|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 357 "บินเดี่ยว" |
|
ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 357
"บินเดี่ยว"
โจทย์โดย จันทราน็อคเทิร์น (ผมเอง)เหมือนผมจะอัพบล๊อกตะพาบช้าใช่ไหมครับ... สาเหตุง่ายเลยค่ะ.....จำวันผิด 555555บอกเลยว่าเกือบหลับ แต่กลับมาได้ครับครั้งนี้ นี่ผมอัพบล๊อตะพาบชนตะพาบเลยหรอเนี้ย เรียกว่านานที่สุดในรอบการเขียนบล๊อกเลยครับ 5555เรื่องแรกเลยคือ งานผมดุเดือดมากครับ มีงานต้องเข้าทั้งกลางวันและกลางคืน แถมช่วงนี้ผมต้องเร่งปิดยอด ผิดงาน Q4 ด้วยความ เรียกว่าต้องวางแผน ทำราคา ขายงานแล้วกระจายให้ทีมดีลกันเต็มที่ เพิ่งจะได้เงยหน้าจากคอมมาทำอย่างอื่นนี่แหละครับ ไหนจะมีพนักงานใหม่เข้ามาถึง 2 คน ซึ่งผมไม่เทรนแล้วครับ ผมให้น้องๆ เทรนกันไป...ผมเหนื่อยอีกเรื่องคือ หลานติด RSV ครับ นอน รพ หลายวัน เลยมีสลับ หรือเข้าไปช่วยพี่สาวกับแม่ครับสรุป....ผมติดอีกแล้ว 55555 ติดด้วยความประมาท เพราะคนอื่นที่เฝ้าจะใส่แมส หรือไม่ก็ไม่คลุกคลี แต่ผมนี่ไม่ได้อยู่ตลอดมาถึงก็เล่นๆ หาข้าวให้พี่สาวกิน ป้อนข้าวหลานบ้าง ใกล้สุดคือ นั่งเป่ายิงฉุบกับหลาน ติดเฉย!!!
แต่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะผมไม่เป็นอะไรมาก แค่น้ำมูกไหลเป็นน้ำ 5555 แต่ยังสดชื่นปกติไม่จ๋อยเลยครับ เหมือนเวลาเป็นภูมิแพ้แหละครับ น้ำมูกทำอะไรผมไม่ได้ ไอครับ ไอนิดหน่อย เบากว่าเป็นภูมิแพ้อีก RSV ในผู้ใหญ่ที่แข็งแรงอาการไม่หนักครับ เหมือนหวัดธรรมดา ไข้ก็ไม่มี แค่คันคอ น้ำมูกไหล ไอนิดหน่อย ยังไปไหนต่อไหนทำงานอะไรได้ปกติ ไข้หวัดใหญ่หนักกว่าเยอะ....บินเดี่ยวครั้ง ผมแทบจะ blank เลยครับ เพราะตอนตั้งหัวข้อก็ไม่ได้คิดไว้ก่อนแต่คำว่า "บินเดี่ยว" เกิดขึ้นกับผมครั้งแรกตอนทำงานนี่แหละครับ
จำได้ว่า พอเข้ามาทำงาน ที่แผนกมี specialist อยู่แค่ 3 คน1 ในนั้นนั่งยิ้มเบาๆ บอกว่ากำลังจะออกสิ้นเดือนนี้ ผมมีพี่ที่ชื่อปั้น ประกบทำงานอยู่ด้วย 2 อาทิตย์ ครับ...2 อาทิตย์เท่านั้นเนื่องจากคนไม่พอครับ และพี่คนนึงก็กำลังจะลาออก ผมที่เพิ่งเข้ามาทำงานจึงถูกสถานการณ์บังคับให้ "บินเดี่ยว"ตั้งแต่ยังไม่ผ่านโปรฯ.... ไม่ใช่ไม่ผ่านโปรฯ...แต่ยังไม่ครบเดือนด้วยซ้ำ
แต่ต้องยอมรับครับว่าพี่ที่กำลังจะลาออก เค้าก็พยายามให้คำปรึกษาให้มากที่สุด นั่งอ่านเมลล์ให้ สอนนั่นสอนนี่ให้ทำเป็นในช่วง 1 เดือนที่ยังอยู่ แต่เวลาออกไซต์ พี่ปั้นจะเป็นคนพาไปสอนงาน จากนั้นก็ปล่อยเลยครับ ปล่อยเหมือนครูฝึก รด. ที่ถีบเราตอนโดนหอผมนี่เคว้งคว้างขาไม่แตะพื้นเลยทีนี้ พี่ปั้นเป็นคนพูดน้อย พูดเร็ว อธิบายสั้น ผมก็มักจะฟังไม่ทันส่วนพี่โบ๊ต(พี่ผจกในตอนนี้) ที่เพิ่งเข้าทำงานมาก่อนผม 1 เดือน ก็คงฟังมาแล้วหลายครั้งครับ 5555 เลยจะ replay ให้ผมฟังเป็นระยะๆ
ทำงานคนเดียวตอนนั้นไม่ได้ยากมากครับ เพราะลูกค้าก็รู้ว่าใหม่ และโชคดีเจอลูกค้าดี นอกจากจะไม่ด่าเวลาช้า หรือทำผิดแล้ว ยังช่วยสอนงานผมด้วย ความรู้สึกลำบากใจที่สุดในตอนนั้นคือ......การกินข้าวเฮ้ย! ลำบากใจยังไงวะ ช่วงกินข้าวคือช่วงพักผ่อน คือต้องนึกตามผมนะครับ....ผมเป็นเด็กจบ ป. ตรีใหม่ๆ ชีวิตก่อนหน้านี้มีเพื่อนอยู่ด้วยตลอดเวลา ไม่มีวันไหนไม่มีเพื่อนเลย ไม่เคยต้องกินข้าวคนเดียวเลย จนวันที่มาทำงาน แค่การเดินเข้าร้านอาหารไปนั่งคนเดียวนี่คือยากมากๆ ครับ แถมพอทำใจเข้าไปนั่งได้ การนั่งกินเงียบๆ คนเดียวก็แย่มากๆ
และเลเวลสูงกว่าการกินข้าวคนเดียว คือ....การนั่งกินข้าวกับคนที่เราไม่รู้จัก หรือแทบไม่รู้จักกันเลยเพราะเวลาออกไปทำงาน บางครั้งก็ต้องนั่งทานข้าวเที่ยงกับลูกค้า การกินข้าวกับคนไม่คุ้นเคยตอนนั้นมันอึดอัดมากครับ เรียกว่ากินไม่ลงเลยก็ได้ ส่วนมากผมเลยจะพยายามทำงานให้เส็ดก่อนเที่ยง แล้วชิ่งมานั่งกินคนเดียวยังจะดีซะกว่า
ทำงานคนเดียว....เวลามีปัญหาจะทำยังไง....โทรหาคุณ VP ครับ คุณ VP นี่สแตนบายรอเลย 55555จำได้ว่าจะปรึกษาพี่ปั้น พี่ปั้นก็บอกให้ถามคุณ VP พอมาคุยกับพี่โบ๊ต พี่เค้าก็บอกเหมือนกันครับ ว่าพี่ปั้นก็บอกเค้าแบบนี้ ทำให้ทั้งผมทั้งพี่โบ๊ตกลายเป็นคนที่คุณ VP สอนมาเองกับมือ แก้ให้แม้แต่การใช้คำในการสื่อสาร จนตอนนี้..... ผมชิลมากกับการกินข้าวกับคนแปลกหน้า ใครจะเกร็งก็เกร็งไป ผมสั่งได้กินได้ คุยได้แบบไม่รู้สึกอะไร แค่อร่อย แค่อิ่มเป็นใช้ได้ครับ
การบินเดี่ยว อีกครั้งของผม คือการ "บินเดี่ยว" จริงๆ เมื่อก่อน สมัยที่ผมกับเพื่อนทำธุรกิจนึงด้วยกัน ผมจะมีเพื่อนอีกคนนึงบินไปต่างประเทศทำงานด้วยกันทุกครั้ง ตั้งแต่สมัยเรียน ป.ตรี แต่พอทำงาน บางทีเราก็ว่างไม่ตรงกันครับ ทำให้ตกลงคิวงานยาก เราเลยตกลงกันว่า จะให้คนใดคนหนึ่งบินเป็นหลัก ซึ่งคนคนนั้นก็กลายเป็นผม ที่พูดอังกฤษได้พอไม่อดตายยจนวันที่มีงานต้องบินคนเดียวมาถึง ไอ่ผมทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ แต่ไอ่บัดดี้ที่บินด้วยกันตลอดเนี้ย แม่งบิ้วซะผมเครียดเลย 5555เช่น เช่นใครจะเฝ้ากระเป๋าตอนเข้าห้องน้ำ ถ้าเครื่องเปลี่ยนเกท ผมจะรู้ไหม จนผมกังวล ว่าเออวะ ปกติเราช่วยกันดู ส่วนผมก็สายตาสั้น โอกาสมองพลาดมีสูงมาก ไหนจะอ่านงานผิด ๆ ถูก ๆแล้วทำผิดอีก ซึ่งพอถึงเวลาต้องไปบินจริงๆ ผมก็พยายามทำใจสบายๆ ครับ ทำเหมือนที่เคยทำ ดูบอร์ดบ่อยๆ ถ่ายรูปเก็บไว้ เปลี่ยนเครื่องจะหลับตรงไหนต้องตั้งปลุก ก่อนเกทปิดครึ่งชั่วโมง ข้าวของจริงๆ ไม่ต้องกังวลเลยครับ ผมก็บริหาร หาวิธีไปได้ จะมีแค่ตอนนอนโรงแรมคนเดียว แอบหลอนตัวเองครับ 5555 คือแม่ไม่มีอะไรให้หลอนเลย ผมคิดเองหลอนเองอยู่คนเดียว
จนครั้งนึง....ผมอยู่ที่ญี่ปุ่น เพิ่งทำงานเสร็จ และกำลังนั่งรถไฟหาที่เที่ยว ผมได้รับข้อความจากมือถือว่า พายุไต้ฝุ่นกำลังจะเข้า และสนามบินตอนใต้ทั้งหมดประกาศปิดแล้วเป็นเวลา 3 วันสายการบินให้ผมเฝ้าระวังและรับข่าวสายเรื่องการปิดสนามบินที่โตเกียว หรือการยกเลิก หรือเลื่อนของเที่ยวบินของผม ที่กำลังจะบินในคืนวันพรุ่งนี้ชิบหาย!!!!!ไม่ถึงชั่วโมงที่ได้รับประกาศ บัดดี้และหุ้นส่วนทั้งหาดก็กระหน่ำโทรมาหา ว่าผมเป็นยังไงจะทำยังไงสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง"คือแล้วกูต้องทำยังไงอ่ะ อากาศก็ยังดี กูก็รอดูสถานการณ์""แล้วถ้าสนามบินปิดละ มึงจะทำยังไง มึงคิดรึยัง" เพื่อนรีบถาม
เออว่ะ....ผมก็ยังไม่ได้คิด
เพื่อนก็ให้เวลาผมคิดนะครับ หายกันไปอีกร่วมชั่วโมง แต่ระหว่างนั้น ญาติพี่น้องพ่อแม่ แฟน โทรกันมาไม่ขาดสาย จนผมต้องบอกว่า ตอนนี้สบายดี แต่ขอเวลาจัดการก่อน ถ้าโทรกันอยู่แบบนี้ ผมจะไม่มีเวลาอ่านข้อมูลอัพเดท หรือเตรียมการ
ผมโทรหาพาร์ทเนอร์ที่ญี่ปุ่นนั่นแหละครับ ว่ามีประกาศแบบนี้ ผมควรทำยังไง พาร์ทเนอร์ก็บอกว่าให้สำรองโรงแรมไว้1-2คืน ตามกำหนดการปิดสนามบิน เผื่อว่าจะต้องปิดจริงๆ ผมก็จะมีโรงแรมนอนชิลๆ ซึ่งก็เหมือนตอนผมกับบัดดี้ติดพายุที่อเมริกาครับ ผมเลยโทรหาเพื่อนว่า แผนผมคือ.....ไม่มี..... จะรอประกาศเรื่องสนามบินอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ปิด ผมก็บินกลับ ถ้าปิด ผมจะหาโรงแรมและจองไว้ 2 คืน เผื่อรอดูประกาศ"โอเค มึงจองเลย" เพื่อนรีบบอก"แต่มันหมายความว่าจองทิ้งเลยนะ" ผมย้ำอีกครั้ง"จองไปเลย ทิ้งก็ทิ้ง มึงจัดการเลย หรือจะให้พวกกูทำให้""กูทำเอง เดี๋ยวหาทำเลที่เหมาะๆ ด้วย"เท่ากับว่า เพื่อนอนุมัติให้ใช้เงินกองกลางจองทิ้งได้เลยแต่โชคดีครับ ที่ครั้งนั้นผมไม่ได้ใช้บริการโรงแรม และจริงๆ ผมก็ไม่ได้จองด้วย ประหยัดค่าใช้จ่ายกันไปสนามบินไม่ปิด แต่เครื่องดีเลย์45 นาที ถือว่าไม่ร้าย จะร้ายก็ Turbulence ที่เจอระหว่างทาง ที่เรียกว่าแรงที่สุดที่เคยเจอแถมโดนขู่ไว้ตั้งแต่ก่อนบินอีกว่า ไฟล์ทนี้มาดำเลย์มาเพราะ ต้องบินอ้อมหลบพายุมา และขอกลับเราจะต้องบินอ้อมพายุกลับ มีโอกาสเจอ Turbulence สูงและแนะนำให้นั่งที่คาดเข็มขัดตลอดทางสวดมนต์ทั้งลำละครับ 555555 แต่สุดท้าย ผมก็ติดการเดินทางคนเดียวไปเองครับ ชอบการบินไปคนเดียว ทำงานคนเดียว เดินเรื่อยเปื่อยหรือหาอะไรกินคนเดียว ไม่เรื่องเยอะดี ไม่ต้องคิดมากดีว่าอีกคนจะชอบหรือไม่ จะอยากทำอะไรรึป่าว เป็นช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนดีครับ แต่ผมก็ไม่ Introvert นะครับ แถมค่อนข้าง Extrovert แต่บินเดี่ยว ทั้ง 2 กรณี มันก็ดีไปอีกแบบครับ
Create Date : 05 สิงหาคม 2567 |
Last Update : 5 สิงหาคม 2567 23:03:11 น. |
|
29 comments
|
Counter : 445 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณtanjira, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณSweet_pills, คุณmultiple, คุณทนายอ้วน, คุณอุ้มสี, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณ**mp5**, คุณฟ้าใสทะเลคราม |
โดย: หอมกร วันที่: 6 สิงหาคม 2567 เวลา:7:02:22 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 สิงหาคม 2567 เวลา:20:50:15 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 สิงหาคม 2567 เวลา:22:34:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 สิงหาคม 2567 เวลา:5:28:53 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 8 สิงหาคม 2567 เวลา:12:42:25 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 สิงหาคม 2567 เวลา:21:03:12 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 9 สิงหาคม 2567 เวลา:0:36:05 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 9 สิงหาคม 2567 เวลา:9:15:22 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 สิงหาคม 2567 เวลา:21:02:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 สิงหาคม 2567 เวลา:22:07:46 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 10 สิงหาคม 2567 เวลา:1:27:03 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 12 สิงหาคม 2567 เวลา:0:04:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 สิงหาคม 2567 เวลา:11:04:38 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 14 สิงหาคม 2567 เวลา:0:29:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2567 เวลา:5:05:43 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 14 สิงหาคม 2567 เวลา:10:38:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สรุปว่าป่วยทั้งน้าและหลานรักเนอะ