29.6 พระสูตรหลักถัดไป คือโอฆตรณสูตร [พระสูตรที่ 1] การสนทนาธรรมนี้ต่อเนื่องมาจาก 29.5 พระสูตรหลักถัดไป คือโอฆตรณสูตร [พระสูตรที่ 1] //www.bloggang.com/mainblog.php?id=gravity-of-love&month=12-05-2014&group=4&gblog=7 ความคิดเห็นที่ 51 ความคิดเห็นที่ 52 GravityOfLove, 10 พฤษภาคม เวลา 21:07 น. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต นฬวรรคที่ ๑ ๘. สุสัมมุฏฐสูตร ว่าด้วยผู้ลืมเลือนธรรม //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=101&Z=110&bgc=honeydew&pagebreak=0 เทวดากล่าวคาถาในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ธรรมทั้งหลายอันชนพวกใดลืมเลือนแล้ว (ไม่แทงตลอดด้วยปัญญา) ชนพวกนั้นย่อมถูกจูงไปในวาทะของชนพวกอื่น (วาทะของเดียรถีย์ หรือทิฏฐิ ๖๒) ชนพวกนั้นชื่อว่ายังหลับไม่ตื่น (กาลนี้) เป็นกาลควรเพื่อจะตื่นของชนพวกนั้น (พระผู้มีพระภาคตรัสเป็นคาถาว่า) ธรรมทั้งหลาย อันชนพวกใดไม่ลืมเลือนแล้ว (เพราะแทงตลอดด้วยปัญญา) ชนพวกนั้นย่อมไม่ถูกจูงไปในวาทะของชนพวกอื่น บุคคลผู้รู้ดีทั้งหลาย รู้ทั่วถึงโดยชอบแล้ว (ผู้ตรัสรู้ ๓ จำพวกแรก) ย่อมประพฤติเสมอในหมู่สัตว์ผู้ประพฤติไม่เสมอ (ย่อมประพฤติถูกต้อง แม้อยู่ท่ามกลางหมู่สัตว์ที่ประพฤติไม่ถูกต้อง) คำว่า ทิฏฐิ ๖๒ ปุพพันตกัปปิกทิฏฐิ ๑๘ //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=1&p=5#ปุพฺพนฺตกปฺปิกา อปรันตกัปปิกทิฏฐิ ๔๔ //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=1&p=6#อปรันตกัปปิกทิฏฐิ //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ท่านผู้ตรัสรู้แล้ว&detail=on ----------------------- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต นฬวรรคที่ ๑ ๙. มานกามสูตร ว่าด้วยผู้ใคร่อยู่ซึ่งมานะ //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=111&Z=120&bgc=honeydew&pagebreak=0 เทวดากล่าวคาถาในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ทมะ (การฝึกตนเอง) ย่อมไม่มีแก่บุคคลที่ปรารถนามานะ (ความถือตัว) ความรู้ (ในที่นี้หมายถึงมรรคญาณ ๔ (ความรู้ในอริยมรรค ๔)) ย่อมไม่มี แก่บุคคลที่มีจิตไม่ตั้งมั่น บุคคลผู้เดียว เมื่ออยู่ในป่าประมาทแล้ว ไม่พึงข้ามพ้นฝั่งแห่งเตภูมิกวัฏ (วัฏฏะอันเป็นไปในภูมิ ๓ คือ กามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ และอรูปาวจรภูมิ) อันเป็นที่ตั้ง แห่งมัจจุได้ (พระผู้มีพระภาคตรัสเป็นคาถาว่า) บุคคลละมานะแล้ว (มานะละด้วยอรหัตตมรรค) มีจิตตั้งมั่นดีแล้ว (สมาธิ มีจิตตั้งมั่นดีแล้วด้วยอุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ) มีจิตดี (จิตที่ดีสัมปยุตแล้วด้วยญาณ) พ้นในธรรมทั้งปวงแล้ว เป็นผู้เดียว เมื่ออยู่ในป่า ไม่ประมาทแล้ว บุคคลนั้นพึงข้ามฝั่งแห่งเตภูมิกวัฏเป็นที่ตั้งแห่งมัจจุได้ (บรรลุนิพพาน) //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ทมะ //84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=มานะ_9 //84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=ลำดับการละสังโยชน์&detail=on //84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=สมาธิ ภูมิ ๔ //84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=162 ----------------------- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต นฬวรรคที่ ๑ ๑๐. อรัญญสูตร ว่าด้วยป่า //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=121&Z=140&bgc=honeydew&pagebreak=0 เทวดาทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า วรรณของภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ในป่า ฉันภัตอยู่หนเดียว เป็นสัตบุรุษผู้ประพฤติธรรมอันประเสริฐ (คือผู้อยู่ประพฤติมรรคพรหมจรรย์) ย่อมผ่องใสด้วยเหตุอะไร พระผู้มีพระภาคตรัสตอบ (ด้วยคาถา) ว่า ภิกษุทั้งหลายไม่เศร้าโศกถึงปัจจัยที่ล่วงแล้ว ไม่ปรารถนาปัจจัยที่ยังมาไม่ถึง เลี้ยงตนด้วยปัจจัยที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า วรรณ (ของภิกษุทั้งหลายนั้น) ย่อมผ่องใสด้วยเหตุนั้น เพราะความปรารถนาถึงปัจจัยที่ยังไม่มาถึง และความโศกถึงปัจจัยที่ล่วงแล้ว พวกพาลภิกษุจึงซูบซีด เหมือนต้นอ้อสดที่ถูกถอนเสียแล้ว ฉะนั้น ความคิดเห็นที่ 53 ฐานาฐานะ, 11 พฤษภาคม เวลา 07:45 น. GravityOfLove, 10 ชั่วโมงที่แล้ว ... 9:05 PM 5/10/2014 สรุปความได้ดีครับ. ความคิดเห็นที่ 54 ฐานาฐานะ, 11 พฤษภาคม เวลา 07:52 น. คำถามในพระสูตรทั้งสาม ๘. สุสัมมุฏฐสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=101&Z=110 ๙. มานกามสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=111&Z=120 ๑๐. อรัญญสูตร ว่าด้วยป่า //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=121&Z=140 เมื่อศึกษาแล้วได้อะไรบ้าง. ความคิดเห็นที่ 55 GravityOfLove, 11 พฤษภาคม เวลา 09:25 น. ตอบคำถามในพระสูตรทั้งสาม เมื่อศึกษาแล้วได้อะไรบ้าง. ๘. สุสัมมุฏฐสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=101&Z=110 พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ธรรมทั้งหลาย อันชนพวกใดไม่ลืมเลือนแล้ว ชนพวกนั้นย่อมไม่ถูกจูงไปในวาทะของชนพวกอื่น บุคคลผู้รู้ดีทั้งหลาย รู้ทั่วถึงโดยชอบแล้ว ย่อมประพฤติเสมอในหมู่สัตว์ผู้ประพฤติไม่เสมอ ----------- ๙. มานกามสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=111&Z=120 ๑. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า บุคคลละมานะแล้ว มีจิตตั้งมั่นดีแล้ว มีจิตดี พ้นในธรรมทั้งปวงแล้ว เป็นผู้เดียว เมื่ออยู่ในป่า ไม่ประมาทแล้ว บุคคลนั้นพึงข้ามฝั่งแห่งเตภูมิกวัฏเป็นที่ตั้งแห่งมัจจุได้ ๒. ศีล ๕ ศีล ๑๐ เป็นต้น ชื่อว่าศีล ปาฏิโมกขสังวร ชื่อว่าอธิศีล สมาบัติ ๘ ชื่อว่าจิต ฌานอันเป็นบาทแห่งวิปัสสนา ชื่อว่าอธิจิต กัมมัสสกตญาณ ชื่อว่าปัญญา วิปัสสนา ชื่อว่าอธิปัญญา ------------ ๑๐. อรัญญสูตร ว่าด้วยป่า //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=121&Z=140 ๑. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลายไม่เศร้าโศกถึงปัจจัยที่ล่วงแล้ว ไม่ปรารถนาปัจจัยที่ยังมาไม่ถึง เลี้ยงตนด้วยปัจจัยที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า วรรณ (ของภิกษุทั้งหลายนั้น) ย่อมผ่องใสด้วยเหตุนั้น เพราะความปรารถนาถึงปัจจัยที่ยังไม่มาถึง และความโศกถึงปัจจัยที่ล่วงแล้ว พวกพาลภิกษุจึงซูบซีด เหมือนต้นอ้อสดที่ถูกถอนเสียแล้ว ฉะนั้น ๒. เทวดานี้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเพราะตนสงสัยว่า ภิกษุที่ตนเห็นในป่านั้น อาหารก็ไม่ได้ฉันอาหารประณีต ที่นอนก็ไม่ได้สะดวกสะบาย ทำไมจึงได้มีผิวพรรณผ่องใส ความคิดเห็นที่ 56 ฐานาฐานะ, 11 พฤษภาคม เวลา 18:05 น. GravityOfLove, 8 ชั่วโมงที่แล้ว ตอบคำถามในพระสูตรทั้งสาม ... 9:25 AM 5/11/2014 ตอบคำถามได้ดีครับ ความคิดเห็นที่ 57 ฐานาฐานะ, 11 พฤษภาคม เวลา 18:09 น. เป็นอันว่า พระสูตรชื่อว่า สุสัมมุฏฐสูตร, มานกามสูตรและอรัญญสูตรสูตร จบบริบูรณ์. //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=101&Z=140 พระสูตรหลักถัดไป คือ นันทนสูตร [พระสูตรที่ 11]. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค นันทนสูตรที่ ๑ //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=141&Z=158 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=23 ความคิดเห็นที่ 7 ฐานาฐานะ, 11 พฤษภาคม เวลา 18:09 น. พระสูตรหลักถัดไป คือ นันทนสูตร [พระสูตรที่ 11]. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค นันทนสูตรที่ ๑ //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=141&Z=158 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=23 ความคิดเห็นที่ 8 GravityOfLove, 11 พฤษภาคม เวลา 18:33 น. ๑๓. นัตถิปุตตสมสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=170&Z=179&bgc=honeydew&pagebreak=0 กรุณาอธิบายค่ะ ย่อมกำจัดความมืดอันปกปิดในกาลอันเป็นส่วนแห่งอดีตเป็นต้นได้ด้วย. ขอบพระคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 9 ฐานาฐานะ, 11 พฤษภาคม เวลา 18:52 น. GravityOfLove, 14 นาทีที่แล้ว ๑๓. นัตถิปุตตสมสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=170&Z=179&bgc=honeydew&pagebreak=0 กรุณาอธิบายค่ะ ย่อมกำจัดความมืดอันปกปิดในกาลอันเป็นส่วนแห่งอดีตเป็นต้นได้ด้วย. ขอบพระคุณค่ะ 6:32 PM 5/11/2014 อธิบายว่า ปัญญาที่กำจัดความมืดอันปกปิดในกาลอันเป็นส่วนแห่งอดีต ได้แก่บุพเพนิวาสานุสติญาณ เทียบคำว่า อวิชชา //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อวิชชา //84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=อวิชชา ความคิดเห็นที่ 10 GravityOfLove, 11 พฤษภาคม เวลา 19:05 น. อรรถกถานัตถิปุตตสมสูตร //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=28&bgc=honeydew ส่วนปัญญาย่อมสามารถเพื่อทำโลกธาตุตั้งหมื่นให้เป็นแสงสว่างอันประเสริฐ หาสิ่งอื่นเสมอมิได้ ทั้งย่อมกำจัดความมืดอันปกปิดในกาลอันเป็นส่วนแห่งอดีตเป็นต้นได้ด้วย. หมื่นโลกธาตุสว่างด้วยแสงสว่างอันประเสริฐนี่หมายถึงปัญญาของพระผู้มีพระภาคใช่ไหมคะ ผู้ที่ตรัสรู้แล้ว ได้บุพเพนิวาสานุสติญาณเสมอหรือไม่คะ ขอบพระคุณค่ะ ย้ายไปที่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=gravity-of-love&month=12-03-2013&group=1&gblog=1 |
แก้วมณีโชติรส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
เข้าใจแล้วค่ะ ขอบพระคุณค่ะ