|
๑๕๓-มองข้ามเรื่องไร้สาระไปบ้างเถอะ
เราเกิดมาได้นานเท่าไหร่แล้ว คุณเองเท่านั้นที่จะเป็นคนตอบคำถามเหล่านี้ได้ แต่บางคนก็ไม่ค่อยสนใจนัก มักจะมองหาให้แต่คนอื่นจำวันที่เราเกิดให้ได้ แล้วก็เรียกร้องปรารถนา ความยินดี จากบทเพลงหรือเค้กดี ๆ สักปอนด์ เรารู้วันเกิดที่แน่นอนจากคำบอกเล่าของผู้เป็นมารดา หรือญาติ ๆ ของเรา แต่ทว่าสัจธรรมความจริงของชีวิตเราไม่อาจที่จะรู้ได้ว่าเราจะอาศัยอยู่บนผืนโลกนี้อีกนานเท่าไหร่
บางคนปรารถนาว่าจะขออยู่สักอายุ ๘๐ ปี แล้วค่อยตาย หรือถึงเวลานั้นแล้วค่อยเข้าวัดทำบุญ หรือบางคนบอกว่าขอมีลูกมีเมียก่อน แล้วเรื่องบุญ เรื่องกุศลค่่่่่อยว่ากันทีหลัง คนพวกนี้สังเกตุได้ง่าย ๆ เมื่อได้รับซองผ้าป่า หรือซองงานบุญจะบอกปัดไปว่าไม่ค่อยมีตังค์ แต่พอไปเที่ยวกลางคืน สามารถซื้อเหล้าฝรั่งขวดละหลายพันบาทได้อย่างไม่ลังเลใจ เรื่องนี้ก็ไปห้ามเขาไม่ได้ เพราะมันเป็นความเห็นส่วนตัว และเป็นความสุขของแต่ละคนที่มีสิทธิ์จะเสาะหาตามกำลังสติ ปัญญาของตนเอง
ถ้าว่ากันแรงเกินกว่านี้ เขาก็คงโกรธเอา เพราะจะเข้าข่ายไปต่อว่าเขามีสติปัญญาน้อย แต่ก็อย่างว่าเราไม่อาจจะไปห้ามความคิดของใคร ๆ ได้ ทุกอย่างมันเพียงรอเวลาเท่านั้น เวลาที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์สัจธรรมความจริง เมื่อทุกคนจากโลกนี้ไปแล้ว ความจริงบางส่วนก็จะบังเกิดให้เห็น
หลายชีวิตต้องร้องไห้เสียใจเพราะที่ตอนมีชีวิตอยู่ได้แต่ประมาท ไม่ยอมทำบุญทำกุศลเอาไว้ แต่หลายชีวิตก็จำอะไรไม่ได้เพราะเมื่อปฏิสนธิยังภพอื่น ก็ระลึกไม่ได้ ได้แต่ยอมจำนนชดใช้กรรมที่ตนเองทำไว้ในอดีต คนเหล่านี้มักจะพูดติดปากอยู่เสมอว่า
แล้วแต่บุญแต่กรรมจะพาไป...
นี่เป็นคำพูดของคนที่ยังมีความหลงอยู่มาก เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นได้พูดอย่างนี้มากี่ภพกี่ชาติแล้ว ซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องที่อธิบายให้คิดตามได้ยากสักหน่อย แต่ข้าพเจ้าก็ต้องนำมาสาธยายไว้บ้างเพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก ตามที่พระศาสดาทรงตรัสเตือนไว้
ทีนี้มาถึงประเด็นอันเป็นความสำคัญของต้นเรื่อง มีการสำรวจวงจรของมนุษย์ว่าทำอะไรที่มีประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่นบ้าง เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากที่ตลอดชีวิตของเรานั้น ทิ้งเวลาไปกับการแต่งตัว การกิน การพูดส่อเสียดเพ้อเจ้อ ไปมากกว่า สิบเปอร์เซนต์ของชีวิต ส่วนการทำความดีในลำดับเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรมมีไม่เกิน ๑ - ๒ เปอร์เซนต์ ก็เป็นตัวเลขที่เทียบเคียงได้จากการสำรวจทางสถิติ และชีวิตจริงของเพื่อน ๆ ที่อยู่รอบตัวเป็นหลัก บางคนอาจจะคัดค้านข้อมูลนี้ แต่หากจะค้านไปก็เป็นแค่เพียงตัวเลขเท่านั้น เพราะในชีวิตจริงเราเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
เอาเป็นว่าเราจะเอา สิบเปอร์เซนต์ที่หมดไปกับการแต่งตัวอวดกัน การพูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระนั้นมาทำประโยชน์ให้กับตัวเองได้อย่างไร เป็นสิ่งที่น่าคิด หรืออย่างน้อยก็ยกเอาเวลาที่เสียไปกับสิ่งที่ไร้สาระประจำวันมาทำให้เกิดประโยชน์ ให้เกิดมรรค ผล นั้นได้อย่างไร เพราะอย่างที่กล่าวไว้ตอนแรก เวลาที่เราเหลืออยู่บนโลกนี้น้อยลงทุก ๆ ที เรายังจะเอาเวลาที่่เหลือน้อยนี้ ใช้ไปในเรื่องไร้สาระอีก มนุษย์ผู้มีปัญญาทั้งหลายคงคิดกันออก
ไม่ใช่วันหนึ่งเอา แต่นั่งท้อแท้ยอมแพ้ต่อกิเลส ว่าชาติฉันคงทำไม่ได้ ๆ นั่งถอนหายใจทิ้งไปวัน ๆ เท่านั้น อันที่จริงหากเราไม่เริ่มต้นในชาตินี้เวลานี้ ในอนาคตนั้นเราก็อาจจะไม่มีโอกาสเริ่มต้นได้อีกเลยก็ได้
วันหนึ่งในอดีตที่ผ่านมาของข้าพเจ้า ในสมัยที่ยังยินดีและปรารถนาชื่นชมต่อการปรุงแต่งของโลกอยู่ ก็เกิดดำริคิดขึ้นมาว่า
บุญกุศลอะไรนี่ตอนแก่ค่อยทำดีกว่า วันนี้ยังสนุกอยู่ มีเป็นอย่างนี้ มันถูกสมุนเหล่ามารหลอกเอา ถูกกิเลสมันหลอกเอา แล้วถ้าตายก่อนที่ยังไม่แก่ล่ะทำไง... ในใจมันถามขึ้นมาอีก เดี๋ยวค่อยไปภาวนาต่อในนรก... เห็นไหมว่า กิเลสมันหลอกเราได้ถึงเพียงนี้
ตอนนั้นคือเราคิดอย่างนั้นจริง ๆ และเชื่อว่าผู้คนส่วนมากก็ยังเชื่อตามแนวทางนี้อยู่ แต่พอศึกษาธรรมสักระยะหนึ่งก็รู้ว่า ในนรกนั้นไม่มีเวลาสำหรับภาวนาสร้างบุญสร้างกุศลได้เลย มีแต่เวลาชดใช้กรรมที่กินเวลายาวนานแสนนาน กรรมที่ทำบนโลกอาจจะทำเพียงเวลาสั้น ๆ แต่ถ้าเป็นกรรมที่หนัก(ครุกกรรม) ก็ต้องถูกชดใช้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่น หลายล้านปี เมื่อเทียบกับเวลาบนโลกมนุษย์ ถ้านึกไม่ออกก็ลองใช้เท้าเปล่า เหยียบลงบนกองถ่านที่ยังครุกรุ่นอยู่ ท่านจะทนได้นานเท่าไหร่กัน อย่างมากก็ไม่เกินนาที แต่ไฟนรกนั้นรุนแรงกว่ากองถ่านที่สมมติมาหลายร้อย หลายพันเท่า อีกทั้งเวลาที่ต้องถูกความร้อนเผาพลาญก็ยาวนานกว่ามาก แล้วจะเวลาไหนมานั่งภาวนาเอาบุญเอากุศลกัน นอกจากเวลาที่เรายังเป็นมนุษย์อยู่ในปัจจุบันนี่เอง
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเกรงกลัวนรกอย่างยิ่ง แล้วก็อยากจะชวนให้ท่านทั้งหลายเกรงกลัวนรกด้วย ไม่ใช่เพื่อหวังดีอะไรกับท่านนักหนาหรอก แต่เริ่มรู้สึกเห็นใจต่อท่านพยายมราช และ ลูกน้องทั้งหลายเพราะช่วงหลัง ๆ มานี่ งานท่านเยอะขึ้นครับ (ภาษาวัยรุ่นเรียกว่า ท่าน...งานเข้า อีกแล้วหนะ...)
Create Date : 04 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2552 22:53:59 น. |
|
11 comments
|
Counter : 418 Pageviews. |
|
|
|
โดย: quilt วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:13:44 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:4:10:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:36:55 น. |
|
|
|
โดย: พจมารร้าย วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:07:09 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:5:58:07 น. |
|
|
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:41:22 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:57:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:11:14 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:39:04 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:52:18 น. |
|
|
|
โดย: no filling วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:40:10 น. |
|
|
|
| |
|
|
เมื่อไรท่านจะมาเอาตัวนังโจรที่มาปล้นบ้านไปเสียที