ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๔๖๓ - ความวุ่นวายกับสามัญสำนึก



วันหนึ่งมีโอกาสนั่งคิดทบทวนดูว่า ทำไมโลกทุกวันนี้มันจึงได้มีแต่ความวุ่นวาย ความวุ่นวายนี้มันมาจากอะไร แล้วสมัยโบราณจะวุ่นวายขนาดนี้หรือเปล่า

คำตอบบางทีมันก็อยู่กับเราทุก ๆ คน คำว่าหยุดกับคำว่าพอ จะช่วยให้ชีวิตเราลดความวุ่นวายลงได้ แต่ตราบใดที่เรายังมีความทะยานอยากอยู่ เราก็ยังไม่อาจจะพบความสงบได้อย่างแท้จริง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่น้อยคนจะรับรู้และทำความเข้าใจ เหมือนกับความจริงที่ทุกคนไม่อยากรับรู้ เพราะการรับรู้นั้นจะทำให้ตัวเองสูญเสียความสะดวกสบายบางอย่างในชีวิตไป อย่างนี้เรียกว่าเป็นการหลอกตัวเอง หรือการเข้าข้างตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าธรรมชาติของมนุษย์ย่อมมีความคิดเห็นแก่ตัวกันโดยมาก นั่นเพราะเราสำคัญมั่นหมายว่าตัวเราเป็นของเรา เรามีในตัวเรา คนเราจึงรักตัวเองมากกว่ารักคนอื่น ข้าพเจ้าเองก็ยังมีความรู้สึกประเภทนี้อยู่ แต่ทุกครั้งที่มีความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นมา ก็จะรู้สึกถึงความน่าละอายใจอย่างบอกไม่ถูก คิดอยากจะละแต่ก็ละไม่ได้ เป็นเรื่องของการทะเลาะกันระหว่าสามัญสำนึกฝ่ายดีกับฝ่ายไม่ดี

สมัยที่ศึกษาธรรมะช่วงแรก ๆ จะรู้สึกว่าสามัญสำนึกมันจะทะเลาะกันบ่อยมาก คล้าย ๆ กับตัวเรามีคน ๒ คนอยู่ในตัวเดียวกัน เคยนำเรื่องนี้ไปเล่าให้น้องสาวฟัง น้องสาวบอกว่าคงคล้ายกับตัวการตูนของดิสนีย์ ที่จะมีเทวดากับซาตาน คอยมากระซิบข้างหูทั้ง ๒ ข้างเวลาตัวละครจะตัดสินใจทำดีหรือทำชั่ว เป็นตัวอย่างที่คนต่างชาติเขาสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างถูกต้องใกล้เคียงกับชีวิตจริงของเรา ๆ ทุกคน ขึ้นอยู่กับเราจะเชื่อฝ่ายไหนมากกว่ากัน

การทะเลาะกันของสามัญสำนึก เคยบ่อยมากจนนอนไม่หลับ ฟุ้งซ่านไปเลยก็มี คิดว่าเราคงหนักไปทางพิจารณาเยอะไปหน่อย ไม่ค่อยได้ฝึกสมาธิ สามัญสำนึกมันทะเลาะกันภายในไม่พอ บางทีมันก็พาลไปทะเลาะกับคนอื่น ๆ ภายนอก เห็นใครทำไม่ดี ก็ผิดไปหมด บางครั้งมากพอถึงกับมีความคิดหลุดจากโลกไปเลยก็มี แต่ทุกวันนี้ก็เบา ๆ ลงมาก อาจจะเป็นเพราะการได้เขียนเรื่องราวต่าง ๆ ใน Blog ทำให้เราสามารถแสดงสิ่งที่คิดออกมาได้มาก เพราะมีเรื่องราวมากมายที่ไม่สามารถนำไปคุยหรือเล่าให้คนรอบ ๆ ข้างฟังได้ (จะโดนข้อกล่าวหาว่าบ้าไปซะก่อน)

ความวุ่นวายกับสามัญสำนึกฝ่ายดี คือ ความไม่เห็นแก่ตัว การรู้จักอภัย มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลก โลกก็จะวุ่นวายน้อยลงด้วยสามัญสำนึกฝ่ายดีของตัวเราเองก่อน แต่หากเรามองไม่เห็นว่าคน ๆ นั้นเป็นเพื่อนร่วมโลก ก็ขอให้นึกเสียว่าเป็นเพื่อนร่วมวัฏฏะสงสารด้วยกัน คนเราไม่ได้พบกันเพียงชาตินี้เพียงชาติเดียว โลกทุกวันนี้ก็เปรียบเหมือนฉากละครฉากหนึ่งของละครที่แสนจะยาวนาน เราออกมาแสดงละครผลัดกันเป็นผู้ดีผู้ร้าย หักหาญทำลายกัน แล้วก็จากกันเมื่อฉากละครปิดลง แล้วก็มาเจอกันในอีกฉากหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้...แล

Thank you image from //www.generalcomics.com



Create Date : 10 มีนาคม 2557
Last Update : 10 มีนาคม 2557 21:19:48 น. 7 comments
Counter : 717 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับ


พี่ก๋าโหวตบล็อกธรรมะให้เลยนะครับ

เห็นด้วยเลยนะครับ
ในตัวเราคงมีทั้งพระและมาร
ขึ้นอยู่กับว่าเราให้ฝ่ายไหน
ทำงานในตัวเราได้มากกว่ากัน



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:6:45:37 น.  

 

แวะมาทักทายตอนเย็นๆ คร้าา ป่ะๆๆ เดินเล่นด้วยกันมะคะ ลมเย็นดีน๊าาาคะ


โดย: white in the dark วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:18:08:08 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องอัส

นอนดึกเหมือนกันนะครับ
พี่ก๋าคร่อกฟรี้ไปตั้งแต่ห้าทุ่มครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:6:38:03 น.  

 

เห็นด้วยค่ะ เพราะคนเราไม่รู้จักคำว่าพอ
จึงเป็นที่มาของปัญหา สร้างความวุ่นวาย
ทั้งต่อตัวเอง และ ผู้คนรอบข้าง
ดังนั้นการรู้สึกละอาย ควรเริ่มต้นที่ตัวเรา
ของแบบนี้ใครทำก่อนได้ก่อน จริงไหมคะ



โดย: ขึ้น15ค่ำ วันที่: 13 มีนาคม 2557 เวลา:1:36:35 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มีนาคม 2557 เวลา:6:31:24 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอัส
ทุกวันนี้คนเห็นแก่ตัวกันมาก ไม่รู้จักให้อภัย
ความมีน้ำใจลดลงทุกที
การอยู่ร่วมกันคงลำบากมากขึ้น
หรือไม่อาจอยู่ร่วมกันคะ


โดย: pantawan วันที่: 13 มีนาคม 2557 เวลา:23:34:46 น.  

 
อัสติสะ Dharma Blog ดู Blog
ขอบคุณขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 16 มีนาคม 2557 เวลา:8:22:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.