เจาะประวัติชีวิตJulian Assangeผู้ก่อตั้งWikileaks
รายงาน(วันสุข) จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ วันสุข ปีที่ 5 ฉบับที่ 265 ประจำวัน จันทร์ ที่ 28 มิถุนายน 2010 โดย คณาภพ ทองมั่ง
แฮคเกอร์ล้วงความลับสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สื่อใหญ่หลายสำนักรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกำลังพยายามไล่ล่าและจับกุมตัว จูเลียน เอสแซง (Julian Assange) ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ วิกิลีกส์
(wikileaks.org) และเป็นผู้ที่พยายามจะเปิดโปงข้อมูลลับต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวและข้อมูลที่สื่อทั่วไปไม่สามารถเปิดเผยหรือไม่มีโอกาสรับรู้ออกสู่สาธารณะ
วิกิลีกส์เรียกตัวเองว่าเป็น วิกิพีเดียฉบับไม่มีการเซ็นเซอร์ข้อมูล ทั้งยังเป็นชุมชนออนไลน์ซึ่งมีสมาชิกราว 800 ราย ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโลกไซเบอร์ นักรณรงค์ นักข่าว และทนายความ ที่ต่อต้านรัฐบาล และฉ้อโกงบริษัทต่างๆทั่วโลก
ล้วงตับสหรัฐ
ก่อนหน้านี้เอสแซงและทีมงานได้เปิดเผยภาพจากวิดีโอลับชื่อ ที่ถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ปี 2007 ซึ่งเป็นภาพชาวอิรักและนักข่าวรอยเตอร์ 2 คนที่เสียชีวิตจากการโจมตีของเฮลิคอปเตอร์สหรัฐ
การเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อความมั่นคงและภาพลักษณ์ของสหรัฐ ซึ่งหลังจากมีการดาวน์โหลดข้อมูลลับราว 260,000 ข้อมูลออกไปจากสถานทูตและหน่วยงานด้านความมั่นคง รัฐบาลสหรัฐจึงต้องการสกัดกั้นการรั่วไหลของข้อมูลเหล่านั้น ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐและหน่วยสืบสวนของสหรัฐกำลังเร่งไล่ล่าจับกุมเอสแซง
การรั่วไหลของข้อมูลลับเกี่ยวกับอิรักมาจากคนในองค์กร นั่นคือ แบรดเลย์ แมนนิง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลของกองทัพสหรัฐ วัย 22 ปี ซึ่งอยู่ในคูเวต และขณะนี้ถูกจับแล้ว
ส่วนการเผยแพร่วิดีโอเทปเกี่ยวกับอิรักที่เอสแซงปรับเปลี่ยนเป็นหนังสั้น กระทำผ่านเซิร์ฟเวอร์อย่างหลากหลายถึง 20 แห่ง เพื่อตบตาและหลีกเลี่ยงการถูกตามจับ
สำหรับข้อมูลลับทั้ง 260,000 ข้อมูลที่เว็บไซต์ของเอสแซงเจาะมาได้ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวของซาราห์ เพลิน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐพรรครีพับลิกัน และอดีตผู้ว่าการรัฐฮาวาย การคอร์รัปชันและการลอบสังหารในเคนยา แผนการขององค์การนาโต้ในอัฟกานิสถาน ไปจนถึงภารกิจประจำวันของนักโทษที่ถูกคุมขังในเรือนจำกวันตานาโมในคิวบา
เจาะชีวิตแฮคเกอร์ เอสแซงเกิดเมื่อปี 1971 ที่เมืองทาวน์สวิลล์ รัฐควีนสแลนด์ ของออสเตรเลีย พ่อกับแม่เป็นเจ้าของบริษัทละครเร่ จึงต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา เขาเปรียบเทียบชีวิตวัยเด็กของตัวเองว่าคล้ายกับทอม ซอว์เยอร์
เมื่ออายุ 11 ปี แม่ของเอสแซงพาเขากับพี่ชายต่างมารดาแยกจากพ่อเพื่อหลบหนีลูกพี่ลูกน้องของพ่อที่เป็นสมาชิกกลุ่มนอกสังคม ในวัยรุ่นเอสแซงเริ่มถูกตำรวจติดตามในฐานะแฮคเกอร์ เมื่ออายุ 16 ก็พบกับสาวน้อยคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาแต่งงานกันและมีลูกชาย 1 คน
การต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆทำให้เอสแซงผ่านโรงเรียนถึง 37 แห่ง และมหาวิทยาลัยอีก 6 แห่ง โดยไม่มีหลักฐานว่าจบจากที่ไหนหรือไม่ เขาเคยเข้าเรียนฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นจนถึงปี 2006 ซึ่งเป็นปีที่เขาทุ่มเทเวลาให้วิกิลีกส์อย่างหนัก แต่ส่วนมากเขาเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยตัวเองจากประสบการณ์ส่วนตัวและการอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์อย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังศึกษาปรัชญาและระบบประสาท
เอสแซงมีส่วนช่วยเขียนหนังสือ Underground : Tales of Hacking, Madness and Obsession on the Electronic Frontier ที่ออกขายเมื่อปี 1997 ซึ่งเล่าถึงประสบการณ์ของเขาช่วงวัยรุ่นในฐานะสมาชิกของกลุ่ม International Subversives ที่ทำให้ตำรวจนครเมลเบิร์นบุกเข้าค้นบ้านของเขาเมื่อปี 1991 หนังสือพิมพ์ เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ และ ซันเดย์ ไทม์ส ระบุว่า บุคคลในหนังสือชื่อ เมนแดกซ์ (Mendax) มีบุคลิกคล้ายกับเอสแซง ส่วน นิวยอร์ก ไทม์ส ชี้ชัดเลยว่า เมนแดกซ์ก็คือเอสแซง
ในที่สุดเอสแซงก็ถูกกล่าวหาว่า ขโมยข้อมูลจากหลายแห่ง ทั้งคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยออสเตรเลียน บริษัทสื่อสารโทรคมนาคม และองค์การหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อทดสอบระบบรักษาความปลอดภัยของสถานที่เหล่านั้น เขารับสารภาพในความผิด 24 กระทงจากข้อหาล้วงความลับ และได้รับการปล่อยตัวหลังยอมเสียค่าปรับ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ
รายงานอีกด้านหนึ่งระบุว่า เอสแซงถูกตั้งข้อหา 31 กระทงในฐานะแฮคเกอร์และคดีอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เขารับสารภาพ 25 กระทง และถูกปล่อยตัวหลังจ่ายค่าปรับ นอกจากนี้เขายังมีเรื่องฟ้องร้องกับภรรยา การที่ต้องขึ้นศาลเพื่อไต่สวนคดีมากกว่า 36 ครั้ง ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทำให้แม่ของเขาเชื่อว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายป่วยด้วยความเครียดเรื้อรัง จนผมซึ่งเดิมสีน้ำตาลเข้มกลายเป็นสีขาว
เอสแซงยอมรับว่า ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา และบางครั้งก็ต้องอาศัยอยู่ตามสนามบิน เขาเคยเดินทางไปหลายประเทศ ทั้งเวียดนาม สวีเดน ไอซ์แลนด์ ไซบีเรีย และสหรัฐ
ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เอสแซงได้ปรากฏตัวในการให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์หลายแห่ง ทั้งอัลจาซีราภาคภาษาอังกฤษ ซีเอ็นเอ็น เอ็มเอสเอ็นบีซี เดโมเครซี นาว รวมถึงสำนักข่าวและหนังสือพิมพ์บางแห่ง ซึ่งสอบถามในเรื่องเดียวกันคือ หนังสั้นชุดอิรักอันอื้อฉาว
ระหว่างที่ทำวิดีโอเทปลับชุดนี้ เอสแซงใช้อาสาสมัคร 12 คนทำงานแข่งกับเวลารวม 4 วันภายใต้รหัส โปรเจกต์ บี เพื่อวิเคราะห์เทป ตัดต่อ บันทึกเสียง และทำเป็นหนังสั้นจนเสร็จ หลังจากนั้นก็สร้างเว็บไซต์ใหม่เพื่อเผยแพร่ เตรียมเอกสารประกอบ และติดต่อกับสื่อมวลชน
สภาพที่ดูอ่อนล้าและไม่ได้โกนหนวดเคราขณะทำหนังสั้นชุดนี้แสดงว่าเอสแซงทำงานแทบไม่มีวันหยุด ผมใช้เวลา 2 เดือนอยู่ในห้องๆเดิมที่ปารีสชนิดที่ไม่เคยออกมาข้างนอกเลย โดยมีคนคอยส่งอาหารเข้ามาให้ เอสแซงบอก เขามีรายได้จากการเผยแพร่วิดีโออิรัก 137,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน
เอสแซงเคยได้รับรางวัล Amnesty International Media Award เมื่อปี 2009 ในฐานะผู้เปิดเผยการลอบสังหารผู้พิพากษาในเคนยาและกระบวนการสืบสวนกรณีลอบสังหารและการหายตัวของผู้พิพากษาเหล่านั้น ได้รับรางวัล Economist Index on Censorship Award เมื่อปี 2008 และรางวัลอื่นๆในฐานะสื่อมวลชนอีกหลายแห่ง ทั้งยังเคยเข้าร่วมการประชุมสัมมนาด้านสื่อมวลชนและไอทีหลายครั้ง
นิตยสาร CounterPunch เมื่อปี 2006 พูดถึงเขาว่า ประธานเอ็นจีโอและอดีตแฮคเกอร์คอมพิวเตอร์ที่ไร้ชื่อเสียงมากที่สุดของออสเตรเลีย หนังสือพิมพ์ ดิ เอจ เรียกเขาว่า หนึ่งในนักวางแผนคนสำคัญที่สุด และนักสู้เพื่อเสรีภาพของอินเทอร์เน็ต ส่วนองค์กร The Personal Democracy Forum ระบุถึงเขาสมัยเป็นวัยรุ่นว่า แฮคเกอร์คอมพิวเตอร์ผู้มีชื่อเสียงด้านจริยธรรมมากที่สุดของออสเตรเลีย ขณะที่เอสแซงมองตัวเองว่า เป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างสุดขั้ว
หนีการตามล่า
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา ช่วงที่ภูเขาไฟลูกหนึ่งของไอซ์แลนด์ปะทุและพ่นละอองเถ้าถ่านอย่างหนักซึ่งพัดไปไกลถึงยุโรป เอสแซงและทีมงานไปเช่าบ้านหลังหนึ่งที่กรุงเรคยาวิก โดยบอกกับเจ้าของบ้านว่าเป็นผู้สื่อข่าวและมาที่นั่นเพื่อเขียนเรื่องภูเขาไฟ แต่ที่จริงเอสแซงและทีมงานใช้บ้านหลังนั้นเป็นห้องตัดต่อและจัดทำวิดีโอลับชิ้นหนึ่งจนเสร็จพร้อมที่จะเผยแพร่
และเมื่อกลับสู่ออสเตรเลียในเดือนพฤษภาคม เขาถูกยึดพาสปอร์ต และได้รับคืนพร้อมกับการแจ้งว่ามันถูกยกเลิกแล้ว
นับตั้งแต่แมนนิงถูกจับกุมตัว เอสแซงเพิ่งให้สัมภาษณ์บีบีซีเป็นแห่งแรกเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นี้ โดยปฏิเสธที่จะยืนยันว่าแมนนิงอยู่เบื้องหลังข้อมูลดังกล่าว และว่าเว็บไซต์ของเขาไม่เคยเปิดเผยข้อมูลของแหล่งข่าว ทั้งยังไม่มีการเก็บข้อมูลของแหล่งข่าวไว้ด้วย
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. เอสแซงปรากฏตัวร่วมกับผู้สื่อข่าวชื่อ ดาเนียล เอลส์เบิร์ก ในการประชุม Personal Democracy Forum ผ่านเครือข่าย Skype เอลส์เบิร์กบอกว่าการที่เอสแซงไม่ยอมเดินทางไปยังสหรัฐเพื่อร่วมงานนี้ มีเหตุผลด้านความปลอดภัย และในวันที่ 11 มิ.ย. เอสแซงได้ยกเลิกการเข้าร่วมประชุมคณะบรรณาธิการและผู้สื่อข่าวด้านสืบสวนที่นครลาสเวกัสโดยแจ้งล่วงหน้าหลายวันด้วยเหตุผลเดิม เพราะได้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐเตรียมรวบตัวเขา
การที่แมนนิงถูกจับตัว และเจ้าหน้าที่สหรัฐสืบทราบว่าเอสแซงเตรียมตีพิมพ์ข้อมูลลับบางอย่าง ทำให้ชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย
ไม่มีใครรู้ว่าขณะนี้เอสแซงอยู่ที่ไหน ยังคงทำงานอยู่หรือหลบซ่อนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม แต่หากเขาถูกจับในข้อหาล้วงความลับสหรัฐเมื่อใด จะต้องกลายเป็นคดีใหญ่แน่นอน
ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 5 ฉบับ 265 วันที่ 26 มิถุนายน-2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 หน้า 21 คอลัมน์ เบื้องหลังโลก โดย คณาภพ ทองมั่ง //www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=7085
เมื่อปี 2551 มีคนกลุ่มหนึ่ง ได้ร่วมกันก่อตั้งเว็บไซต์ขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษ ให้ชื่อว่า Wikileak ซึ่งคำว่า Leak แปลว่า"รั่วไหล" ให้เป็นเว็บไซต์เสรีเพื่อรองรับให้ใครก็ได้ส่ง"ข้อมูลความชั่วร้าย" ของผู้ปกครองหรือรัฐบาล หรือมาเฟีย ในทุกประเทศทั่วโลก ที่สื่อปกติไม่กล้าลง หรือลงไม่ได้ ถ้าลงคอขาดทันที ก็ให้ส่งมาลงที่เว็บนี้ โดยไม่มีเซ็นเซอร์ก่อน ส่งมายังไงก็แพร่ออกไปยังงั้น
คนที่ออกทุนให้ วิกิลีคเป็น "ชาวเคนยา" ไม่มีใครรู้จักตัวจริง รู้แต่ผู้ดำเนินการที่ชื่อว่านาย "จูเลียน เอสแชง" (Julian Assange) อายุ 34 ปี เกิดที่ออสเตรเลีย ย้ายมาทำมาหากินอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้
เอสแชงเป็นแฮกเกอร์เก่งคอมพิวเตอร์มากเขาจึงสามารถซ่อนเซิร์ฟเวอร์ของวิกิลีคได้อย่างมิดชิดเขาวางเซิร์ฟเวอร์ไว้ในหลายประเทศทั่วโลก คนเฝ้าเป็นอาสาสมัคร ทำให้ไม่มีตัวตนแต่ก็เชื่อกันว่าเซิร์ฟเวอร์ใหญ่อยู่ในสวีเดน ทำให้วิกิลีคเป็นเว็บไซต์ที่แกะรอยไม่ได้เซ็นเซอร์ไม่ได้ และบล็อกไม่ได้
คนทั่วไปไม่รู้จักวิกิลีค มีแต่ "พวกนิยมซ้าย" เท่านั้นที่ท่องเว็บนี้ กระทั่งวันที่ 30 ก.ค.2553 วิกิลีคก็ดังกระหึ่มโลกและเป็นที่รู้จัก เมื่อได้ลงเผยแพร่ "เอกสารลับ" ของกองทัพสหรัฐกับอังกฤษ ในการทำสงครามอัฟกานิสถาน 92,000 แผ่น
มีทั้งความจริงกรณีนักบิน ฮ.ชาวสหรัฐ ยิงจรวดใส่ทหารอัฟกัน ทำให้นักข่าวตายด้วย 2 คน กรณีทหารอังกฤษฆ่าเด็กอัฟกัน 16 คน กรณีทหารระดับสูงของรัฐบาลปากีสถานทรยศแอบให้การสนับสนุนตาลีบัน และอื่นๆ ที่เป็นเรื่องไม่ดี
"บารัค โอบามา" แก้ว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ห่วงคนที่มีชื่อที่แฟ้มลับจะตกอยู่ในอันตราย
"ระบอบปกครองโอบามา" กริ้วเอสแชงมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และแกะรอยหาเซิร์ฟเวอร์ก็ไม่เจอ ซึ่งถือว่าซ่อนได้เจ๋งจริง ระดับสหรัฐยังหาไม่พบ
กลางสิงหาฯ เอสแชง ประกาศว่าจะเผยเอกสารลับชุด 2 อีก 15,000 แผ่น ทำให้สหรัฐเดือดและกระวนกระวาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
สัปดาห์ก่อนเอสแชงไปสวีเดนเจอกับระดับสูงรัฐบาลหลายคนเจรจาขอให้ช่วยปกป้องเซิร์ฟเวอร์วิกิลีคให้ด้วยเพราะสหรัฐคุกคามหนัก และเรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น วันที่ 20 ส.ค.53 หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์( Expr essen )ภาษาสวีเดน ออกในสตอกโฮล์มพาดหัวข่าวใหญ่ว่า อัยการสวีเดนออกหมายจับเอสแชงข้อหา
ข่มขืนผู้หญิงกับอีกข้อหาทำร้ายทางเพศ พร้อมแนะนำให้เอสแชงเข้ามอบตัวกับตำรวจทันที
พวกวิกิลีคโพสต์ข้อความด่าแหลกว่าเป็น Dirty trick หรือ "วิธีการสกปรก"โดยเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลังเพราะอยากจะเข่นเอสแชงอยู่แล้ว
วันที่ 22 ส.ค.53 "นางอิวา ไฟนน์" อัยการสวีเดนได้สั่งยกเลิกหมายจับ บอกว่า ไม่มีหลักฐาน แต่ก็จะยังสอบสวนกรณีนี้ต่อไป
หวิดไปแล้วเอสแชง ทีนี้ก็มาถึงเว็บไซต์วิกิลีคไทย ในขณะที่รัฐบาลไทยยังใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินไล่ปิดเว็บไซต์อันตรายและเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลอยู่เรื่อยๆ ก็มีคนเปิดเว็บไซต์หนึ่งขึ้นมาชื่อว่า Thaileaks.org
น่าจะไม่ใช่เครือข่ายวิกิลีคแท้ เพราะพี่ไทยบล็อกเว็บนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2553
ทำให้คณะผู้จัดทำเดือดดาลมากประกาศผ่านเว็บไซต์ //thaileaks. w ord press.com/เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 53 ว่าได้จัดทำเว็บไซต์ใหม่แล้วชื่อว่า//wiki.thaileaks.info/
เข้าดูได้โดยผ่านระบบ secure connection โดยต้องกดยินยอมให้https-enabled คณะนี้เรียกตัวเองว่า Wikicong (วิกิกง) เป็นการเอาคำว่า Wiki กับคำว่า "เวียดกง" ซึ่งเป็นหน่วยจรยุทธ์ของเวียดนามเหนือ เคลื่อนไหวใต้ดินสู้กับกองทัพสหรัฐในเวียดนามใต้ มาเป็นนามเรียกขานตัวเอง
วิกิกง เขียนคำประกาศท้ารบกับอภิสิทธิ์ได้ดุเดือดมาก วันหลังจะลงให้อ่าน เปิดดูใน //wiki.thaileaks.info เมื่อวันที่ 22 ส.ค.53 หรือ 1 วันหลังประกาศเปิดตัว ยังไม่พบข้อมูลอะไรพิเศษ จึงยังสันนิษฐานไม่ได้ว่า วิกิกงคือใคร
ในช่วงปี 2550 หลังทักษิณถูกยึดอำนาจแล้ว มีเว็บไซต์หนึ่งประสิทธิภาพสูงมากชื่อว่า Hi-Thaksin.net แสดงข้อมูลเจ๋งๆได้บ่อยครั้ง นักเขียนที่ดังมากของเว็บนี้ใช้นามปากกา "ประดาบ"
แต่หลังจากที่ทักษิณกลับไทยรอบแรกเดือน ก.พ.2551 ก้มลงกราบแผ่นดินที่สุวรรณภูมิแล้วเว็บไฮ-ทักษิณ ก็ถูกตีหนักหาว่าทักษิณจะประนีประนอมได้ไงในเมื่อไฮ-ทักษิณยังด่า "ป๋าเปรม" วันที่28เม.ย.2551 "ประดาบ" จึงเขียนบทความส่งท้ายชื่อ "เก็บดาบ" และปิดตัวเองเมื่อวันที่ 30เม.ย.51 จนบัดนี้
ที่มา บ้านเมือง
NoteจากBlogger : ประดาบแห่งHi-Thaksinมีผู้สงสัยว่าตัวจริงน่าจะเป็นคนในเครือข่ายสื่อของนายห้อยตามที่Blogนี้ได้เคยนำเสนอข้อมูลไปแล้ว
Wikileaks ย้ายเซิร์ฟเวอร์ไปอยู่ในหลุมหลบภัยนิวเคลียร์
เซิร์ฟเวอร์บางส่วนของ Wikileaks ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคโจรสลัดของสวีเดน (ทั้งคู่อยู่ในสวีเดน) ได้ย้ายไปอยู่ในศูนย์ข้อมูลชื่อ White Mountains ของบริษัท Bahnhof ความน่าสนใจอยู่ที่ White Mountains เป็นอดีตหลุมหลบภัยนิวเคลียร์สมัยสงครามเย็น ทำให้เซิร์ฟเวอร์ของ Wikileaks ได้ไปอยู่ในสภาวะใต้ดินลึก 30 เมตร มีประตูเหล็กหนาครึ่งเมตร และมีระบบปั่นไฟสำรองที่นำมาจากเรือดำน้ำของเยอรมัน จริงๆ ก็มีเซิร์ฟเวอร์อีกมากที่ใช้บริการของ Bahnhof มาตั้งนานแล้ว เพียงแต่มันเป็นข่าวเพราะ Wikileaks นั่นล่ะครับ ดูวิดีโอพาทัวร์ศูนย์ข้อมูล White Mountains ได้ท้ายข่าว
https://www.youtube.com/watch?v=qwlATf9xse4
ที่มา - Forbes
ปัจจุบันserverได้ย้ายไปอยู่ในสวีสเซอร์แลนด์แล้ว
แอสซานจ์ เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1971 ที่เมืองทาวน์สวิลล์ รัฐควีนส์แลนด์ ของออสเตรเลีย พ่อกับแม่เป็นเจ้าของบริษัทละครเร่ จึงต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ทาง แอสซานจ์ อธิบายชีวิตในวัยเด็กของเขาว่าเสมือนนักท่องเที่ยวและต้องย้ายโรงเรียนถึง 37 แห่งด้วยกัน ในช่วงทศวรรษ 1990 แอสซานจ์ ซึ่งย้ายมาอาศัยอยู่ในเมลเบิร์น ค้นพบว่าพรสวรรค์ใหม่นั่นคือการล้วงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต หรือแฮกเกอร์ แต่ความสนใจใหม่นี้ก็ไม่อาจรอดพ้นการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ โดยเขาถูกต้องข้อหาก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ราว 30 กระทง รวมถึงความผิดฐานแฮกเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของตำรวจและกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งเขาก็ยอมรับสารภาพในเกือบทุกข้อกล่าวหา แต่ถูกลงโทษเสียค่าปรับเท่านั้น แอสซานจ์บอกว่า เขาเคยทำงานในตำแหน่งต่างๆ ในหลายบริษัท ทั้งในฐานะที่ปรึกษาด้านความมั่นคง นักวิจัยของวารสาร ก่อนจะเริ่มเปิดบริษัทไอทีของตนเอง จากนั้นเขาได้ร่วมกับนักสิทธิมนุษยชน สื่อมวลชน และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอีกราว 10 คน ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ขึ้นมา แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าคนอื่นๆ ที่เหลือเป็นใครก็ตาม เว็บไซต์แห่งนี้เปิดตัวบนโลกออนไลน์ในปี 2007 และเริ่มเปิดเผยเอกสารลับต่างๆ จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเว็บไซต์แห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อตีแผ่นเอกสารลับ 77,000 แผ่นของกองทัพสหรัฐฯ กับอังกฤษ ในการทำสงครามอัฟกานิสถาน การเผยแพร่ดังกล่าวตามมาด้วยการเปิดโปงเอกสารอีกราว 400,000 แผ่นในเดือนตุลาคม ที่เกี่ยวข้องกับสงครามอิรัก และนับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนเป็นต้นมา วิกิลีกส์ก็ดังกระหึ่มโลกอีกครั้งเมื่อเผยแพร่เอกสารลับสุดยอดของสถานทูตสหรัฐฯ 274 แห่งทั่วโลก เว็บไซต์วิกิลีกส์ถูกไล่ล่าเล่นงานจากทั่วโลก นับแต่ที่เริ่มเผยแพร่รายงานลับทางการทูตของสหรัฐฯ จนกระทั่งต้องโยกย้ายจากเซิร์ฟเวอร์หนึ่งไปยังอีกเซิร์ฟเวอร์หนึ่ง เนื่องจากหลายๆ ประเทศพยายามปิดเว็บไซต์นี้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อว้นที่ 7 ธันวาคม แอสซานจ์เข้ามอบต่อตำรวจอังกฤษ หลังจากที่สวีเดนออกหมายจับเขาด้วยข้อหากระทำความผิดทางเพศหลายกระทง และศาลสั่งควบคุมตัวไว้จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม หลังเขาบอกว่าจะต่อสู้กับคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ที่มา หมาเนเจ๋อ
Create Date : 25 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 9 ธันวาคม 2553 4:52:29 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2145 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Dark IP: 27.130.44.213 วันที่: 22 มิถุนายน 2558 เวลา:21:15:45 น. |
|
|
|
| |
|
|