lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
พฤศจิกายน 2566
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
13 พฤศจิกายน 2566
space
space
space

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม. 339 "อยากทำ แต่ไม่เคยทำ"


ถนนสายนี้มีตะพาบ  หลักกิโลเมตรที่ 339


"อยากทำ แต่ไม่เคยทำ"




โจทย์โดย  พี่ก๋า   คุณ กะว่าก๋า  


 



จริงๆ ตะพาบหัวข้อนี้ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องอื่นครับ
แต่พอดีนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้พอดี พร้อมๆ กับที่เรื่องทำนองนี้กำลังเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์
นั่นก็คือเรื่อง 
วัยรุ่นหญิงอิหร่านเสียชีวิตจากการถูกทำร้าย 


ต้นตอที่ทำให้นึกถึงเรื่องขึ้นมาได้มาจากการพูดคุยกับพี่ก๋าครับ
ผมเล่าคราวๆ ให้พี่ก๋าฟังไปแล้ว 
พอมา remind เรื่องนี้ขึ้น เลยเกิดความรู้สึกนึงขึ้นมาครับ
คงกลายเป็นสิ่งที่อยากทำ แต่ไม่ได้ทำ เลยคิดว่าน่าจะพอเอามาเข้าหัวข้อตะพาบได้


สมัยเรียนทั้งมัธยมและมหาลัย ผมมีเพื่อนที่เป็นมุสลิมหลายคนทั้งผู้หญิงผู้ชาย
ซึ่งเรื่องศาสนาผมไม่ติดอะไรอยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้มีความเข้าใจมากนัก
แต่เวลาจะทำอะไร หรือไปไหน จะต้องนึกถึงเพื่อนต่างศาสนาเสมอ
จริงๆ ตอนมัธยมมีเพื่อนผู้หญิงเป็นมุสลิม เรียนเก่งมาก และเป็นต้นฉบับลอกงานของห้อง
เค้าแต่งตัวปกติ มีชื่อเป็นภาษาไทยปกติ และมีความฝันจะเป็นอาจารย์มหาลัย
ซึ่งตอนนั้นก็ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ให้พวกหลังห้องอย่างพวกผม
ผมกับเพื่อนเคยคุยกันศาสนา ความเชื่อมุสลิมกับเค้า เค้าก็อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ
และดูเป็นอะไรที่ไม่ซับซ้อนอย่างที่เคยคิด



มาตอนมหาลัย ในคณะผมมีผู้หญิงมุสลิมคนนึง จริงๆ น่าจะมากว่านั้น
แต่สังเกตได้ว่าคนนี้ เพราะเค้าสวมฮิญาบสีดำ พร้อมเสื้อแขนยาว กระโปรงยาว
ซึ่งก็ปกติครับ มีผู้หญิงมุสลิมสวมแบบนี้หลายคน
ผมไม่รู้จักเค้า ที่ต้องพูดว่าไม่รู้จัก เพราะ ผมไม่รู้ชื่อ ไม่เคยคุยกัน
รู้แต่ว่า เรียนคณะเดียวกันเค้าอยู่ภาคปกติ และผมอยู่อินเตอร์  
ดังนั้น จะไม่มีเรียนด้วยกัน ยกเว้นวิชา TU


ผมจำได้ว่า 
เค้าเป็นคนผิวขาวเหลือง หน้าคมๆ 
จริงๆ ผมจำเค้าแทบไม่ได้เลย หน้าตาเป็นยังไงตอนนี้ก็จำไม่ได้
จำไม่ได้แม้แต่ชื่อของเค้า คุ้นๆ ว่าเป็นชื่อมุสลิม
แต่จำเรื่องราวที่เกิดได้  เพราะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเลยสำหรับผม 
แต่จำdetail การพูดคุยกันไม่ได้ จำได้แต่เค้าโครงนะครับ


ดังนั้น ในบล๊อกนี้ผมจะขอสมมุติชื่อของเธอคนนั้นว่า  ฟา
และจะขอเกลาบทสนทนาให้เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น เพื่อความsmoothของเรื่องราว


เริ่มเลยนะครับ.....
****รูปทั้งหมดจะไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อหานะครับ แต่คุยเรื่องรูปได้ 555****









ผมเรียนภาคอินเตอร์ ปกติแล้วจะไม่มีเรียนรวมกับภาคไทย
ยกเว้นวิชา TU ซึ่งปี 1 จะต้องเรียนเทอมละ 1 ตัว
ดังนั้น นอกจากกิจกรรมต่างๆ ในคณะที่เราได้ทำด้วยกันแล้ว
ซึ่งจริงๆ ผมรู้จักเพื่อนภาคไทยเยอะนะครับ จากกิจกรรมคณะ
เท่าที่จำได้ ฟา เข้าร่วมกิจกรรมคณะทุกอย่างเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ 
สังเกตจากผ้าคลุมผม
มีแค่ห้องเชียร์ระยะหลังที่เลิกดึก ฟาน่าจะแจ้งรุ่นพี่ไว้ และจะร่วมกิจกรรมเท่าที่ร่ววมได้
ก่อนจะแยกตัวกลับบ้าน เนื่องจากไม่สะดวกในการกลับบ้านดึก
ซึ่งแน่นอนว่า รุ่นพี่ หรือเพื่อน เข้าใจและให้ฟาได้กลับก่อน แค่เค้าเข้าร่วมตั้งแต่เย็นก็ดีแล้ว
ผมที่ไม่กำลังอยู่ด้านหน้าห้องเชียร์ หรือซ้อมอยู่ใต้คณะจะเห็นเค้าเดินกลับเสมอ
ทำให้ผมจำการมีอยู่ของฟาได้ โดยที่ไม่รู้จักชื่อหรือพูดคุยกัน


แต่เวลาเรียนวิชา TU ผมกับฟามักนั่งไม่ห่างกันมาก คือสามารถมองเห็นกันได้
อย่างเช่น ผมน่ะ เข้าห้องเรียนช้าเป็นปกติ ก็มีต้องเดินผ่านเค้าเข้าไปนั่งบ้าง
หรือเวลาผมมุดหนีออกไปหายำมาม่ากินระหว่างเรียน ก็ต้องผ่านบ้าง









วันนึง ช่วงอาจารย์พัก sec ผมออกไปเข้าห้องน้ำอะไรเสร็จก็กลับเข้ามา
นั่งลอกชีทเพื่อน ในส่วนที่ผมเข้าห้องเรียนไม่ทัน
ซักพัก ก็รู้สึกได้ว่ากำลังจะมีคนเดินผ่านหน้า ผมเลยขยับขาหลบให้
คนคนนั้นเดินผ่านไป และพักใหญ่ๆ ก็เริ่มมีคนเดินกลับมาอีกครั้ง
ทำให้ผมต้องหดขาเข้ามาอีกครั้งอัตโนมัติ โดยไม่ได้โฟกัสว่ามีใครบ้าง
....แต่บางทีก็มองครับ ถ้าสวยก็จำได้ 555555
ครั้งนี้มีใครซักคนลงนั่งที่เก้าอี้เพื่อนผม แต่ถัดออกไป 1  ตัวแล้วเอาชีทสะกิดแขนผม
"เราซีร็อกมาเกินพอดี ไม่ต้องลอกแล้ว"  เสียงผู้หญิงคนนึงพูด
ผมหันหน้าไปดู คนคนนั้นคือฟา และนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นหน้าของเค้าชัดเจน
"ห๊ะ...."  ผมงงๆ
"เธอชื่อปริ๊นซ์ที่เป็นลีดใช่ป่ะ" 
"อ่ะใช่"
"เนี้ยเอาไปเลย เรารู้ว่าเธอขี้เกียจเดิน"
"กี่บาทอ่ะ ค่าซี"  ผมพูดพร้อมตบกระเป๋ากางเกงหาเหรียญ
"ไม่ต้องๆ ซีมาเกิน เอาไปเลย"
"ขอบคุณครับ"  ผมรับชีทมา ด้วยหน้าตางงๆ แต่ให้ก็ให้ เอาก็เอา แล้วเริ่มเปิดดู
"นี่ปริ๊นซ์"   ผู้หญิงคนนั้นเรียกผมอีกครั้งก่อนเปลี่ยนที่มานั่งเก้าอี้ติดกัน
"หึม?"  ดูเป็นคนตามคำตอบคำมาก 5555 แต่กับคนไม่รู้จักผมไม่พูดเยอะอยู่แล้ว
"ขอเซฟฟี่ด้วยหน่อยสิ นาน ๆจะได้เจอลีดคณะ"  เค้าพูดพร้อมยกมือถือขึ้นมาเปิดหน้าจอ
"โอเค"  
ฟาหันตัวเพื่อนถ่ายเซฟฟี่ ส่วนผมเอียงออกทางขวาแล้วขยับออกหลัง
เพื่อให้ฟาได้รูปถ่ายคู่ 2 คนโดยที่จริงๆ ตัวเราไม่ใกล้กัน
เพราะจำได้ว่ามุสลิมเค้าถือเรื่องโดนเนื้อโดนตัวกัน ปกติตัวผมเองไม่ถือ
"แต้งกิ้ว" ถ่ายเสร็จฟาก็ขอเบอร์โทรศัพท์ผม บอกว่าจะส่งรูปมาให้
ผมก็ให้  แล้วฟาก็กลับไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนตัวเองเหมือนเดิม
ส่วนผมก็ไม่ได้อะไรนั่งเล่นมือถือ หยิบลูกอมมากินตามปกติ
และลืมเรื่องนี้ไป 




อยู่มาวันหนึ่ง สมมุติว่าเวลาผ่านไปซัก  1 เดือน
มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาหาผมในตอนกลางคืน ผมรับสายตามปกติ
"ฮาโหล"
"นั่นใช่ปริ๊นซ์รึป่าว" เสียผู้หญิงมีอายุนิดหน่อยพูดขึ้นด้วยสำเนียงแปลกๆ 
"ครับ ปริ๊นซ์ครับ นั่นใครครับ"
"นี่แม่ฟาฮะน่านะลูก ฟาอยู่กับปริ๊นซ์ไหม แม่ขอคุยกับฟาหน่อย"
ผมงงมาก ตอบอะไรไม่ถูก เพราะผมไม่รู้จักใครที่ชื่อฟา 
หรือควรจะมีใครที่อยู่กับผมตอนนี้ เพราะผมอยู่บ้าน
"เอ่อ....ผมไม่รู้จักอ่ะครับ โทรผิดรึป่าวครับ คนละปริ๊นซ์รึป่าวครับ"
"ปริ๊นซ์เรียน วิศวะ มธ ใช่ไหม"
"ใช่ครับ แต่มี 2 ปริ๊นซ์ ปริ๊นซ์อีกคนรึป่าวครับ"
"แม่ไม่รู้หรอกลูก แต่แม่เจอเบอร์ของหนูในมือถือฟา ฟาบอกว่าอยู่กับปริ๊นซ์
แต่ฟาไม่กลับบ้าน ตอนนี้เค้าไม่รับสายแม่แล้ว"

เสียงของแม่ดูกังวลเอามากๆ ซึ่งผมก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่า ผมไม่รู้จักฟา
และไม่ได้อยู่กับใครเลย นอกจากคนที่บ้าน ก่อนจะวางสายไป



แต่ผมรู้สึกว่าจะมีงานมางอกยังไงไม่รู้ เลยเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง
พ่อกับแม่ดูจะไม่เป็นห่วงผมเท่าไหร่ แต่เป็นห่วงผู้หญิงที่ชื่อฟา
ว่าเค้าหายไปไหน และเกิดอะไรขึ้นมากกว่า 55555
ผมก็บอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่รู้จักเค้า
พ่อก็สอนไปว่า ไม่รู้จักแล้วเค้าจะมีเบอร์ได้ไง
เนี้ยแจกเบอร์ไปทั่วจนใครก็ไม่รู้เอาเบอร์เราไปแอบอ้างได้ 
วันนี้ปัญหามันแค่นี้ อีกหน่อยอาจจะมีปัญหาใหญ่กว่านี้มาอีก ถ้าไม่ระวังตัวบ้าง
ตบท้ายด้วยการกระซิบเบาๆ .....

"Condomสำคัญมากนะ"
พ่อ!









เช้าวันต่อมา 
พี่เจ้าหน้าที่โครงการที่คณะก็โทรตามผมให้ลงไปพบอาจารย์ที่ห้องอาจาย์คณะ
"น้องปริ๊นซ์ๆ ลงมาหน่อยค่ะ เนี้ยมีผู้ปกครองเค้ามาตามหาลูกเค้า บอกว่าอยู่กับน้องปริ๊นซ์"

เชี้ยแล้วไง......ผมคิดในใจ ต้องไอ่เรื่องของสายเมื่อคืนแน่นอน
ผมสะกิดตั้ม เพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ บอกว่าเรื่องวะ แล้วให้ลงไปเป็นเพื่อนทันที


พอมาถึงห้องอาจารย์คณะ ผมยังไม่เจอผู้ปกครองคนไหน 
แต่เจออาจารย์เอ็มของภาคผมก่อน
"ปริ๊นซ์...ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน อยู่หอไหม"  อาจารย์ถามผมด้วยทางท่าปกติ
"ป่าวครับ ผมอยู่บ้านกับพ่อแม่ครับ"
"ไปกลับบ้านทุกวันใช่ไหม"
"ใช่ครับ วันไหนไมได้กลับก็มีนอนหอเพื่อนบ้าง"
"หอนอกนี้หรอ"
"ครับ.... Uplus กับตั้มสาริศ เนี้ยครับ
หอศรัญย์มีผี"  
"อ่ะเออๆ ฟิล์มศรัญย์เคยบอกครูแล้ว" อาจารย์พูดเสียกลั้นขำ พร้อมเอามือเกาหัว
ก่อนที่อาจารย์จะเริ่มแจ้งเรื่องราวกับผม
"คือ...ตอนนี้พ่อแม่ของฟา ภาคไทยเค้าบอกว่าฟาไม่กลับบ้านมาอาทิตย์นึงแล้ว
แล้วเค้าเลยมาตามหากับครู ว่าฟามาเรียนไหม ซึ่งตอนนี้รู้ว่าฟามาเรียน
หยุดเรียนไปแค่วันเดียว ดังนั้นอย่างน้อยทุกคนรู้ว่าฟาปลอดภัย
ตอนนี้ครูกำลังให้พี่เค้าไปตามฟามา"

"ครับ แต่ฟานี่ใครอ่ะครับ เมื่อวานแม่เค้าก็โทรมาหาผม ถามหาฟา"   
แน่นอนละครับ ผมไม่รู้ว่าใครที่ชื่อฟา รู้ก็เมื่อคืนนี้
เพราะผมไม่เคยรู้ชื่อเค้ามาก่อน หรือเค้าอาจจะเคยบอกแต่ผมไม่ได้จำ
"ปริ๊นซ์ไม่รู้จักเพื่อนที่ชื่อฟาใช่ไหม"
"ไม่รู้จักครับ"
อาจารย์พยักหน้าแล้ว เปิดรูปในมือถือให้ผมดู
ซึ่งคือรูปที่เค้าถ่ายเซฟฟี่กับผมเมื่อวันก่อนโน้น ถ้าไม่เห็นผมก็คงจำไม่ได้แล้ว
"อ๋อ! คนนี้....วันนั้นเค้าเอาชีทมาให้และขอถ่ายรูปด้วย แต่ผมไม่รู้จักครับ"
"อืมๆ ครูเข้าใจแล้ว เดี่ยวครูคุยให้เอง"
"เรื่องมันเป็นยังครับ ทำไมเค้าถึงบอกว่าอยู่กับผม"
"ครูไม่รู้เหมือนกัน คือ...เรื่องราวเป็นแบบนี้ปริ๊นซ์...ที่บ้านฟาบอกว่า
ฟาทะเลาะกับที่บ้าน แล้วหนีออกจากบ้าน ไม่กลับมาหลายวัน พ่อแม่เค้าโทรตามหา
ฟาก็รับสายแล้วบอกว่าเค้าปลอดภัย สบายดี ตอนนี้อยู่ที่หอแฟน
แล้วส่งรูปที่ถ่ายกับปริ๊นซ์ไปให้ดูว่าเค้ากับปริ๊นซ์เป็นแฟนกัน
และยังมาเรียนตามปกติ แต่เค้าอยู่กับผู้ชายไปแล้ว
ผิดหลักศาสนา และจะออกจากอิสลาม พ่อแม่เค้าก็บอกให้กลับมาคุยกันที่บ้าน
แต่ฟาก็ไม่กลับ เค้าเลยต้องมาตามหาที่นี่ เค้าไม่รู้จักเพื่อนฟาเลย 
มีแต่ชื่อปริ๊นซ์ที่ฟาบอกว่าอยู่ด้วย และมีเบอร์ปริ๊นซ์ในมือถือฟาที่ทิ้งไว้ที่บ้าน...."







ผมฟังแล้วน้ำตาจะไหลเลยละครับ.....ตอนนั้นไม่ได้สงสารฟา
แต่สงสารตัวเอง......

รู้สึกว่าซวยชิบหายเลย ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดกับผมด้วยวะ
รูปรูปเดียวทำกุซวยได้ขนาดนี้เลยหรอ แล้วนี่กุจะกล้าถ่ายกับใครอีก
ว่าแล้วก็โทรหาพี่ปาล์ม พี่สาว บอกว่างไหม มาหาที่ ม. หน่อย....กลัว 55555
แต่เรื่องเกิดช่วงเช้า พี่สาวเล่นมาซะบ่าย ตลาดวายแล้วครับ




หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้อีก
อาจารย์เอ็ม เคลียร์กับทางพ่อแม่ของฟา ที่ได้ข่าวว่าโวยวายหนักมาก
เอาจริงๆ ตอนที่แม่เค้าโทรมาเค้าไม่ได้ด่าว่าผมเลยนะ 
เค้ามาถามหาฟาดีๆ ด้วยความเป็นห่วงก็แค่นั้น 
แต่ข่าวก็เม้าท์ไวมาก เริ่มเพื่อนภาคไทยมาถามผมเรื่องนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มีเรื่องแบบนี้เกิดกับฟาหรอ (หมายถึงเรื่องจะต้องหมั้น) 

ผมได้แต่ตอบว่า
ไม่รู้ กุก็เพิ่งรู้เหมือนพวกเมิงเนี้ย 
หน้าคนที่ชื่อฟา กุยังจำไม่ได้เลย 

เอาจริงๆ ผมไม่รู้ว่าหลังจากวันที่พ่อแม่เค้ามาตามหา ฟายังมาเรียนไหม
เพราะผมไม่ได้สนใจ และมีกิจกรรมต้องเข้าทำต่อเนื่อง
ผ่านไปกี่วัน หรืออาทิตย์ไม่รู้ แต่ห่างวันตอนนี้ไม่นานนัก
ผมเห็นฟาอีกครั้งในห้องเรียนรวมวิชา TU 
ที่ผมเห็น เพราะผ้าฮิญาบสีดำของเค้าเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้ฟาไม่เหมือนเดิม เพราะฟาใส่ฮิญาบคลุมทั้งหน้า ไม่ใช่แค่ผม
เห็นแค่ตา มือใส่ถุงมือสีดำ และถุงเท้าสีดำ เรียกว่าไม่ส่วนไหนโผล่ให้เห็น

เห็นก็แอบรู้สึกเศร้าใจ 
การกลับไปคุยกับที่บ้านเพื่อขอออกจากศาสนา กลับกลายเป็นต้องเคร่งมากกว่าเดิม


แต่นั่นก็เป็นเรื่องของครอบครัวครับ 
ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ต้อง follow ตามครอบครัว 
อีกนิดเดียวก็สามารถตัดสินใจเรื่องแบบนี้เองได้แล้ว 
หรือก็อาจจะไม่ได้ด้วยการยอมรับของครอบครัวด้วย 
แต่เค้าจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเลือก และรับผลของการเลือกได้เอง







แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นี้ครับ
เพราะบ่ายแก่ๆ วันนึง ผมกับเพื่อนเรียนแลปน่าจะเคมี
แล้วออกมานั่งหาอะไรกินรอผล 
กินเส็ดเพื่อนในแก๊งส่วนหนึ่งก็ไปหาที่นั่งสูบบุรี่ 
เหลือผมนั่งเล่น Counter strike อยู่กับฟิล์ม เจ้าของหอผีเฮี้ยน 
อยู่ๆ ก็มีมือดำๆ คู่หนึ่งจับมาที่ข้อมือ 2 ข้างของผมขณะที่จับมือถืออยู่
ผมเงยหน้า สะดุ้งสุดตัว พร้อมสะบัดมือนั้นหลุดออกไป

"เจ็ดแมว!"    เรียกว่าอุทานจนเสียงหลง
สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าคือเงาดำๆ ที่ก็กระเด็นกระดอนไม่แพ้กัน
รู้ตัวอีกทีผมก็นั่งกอดอยู่กับไอ่ฟิล์ม 
"ไอ่เฮียปริ๊นซ์! อะไรของเมิ๊ง!"
พอสติผมกลับมา ก็เห็นว่า สิ่งที่ผมสะบัดกระเด็นไปคือ
ฟา
รู้ได้จากการใส่ผ้าคลุมหน้า

"เฮ่ย...แล้วเธอมาจับเราทำไมอ่ะ"   ผมตะโกนนำไปก่อน
ฟาตั้งหลักได้ก็เดินเข้ามา พร้อมบอกให้ผมใจเย็นๆ 
เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะผมร้อนรนจากความตกใจ
และผมเอาแต่โบกไม้โบกมือ พูดแต่ไม่เอาๆๆ อย่างมายุ่งกับเราๆๆ
"นี่....นี่!!!!"  ด้วยความไร้สติของผม ฟาเดินเข้ามาใกล้แล้วตะโกนใส่ให้ผมฟัง
แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะฟาถอดถุงมือข้างนึงออก แล้วยกให้ผมดู
สิ่งที่ผมเห็นคือ มือขาวๆ เล็ก ๆ ของฟา ที่มีแหวนสวมอยู่บนนิ้ว
"ทำไมอีกอ่ะ"    ผมถาม
"ทำไมนายไม่ช่วยเรา เราต้องหมั้นกับใครก็ไม่รู้" ฟาพูดเรียบๆ 
"มันก็ไม่ใช่เรื่องของเราป่ะวะ"
หลังจากนั้นคือผมวิ่งหนีครับ 55555  
รู้แค่ว่า งวดที่แล้วก็โดนวางงานไปแล้วรอบนึง ต้องหนีอย่างเดียว



เวลาผ่านไปพอสมควร ผมก็หายบ้า 5555
หมายถึงหายกลัวฟา เพราะเริ่มลืม และไม่โฟกัสที่ใครที่ใส่ผ้าคลุมสีดำเวลาเรียนรวม


ผมกับฟาก็ไม่มีอะไรยุ่งเกี่ยวกันอีกเลย
ได้ยินมาจากภาคไทยว่า ฟาไม่ร่วมกิจกรรมคณะเหมือนก่อน
ไม่ค่อยมีใครเห็นเค้า แต่ก็ยังเรียนอยู่ และไม่ได้มารับปริญญา
เอาจริงๆ ผมไม่รู้เลยว่ามีฟาอยู่ หรือไม่มีอยู่
ที่เอามาเล่าได้นี่คือเดินไปเห็นรูปหมู่ตอนรับปริญญา ว่าไม่มีใครใส่ฮิญาบ
กับถามไอ่เทปดู เพราะภาคไทยเค้าจะรู้จักกัน

มานึก ๆ ดูจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็มีสิ่งหนึ่งที่น่าจะพูดได้ว่า

อยากทำ แต่ไม่เคยทำ
นั่นก็คือ  การบอกฟาว่า    "เราให้อภัย"







ทุกวันนี้ ผมจำฟาไม่ได้เลย จำได้แต่เรื่องราวที่เกิด
จำไม่ได้แม้แต่ชื่อ หรือหน้าตาของเค้า

 


Create Date : 13 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2566 18:53:40 น. 32 comments
Counter : 522 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณtuk-tuk@korat, คุณตะลีกีปัส, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtanjira, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณอุ้มสี, คุณRain_sk, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณSweet_pills, คุณเริงฤดีนะ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณhaiku


 
อยากจะเขียวแซวขำๆ ... แต่พี่ว่าเรื่องนี้น่ากลัวอ่ะ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 13 พฤศจิกายน 2566 เวลา:21:04:02 น.  

 
ในวัยหนึ่ง
การแก้ปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
และก็ไม่เหมือนเดิม

อย่างน้องฟาก็เช่นกัน
ถ้าเป็นตอนนี้เธอควงไม่เลือกวิธีโกหกพ่อแม่
แล้วใช้น้องปริ๊นซ์เป็นข้อต่อรอง
เพราะที่สุดแล้วครอบคัรวก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี
ว่าน้องปริ๊นซ์ไม่ใช่แฟนกับฟา

พี่ก๋าไม่อาจตัดสินได้เลยว่าใครผิด
แม้กระทั่งพ่อแม่น้องฟาเองก็คงทำไปเพราะความหวังดี
เพียงแต่เป็นความปรารถนาดีที่ลูกสาวไม่ต้องการ

การหมั้นในวันนั้น
ไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อชีวิตฟายังไงบ้างในวันนี้
อาจอยู่ไปแล้วก็รักกันขึ้นมาจริงๆก็ได้
หรือชีวิตคู่อาจล่มสลายไปตามกาลเวลา




มารพูดธรรมมะ ธรรมะกลายเป็นอธรรมมะ
พระพูดอธรรม อธรรมกลายเป็นธรรมะ

เซนเน้นมากเรื่องของ "จิต" หรือ "ความคิด"
มารพูดธรรมะ แต่จิตในตอนนั้นเป็นมาร
ธรรมที่พูดจะเป็นธรรมที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง

ส่วนพระพูดถึงสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม
แต่เพราะจิตของท่านบริสุทธิ์ เจตนาดี
แม้คำพูดอาจไม่ได้พูดถึงธรรม แต่มันก็เป็นธรรมะที่ถูกต้องตามจริง

เปรียบเทียบก็ได้ครับ

คนชั่วบอกว่า "สงสารจัง"
เขาไม่ได้สงสาร มันเป็นแค่ประโยคล่อลวงให้อีกฝ่ายตายใจ

ในขณะที่เวลาพระตะโกนด่าลูกศิษย์
แม้จะด่าด้วยคำหยาบคาย
แต่หากจิตเมตตา ปรารถนาให้ศิษย์ได้ดี
คำด่านั้นก็เป็นกุศลครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 พฤศจิกายน 2566 เวลา:21:22:03 น.  

 
แวะมาตอบก่อน

มีคนที่พอเห็นเราไม่มีสายสะพายก็เมินเลย ก็ดีถือว่าคัดเลือกเพื่อนไปในตัว ผมทำได้นะถ่ายโมเดลทุกตัว แต่มันใช้เวลาในการเก็บค่อนข้างมาก ผมเลยยังไม่ทำ ตอนนี้ผมเขียนโดยวัดจากยอดวิวเอาครับ เอนทรี่ยอดวิวหลักแสนอัปก็เคยมีมาแล้ว มีบางบล็อกเชื่อว่าหลายๆ คนอ่านไม่รู้เรื่องหรอก แต่ในอนาคตบล็อกเหล่านั้นยอดวิวจะขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน ผมเขียนจากแพชชั่นล้วนๆ ครับ

ผมเขียนบล็อกพูดถึงบล็อกแก๊งทุกปีในช่วงที่เขาประกาศรางวัล ประกาศผลครั้งหน้าผมจะไม่พูดถึงสายสะพายอีกแล้ว และจะหลีกเลี่ยงการเอ่ยถึงให้ได้มากที่สุด


ขอบคุณสำหรับข้อมูลทางหลังไมค์ เดี๋ยวผมแวะมาบล็อกนี้อีกที


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2566 เวลา:21:37:49 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:5:25:58 น.  

 
555 สรุปได้คำเดียวความทุกข์ของคนหน้าตาดีจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:23:58 น.  

 
ผู้สาวคนนั้นก็เกินไป๊...


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:10:06:10 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นซ์

อ่าน ตะพาบเธอครั้งนี้ เหมือนอ่านเรื่องสั้น เรื่องหนึ่ง ชีวิต
ของหญิง ชาย มุสลิม พ่อแม่ จะเป็นคนมองหาคู่ให้ลูก โดยดูจาก
ฐานะที่ใกล้เคียงกัน นัดดูตัวกัน หรือ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน
แล้วมักตัดสินใจแทนลูก ลูกส่วนใหญ่ ก็ช่างตามใจพ่อแม่เสียด้วย
ครูอยู่กับโรงเรียนอิสลามหลายปี มีลูกศิษย์มุสลิมก็ไม่น้อย และมีเพื่อนชาวมิสลิม มากพอสมควร
แต่สำหรับปัจจุบัน โลกพัฒนาขึ้น อาจจะไม่มีการตัดสินใจ
แทนลูก เรียกว่า ให้อิสระแก่ลูกในการเลือกคู่รักที่ตนเองพอใจได้
หรือบังคับลูก
โหวดหมวด ตะพาบ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:11:24:11 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
พี่ว่าผู้หญิงที่ใส่ชุดฮิยาบนี่น่ากลัวมาก ๆ เลยนะ ยิ่งเหลือแต่ลูกกะตาอย่างเดียว แถวปากเกร็ดนี่เค้ามารักษาแถวโรงบาลเวิร์ลเมดิค่อลเต็มเลย 555 น้องฟาตัวสร้างเรื่องเลย 55 ยังดีที่น้องปริ๊นซ์ไม่เล่นด้วย ไม่ได้คุยมากกว่า
จากบล็อก
แก๊งค์เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ของพี่ก็เริ่มมีไปมาบ้างแล้วครับที่อังกฤษ เป็นไปดูบอลโดยเฉพาะเลยครับ พี่กำลังหาทางไปแบบเสียตังค์น้อย ๆ อยู่ 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:11:31:06 น.  

 
เรื่องคิดน้อย วันนี้ออฟฟิตพี่ก็มีเรื่องทอร์คกันแต่เช้าเรื่องนึงคือ
มีคนโดดจากบนสถานีรถไฟฟ้าลงมาแล้วดันโดนรถที่ขับมาพอดี
สุดท้ายกู้ภัยมาปั๊มหัวใจให้ไม่ทัน ตาย ที่ทำงานเลยคุยกันเรื่องนี้แต่เช้า
พี่ก็รู้สึกว่า ทำไม จะตายก็ไม่ตายดีๆ ทำไมต้องตายแล้วให้คนด่าลับหลังด้วย
นี่ถ้าตกลงมาโดนคนที่ขับรถมอไซค์แล้วรถล้ม แล้วรถยนต์ทับซ้ำอีก
ก็คงไม่ใช่แค่ศพเดียวนะ แต่ก็คิดต่อไปอีกว่า นี่มันต้องสิ้นหวังขนาดไหนกัน
แบบเช้าเดินๆ จะไปทำงานอยู่ดีๆ ก็คิดว่าตายดีกว่า เศร้าชิพ
โลกช่างอยู่ยาก


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:51:33 น.  

 
ตามมาอ่านเรื่องของคุณฟาจากบล็อกคุณก๋าค่ะ
แต่ไม่มีความเห็นนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:15:26:59 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

มีสองสามเรื่องแล้ว ที่ได้อ่านว่ามักจะมีปัญหาตามมา
จากการที่ไม่รู้ตัว และไม่ใช่ความผิดของน้องปริ๊นซ์เลยนะคะ
หล่อเกิ๊น++++ ก็เงี๊ยะละค่ะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:15:32:12 น.  

 
งึมๆๆๆ..


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:17:39:31 น.  

 
เกือบไปแล้วไหมล่ะ
ดูเหมือนชีวิตจะว้าวุ่นเพราะเพศตรงข้ามอยู่เป็นอาจินต์ 555
หญิงไทยใจกล้าก็น่ากลัวแล้ว เจอสาวมุสลิมอย่างฟาน่ากลัวกว่าหลายเท่า
อย่าประมาทในการใช้ชีวิตนะจ๊ะ

-------------

ไก่นึ่งสมุนไพร เนื้อนุ่ม ๆ หอมสมุนไพร โอเคเลยค่ะ
เชฟปริ๊นซ์ทำได้สบายเลยค่ะ รับรองติดใจ มีทำซ้ำอีกแน่นอนจ้า


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:18:17:09 น.  

 
จากบล็อก
พี่ไปเที่ยวที่สันป่าป๋วยแถวเขื่อนภูมิพลมานะครับน้องปริ๊นซ์ น้องเรือข้ามเขื่อนไปอีกฝั่งนึงครับ บรรยากาศดี ฮีลใจมาก ๆ เสียอย่างเดียวน้ำในเขื่อนเยอะ ทำให้ลานกางเต็นท์เดิมน้ำท่วม ต้องมานอนกันที่โรงเรียนครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:18:51:16 น.  

 
เสน่ห์แรงจริง ๆ พ่อหนุ่มปริ๊นซ์
ถึงกับถูกสาวเอาชื่อไปอ้างเป็นแฟนเลย
อ่านจบแล้วก็น่าเห็นใจน้องเค้านะคะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:19:16:59 น.  

 
วันนึง
น้องปริ๊นซ์จะเจอ "ความเงียบอันสมบูรณ์" ครับ
แล้วตอนที่เจอ
อาจจะเป็นช่วงที่อึกทึกครึกโครมที่สุดก็ได้ 555

พี่ก๋าเคยตัดสินใจพลาด
แต่คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูก
ในวัยนึงเราจะค้นพบคำตอบใหม่ในคำถามเดิม
พี่ก๋าตอนหนุ่มๆอารมณ์ร้อนมาก ไม่ยอมคน
พอเวลาผ่านไป จริงๆเราน่าจะหาวิธีที่ดีกว่านั้นได้ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:19:18:10 น.  

 
ตอนแรกผมกะจะแซวว่า "พ่อหนุ่มเสน่ห์แรง" ไปๆ มาๆ คดีพลิก งานเข้าแบบไม่น่าเลย นึกว่าเรื่องจะจบหลังจากอาจารย์เคลียร์รอบแรก แล้วฟามาเรียนแล้วแต่เคร่งกว่าเดิม ดันไม่จบอีก

จริงๆ จะให้ช่วยอะไรน่าจะคุยกันก่อนไม่ใช่เอาเราไปอ้าง แบบนี้จะช่วยยังไงล่ะ

เรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตวันหนึ่งมันก็จะผ่านไปเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้น


ที่มาคุยต่อเนื่อง
บล็อกการ์ตูนหลายๆ บล็อก ยอด 3,000 อัปเหมือนกัน ต่อไปนี้ผมจะตัดสินประเมินงานเขียนเองจากยอดวิวครับ จริงๆ มันมีวิธีที่จะเขียนเพื่อเอายอดวิว ทำได้ไม่ยากหสกรู้หลักการ แต่เราจะไม่ทำแบบนั้น เพราะมันไม่มีประโยชน์ครับ ที่สำคัญไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่ทำให้เรามาเขียนบล็อก


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:23:40:10 น.  

 
แบบนี้ก็มีด้วยเนาะ
อ่านตอนแรกอยากเห็นภาพเซลฟี่
แต่อ่านไปเรื่อยๆ
ฟาเธอก็สุดยอดเลย
โยนหวยมาใส่แบบเต็มๆ


โดย: อุ้มสี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:0:55:41 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:5:33:28 น.  

 
จากบล็อก
3 สาว..ยังไม่เคยใส่ชุดไทย
ถ่ายภาพด้วยกัน..(จำเพราะเจาะจง)ที่วัดอรุณฯ
..ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บอกกล่าวกัน นาน แต่ยังไม่เคยทำค่า..


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:21:37 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ น้องปริ๊นซ์


ความทุกข์ของคนหน้าตาดี
แบบนี้เข้าข่ายมีหน้าเป็นอาวุธจริงๆนะคะ
แล้วอาวุธย้อนมาทำร้ายตัวเองด้วยนี่จิ
พี่จะขำหรือสงสารดีเนี่ย 555555

พี่ชอบอยู่2ช็อต ฮาอยู่1ช็อต
ช็อตแรก โทรตามพี่สาวมาช่วย
ช็อตที่2 วิ่งหนีไปเลยจ้า 55555555

ช็อตที่ฮาคือ พูดถึงถุงยาง
แล้วมีภาพประกอบเป็นกล้วยตามมาติดๆ

เอ็นดูน้องจริงๆ

ดีที่เรื่องผ่านไปด้วยดีนะคะ ไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่านี้
ทุกวันนี้แต่งงานแล้วยังเจอเรื่องทำนนองนี้อีกไหมคะ



จากบล็อก

พี่ตั้งใจไว้แล้วจะไม่ไป รพ.นี้อีกเลยค่ะ กากกกกก

วันนี้ยังมีลมหนาวพัดมาต่อเนื่องนะคะ


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:13:52 น.  

 
"คืนนี้แหละครับ จะหมักไก่ตามสูตรไก่สมุนไพรละครับ ^^"

ไก่นึ่งสมุนไพร ที่เคยทำ มีอยู่ 2 แบบนะคะ
ต่างกันนิดหน่อยจ้า

แบบแรกใส่น้ำมันหอย

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=fasaiwonmai&month=07-2023&date=06&group=24&gblog=567

----------

แบบที่สอง ใส่น้ำปลาร้า

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=fasaiwonmai&month=11-2023&date=13&group=24&gblog=648

อร่อยทั้งคู่ แต่ส่วนตัวแล้วชอบแบบใส่น้ำมันหอยมากกว่าค่ะ
อาจเป็นเพราะแบบใส่น้ำปลาร้า เราไม่กล้าใส่เยอะ
อารมณ์กลัว ๆ กล้า ๆ ไม่แน่ใจ คือไม่ค่อยชินกับสูตรนี้ 555

เชฟปริ๊นซ์ทำแล้วเอามาส่งการบ้าน 3F ด้วยสิคะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:17:20:56 น.  

 
พี่ก๋าก็ชอบคำสอนหลวงพ่อคูณครับ
มีหนังสือของท่าน 4-5 เล่ม
ท่านสอนดี สอนง่าย เข้าใจง่าย นำไปปฏิบัติได้เลย

ความเงียบอันสมบูรณ์ หรือ ภาวะซาโตริ
เกิดขึ้นได้เสมอ กับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา
อยู่ที่ว่าเมื่อใดจิตเราพร้อม
เราก็จะเจอสิ่งนี้ได้ครับ
เจอ --- เมื่อถึงเวลา

ปัญหาอะไรที่ว่าใหญ่ หนักหนา วิกฤต
ถ้าถอยตัวเองออกมาได้
ยืนดูแบบผู้สังเกตการณ์
เราจะหาทางแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าครับ

เวลาเอาตัวเองไปอยู่ในปัญหา
แก้ยังไงก็แก้ไม่ได้ครับ
เพราะเราพาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาด้วยนั่นเอง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:20:45:17 น.  

 
จากบล็อก
พี่ไปทำกิจกรรมอาสานะครับน้องปริ๊นซ์ ที่โรงเรียนอากาศดีมากครับ เสียดายพี่ไปไม่ถึงน้ำตก ต้องเดินไป 12 กม. คือต้องออกแต่เช้าเลย


โดย: The Kop Civil วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:22:10:59 น.  

 
สวัสดีครับคุณปริ๊นซ์

เป็นเหตุการณ์ที่ชวนอึดอัดมากเลยนะครับ
เราที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่พลอยโดนหางเลขไปด้วย

คุณปริ๊นซ์เป็นตัวท้อป ตัวตึงคณะใช่ไหมครับ (แซวๆ)


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา:23:29:15 น.  

 
น้องปริ๊นซ์เตรียมความพร้อมสำหรับศุกร์นี้แล้วนะคะ
หายห่วง

ลงชื่อแล้วเดี๋ยวพี่ต๋ามาใหม่ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:0:38:15 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:5:27:40 น.  

 
พูดยากเน๊อะเรื่องแบบนี้
เคยมีหนุ่มอิสลาม อ่อนกว่า 20 ปี
มาบอกกับพี่อ้อเหมือนกัน

ผมอยากเริามต้นชีวิตใหม่
จะหนีไปอยู่ต่างจังหวัดไกลๆ
กับพี่อ้อได้หรือเปล่า..?

อุต๊ะ!!
งานเข้าแล้วซิ..


เห้ย!!.
อย่ามาเล่นแบบนี้...




โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:10:22:31 น.  

 
เลี้ยงแมว มีของเล่นของใช้ให้ทาสแมวเล่นด้วยเยอะมากค่ะ
คือเล่นทั้งแมวแล้วก็เล่นของอื่น ๆ ของแมวด้วย 555

ไม่เคยได้ยินหรือคะ เขาบอกว่า
ใครเลี้ยงอะไร สัตว์เลี้ยงนั้น ๆ ก็จะเหมือนคนเลี้ยง
ทั้งนิสัยใจคอ เผลอ ๆ หน้าตาก็ละม้ายคล้ายกันด้วยนะคะ อิอิ

https://www.sanook.com/campus/1391849/



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:11:00:34 น.  

 
จากบล็อก
มันเป็นรายการระดับ 300 ทำให้คะแนนสะสมน้อยนะครับ แต่ก็มีบางคนแข่งรายการเล็ก ๆ เยอะ ๆ ก็สะสมคะแนนได้เท่ารายการใหญ่เหมือนกันครับน้องปริ๊นซ์
เมื่อเช้าพี่ตื่นมาปั่นจักรยาน แอบมีลมหนาวนิดหน่อย แต่ยังไม่สะดุ้งนะ 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:11:29:19 น.  

 
คนหน้าตาดีก็เงี๊ยะ 555 เลยลำบากในการทำตัวนิดโหน่ย

ผมทำงานกับเพื่อนมุสลิมเยอะครับ กับผู้หญิงพูดคุยสนิทกันดี
เธอเข้าใจหลักศาสนาดี มองการไกลคือหัวสมัยใหม่

แต่เพื่อนที่ใส่ฮิญาบ ชุดทำมีไม่มาก... มีอยู่คนหนึ่งดีมาก ๆ ครับ
การสมาคมดี สมถะเคร่งพอประมาณใจดี

...
เรื่องบทสนทนาของกานเสรี ช่วงนั้นเสรีอายุ 20 กว่าปี(นานมาก)
555 ดูเชย ๆ นิด ๆ

แหมพูดถึงเสม็ดเสร็จทุกราย จริงอะเปล่า ต้องคอยติดตาม
คราวหน้ามั้ง


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:51:25 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์

รูปถ่ายรูปเดียวกับเบอร์โทรที่ให้ไป
มีผลพวงตามมาอย่างเยอะนะคะ

ชีวิตทุกคนก็มีปัญหาน้อยใหญ่ส่วนตัวอยู่แล้ว
การที่มีปัญหาคนอื่นมาเพิ่มให้เราโดยที่เราไม่รู้ตัวอีก
ก็ไม่น่าใช่เรื่องนะคะ

วิ่งหนี...
เป็นทางออกที่น่าสนใจค่ะ

เอาใจช่วยวันพรุ่งนี้ด้วย คงไม่ต้องวิ่งหนีนะคะน้องปริ๊นซ์


โดย: Sweet_pills วันที่: 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา:23:51:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space