Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

บทที่ ๓ การสร้างโครงเรื่อง ... ร่างบทพูดของผม เรื่องไฟใหม้บ้านเรา



ท่านพิธีกร สมาชิกสโมสรฯ และผู้มีเกียรติทุกท่าน

โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ ครั้งเดียว เป็นคำพังเพยที่แสดงให้เห็นความรุนแรงของไฟไหม้ ได้อย่างชัดเจน โจรปล้นทรัพย์สินไปแต่ไม่ว่าจะปล้นกี่ครั้ง อย่างน้อยก็ยังเหลือบ้านไว้ ยกเอาไปไม่ได้ แต่ถ้าเป็น ไฟไหม้แม้แต่บ้านก็ยังไม่เหลือ

เมื่อเกิดไฟไหม้ขึ้น เราจะเห็นคนสามกลุ่มอยู่ในเหตุการณ์เสมอ

กลุ่มแรก เป็นกลุ่ม คนดู หรือจะเรียกไทยมุงก็ได้ บางคนดูด้วยความสนใจอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนดูเพื่อหวังผลประโยชน์ที่จะลักขโมยสิ่งของบางคนดูด้วยความสะใจ

กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มผู้ที่รับผิดชอบตามหน้าที่เข้ามาดับไฟ เช่น นักดับเพลิง เข้ามาช่วยเหลือดูแล เช่น รถพยาบาล

กลุ่มที่สามซึ่งผมคิดว่าเป็นกลุ่มที่สำคัญที่สุด ก็คือ กลุ่มอาสาเข้ามาช่วยขนของช่วยกันขนน้ำดับไฟ ช่วยสังเกตบอกเจ้าหน้าที่ว่าตรงไหนที่มีปัญหาแล้วก็เข้าไปช่วยกันจัดการคนกลุ่มนี้ ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมาทำ ไม่ได้มีส่วนเสียหายกับไฟไหม้ไม่ได้ประโยชน์ไม่ได้หน้า แต่เข้ามาช่วยเหลือ มาเสี่ยงกับอันตราย

ทั้งสามกลุ่ม ก็จะมีลักษณะท่าทางที่แตกต่างกันเราสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

กลุ่มคนดู (ไทยมุง) ร่างกายสะอาด มองโน่นนี่พูดคุยกัน

กลุ่มสองกับกลุ่มสาม เป็นคนทำงานเสื้อผ้าหน้าตาสกปรก วิ่งไปมา ทำโน่นนี่นั่น ท่าทางเหนื่อยล้า

ถ้าเปรียบเทียบว่า การเมืองเหมือนกับไฟ การเมืองบ้านเราตอนนี้ก็คงเหมือนกับไฟที่กำลังลุกลามเผาใหม้บ้านเรือนคนที่ลงเล่นการเมือง เหมือนกับ คนที่อาสาเข้าไปช่วยกันดับไฟ ช่วยกันขนของหนีไฟ แน่นอนว่า ต้องเปียกต้องเหนื่อย ต้องเลอะเทอะเปรอะเปี้อน สิ่งสกปรก และ เสี่ยงอันตราย ส่วนคนที่ไม่ได้มาลงเล่นการเมืองโดยตรงก็คงเหมือนกับคนที่ยืนดูไฟไหม้ ไม่เลอะ ไม่เสี่ยงอันตราย สบาย ๆ แถมอาจรู้สึกตื่นเต้นกับภาพที่ตนเองมองดูอยู่ เมื่อเห็นคนที่เข้าไปช่วยกันดับไฟทำไม่ได้อย่างที่ตนเองคิด ก็พูดว่า ไปดับตรงโน้นสิ รีบหน่อยไฟไหม้เยอะแล้วทำไมไม่รีบดับไฟ มัวทำอะไรอยู่ กินเหล้ามาหรือเปล่า ไม่รู้เรื่องอะไรเลย บางคนก็พูดว่า พวกนี้สกปรก หน้าตามอมแมมดูไม่ได้เลย แต่ก็ยังดี ที่มีบางคน พูดให้กำลังใจ

ถ้าโบราณบอกว่า โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่ากับไฟไหม้ครั้งเดียว

ผมอยากจะเสริมต่อว่า ไฟไหม้สิบครั้ง ก็ไม่เท่ากับนักการเมืองเลว ๆ หนึ่งคน เพราะ ไฟไหม้อย่างน้อยก็ยังเหลือที่ดินเอาไว้แต่นักการเมืองเลว ๆ สามารถฉ้อฉลทุจริตงบประมาณที่จะนำไปพัฒนาบ้านเมืองทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น การศึกษาของลูกหลานในอนาคต นักการเมืองเลวสามารถทำให้ประชาชนหลายหมื่นหลายแสนคนเดือดร้อนหมดเนื้อหมดตัวไม่เหลือแม้แต่ที่ดิน และที่ร้ายยิ่งกว่าก็คือ ไม่เหลือแม้กระทั่งอนาคตของลูกหลาน

ขณะนี้ บ้านเมืองเรา กำลังถูกไฟไหม้จากนักการเมืองทุจริต นักธุรกิจการเมืองที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ขึ้นอยู่กับทุกท่านตัดสินใจว่าจะเลือกอยู่ในกลุ่ม คนยืนดูไฟการเมืองเผาบ้านเรา แบบ สะอาด สบาย แล้วพูดบ่นก่นด่านักการเมือง หรือ จะเลือกเข้ามาอยู่ในกลุ่มคนอาสาเข้าไปช่วยกันดับไฟช่วยกันขนน้ำ ช่วยกันขนสิ่งของหนีไฟ ช่วยกันคนละนิดละหน่อย คนละไม้ละมือตามกำลังความสามารถที่เรามี

เพื่อตัวเรา เพื่อลูกหลานเรา เพื่อบ้านเรามาช่วยกันดับไฟบ้านเรากันเถอะครับ



ปล.

หนังสือเทคนิคการพูดฯ เรียบเรียงโดย อ.สันติ อภัยราช สามารถดาวโหลดมาอ่านได้ที่  //sunti-apairach.com/book/book1pdf/booksec1_012.pdf







Create Date : 02 ตุลาคม 2555
Last Update : 2 ตุลาคม 2555 13:53:09 น. 0 comments
Counter : 3069 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]