กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
กรรมทันตา ทำบุญด้วยปาก

ทำบุญด้วยปาก

พอนึกถึงเรื่อง...การไปทำบุญ
มากมายหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องวุ่นวาย
ต้องแต่งตัว ต้องเตรียมข้าวของ เตรียมอาหาร ต้องไปวัด ฯลฯ
ที่สำคัญ...ต้องเสียเงินเยอะ ถึงจะได้บุญแยะ
แต่ที่จริงแล้ว การทำบุญ ทำกุศล มีวิธีง่ายๆ ตั้งมากมาย
โดยที่...ไม่ต้องเสียเงินเสียทองแม้สักบาทเดียว

ปรกติแล้วคนเรามีสัญชาติญาณในการ...จับผิด
เรามักจะจับผิดคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว แค่คนเดินผ่านมาแว๊บเดียว
ยังจับผิดได้ตั้งหลายอย่าง...อ้วน ดำ ขี้เหร่ เชย เปรี้ยว ซอมซ่อ ขี้อวด....
อยู่มาวันหนึ่ง มีคนสอนให้ผม...ฝึกจับถูก
ให้จับถูกในสิ่งที่เห็น ไม่ว่า คน สัตว์ สิ่งของ ให้ได้ภายใน 30 วินาที
คนที่เดินผ่านมา เราต้องจับถูก หาข้อดีของเขาให้ได้ใน 30 วินาที
ผมก็พยายามฝึกนะ แต่แหม..แรกๆ ก็ยากเหมือนกัน
แต่พอฝึกไปหัดไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นข้อดีของคนนั้น หรือสิ่งนั้น ได้มากกว่าข้อเสีย
ยิ่งพอนานๆ ไป กลับได้สิ่งที่มหัศจรรย์กว่านั้นอีก คือ...เข้าใจในทุกสิ่ง
เข้าใจว่ามันก็มี...ทั้งข้อดี...ทั้งข้อเสีย...อยู่ในสิ่งเดียวกันทั้งนั้น
เปรียบเหมือน...น้ำครึ่งแก้ว...แล้วแต่มุมมอง แล้วแต่ทัศนคติของคนที่มอง
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ มันก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด
แล้วก็ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรี จริงๆ เท่าไหร่
มันก็เป็นเช่นนั้นเองอย่างที่ ท่านพุทธทาส ว่าไว้...ตถตา

อีทีนี้ พอผมเริ่มมองเห็นข้อดี มากกว่าข้อเสียซะแล้ว
อะไร ๆ มันก็ดูดี น่าคบ น่าคุยด้วยทั้งนั้น
ผมเคยต้องอยู่กับไอ้คนประเภทที่มันสุดจะทน งี่เง่า มองโลกในแง่ร้าย
ความเห็นเขากับเราไม่เคยตรงกัน คอยจ้องจับผิดเราสารพัด
ลองมองดูรอบๆ ตัวคุณเถอะ...รับรองว่าต้องมี
บางคนไม่รู้ทำไมมันชอบจองเวร หาเรื่องกับเราซะจริง คงเป็นคู่กรรมกันมาแต่ชาติไหน
เพื่อนร่วมงานบางคน มันทำซะอย่างกับเราไปฆ่า คุณพ่อ คุณแม่ มันรึยังไงก็ไม่รู้
คอยจับผิด คอยคัดค้าน เกลียดชังกันตั้งแต่เห็นหน้า
ผมไปทำงานที่ไหน ก็มักจะต้องเจอไอ้ประเภทนี้อย่างน้อย หนึ่งหรือสองคนเสมอ
แล้วพวกนี้ก็สุดยอด เล่นงานผมทั้งต่อหน้า และลับหลัง...มันช่างขยัน จริง..จริง
ก็ต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเอง พยายามทำดีด้วยสารพัด ก็ยังไม่ถูกใจพวกท่าน พวกมันอีก..ก...

เมื่อตอนที่ผมยังเป็นแค่ เซลส์ขายรถที่นิสสัน พระประแดง
ก็มีคนหนึ่งชื่อ...คุณสมชาย ( นามสมมุติ )
อายุเท่ากัน แต่เป็นเซลส์มาก่อนผมตั้ง 10 ปี
หมายมั่นปั้นมือว่าจะได้เป็น ผู้ช่วยผู้จัดการ อย่างแน่นอน
แต่พอผมเข้าไปทำงานที่นั่นได้แค่ปีเดียว ยอดขายทะลุคนอื่นหมดแบบทิ้งห่าง
พอดีช่วงนั้นเป็นปี 2541 หลังฟองสบู่แตก แถมยังเป็น...ปีชง ของผมด้วย
เศรษฐกิจตกวินาศสันตะโร คนอื่นแทบไม่ได้ขาย
คุณสมชาย แกก็ขายได้บ้างนิดหน่อย
แต่ผมดั๊น..น...ขายคนเดียว เดือนละ 20 คัน
ลองไปหาอ่านจากเรื่อง...กรรมทันตา ปีชง ต่อ...เอาเองนะครับ
อ่านจาก บล็อกของผมก็ได้

พอมีการแต่งตั้ง ผู้ช่วยผู้จัดการ ผมก็เลยได้เป็น
คุณสมชาย แกผิดหวังมากเลยไปชวนพวกเซลส์เก่าๆ ด้วยกันแอนตี้ผม
ยุยงจนมีบางคน มาท้าตีท้าต่อยด้วยซ้ำ

ผมเคยดูหนังจีนบู๊ลิ้ม จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร
มีหัวหน้าจอมยุทธคนหนึ่ง เป็นพวกฉลาด นักคิดนักวิเคราะห์เหตุการณ์
แต่ดั๊น..น...มีกุนซือที่เจ้าเล่ห์ มองโลกในแง่ร้าย ถึงร้ายที่สุด
จนมีคนถามว่า...ท่านทนอยู่กับไอ้คนแบบนี้ได้ยังไง
หัวหน้าจอมยุทธ์ ก็ตอบว่า
...ท่านเข้าใจผิดแล้ว เราไม่ได้จำใจทนอยู่ แต่ข้าพเจ้าใช้คนแบบนี้แหละเป็นเครื่องทดสอบ
เป็นแบบฝึกหัดอย่างดี
...หากสามารถทนในสิ่งที่คนอื่นทนไม่ได้ นั่นแหละยอดคน

พอหลังจากเป็น ผู้ช่วยผู้จัดการ ได้ไม่นานก็ได้เป็น ผู้จัดการโชว์รูม
แล้วก็เจ้ากรรม ต้องกลับมาที่ โชว์รูมพระประแดง อีก
คุณสมชาย แกก็ยิ่งหมั่นไส้ผมจนแทบทนไม่ได้
แต่...ผมชิงลงมือ เรียกมาปิดห้องคุยกัน
รีบยกมือไหว้แกก่อนเลย
...พี่สมชายครับ ที่ผ่านมาผมไม่รู้ว่าทำอะไรผิดไป
รู้แต่ว่า พี่โกรธผม...ผมขอโทษนะครับ
ต่อไปนี้ ถ้าผมทำอะไรไม่ดี หรือไม่เหมาะสม พี่บอกผมได้ตรง ๆ เลยนะครับ
ผมเคารพพี่นะครับ พี่มีประสบการณ์มากกว่าผมเยอะ
ผมแค่โชคดี เจ้านายถูกใจเท่านั้นเอง ครับ...

วันรุ่งขึ้นเรียกประชุม...
ผมก็ยกมือไหว้ เซลส์รุ่นพี่ทุกคนแล้วบอกว่า ที่ผ่านมาผมคงทำอะไรที่ไม่ถูกต้องนัก ผมต้องขอโทษ
เรามาเริ่มกันใหม่ และฝากเนื้อฝากตัวด้วย
คุณสมชาย กลับเป็นคนที่ลุกขึ้นสนับสนุนผมเป็นคนแรกเลย...ผมละอึ้ง
หลังจากนั้นมา คุณสมชาย กลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีเกือบที่สุดคนหนึ่ง
เข้าอกเข้าใจกัน คอยสนับสนุนคอยดูแลผมอย่างดี

จะเล่าเรื่อง...ทำบุญด้วยปาก
แต่ไถล..ไปซะไกล
พอเราหัดจับถูกมากเข้า ก็จะมองเห็นข้อดีของคนอื่นได้ง่าย และรวดเร็ว
ผมจะออกปากชม ในจุดนั้น...ทันที
ลูกน้อง หรือเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิด ผมจะพยายามหาเรื่องชม
เสื้อสวยนะ...ทำผมใหม่เหรอ ดูดีจัง...ขยันจังเลยนะ...ฯลฯ
หรือถ้าไปกินข้าวร้านไหน แล้วมันอร่อย ผมก็จะชมเจ้าของร้านเสียงดังๆ เลย
แต่ถ้ามันไม่ค่อยอร่อย ก็จะกระซิบบอกเขาว่า มันเค็มไปนิด หวานไปหน่อย อะไรหยั่งงี้แหละ
เผื่อเขาจะปรับปรุงได้

สิ่งหนึ่งที่ผมชอบทำมากคือ ให้กำลังใจ
ในปี 2540 ตอนนั้นผมยังเป็นแค่เซลส์ธรรมดา
ที่นิสสัน สำนักงานใหญ่ มีการปลดคนออกเยอะเหมือนกัน
บางคนไม่ถูกปลด แต่ก็ถูกเปลี่ยน ถูกลดตำแหน่ง
ผมเดินไปเจอ พนักงานธุรการหญิง 2 คน กำลังนั่งร้องไห้กันอยู่
ก็ทะลึ่งไปถามว่า ร้องไห้ทำไม...
พวกเธอบอก...ถูกปลดจากธุรการ เงินเดือน 8,000 มาเป็นเซลส์ขายรถ เงินเดือนแค่ 3,500
ผมก็เลยนั่งลงคุยกับพวกเธอ เลยรู้ว่า...ปรกติพวกเธอ พวกธุรการน่ะ เกลียดพวกเซลส์
นอกจากเกลียดแล้วยังหมั่นไส้ ถือว่าพวกนี้เป็นพวกชอบเอาแต่แต่งตัว แต่งหน้า
ทำตัวเฉิดฉาย วันๆ ไม่ทำอะไร ใส่ทองอวดกัน เอาแต่เจาะแจ๊ะลูกค้า เจ๊าะแจ๊ะเจ้านาย...

ผมก็บอกว่า...ถ้าเปรียบบริษัทเป็น ทีมฟุตบอลนะ
แต่ละคนก็มีหน้าที่ต่างกัน มีบทบาทที่ต้องเล่นคนละแบบ
ฝ่ายบัญชี เปรียบเหมือนกองหลัง หรือผู้รักษาประตู...ต้องเคร่งครัด เอาจริงเอาจัง
ผ่ายธุรการ เหมือนกองกลาง...ต้องคอยประสานงานกับทั้งระบบ
ต้องเตรียมการสารพัดเหนื่อยยากแสนเข็ญ แต่คนไม่ค่อยเห็นความดี
นอกจากนั้นยังต้องคอยส่งลูกไปให้ ไอ้พวกศูนย์หน้าอีกด้วย
ฝ่ายขาย หรือพวกเซลส์ ก็เหมือนศูนย์หน้า...คอยรับลูกจากกองกลาง แล้วหาวิธีเลี้ยลูก บุกเข้ายิงประตูให้ได้
ทั้งทีม ไม่ว่าจะแพ้ หรือชนะ ไม่ได้อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่งหร๊อก..ก..
แต่มันต้องทุกคนน่ะแหละ ช่วยกัน..น...
แน่นอน พอชนะทีไร ไอ้พวกศูนย์หน้า มักจะได้หน้าได้ความดีก่อนเสมอ
พอแพ้ทีไร คนซวยมักจะเป็นพวก ผู้รักษาประตู กับกองกลางธุรการทั้งหลาย

แต่วันนี้คุณทั้ง 2 น่ะโชคดีแล้ว บริษัทได้เลื่อนตำแหน่งจากกองกลาง ไปเป็นศูนย์หน้าแล้วนะ...
แทนที่ทั้งสองคนจะดีใจ กลับยิ่งโมโหผมใหญ่เลย บอกว่า
...บ้าหรือเปล่า ได้เลื่อนตำแหน่งบ้าอะไร จาก 8,000 เหลือแค่ 3,500 แล้วจะพอกินได้ยังไง
ผมก็บอก ไม่ได้บ้า แต่คุณน่ะที่โง่...
พวกผม พวกเซลส์น่ะ ไม่ใช่ลูกจ้างนะจ๊ะ ไม่มีเงินเดือนต่างหากล่ะ
ไอ้ 3,500 น่ะ บริษัทเค้าเอาใจให้เป็นค่าน้ำมัน
พวกผม...เป็นนักธุรกิจ ทำธุรกิจด้านรถยนต์ จับมือทำธุรกิจร่วมกับ นิสสัน
คอยหาดูว่าใครต้องการใช้รถบ้าง แล้วก็ไปนำเสนอ รถนิสสันให้เขาตัดสินใจ
ถ้าเกิดลูกค้าสนใจซื้อขึ้นมา เราก็จะได้กำไรแบ่งกัน คันละ 5,000 ถึง 30,000 บาท แล้วแต่รุ่น
ทีนี้รู้หรือยังว่า ไอ้ที่มันมีทองใส่อวดกัน มันมาจากไหนยะ...
พวกเธอมัวแต่ฟังผมจนลืมร้องไห้ แล้วก็ซักว่าไอ้การเป็นเซลส์มันต้องทำยังไง...
ผมก็บอก สิ่งแรกก็...ทำตัวให้สวย ไปตัดผมให้สั้น ดูเป็น บิสิเนสวู๊แม่น กระฉับกระเฉง แต่งหน้าให้เริ่ด
วันนี้เราไม่ได้เป็นลูกจ้างให้ใครมาโขกสับอีกแล้วนะ
แต่เราเป็นนักธุรกิจตัวฉกาจ นำเสนอสินค้าชิ้นละเป็นแสน เป็นล้าน
ต้องให้ภูมิฐานสมกับสินค้า

อีกหลายวันต่อมา เจอพวกเธอแทบจำไม่ได้...
บุคลิกแบบ พนักงานธุรการ แบบป้าๆ เชยๆ กลายเป็น สาวเปรี้ยว สดใส
แถมยังมาหัวเราะกับผมอีก บอก ชีวิตมันก็สนุกดีนะ...เอ๊อ..อ...เป็นไปได้
หลายปีต่อมา คนหนึ่งได้เป็นถึงผู้จัดการ นิสสันที่ถนน กาญจนาภิเษก
อีกคนขอเป็นแค่ ผู้ช่วยผู้จัดการที่สำนักงานใหญ่ เพราะไม่อยากรับผิดชอบมากมาย ขายสนุกกว่า...

ประมาณ ปี 2543
ที่นิสสัน เน้นเรื่องการทำ 5 ส.
ผมก็เลยไปทำที่บ้านมั่ง สะสางกันสนุก มีสมบัติบ้าที่ไม่ได้ใช้ทิ้งซะเยอะแยะ
และมีเสื้อผ้าส่วนเกินตั้งมากมาย หลายลัง เลยเอาไปบริจาคให้บ้านบางแค 2
ตอนที่เอาไปให้ก็เรียบร้อยดี แต่ผมเห็นรถตู้ที่ใช้งานอยู่มันสภาพทรุดโทรมเต็มที
ถามพนักงานขับรถก็ได้รู้ว่า ไม่ค่อยมีงบค่าซ่อม แถมรถมันก็เก่ามาก วิ่งไม่ค่อยไหว
มีปัญหาเวลาที่มีคุณตา คุณยาย ท่านไหนป่วย ซึ่งก็มักจะป่วยหนักตอนกลางคืนซะด้วย
รถมันก็สตาร์ทไม่ค่อยติด แย่...มาก มาก เลย
ผมก็เลยขอคุยกับท่านผู้อำนวยการ ซึ่งที่นี่เค้าเรียก...ผู้ปกครอง
ท่านก็ลงมาพบ มายืนคุยกันข้างรถที่ว่า
ผมก็บอกว่าทำไม ต้องใช้รถตู้ ค่าซ่อม ค่าอะไหล่มันแพง น่าเปลี่ยนเป็นรถกระบะ จะดีกว่า
ท่านก็เล่าว่า...การขนส่งคนชรา โดยเฉพาะคนที่ป่วยหนัก ถ้าเป็นรถประเภทอื่นทำได้ยากมาก
รถตู้นี่แหละเหมาะสมที่สุด แต่คันนี้มันไม่ค่อยไหวแล้ว งบค่าซ่อมก็ไม่ค่อยมี
ต้องเอาเงินไปใช้ในการดูแลคนป่วย และอาหารการกินมากกว่า
โดยเฉพาะเรื่องอาหารนี่ ต้องระมัดระวังมากอย่างที่สุด
คนแก่ คนชรา ภูมิต้านทานมีน้อยอยู่แล้ว ระบบย่อยก็ไม่ค่อยดี
แถมยังต้องคอยให้อาหารเสริมอีกด้วย...ฟังแล้วเหนื่อย
ผมก็เลยบอก เอางี้ ให้เอารถไปที่โชว์รูม ที่ผมอยู่ จะหาทางซ่อมให้ฟรี ฟรี
แต่แค่พอวิ่งใช้งานได้นะ
ท่านผู้ปกครองก็ดีอกดีใจ ขอบคุณซะมากมาย
ผมก็ถามว่า แล้วทำไมไม่หาคันใหม่มาแทนซะที
ท่านบอก...ไม่มีงบประมาณ คันละตั้ง ล้านกว่า
ผมก็แนะนำให้ท่านเขียนจดหมายไปขอที่ สยามกลการ ที่นิสสัน สำนักงานใหญ่ ดูซิ
ท่านก็ว่า...แล้วเค้าจะให้เหรอ
ผมก็บอกให้ท่าน แต่งจดหมายให้ดี เล่าเรื่องราว ความจำเป็น
ความลำบากในการขนส่งคนแก่ คนป่วยไปโรงพยาบาล
แล้วส่งให้ คุณ พรเทพ พรประภา เจ้าของโดยตรงเลย อาจจะได้นะ
ไม่ลองก็ไม่รู้ ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ บริษัทเขาก็มีงบในการทำบุญอยู่แล้ว...
ท่านผู้ปกครองฟังแล้ว ก็พยักหน้าอย่างเลื่อนลอย


ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว...จนอีก 2 เดือนต่อมา
เห็นที่บอร์ดของบริษัท ว่าจะมีการ บริจาคมอบรถตู้ป้ายแดง
ให้กับ มูลนิธิบ้านคนชรา...บ้านบางแค
ผมยืนเกาะบอร์ด อ่านกระดาษแผ่นนั้นอยู่นาน..น...เลย
มันปลื้ม มันตื้นตัน มันดีใจ อ่ะ
แค่คำแนะนำ ด้วยลมปากเท่านั้น เราก็สามารถช่วย คุณตา คุณยาย คนชราที่นั่น
ให้พ้นทุกข์...ได้ตั้งเยอะ

นี่แหละครับ...ทำบุญด้วยปาก



อนณ 089-995-9377
tobeteam@yahoo.com



Create Date : 16 เมษายน 2554
Last Update : 16 เมษายน 2554 15:12:41 น. 6 comments
Counter : 1286 Pageviews.

 
อืม..ดีจังค่ะ.เก่งด้วย..บ้านพักคนชราได้รถป้ายแดงแล้วเหรอคะ..อิอิ กำลังใจไปอยู่พอดีเลยค่ะ..55


โดย: สัญญาลมปาก วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:14:34:19 น.  

 
ติดตามเสมอ ได้ข้อคิดดีๆ มากมาย และเอาไปใช้ได้ด้วย ขอบคุณมากครับ


โดย: ชัชวาลย์ IP: 14.207.175.221 วันที่: 20 เมษายน 2554 เวลา:15:20:33 น.  

 
สาธุ

ขออนุโมธนาบุญด้วยค่ะ


โดย: นก IP: 58.64.89.238 วันที่: 30 เมษายน 2554 เวลา:23:32:01 น.  

 
แวะมาอ่านนะคะ และจะติดตามไปเรื่อยๆๆนะคะ


โดย: ไหมสีตอง IP: 180.180.227.54 วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:08:17 น.  

 
ว้าววววว เริ่ดไปเลยค่ะ

: D


โดย: คน IP: 125.26.62.7 วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:9:02:25 น.  

 
ได้อ่านเรืองราวของคุณแล้วนับถือจังเลยคะ
ได้ข้อคิด ข้อปฏิบัติใหม่ ดิฉันทำงานธุรการ จะขอพูดดี ทำบุญด้วยวาจา ทำได้ยอดสุดเลย ทุกอย่างต้องตั้งมั่นอยู่ในสติ


โดย: กิ๊ฟ IP: 118.173.200.155 วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:22:14:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.