lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
กรกฏาคม 2566
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
4 กรกฏาคม 2566
space
space
space

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 330 "คนเดียวก็สบายดี"


ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 330

"คนเดียวก็สบายดี"






โจทย์โดย พี่ธัญ tajira
 






 
 
เมื่อก่อนผมไม่ได้เลยนะครับ เรื่องทำอะไรคนเดียวเนี้ย
ด้วยความที่ทั้งชีวิต ตั้งแต่เริ่มมีสังคมจริงๆ จังๆ 
ช่วงมัธยม จนถึงมหาลัย ผมนี่อยู่ท่ามกลางหมู่เพื่อนฝูงตลอดครับ



ยิ่งตอนมหาลัย ถึงผมจะไม่ใช่เด็กกิจกรรม 
แต่พูดเท่ๆ ได้เลยว่า ผมไม่เคยนั่งกินข้าวคนเดียว 
ถ้าว่างไม่ตรงเพื่อนจริงๆ ผมโทรหาใครซักคนมากินข้าวด้วยได้เสมอ
เพื่อนฝูง คนรอบข้าง จึงสำคัญกับผมเสมอ


แรกเริ่มเดิมที บอกตรงๆ เลยครับว่า....
ผมโตมาในครอบครัวที่มี Life style แบบ
Introvert 
ตอนเด็ก  ๆ ทั้งผมและพี่สาวเลยจะค่อนข้าง Introvert ครับ 
ไม่ค่อยชอบยุ่งกับใคร ชอบอยู่กับคนในครอบครัวแค่นั้น
ไปงานนี่ไม่ต้องตามหาผมนี่ไหนเลยครับ ผมนั่งตัวติดอยู่กับพ่อเป็นปาท่องโก๋ครับ 5555
บ้านผมไม่ค่อยไปทานข้าวนอกบ้าน ไม่ค่อยไปเที่ยวต่างจังหวัด
คุณแม่ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีไปพบปะสังสรรค์ 
คุณพ่อจะเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะสุดแล้วครับ

คุณพ่อจริงๆ ตัวตึงเลยครับ
เป็นหนุ่มชอบเที่ยว กิน ดื่ม เพื่อนฝูงเยอะ

แต่พอแต่งงานก็โดนแม่สกัดไปเยอะ
หลังๆ หมายถึง 15 ปีมานี่ คุณพ่อดูอิ่มตัว ไม่ค่อยอยากไปไหนแล้วครับ
อยากนั่งชิลอยู่บ้าน เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้








ถึงจะโตมาให้ครอบครัวที่มีผู้นำวัฒนธรรมในบ้านเป็น Introvert 
แต่ผมกับพี่สาว นี่ขา
Extrovert เลยครับ 55555
ชอบอยู่ท่ามกลางผู้คน เหนื่อยๆ เบื่อๆ ก็ต้องการเพื่อนมาเชียวยา
แน่นอนผมชอบอยู่กับเพื่อน ไปไหนต่อไหนกับเพื่อน ชอบปาร์ตี้
อาจจะไม่ใช่คนพูดเก่ง แต่ก็ต้องการเป็นที่สนใจ และมั่นใจในตัวเองสูง


ดังนั้นถ้าเป็นเมื่อก่อน
"การอยู่คนเดียว"
ไม่ใช่เรื่องปกติที่ Comford สำหรับผมเลยครับ 
ผมจะสูญเสียความมั่นใจเมื่อต้องอยู่คนเดียว คือไม่ใช่รู้สึกกลัวนะครับ
แต่รู้สึกว่า "ทำไมคนอย่างกุ ต้องมาอยู่ตรงนี้คนเดียว"
เรียกว่า ผมไม่เคยต้องกินข้าวคนเดียวซักมื้อ หรือเดินไปเรียนคนเดียวเลยซักครั้ง
ด้วยความเป็นคนเฟรนลี่ ผมจะมีคนเดินด้วยเสมอ
และถ้าจะกินข้าวยังไงก็จะมีคนนั่งกินกับผม




แต่ผมเพิ่งมาเสพติด "การอยู่คนเดียว" ก็ตอนทำงานนี่แหละครับ
ด้วยความที่เมื่อก่อน specialist มีกันแค่ 3 คน ต่างคนต่างจับคนละโปรเจค
ทำงานแยกกัน individually ไม่มีใครได้เจอกับใครเวลาทำงาน
ต่างคนต่างออกไปไซต์ ออกไปประชุม บางครั้ง ไม่ได้คุยกันเป็นอาทิตย์
แต่กลับมาเจอกันปั๊บ ก็จับกลุ่มคุยปรับทุกข์กันทันที นั่นทำให้เรา 3 คนสนิทกันมาก
มีปัญหาอะไรเรายินดีจะเข้าไปช่วยเหลือกันทันที
นี่เป็นจุดเริ่มต้นเลยครับที่หัดให้ผมต้อง
"อยู่คนเดียว"




นั่งกินข้าวคนเดียว
ระหว่างทำงาน ผมก็ต้องออกไปกินข้าวคนเดียว นั่งคนเดียว
ในร้านที่ชาวบ้านเค้ามากัน3-4 คน อย่างน้อยๆ ก็ต้อง 2  
มีแต่ไอ่หนุ่มหัวทองอย่างผมนี่นั่งคนเดียว แรกๆ อายครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าอายอะไร
ตอนนี้ชอบครับ เพราะไม่ต้องถาม ไม่ต้องเถียงว่า "เมิงจะกินอะไร"
"อ่ะกุอะไรก็ได้"  "อะไรก็ได้ของเมิงจะกินอะไร"  น่ารำคาญไปอีกครับ







นั่งคาเฟ่คนเดียว
บางครั้งทำงานเส็ดเวลาครึ่งๆ กลางๆ แรกๆ ผมก็กลับออฟฟิศครับ
แต่อยู่มาซักพักก็ไม่แล้ว หาคาเฟ่ ร้านกาแฟ ซักร้านนั่งทำงาน
ครั้งแรกก็เขินมากครับ กับการนั่งคาเฟ่คนเดียว
เฮ้ย! คาเฟ่มันเป็นที่ที่ควรมากับเพื่อนหรือแฟนป่าววะ
แต่ตอนนี้ถือว่าปกติมากครับ ชิลมาก และการนั่งทำงานคนเดียวที่ร้านกาแฟ
ถือเป็นเรื่องโคตรจะปกติไปแล้วครับ 
ผมว่าเป็นเวลาที่ได้นั่งทำงานเงียบๆ เสพบรรยากาศดี ๆ ในคาเฟ่ไปซะอีก








เดินห้างคนเดียว
เมื่อก่อนทำไม่ได้ครับ เพราะอย่างน้อยๆ ก็ต้องไปกินเพื่อนซักคน หรือ พ่อแม่พี่สาว
แต่ทำงานเส็ดมีเราคนเดียว มีเวลาแวะซื้อของที่ห้างก็ต้องไปคนเดียว
แรก ๆ ไม่ค่อยกล้าเข้าร้าน ไม่กล้าเข้าไปดูสินค้า 
แต่ตอนนี้ชอบเลยครับ ดีซะอีก เร็วดีไม่เรื่องเยอะ จะซื้ออะไรก็ซื้อๆ 
ได้เดินดูอะไรเงียบๆ จะดูของบางอย่างที่อยากดูคนเดียว 555555 ก็ทำได้ครับ








กินไอติมคนเดียว
อันนี้ ผมพูดอะไรซักอย่างแล้วมีเรื่องนี้ขึ้นมา กับพี่สาว
พี่สาวนี่ถึงกับเดินมาจับมือ บอกว่า "คราวหน้าถ้าอยากกินอีกบอกพี่นะ"
555555 พี่สาวบอกว่าสงสารมากครับ ทำไมน้องดูเหงาจัง
แต่ผมบอกว่า "ไม่ได้เหงาโว้ยพี่ แต่เส็ดงานจากไซต์เหนื่อยๆ แล้วอยากกินไอติม"
อยากกินก็กินแค่นั้นเองครับ ทำไมต้องรอคนอื่น ก็กุอยากกินตอนนี้ 55555
พี่ปามก็ไม่ได้เข้าใจนะครับ ถามผมบ่อยๆ ว่า "ไปกินไอติมไหม" 5555
เอาจริงๆ ตอนที่นั่งกิน ก็รู้สึกนิดนึงครับ เพราะแต่ละคนไม่มีใครมาคนเดียวเลย
ทุกคนมากับแฟนมากับเพื่อน นั่งคุยกัน แต่ผมมานั่งคนเดียว
พนักงานเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรว่าเปลืองโต๊ะซักหน่อย 






ไปต่างจังหวัดคนเดียว
อันนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองครับ
เมื่อใจมันเซ ทะเล คือจุดหมาย
ตอนนั้นผมมีเรื่องไม่สู้สบายใจ ทำใจกลับคอนโดไม่ไหวจริงๆ 
เลยบินต่อจากต่างประเทศไปภูเก็ตคนเดียว แบบที่ไม่ได้บอกใครเลย
ไลน์บอกที่บ้านไว้แค่ ถึงไทยแล้ว จะเที่ยวต่อในไทย ซัก 2-3 วัน
แต่ไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน ตอนนั้นพ่อก็พอเดาออกมามีปัญหาอะไรซักอย่าง
เลยโทรมาคุยเล่นตอนถึงเที่ยวไปวันนึงแล้ว คิดว่าคงสบายใจขึ้นแล้วงี้







ไปต่างประเทศคนเดียว
ไม่อยากเชื่อเหมือนกันครับว่าเราจะมีวันนี้ 55555
ตอนนั้นมีธุรกิจเสริมกับเพื่อน มีต้องบินไปต่างประเทศบ้าง 
ซึ่งผมอาสาเป็นนักบิน บินไปทำงานให้ ประหยัดค่าใช้จ่ายก็ไปแค่คนเดียว
ครั้งแรกก็จิตนาการไม่ถูกเลยครับ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำอะไรคนเดียว
หลายอย่างมาก ๆ ตั้งแต่  ขึ้นเครื่องบินคนเดียว นอนโรงแรมคนเดียว
เดินทางในต่างประเทศคนเดียว เที่ยวต่างประเทศคนเดียว

ผีก็กลัว คนก็กลัว 55555
แต่ผลคือ  มันโคตรดีครับ!!! เที่ยวต่างประเทศคนเดียวแม่งดีมาก
อยากไปไหนไม่ต้องมีแผน ไปทันที อยากแวะไหนแวะ 
อยากกินอะไรกิน อยากดื่มอะไรดื่ม  อยากซื้ออะไรซื้อ
ใช้ชีวิตแบบไม่มีใครรู้จัก จริงๆ มันดีมาก ๆ ครับ







สำหรับคนค่อนข้าง Extrovert อย่างผม

"อยู่คนเดียว ก็สบายดี" 
สบายตัว สบายใจ ได้มีจังหวะได้เป็นตัวเองมากที่สุด
ได้อยู่เงียบๆ ใช้เวลากับตัวเอง ให้ความสุขกับตัวเอง
เยียวยาตัวเองด้วยความเงียบ และทำความเข้าใจกับตัวเอง
ผมว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ ครับ 



ตอนนี้ผมเป็น Extrovert ที่เสพติดการใช้เวลากับตัวเองไปแล้วครับ
บางครั้งชอบไปไหนคนเดียว กลายเป็น
Ambivert




คนเดียว ก็สบายดี








คุยเพิ่มครับ
วันนี้ผมมีงานเข้าไซต์ มาถึงตั้งแต่ 10 โมง แต่หน้างานไม่พร้อม
ถูกเลื่อนเข้างานเป็นบ่าย 2 
นั่งๆ นอนๆ อยู่กับพัทชิลเลยครับ จนผมเขียนตะพาบจบพอดี
งานเบาครับ ทำเท่าที่ทำไหว ทุกคนทักว่าดูจ๋อยๆ ทั้งที่ผมพยายามฮามาก


ยังไม่ได้เล่าครับ ว่าวันเสาร์ที่จะได้ออกจากโรงบาล
มีช็อตฮาๆ ที่พิสูจน์ว่า "ผมเป็นคนกวนตีน" 5555555

คุณหมอเจ้าของไข้เป็นผู้ชายครับ แต่ไม่ใช่คุณหมอที่ฉุกเฉินนะครับ
คุณหมอมีอายุซักหน่อย ประมาณ 50ต้นๆ แต่มีความวัยรุ่นมากๆ 
เช้าวันเสาร์มา คุณหมอมาตรวจ พร้อมทักผมเป็นอย่างแรก
"อยากกลับบ้าน" คุณหมอพูดใส่ทำนองเหมือนร้องเพลง
"มากครับ"  ผมยิ้มๆ 
"ห้องมันมีผีหรือไงน่ะคนไข้ ถึงได้อยากจะกลับบ้านขนาดนั้น ดูสภาพเราสิ"
"ผมกลัวผีที่ไหนครับ นี่นอนฟังเดอะ โกสต์ ทุกวัน คุณหมอจะฟังไหมครับ"
"ไม่ดีกว่า เดี๋ยวหมอราวน์ตอนกลางคืนไม่ไหว จะบาปเอา"
คุณหมอพูดไปก็เข้ามาตรวจร่างกาย ฟังเสียงหายใจไป
ผมก็ไอเป็นระยะๆ พูดเยอะๆ ก็มีเสียงเหนื่อยๆ 
หมอเลยยื่น Peakflow ให้เป่า
"เอาให้ดี ถ้าเขียว 3  ครั้งกลับบ้านได้เลย ปกติเป่าบ่อยไหม"
"ที่ไหนครับ ที่บ้าน หรือบนถนน"
คุณหมอยิ้ม แล้วบอกว่า "เดี๋ยวนี้ 5000ยังอยู่ไหม" แล้วหัวเราะ
ส่วนผมแค่ยิ้มๆแล้วส่ายหน้า หยิบ PF เป่าโชว์ไป


ผ่านหมด แต่รอบหลังร่อแร่มาก เพราะเหนื่อยแล้วครับ
หมอยิ้มๆ แล้วพูดขำๆ ว่า "จะให้กลับดีไหมน้า กลัวจะกลับมาอีกจริงๆเราเนี้ย"
ผมยิ้มเจื่อนๆ เหนื่อย ไม่ใช่อะไร เลยไม่อยากพูดเยอะ
แต่หมอก็คุยกับผมมาหลายวันคงรู้ว่าผมเป็นคนกวนตีน 
และหมอเองก็ใช่ย่อย หมอควักบางอย่างมาจากกระเป๋า
สิ่งนั้นคือ........
ขลุ่ย !!!!



เจดโด่!!!!  จะให้ผมทำอะไรก่อน
"เป่าเป็นป่าว เป่าไล่ไปให้สุดรอบนึงให้หมอดูหน่อย เป่าเลยนั่นอันใหม่"
หมอรับไอ่ขลุ่ยยามาฮ่า เหมือนตอนประถมมา แล้วยิ้มใส่หมอแบบกวนตีน
เอาขลุ่ยมาอม แล้วเบา intro เพลง
แว้นฟ้อ หล่อเฟี้ยว 
เป่าเส็ดเสยผมโชว์ 1 ทีถ้วน 5555555
"เฮ้ย! เป่าเก่งอย่างกะแตร วง แบบนี้อยู่กับหมออีกคืนแล้วกัน จะได้คึกครื้น"
ผมนี่โบกมือเลยครับ ว่า ไม่เอาๆ  55555






คุณหมอไม่ได้ตอบนะครับว่าจะให้กลับหรือป่าว 5555
แต่สุดท้ายผมก็ได้กลับบ้าน

และ.....ผมจะไม่เป่าขลุ่ยโชว์ใครอีก!!! 



 



Create Date : 04 กรกฎาคม 2566
Last Update : 4 กรกฎาคม 2566 18:33:11 น. 17 comments
Counter : 459 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณhaiku, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณRain_sk, คุณnonnoiGiwGiw, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณThe Kop Civil, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณSweet_pills, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณไวน์กับสายน้ำ


 
คนเดียวก็ได้สบายดี ... ถ้าสบายดีนะ
แต่ถ้าไม่สบาย เจ็บไข้ได้ป่วย อยู่คนเดียวไม่ดีแน่

ดีใจที่ได้กลับบ้านจ้า แล้วก็ไม่ต้องกลับไปอีกนะคะ 555
ถ้าอยู่นานกว่านี้หน่อย อาจได้อ่านเรื่องฮา ๆ ของหมออารมณ์ดีกับคนไข้อารมณ์ขัน
ความสุขหาได้รอบ ๆ ตัวเนอะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 4 กรกฎาคม 2566 เวลา:20:03:54 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

บ้านพี่ก๋าทุกคนเป็น Introvert หมด
ยกเว้นแม่คนเดียวที่ชอบพบปะเจอผู้คน

ยิ่งตอนโสด
ชอบมากการอยู่คนเดียว
อยู่คนเดียวได้ ไปเที่ยวคนเดียว
จนเกือบคิดแล้วว่า
ตัวเราจะมีคู่ได้เหรอ 555

พี่ก๋าเพิ่งเคยได้ยินนะ
ว่าคุณหมอพกขลุ่ยไปตวจอาการคนไข้
เจ๋งครับ 555

แถมเจอคนไข้เป่าแว่นฟ้อฯด้วย
เจ๋งพอกัน 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:5:43:03 น.  

 
คุณหมอดูเป็นกันเองกับคนไข้ดีจ้าปริ้น
แต่ท่านก็ดูเป็นห่วงสุขภาพคนไข้ดีนะ



โดย: หอมกร วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:7:21:15 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะน้องปริ๊น

ได้กลับบ้านแล้ว ดีใจด้วยค่ะ แต่ยังไงก็อย่าหักโหมกับงานมากนักนะคะ
ห่วงสุขภาพตัวเองเยอะๆค่ะ หน้าฝนด้วย พี่ว่าน้องเป็นหนักเอาเรื่องนะคะ
ไม่ดีๆ ทำให้ทุกคนเป็ห่วง มันบาปนะน้อง ^^

แต่นะ พี่ว่าทั้งหมอทั้งคนไข้พี่ว่าพอๆกันนะคะ ความกวนน่ะ

อัพตะพาบได้ดีแบบนี้ก็เกินคาดแล้วค่ะ พี่คิดว่าน้องคงยังไม่มีอารมณ์อัพ

บ้านพี่ถึงจะไม่ค่อยมีญาติทางพ่อทางแม่เยอะ แต่ก็ถือว่ามีอยู่ค่ะ
บ้านสมัยนั้นไม่มีรั้วรอบขอบชิด เดินไปมาถึงกันได้อยู่ 4 หลัง
ลุงมีลูก 10 คน รวมบ้านพี่ 4 คน ก็ 14 คนแล้วค่ะเด็ก ก็วิ่งเล่นตามประสาเนอะ
แต่พอโตก็ชอบอยู่คนเดียวกันไปตามเรื่องค่ะ นานๆมีงานถึงจะรวมกันที
แม่พี่เป็นคนไม่ชอบไปไหน จนเดี๊ยวนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ แม่ติดบ้านมาก
ส่วนพ่อพี่สมัยหนุ่มๆก็นะ กินเหล้าเมายาไปตามเรื่อง พอเกษียณอายุก็ออกไปส่องพระบ้างเป็นครั้งคราว
แต่ก็ไม่ชอบไปไหนเหมือนกันค่ะ สุดท้ายพ่อแม่ไม่ไปไหน เราก็ไม่ไปด้วย อ่ะ!ไม่ช่ายยย

พี่เป็นคนชอบทำอะไรคนเดียวค่ะ สมัยที่ยังเป็นครอบครัวก็ไปคนเดียวค่ะ
ไปหาหมอคนเดียวถ้าขับรถไหวนะคะ ไม่เคยพ่วงครไปเป็นภาระค่ะ
คือรำคาญ เรื่องเยอะนั่นนี่โน่น
พอพี่ป่านโตพี่ก็หนีบพี่ป่านไปด้วยค่ะ ทำอะไรกับลูกมันคือความสุขของเรา 555
พอห่างกันก็แบบคนเดียวนี่แหละสบายใจ ไม่ต้องพะวักพะวงดีค่ะ
เข้าร้านกาแฟคนเดียวได้ กินเตี๋ยวคนเดียวได้ กินข้าวคนเดียวได้
ดูหนังคนเดียวได้ ไปเที่ยวคนเดียวก็น่าจะได้แหละค่ะ
ส่วนพี่ป่านทำทุกอย่างคนเดียวได้เหมือนพี่เลย ไปญี่ปุ่นคนเดียวได้สบายๆค่ะ

ไว้าคุยใหม่ค่ะน้อง ดูแลตัวเองดีดีนะคะ แข็งแรงๆค่ะสุดหล่อ

ปล. ชุดนอนคู่แม่ลูกต้องมีนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:7:38:33 น.  

 
มีหลายเรื่องนะ
ที่พอมองย้อนกลับไป
พี่ก๋าบอกตัวเองว่า
ไม่น่าเลย น่าจะหาวิธีที่ดีกว่าในการแก้ปัญหา
แต่ก็อีกนั่นแหละ...สุดท้ายชีวิตมันคือการเรียนรู้จากความผิดพลาด
ถ้าไม่พลาด ก็ไม่ได้เรียนรู้

แม่มาดามดูแลตัวเองดีมากนะครับ
ออกกำลังกายทุกวัน กินอาหารดีมาก
คุมน้ำหนักอยู่ ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
สุดยอดแล้วล่ะครับ
คนในหมู่บ้านอายุ 80-90 เยอะมาก
ที่บ้านแม่มาดามอากาศดีมาก

พี่ก๋าเจอความดันสูงตอนเป็นไข้
พอวัดความดันเจอ 190 พยาบาลหน้าตาตื่นเลย 555
ตั้งแต่วันนั้นก็เจอคุณหมอทุก 3 เดือน 555

มีแวบนึงเคยคิดไม่แต่งงานตลอดชีวิตนะครับ
ชอบชีวิตโสดมากๆ แต่พอเจอมาดามเลยเปลี่ยนความคิด
ถ้าถามว่ามีครอบครัวแล้วเป็นยังไง
ชีวิตเปลี่ยนเลย 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:14:50:43 น.  

 
ชอบความเก๋าของคุณพ่อบ้านนี้มาก
แสดงว่าลูกสาวลูกชายสายปาร์ตี้นี่ก็ได้คุณพ่อมาเต็มๆเลย
พี่ว่าพี่ก็เหมือนมาอินโทรเวิดต่อแก่อ่ะ
สมัยสาวๆ นี่ชอบสังสรรค์มาก เสาร์อาทิตย์ไม่เคยติดบ้าน
พอแก่มาไม่อยากไปไหนเลย อยากอยู่บ้านทำนั่นนี่
บางทีก็อยากนอนนิ่งๆ 555+

คุณหมอที่ รพ นี่สายฮามาก
ว่าแต่แกรพูดจิงอะว่าขลุ่ยใหม่ 55+
งี้ต้องซื้อใหม่ให้คนไข้ทีละคนเป่าเงี๊ยะ
ไม่จริงม๊างงง

จากบล็อก
คะน้าปลาป๋องโอเคเลย ไว้ลองสิ
ข้าวผัดต้มปลาป๋องก็โอเคนะ สมัยเรียนพี่ชอบกินมาก
แล้วก็มีต้มยำปลาป๋อง อันนี้พี่เฉยๆ

ป่วยหายแล้วใช่ไหม มาทำงานปกติได้แล้วจินะ
หายก็ดีแล้ว ช่วงนี้อากาศมันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย
ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ อย่าทำตัวซ่าไปแดรกเหล้าล่ะ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:17:49:03 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
วันนี้ฝนถล่มกรุงเทพฯ อีกละ
คุณหมอน่าสายฮาเลยนะครับ มีมุขมาตลอด แก๊งค์ตีแบดพี่ก็มีหมอคนนึง ปล่อยมุขมาที ฮากันทั้งก๊วน แบบนี้เปี๊ยบเลย 555
คุณพ่อน้องปริ๊นซ์สายสังคมเลยนะครับ
ของพี่ตอนเรียนมหาฯลัยนี่ไปไหนทีไปกันเป็นแก๊งค์ใหญ่เลยครับ แต่พอทำงานแล้ว แยกย้ายกันไปคนละที่ละทางหมด พี่เริ่มมาชินกับการไปไหนคนเดียว ก็ตอนไปออกค่ายอาสาทำกิจกรรมค่ายนึง ไปแบบไม่รู้จักใครเลย ได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ เพียบแบบรู้สึกดีมากด้วย หลังจากนั้นก็เสพติดการไปไหนคนเดียวอย่างมีความสุขเลย


โดย: The Kop Civil วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:21:06:56 น.  

 
ของผมเป็นประมาณว่าเพื่อนๆ แต่ละคนมันเป็นพวกเจอตัวยาก ก็เลยไม่เคยได้เจอ เห็นเจ๊ เป้นเสี่ยกันหมดแล้วมั้ง เลยยุ่ง บ้างก็คิวทอง

ไปต่างจังหวัดคนเดียวน่าจะเคยไม่กี่ครั้งเองมั้ง ตอนไปงานแต่งเพื่อน เดินทางคนเดียว แล้วไปเจอเพื่อนที่นั่น ส่วนไปต่างประเทศคนเดียวของผมคือไปเรียนภาษาจีนครับ ไปคนเดียว แล้วหาคนรู้จักเอาที่นั่น เอาเข้าจริงอะนะ ไปลักษณะนั้นต่อให้แรกๆ อยู่ด้วยกัน แต่พอหมดสัญญาเช่าบ้านครึ่งปี ปาร์ตี้ก็แตกทันทีครับ

ช่างกล้าจริงๆ มีกวนหมอเล่นด้วย


ป.ล. โจทย์ครั้งต่อไปเหมาะสำหรับคนชอบอู้ครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:23:23:42 น.  

 
มนุษย์เราย่อมรู้จักการปรับตัว ไม่ว่าจะปรับตัวด้วยตัวเองหรือสถานการณ์บังคับก็ตาม ในกรณีนี้ถือเป็นการปรับตัวแบบสุดขั้วเหมือนกัน จริงๆ แล้วทำอะไรคนเดียวมันก็สะดวกดี ไม่ต้องรอไม่ต้องโทษใครพลาดก็โทษตัวเราเอง

มีเล่นกับหมอด้วย จริงๆ เราจะออกยังไงก็ออกได้แหละ ก็แค่หมออยากทำให้แน่ใจว่า ออกไปแล้วจะไม่ต้องหามกลับมาอีก



โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:23:32:04 น.  

 
ลืมไป!! ลองกลับไปอ่านคอมเม้นต์ดูอีกทีจะรู้ว่าทำไมโดนแบน บางครั้งความไม่ได้ตั้งใจก็ก่อให้เกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นเช่นกัน


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2566 เวลา:23:32:58 น.  

 
เป่าขลุ่ยเสร็จมีเสยผมโชว์ 1 ทีถ้วนด้วย


คุณหมอได้ทดสอบพลังเป่าและได้ฟังเพลงไพเราะ
ถึงขนาดอยากให้น้องปริ๊นซ์อยู่ต่อนะคะ
นี่ถ้าคุณหมอพกเปียโนมา อาจอยากให้น้องปริ๊นซ์อยู่ต่ออีกซักอาทิตย์นึงก็ได้ค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะน้องปริ๊นซ์


โดย: Sweet_pills วันที่: 6 กรกฎาคม 2566 เวลา:0:38:22 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์

พี่ว่ามาดามไม่ได้เปลี่ยนพี่ก๋าเลยครับ
แต่เราอยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่เรารัก

วันก่อนหมิงก็ถามว่า
ป่ะป๊าเคยตีกอล์ฟรึเปล่า
เพราะหมิงไปไดร์ฟกอล์ฟกับเพื่อน
พี่ก๋าตอบว่า

"เคย..ตอนจีบแม่เราน่ะ 555"

ใช่ครับ พี่ก๋าไปไดร์ฟกอล์ฟเพราะอยากหาอะไรคุยกับมาดาม
อยากชวนกันไปตีกอล์ฟ เพราะเธอตีกับที่บ้านอยู่แล้ว
แต่พอแต่งงานเสร็จ เธอเลิกตีไปเลย 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กรกฎาคม 2566 เวลา:5:07:26 น.  

 
รอบนี้เพิ่งมาฟังเพลง จังหวะโจ๊ะเลยนะครับ 55
จากบล็อก
งานวิ่งนี้ สภาวิศวกรเป็นคนจัดนะครับนอ้งปริ๊นซ์ มีเด็กวิดวะมาวิ่งเพียบเลย พี่ว่าเพื่อนน้องปริ๊นซ์น่าจะมีมาวิ่งบ้างแน่ ๆ สาววิดวะก็น่ารักด้วยนะ
แก๊งค์ตีแบดพี่ หมออีกคนนึงตีแบดไป ร้องตะโกนไป แกน่าจะเครียดมากตอนอยู่ รพ. มาระบายกับกีฬา


โดย: The Kop Civil วันที่: 6 กรกฎาคม 2566 เวลา:11:26:16 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ น้องปริ๊นซ์

มาถึงวันนี้น่าจะแข็งแรงเต็มร้อยแล้วนะคะ
พี่ว่าเราทำอะไรคนเดียว มันก็มีมุมที่ดีเยอะนะ
พี่เข้าใจอารมณ์ ผีก็กลัว คนก็กลัว ของน้องเลยค่ะ
ตอนเป่าขลุ่ยนี่ คุณหมอโยกตามป่าวคะ 5555
ตึงทั้งหมอทั้งคนไข้

จากบล็อก
เวลาเค้าเล่นกันเสียงดัง หรือทะเลาะกัน
พี่นี่หัวจะปวดมากกก 55555


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 6 กรกฎาคม 2566 เวลา:16:30:19 น.  

 
ขอบคุณนะค้า ^ ^


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 6 กรกฎาคม 2566 เวลา:17:55:14 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กรกฎาคม 2566 เวลา:5:29:23 น.  

 
ไปหัวหิน..หลายวันกลับมา กท.. เจอเน็ตเดี้ยงได้คิวช่างภายใน
11 พค.. โหอะไรยาวขนาดนั้น ปกติทรู พอเราแจ้งรุ่งขึ้นก้มาแล้ว.
...
พูดถึงการไปไหนคนเดียวดี เรื่อย ๆ ลัดเลาะไปเหมือนคุณปริ๊นซ์
ใช่เลย แต่บางครั้งชอบอยู่ในกลุุ่มเพื่อน 10 - 20 คนนานหลาย ชม.. ถ้าไปถ่ายภาพ..ธรรมชาติไปคนเดียวดีกว่า ไม่ต้องพะวงว่า
มีคนรอ.. แต่สบายที่สุดกลับบ้านอาบน้ำแล้วอยู่คนเดียว
ค่อนข้างเก็บตัว.. ดู ๆ แล้วขัดแย้งกันอย่างแรง 555
..
ด้านดนตรีได้แต่ฟัง เล่นไม่เป็นแม้แต่ชิ้นเดียวเคยกระแดะเข้า
ไปขอเข้าวงโย.. 1 เดือนผ่านไป อ. โยนไม้กลองแต๊กไปซ้อม
ที่บ้านจะได้เล่นได้เหมือนคนอื่น.. เอาซิ.. ผลคือชาวบ้าน
ด่า ตีกับโต๊ะคนเดียว.. คงไม่เป็นจังหวะ.. เลยทิ้งด้านนีั้ดีกว่า

...
อ้อ..ที่ถามว่า เอกมัยคึกคักมานานหลายสิบปีใช่ปะ.. ไม่เลย
มีงานคึกอยู่แห่งเดียวคือ งานขาวดำวัดธาตุทอง หุ หุ
ที่ขึ้นหน้าขึ้นตาระยะหลัง ก็มีห้างสหกรณ์ตรงหัวมุม
..
เงียบสงบ..... สิบกว่าปีมานี้ผมทำงานผับบาร์เอกมัย ทองหล่อ
ด้านภาษีป้วนเปี้ยนแถวนั้นตั้งแต่ กลุ่มเจ้าของเขาสร้างผับ
ติดตั้งเครื่องเสียง .. มีการเปิดตัวอย่างคึกคัก.. ผมไม่ทำงาน
กลางคืนมาแล้ว 3 ปีนี่เอง 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 10 กรกฎาคม 2566 เวลา:7:00:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space