กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
กรรมทันตา โอ้..อินเดีย 3

โอ้..อินเดีย 3

รีบมาต่อกันเหอะ ท่าทางผู้ฟังใจร้อน...

เช้าวันแรกในอินเดีย ก็ได้เห็นชีวิตประจำวันอันนึกไม่ถึงของคนที่นี่ไปแล้ว
เราได้ตระหนักแล้วว่ากำลังอยู่ในประเทศอื่น ในบ้านของคนอื่น
ไม่ใช่แค่ต่างจังหวัดในประเทศของเราที่แสนจะอิสระ สดวกสบาย
กว่า 10 ชั่วโมงที่เดินทางมาอย่างเหนื่อยอ่อน
แถมหลายคนก็ยังอดกลั้นฉี่ไว้แทบจะไม่ไหว
บางคนอยากจะปลดทุกข์หนักซะด้วยซ้ำ
และแล้วในตอนสาย ๆ เราก็มาถึงที่หมายแรก คือ...วัดไทยพุทธคยา
ทันทีที่รถบัสของเราเลี้ยวเข้าประตูวัด มันเกิดความรู้สึกคุ้นเคย
บรรยากาศมัน...วัดบ้านเรานี่แหละ
นาทีที่เท้าแตะพื้น...มันอบอุ่นใจ
แผ่นดินตรงนี้...มันประเทศไทย ชัด ชัด
ที่น่าขำ คือ พระสงฆ์ไทยมายืนคอยต้อนรับด้วยคำพูดแรก ว่า...ห้องน้ำอยู่ทางนี้นะโยม
ยกมือไหว้ท่านแล้ววิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำ ทู๊ก..ก..คน
ออกมาก็ได้รับกุญแจห้องไปพักผ่อน ห้องละ 4 – 5 คน
ห้องพักสะอาดสะอ้าน น้องๆ โรงแรมเลยแหละ
ได้ผลัดกันอาบน้ำ แปรงฟัน ทำธุระส่วนตัวอย่างมีความสุข
แล้วก็ถูกต้อนเข้าห้องอาหาร ซึ่งมีอาหารไทยพวกแกงส้ม ผัดผัก น้ำพริกเผา
แถมมีกาแฟไว้รอต้อนรับอย่างดี
สังเกตุดูมี แม่ชี ที่อยู่วัดนี้คอยเป็นกำลังหลัก อย่างแข็งขัน
มีเด็กหนุ่มสาวชาวอินเดียเป็นลูกมือคอยทำเรื่องเช็ดล้าง
ผู้แสวงบุญอย่างผมไม่ต้องทำอะไรเลยซักนิด
อิ่มหนำกันแล้วออกมาเดินเล่นดูบริเวณวัด...ของเรา
โอ้..วัดสวยมาก ยิ่งภายในโบสถ์ซึ่งจำลองจากวัดเบญจมบพิตร
มีพระพุทธชินราชจำลอง มีภาพเขียนฝาผนังเรื่อง...พระมหาชนก
ทั้งหมดทั้งสิ้น งดงามมาก
เดินไปเดินมาก็จะพบกับ พระหนุ่มๆ ยืนคอยต้อนรับ
คอยโอภาปราศัย เล่าประวัติวัด ประวัติเมืองนี้ สารพัดจะให้ข้อมูล
ผมละ งง ไม่เคยเจอพระในแบบนี้ ออกจะประทับใจม๊าก.ก มาก
ท่านเอาใจใส่กับพวกเรา ผู้แสวงบุญคนไทย ที่มาถึงวัดแห่งนี้
ท่านตั้งใจทำหน้าที่แรก คือ...ปลดทุกข์ ให้เรา
ทุกข์ทางกายเรื่องห้องน้ำ ห้องน้ำห้องส้วม ที่พักที่นอน
ทุกข์เรื่องท้องหิว คอยดูแลหาอาหารไทย ข้าวต้ม กาแฟ สารพัดจะเอาใจใส่
ทุกข์ทางใจ เรื่องความตื่นตระหนก หวาดหวั่นจากที่มาต่างบ้านต่างเมือง
ทั้งยังให้ความรู้ความเข้าใจ ในศาสนาทั้งของเรา ของบ้านเมืองเขา
ยิ่งเรื่อง พุทธศาสนา ท่านให้แก่น ให้หลักอย่างที่พระพุทธองค์ท่านต้องการ
ไม่ใช่ พะ ที่สอนให้แต่เปลือก สอนแต่กระพี้ หรือยิ่งพาเราโง่ งมงาย หนักเข้าไปอีก
พระในแบบนี้ นี่เองที่เรียกว่า...พระธรรมฑูต

จากนั้นก็มีการเรียกรวมตัวมาทำการ...ทอดผ้าป่า
ตามโปรแกรม พวกเราจะทอดผ้าป่า ตามวัดไทยในที่ต่างๆ ที่เราไปพักทั้งหมด 9 วัด
ทำบุญตามศรัทธา ไม่มีการบังคับซึ่งก็ได้วัดละประมาณ 40,000 บาท
และยังมีการถวายเป็นการพิเศษอีกแห่งละก็หลายอยู่
ยิ่งฟังแต่ละวัด แต่ละที่ท่านเล่าถึงกิจกรรมที่ท่านกำลังทำกันอยู่แล้ว
มันช่างน่าศรัทธานัก
งานหลักอีกอย่างของพระธรรมฑูต คือ สร้างความเป็นมิตร สร้างความไว้วางใจ
ระหว่างคนอินเดีย กับคนไทย ฮินดู กับพุทธ
หัวหน้าใหญ่ของพระธรรมฑูตอินเดีย คือท่านเจ้าประคุณ...พระราชรัตนรังษี
ท่านมีอุบายแยบยลอย่างมากที่ทำให้คนอินเดีย รักและไว้วางใจ คนไทย
ท่านทำสารพัดวิธี ไว้ค่อย ๆ เล่าให้ฟัง

เสร็จจากทำบุญทอดผ้าป่า กันจนปลื้มจิตแล้วก็ยกขบวนไปยัง...พุทธคยา
ผมเองก่อนจะมา แทบไม่ได้เตรียมตัว เตรียมข้อมูลอะไรมาซักนิด
พอมายืนอยู่หน้า พระเจดีย์พุทธคยา ...ตื่นตะลึง
สถานที่นี้ช่าง...อลังการ
ทั้งขนาด ทั้งรายละเอียด ทั้งความพลุกพล่านของความศรัทธา
ยิ่งพอเข้าไปกราบ...พระพุทธเมตตา
โอ๊ย..ย...ท่านช่างงดงามตระการอะไรเช่นนี้
ในตอนนั้นผมยังงง..งง กับสถานที่และความวุ่นวาย ยังปรับสภาพจิตไม่ทัน
แต่พอได้เห็นองค์ท่าน เต็มตา เท่านั้นแหละ...ความคิด ความสับสน ความวิตกจริต ทั้งหลายทั้งปวงมันหายไปสิ้น
ในจิตใจมีแต่ความสงบเย็น...เย็นจิต เย็นใจ
เมื่อมองพระพักตร์ของท่าน ก็จะเห็นท่านจ้องมองเราอยู่อย่างไม่วางตา
ท่านอมยิ้มน้อย ๆ แต่ยิ่งมองนาน ๆ ก็เหมือนท่านแย้มยิ้มมากขึ้นอีก
ท่านมองทะลุทะลวงเข้าไปใน ก้นบึ้งของจิตของใจเรา
พลังบางอย่างแผ่ซ่านออกมาให้รู้สึกถึง...ความเมตตา กรุณา อันยิ่งใหญ่
ยิ่งมองยิ่งสัมผัส ยิ่งรู้สึกว่า ท่านไม่ใช่พระพุทธรูป แต่...ท่านมีชีวิต
ความรู้สึกคือ อยากจะนั่งอยู่ตรงนั้น ตรงหน้าท่านให้นานที่สุด
แต่ก็ทำไม่ได้ คนหลั่งไหลกันเข้ามากราบท่านมากมาย

ทางคณะทัวร์ และพระวิทยากร ท่านจัดที่ทางให้พวกเราทั้ง 80 คนได้นั่งสวดมนต์...ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ผมนั่งอยู่เกือบหลังสุดในกลุ่ม
มีคนกระซิบให้ฟังว่า คณะของเราโชคดีมาก ได้ทำเลดีที่สุด
ผมมองไปรอบ ๆ โอ้โห...ผู้แสวงบุญมากมายก่ายกอง ไม่รู้มาจากไหนกันมั่ง
มีทั้งกลุ่มคนไทยด้วยกันก็หลายกลุ่มแล้ว ยังมีทั้งจีน ธิเบต พม่า ศรีลังกา
พระสงฆ์ ภิกษุณี สามเณรี แม่ชี มีครบหมดทุกประเภท
พระอาจารย์หัวหน้ากลุ่มของเราท่านก็นำสวดมนต์
แต่ก็เป็นการสวดท่ามกลางเสียงสวดเซ็งแซ่ของแต่ละกลุ่ม แต่ละคณะ แต่ละชาติ
มันฟังสับสนปนเป วุ่นวายดีแท้
ยิ่งผมมัวแต่แหงนหน้าจ้องมอง ต้นพระศรีมหาโพธิ์
คอยมองหาแต่ใบโพธิ์ที่จะร่วงหล่นลงมา...อยากได้ซักใบ อ่ะ
จนไม่เป็นอันมีสมาธิกันละ
ผ่านไปสักพักค่อยรู้สึกตัว ได้สำนึก...เอ๊ะ เราตั้งใจมาทำอะไรกันแน่
ดั้นด้นเดินทาง เสียเงินทองไปตั้งมากมาย ก็เพื่อมากราบ พระพุทธเจ้า ไม่ใช่เหรอ
ขณะนี้ นาทีนี้ ท่านอยู่ตรงหน้าเราแล้วนะ เวลาอย่างนี้ไม่รู้ว่าในชีวิตที่เหลือทั้งหมด จะมีโอกาสอีกมั๊ย
ต้องรีบตักตวงเวลา นาทีแสนวิเศษประเสริฐนี้ให้ได้มากที่สุด
พอคิดได้ก็รีบก้มหน้าไม่ดูแล้ว ตั้งใจสวดมนต์ตามเสียงพระอาจารย์อย่างจดจ่อ
ตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับเสียงนำสวดของท่าน ถึงได้รู้ว่า...ท่านสวดไพเราะมาก
ทั้งน้ำเสียง ทั้งมีการทอดจังหวะ...ซาบซึ้งมาก
พอถึงท่อนแผ่เมตตา ท่านเปลี่ยนเสียงทอดเอื้อนขึ้น...
สาพ เพ ซ๊าด..ด..ตา
อันว่า สัตว์ทั้งหลาย..ย..ทั้งปวง..ง
ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ้บ.บ..ตา ย..ย
ด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น.น.น.น
เสียงที่มีทั้งสูงต่ำ ทอดยาว ทำเอาผมอึ้ง เข้าใจอารมณ์การปารถนาดีต่อทุกสรรพสิ่งในโลกนี้
สัมผัสความสุขของการให้ความรัก ความหวัง ความตั้งใจให้ผู้อื่นเป็นสุข
เป็นความอิ่มเอิบแบบนี้นี่เอง
พอพระอาจารย์ท่านให้...ตั้งจิตอุทิศผล
บุญกุศลแผ่ไปให้ไพศาล
ถึงบิดา มารดา ครูอาจารย์
ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน
คนที่เคยร่วมรักสมัครใคร่
ขอให้ได้ในกุศลผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรม นายเวร และเทวัญ
ขอให้ท่านได้กุศล ผลนี้เทอญ...
ผมละน้ำตาร่วง ตั้งแต่ให้บิดา มารดา แล้ว...คิดถึงพ่อแม่ขึ้นมาจับใจ
คิดถึงลูก คิดถึงเมีย อย่างห้ามไม่อยู่

หลังจากนั้นพระอาจารย์ท่านก็ให้ทำสมาธิ ปฏิบัติฯ ตามแนวทางของแต่ละคน
ผมก็รีบหลับตาระงับสติอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน
ซึ่งก็แปลกนะ รอบ ๆ ตัวมีแต่เสียงสวดมนต์ของแต่ละกลุ่ม แต่ละภาษาเซ็งแซ่ไปหมด
แต่ก็รวมจิตลงเป็นหนึ่งเดียวได้ง่าย...อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
จิตจดจ่ออยู่แต่แค่ ลมหายใจ เท่านั้น
สงบ เย็น นิ่ง...นาน.น..น...
จนได้ยินท่านบอกให้ถอนจิตออก ก็ค่อยๆ ทำความรู้สึกให้กลับมา
ยกมือขวาออกจากตัก วางที่พื้นข้างตัว...เอ๊ะ รู้สึกว่ามือวางไปบนอะไรซักอย่าง
ลืมตามอง...โอ้ ใบโพธิ์
เราได้ใบโพธิ์ จริงๆ เหรอเนี่ย อู๊ย..ย..ดีใจ ดีใจ
ยกมือซ้ายออกวางข้างตัวอีก...โอ๊ะ ได้ใบโพธิ์ อีกใบแน่ะ
นาทีนั้นมันดีใจ...ดีใจจนต้องระงับสติ หายใจยาว ยาว
หยิบขึ้นมาดูทั้งสองใบ...อู๊ย เหมือนฝัน
คนอื่นๆ เค้าลุกขึ้นกันหมดเลยต้องรีบลุกตามไป
ทันทีทันใด...ใบโพธิ์ ร่วงลงมาตรงหน้าอีกใบ...เฮ้ย อะไรกันเนี่ยะ
ผมเงยหน้าขึ้นพนมมือขอบคุณ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เมตตาผมอย่างที่สุด
แล้วสิ่งที่สุดแสนจะเหลือเชื่อ ก็เกิดตามมาอีก..ก...
เปลือกของ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ขนาดฝ่ามือกาง ๆ
หล่นลงมาเฉียดหัวผมไปนิดเดียวเลย
ตกลงข้างหน้าของผม แล้วแตกออกเป็นซัก 4 – 5 ชิ้นได้
ใหญ่บ้างเล็กบ้าง
ผมกำลังตกตะลึง...มีผู้แสวงบุญชาวศรีลังกาคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์ ผวาเข้ามาจะหยิบ
แต่ผมอยู่ใกล้กว่า รีบตะครุบไว้ทั้งหมด แล้วรีบวิ่งตามกลุ่มที่เขาไปกันไกลแล้ว
พอกลับถึงวัดมีการถามกันว่าใครได้ใบโพธิ์ฯ บ้าง
ดูเหมือนแทบจะไม่มีใครได้ พอในกลุ่มคุณหมอรู้ว่าผมได้มา 3 ใบ
ทุกคนทำหน้าชื่นชม พร้อมเกลียดชังยังไงไม่รู้ แฮะ

เล่ามายาวมากแล้ว พรุ่งนี้ค่อยเล่าต่อตอนที่กลับไปนั่งปฏิบัติฯ ที่พุทธคยาตอนกลางคืน นะ


อนณ 089-995-9377
tobeteam@yahoo.com





Create Date : 31 มีนาคม 2555
Last Update : 2 เมษายน 2555 1:13:56 น. 2 comments
Counter : 1791 Pageviews.

 
สงสัียว่าใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่มีใบโพธิ์ร่วงหล่นอยู่เลยหรือคะเราถึงต้องคอยให้หล่นลงมา..หรือว่าหล่นปุ๊บมีคนเก็บปั๊บก็เลยไม่มีให้เห็นใต้ต้น


โดย: ่่jasmine IP: 1.4.132.169 วันที่: 6 เมษายน 2555 เวลา:21:34:02 น.  

 
โชคดีจังเลยค่ะ


โดย: มาใหม่ค่ะ IP: 125.27.132.198 วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:17:49:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.