิตรธรรม
//84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=กัลยาณมิตรธรรม
             คำว่า กัลยาณ
//84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=กัลยาณ
             คำว่า ปมาณิก 4
//84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=ปมาณิก_4

ฐานาฐานะ, 19 กรกฎาคม 2557 เวลา 23:07 น.

             เป็นอันว่า พระสูตรชื่อว่า นานาติตถิยสูตร จบบริบูรณ์.
//84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=2091&Z=2152

              พระสูตรหลักถัดไป คือ ทหรสูตร [พระสูตรที่ 112].
              พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๗
              สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
              ทหรสูตรที่ ๑
//84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=2153&Z=2217&pagebreak=0
              ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
//84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=322