กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
กรรมทันตา หัดเดิน

หัดเดิน

คราวก่อนเล่าว่า ผมค่อยๆ กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไร
มันเหมือน ขึ้นรถบัสผิดคัน ตั้งใจไปเหนือ คันนี้ดันลงใต้
แถมมันเป็น รถไฟเหาะตีลังกาซะด้วย
ไม่ได้วิ่งเร็วอย่างเดียว ยังหกคะเมนตีลังกา หาสติตั้งไม่เจอเลย
จะลงก็ไม่มีใครให้ลง คนอี่นเขากำลังมันส์...เอ็งอย่ามาสะดิ้ง
สุดท้ายต้องขอคุณพระคุณเจ้า พ่อแก้วแม่แก้วช่วย ถึงลงมาได้.....

พอลงมายืนมึนที่พื้นดินได้ ก็งงเต็ก หาทางกลับไม่เจอ
โชคยังดีมีคนยื่นแผนที่ พร้อมเข็มทิศ ยี่ห้อ ธรรมะพระพุทธเจ้า ให้....
ถึงได้ค่อยๆ คลำทางมะงุมมะงาหรา กลับมาจนได้

อย่างที่ท่านทราบ ตอนนั้นมีหนี้สินล้านกว่าบาท...ที่ตัวเงินสดก็แทบไม่มี
ดีแต่ว่า ภรรยามีกิจการเล็กๆ....เล็กจริงๆ
คือมีแผงขายของเด็กเล่นที่คลองถม ไม่ใช่ฝั่งที่ขายนาฬิกานะครับ
ขายได้แค่วันอาทิตย์ กลางวัน เท่านั้นเอง
แผงของ ภรรยา มันแค่ 2 เมตรเท่านั้น คนยืนซื้อสามคนก็ยากแล้ว
ทำให้พออยู่ได้ ต่อมาผมไปขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดง ก็พอมาสมทบบ้าง

พยายาม เลิก........ละ....ลด....ปลด....วาง....ทีละนิด ทีละหน่อย
ไม่เคร่งเครียดแข็งขืน แต่กลับทำให้สบายใจ เบาใจ สุขใจ
พอสบายใจ ก็มีสติ คิดวิธีหาสตางค์
ผมแน่ใจว่า เทวดาฟ้าดิน ท่านช่วยแน่นอน เพียงแต่ไม่ได้ ชี้นิ้วเสกทรัพย์สินเงินทองให้หรอกนะ
ท่านมาในแนว เอาใจช่วย คอยชี้ช่อง คอยอำนวยความสะดวก
ประมาณว่า ช่องทางตรงนั้น ตรงนี้ ที่นั่น ที่นี่ เราจะหาเงินได้ ท่านก็พาไป
เมื่อไปถึงแล้ว ท่านก็เจรจา เจ้าที่เจ้าทาง ขอโอกาสให้เราเข้าพบคนที่มีกำลังช่วยเราได้อีกที
บอกก่อนนะ ทั้งหมดนี่เป็นจินตนาการที่ผมคิดเองนะ ไม่เกี่ยวกับปริยัติฯ อะไร......ผมเคยบอกแล้ว ผมมันแบบขวางๆ.....เป็นแค่พุทธทะเบียน

เมื่อท่านชี้ทาง อำนวยความสะดวกให้แล้ว แถมคงจะคอยลุ้นด้วยแหละ
สุดท้าย ก็อยู่ที่ตัวเราว่าจะทำต่อสิ่งนั้นอย่างไร
เอ...เหมือน ท่านพามาที่ขุมทรัพย์แล้ว หาเครื่องไม้เครื่องมือให้เสร็จ
เหลือแต่เราจะลงมือขุดหรือเปล่า
ถ้าเราลงมือขุด....ท่านก็คงคอยเชียร์....เอ้า...หุย...เล...ฮุย.....เอ้า...สู้...สู้

แต่ถ้าตอนนั้น ท่านอุตสาห์ดึงหูพามาแล้ว มันยังไม่เอา ยังลีลา รักสบาย กลัวลำบาก
ท่านคงสาปส่ง.....ไม่ยุ่งกับมรึงแล้วโว้ย....
ผมในตอนนั้น เหมือนกับ นักกีฬายกน้ำหนัก น้องอร อุดมพร พลศักดิ์ น่ะแหละ
ตะโกนก้อง ร้อง.....สู้โว้ย....
ชีวิตไม่ใช่สบายนะครับ......ผมต้องประหยัด ต้องขยัน ทำงาน 7 วัน ไม่มีบ่น
ขายรถ 6 วัน ขายของที่คลองถม วันอาทิตย์
ยิ่งตอนขายลูกบาส ลูกบอล ละคุณเอ้ย..ย..
เวลาไปเอาจากโรงงานมา มันแฟบ...เพื่อการขนส่ง
แต่อีตอนขาย ผมต้องสูบลม ทุกใบ....สูบด้วยที่สูบลมจักรยาน สูบด้วยมือนะครับ
ไอ้สูบสองสามลูกน่ะ จิ๊บจ๊อย
แต่นี่สูบอย่างน้อย สองร้อยลูก นะครับ มือก็สูบ ปากก็ตะโกนขาย....เมียรับเงินใส่กระเป๋า

เหตุที่ทำอย่างงั้นก็เพราะ มานอนนึก.....จะหาเงินที่ไหนใช้หนี้
การเป็นหนี้มันทุกข์ จริงๆ....เรื่องนี้ผมว่าทุกท่าน เชี่ยวชาญดี
เมื่อทุกข์มากๆ เข้า ก็นึกนะ.......จะแก้ทุกข์ยังไงดีวะ
มาทบทวน.....พระพุทธเจ้าว่า....ทุกข์ เพราะมันมีเหตุ.....ก็มีหนี้ไง
ต้องดับเหตุแห่งทุกข์.....ก็ต้องใช้หนี้ละวะ....แล้วจะเอาอะไรไปใช้ล่ะ
ก็ต้องหาเงิน......สุดท้ายวันก็วนมาที่เงินอีกแหละน่า

เอ๊....ท่านว่าไงต่อ.....ต้องไปตามมรรค....ตามทางที่ถูก
ไอ้ทางที่ผิด ผมละเก่ง ไปเองมาจนปรุ
คิดเรื่อง มรรค แล้วมึน....เลยวางไว้ก่อนดีกว่า

มานึกได้อีกคำ.....คนล่วงทุกข์ได้ เพราะความเพียร.....
ในตอนนั้น ผมนอนนึกเรื่อยเปื่อยไปหยั่งงี้จริงๆ.....มาย้อนคิดดูแล้ว เหมือนคนบ้า พูดกับตัวเอง

พอได้คำว่า...ล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร...ก็คิดว่า ไอเดียอันนี้น่าจะใช้ได้
ดูมันจะง่ายกว่า...มรรค...เพราะ มรรค มีตั้ง 8 อัน คงจะยุ่งน่าดู
เอาอันนี้ดีกว่า มีอันเดียวเอง ง่ายดีว่ะ..............ดู๊..ดู ซิ ตอนนั้นผมโง่จริงๆ

จากนั้นผมก็ตั้งหน้าตั้งตา เพียรขายรถอุตลุต
ออกหาลูกค้ามากกว่าคนอื่น....เซลส์คนอื่นชอบอยู่ที่โชว์รูม...มันสบาย...แอร์เย็น...กินกาแฟ...คุยกัน
และอีกเหตุผลคือ.....ลูกค้าที่เดินขึ้นมาบนโชว์รูม เป็นพวกที่คิดจะซื้อแน่ๆ แล้ว เตรียมเงินมาแล้ว
ถ้าเราไปเดินหาลูกค้า จะไปเดินหาที่ไหน ไม่ใช่ขายล๊อตเตอรี่นะ.....
ผมก็ว่า....จริงของมัน.....แต่ช่างมรึง....เรื่องของมรึง
ไอ้ตัวผม ชอบไปตะเวนหาลูกค้า.....หาที่ไหน น่าขำ...ทำยังกับมีคนยกมือ รอซื้อรถงั้นแหละ

ตอนนั้น อายุ 35 เป็นเชลส์ที่ถือว่า...แก่....
และที่ผมทำพิลึก กว่าคนอื่น คือ พาภรรยาไปด้วย ขับรถกันไปสองคนตายาย

เราสองคน ผัวเมีย ขับรถตะเวน เข้าซอกออกซอย ในแถบอ้อมน้อย อ้อมใหญ่ พุทธมณฑล....เลยไปถึงกระทุ่มแบน เกือบทุกวัน
แต่มันมีจุดเริ่มต้น.....จำได้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเลย

วันหนึ่ง หน้าฝน...ฝนตกทั้งวัน....ได้แต่ยืนดูฝนอยู่ในโชว์รูม
เพื่อนเซลส์รุ่นเก๋าส์ มายืนข้างๆ แล้วบ่น
...ฝนตกอย่างงี้ ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อรถ....มันนอนอยู่บ้านกันหมด...แย่ว่ะ...
ผมฟังแล้ว ปิ๊ง เลย
...ใช่ฝนตก ลูกค้าออกไปไหนไม่ได้...งั้นเราก็ไปหาก็แล้วกัน...ลูกค้าหนีไปไหนไม่ได้
คือแถวนั้น มันมีโรงงาน มีธุรกิจขนาดย่อม เยอะแยะ ผมก็ไปแนะนำตัว แจกนามบัตร แจกเบอร์โทรศัพท์
แล้วสอบถาม ใช้รถอะไร ใช้งานแบบไหน มีปัญหาอะไรมั๊ย....
ต่อไปให้คิดว่าผมเป็นที่ปรึกษาเรื่องรถ ปรึกษา...ฟรี...
ต้องไม่ลืมนะครับ ผมทำเรื่องรถมาสิบกว่าปี เรื่องรถมีปัญหา เป็นเรื่องง่ายสำหรับผม
ส่วนลูกค้าก็พอใจ มีคนมาหา มาอาสาดูแล ไม่เอาเงิน ให้คำปรึกษา ฟรีๆ

ถ้าจะคิดให้ลึกซึ้ง คือ....ผมทำเหตุ.....เหมือน ลงแรงปลูกต้นมะม่วง
แล้วหลังจากนั้น ว่างๆ ก็แวะเยี่ยมเยียน ไปดูรถ ให้คำแนะนำ
ก็เท่ากับผม ไปรดน้ำ พรวนดิน ต้นมะม่วงของผม
สักวัน มันต้องมีลูกออกมาแน่นอน

ผมก็ทำอย่างนี้ ทุกวั๊น ทุกวัน วันละหลายโรงงาน
พอหลายวัน หลายเดือนเข้า ก็มี มีต้นมะม่วง เอ๊ย..ลูกค้าเยอะขึ้นเรื่อยๆ
แต่ไม่แค่นั้น ผมไปเพื่อดูว่าแต่ละแห่ง ผลิตอะไร เอาไปขายได้มั๊ย
ถ้าได้ก็ขอแบ่งไปขาย เช่นเคยไปเจอ รง.ทอผ้าขนหนู ส่งออก...สวยเชียว
ไปขอซื้อที่เขาคัดออก ขายแบบช่างกิโล
ภรรยาเอาไป ตัดแต่ง ห่อเป็นของขวัญ ของฝาก ขายได้ตั้งเยอะ

ผมทำเหตุไปเรื่อยๆ ไม่สนใจผล เพราะผมรู้ว่า มันต้องออกมาแน่นอน
ผมเชื่อ....แอ๊คชั่น เท่ากับ รีแอ๊คชั่น
เหมือน ต้มน้ำ แต่ไม่มัวยืนจ้อง.....ยิ่งจ้อง ยิ่งไม่เดือด
เมื่อถึงเวลา มันเดือดเอง.......

ผลที่ออกมานะเหรอ อันแรก ผมขายรถได้เรื่อยๆ
อันที่สอง ผมได้สินค้าแปลกๆ ใหม่ๆ ไปวางขายที่คลองถมอีก
ทำอย่างงี้แหละครับ.....ทำมันทุกวัน บอกแล้ว......สู้โว้ย
ไม่นานก็หมดหนี้
ขอย้ำนะครับ.....ไม่ได้ซื้อหวย หรือล๊อตเตอรี่เลย.....
โปรดฟังอีกครั้ง
ผมทำเหตุ.....ไม่สนใจผล.....เพราะแน่ใจ...ทำเหตุมาก....ผลก็ออกมามาก
แอ๊คชั่น เท่ากับ รีแอ๊คชั่น

ผมก็ทำแบบนี้แหละครับ.

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 18:41:02



Create Date : 04 มกราคม 2554
Last Update : 4 มกราคม 2554 22:19:24 น. 0 comments
Counter : 1158 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.