|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
 |
|
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 349 "วันใดที่เธอ...." |
|
ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" โจทย์โดยคุณ กะว่าก๋า ผมเกือบขอข้ามตะพาบหัวข้อนี้ไปซะแล้วครับ เพราะไม่ถนัดแนวนี้ 5555 ไม่ค่อยชอบ express feeling แนวนี้เท่าไหร่ จำได้ไหมครับว่าผมน้องที่ทำงานเข้ามา เป็นน้องสายตรงของผมอยู่ 2 คน คือ พัท กับ ไนท์ 2 คนนี้คือคนที่ผมสอนงานตั้งแต่จบใหม่ จนตอนนี้เป็นspecialist ฝีมือดี มีศักยภาพในการทำงานและไหวพริบในการแก้ไขปัญหาสูง ถึงผมไม่อยู่หน้างาน พัท กับ ไนท์ จะสามารถรันงานให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ดังนั้น น้อง 2 คนนี้ เป็นมากกว่าทีม แต่คือความภาคภูมิใจของผมเสมอมาระหว่างผมกับน้อง ผมไม่คยมีความรู้สึกว่าเป็นหัวหน้า สำหรับผม ผมเป็นพี่ ที่จะพร้อมถ่ายทอดสิ่งที่รู้ สอนทริค ปกป้อง สนับสนุน ผลักดัน ให้น้องทั้ง 2 เหมือนนับรบที่มีอาวุธครบมือ ไหวพริกดี เผื่อให้รอดจากทุกสงคราม สำหรับน้อง ผมรู้ว่า ในสายตาน้อง ผมเป็นทั้งพี่ชาย และหัวหน้า พวกเค้าไว้ใจผมมากทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เราใช้และแชร์ชีวิตกัน ทั้งในที่ทำงาน และนอกที่ทำงาน เรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว เรากินข้าว ซื้อกาแฟ กินเหล้า ลาบส้มตำอะไร หารกันบ้าง ผมจ่ายให้บ้าง แต่ในการทำงาน น้องทั้ง 2 คน ให้เกียรติ์และรักษาเกียรติ์ รักษาศักดิ์ศรีให้ผมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ซัก 4 เดือน ไนท์พูดกับผมระหว่างขับรถไปประชุมกับลูกค้าด้วยกัน ว่ามันกำลังค่อยๆ เริ่มหางานใหม่ เพราะอยากไปเป็น SE เต็มตัวที่มีคอมมิสชั่น และมีบริหารเวลาได้อิสระตามต้องการ จากที่บริษัทออกกฎเพิ่มมากมายที่ไม่ตอบโจทย์รูปแบบการทำงานของพวกผม และ nature ของคนเจนพวกผม ที่ไม่ชอบถูกบังคับ ตีกรอบ หรือจับผิด ผมที่อยู่กับไนท์มาตลอด และเข้าใจตัวตนของไนท์มากที่สุด ก็เข้าใจมัน แต่ก็ชี้แจง อธิบาย ให้สิ่งที่พอชดเชยได้กับมัน และบอกสิ่งที่มันควรอยู่ที่นี่ต่อ ไนท์ก็รับฟังครับ เอาไปคิด ส่วนตัดสินใจยังไงผมให้เป็นเรื่องของมัน
จนวันนึงที่พัทมาบอกผมว่า พัทกำลังคิดจะลาออก ด้วยเหตุผลส่วนตัวหลังแต่งงาน ที่ผมไม่ขอลงรายละเอียดอ่ะนะครับ แต่น้องคุยรายละเอียดกับผมแล้ว พัทเลยบอกว่า ขออนุญาตเริ่มหางานนะพี่ผมไม่ได้บอกอะไรมาก นอกจากถามว่า มันเป็นปัญหาที่รู้สึกไม่ไหวเร่งด่วนไหม อยากให้ค่อยๆ คิด ค่อยๆ หา ให้ตอบโจทย์ชีวิตปัจจุบันให้มากที่สุด อย่าเลือกอะไรที่ไม่เหมาะกับตัวเอง ถามตัวเองให้เยอะๆ ก่อนตกลง ที่ไหนบ้างที่ไม่โอเค ผมบอกน้องหมดจากที่ผมรู้แต่ด้วยความที่พัทเป็นคนเก่ง บุคลิกดี หน้าตาดี โปรไฟล์ดี ไม่แปลกหรอกครับที่พัทจะได้งานใหม่ใน 1 สัปดาห์ หลังจากเริ่มหา และพัทก็คิดว่ามันตอบโจทย์ในสิ่งที่พัทต้องการใช่ครับ...พัทกำลังจะออกในอีก 30 วันผมไม่ได้รั้งน้องเลยแม้แต่คำเดียว มีแต่คำยินดีเพราะผมเข้าใจความจำเป็นของน้อง ในการตัดสินใจครั้งนี้ ทุกคนที่รักน้องอยากให้น้องทำแบบนี้....ผมก็รักน้องผมก็พร้อมสนับสนุนการตัดสินใจนี้เหมือนกัน
บทสนทนาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ในที่ทำงานระหว่างผมกับพัทจบแค่นั้น ที่เหลือคือหลังเลิกงานที่ร้านเหล้า ที่เราไปนั่งดื่มด้วยกัน ซึ่งเราก็คุยกันสัพเพเหระปกติ เฮฮามีความสุข เรื่องนั้นไม่ได้มีผลต่อมิตรภาพระหว่างเรา จนพัทเมาแล้วเปิดเรื่องนี้ก่อน "พี่ปริ๊นซ์...""อะไร""ถามจริงๆ จากใจ พี่โกรธเราไหม ที่เราตัดสินใจเรื่องนั้น""ไม่อ่ะ พี่จะโกรธพัททำไม พี่เข้าใจ""เราน่ะ....ไม่เคยมีความคิดว่าจะออกเลยนะเว่ย....ไม่เคยเลยเราสาบาน เรื่องงานเราไม่เคยมีปัญหา เพราะเรามีพี่ มีเพื่อนๆ ที่ดี เอาจริงๆ ถ้าตรงนี้มันไม่ใช่พี่ แต่เป็น(ชื่อหัวหน้าอีก 2คน)เราคงอยู่ไม่ได้จนถึงวันนี้ พี่จำได้ไหมว่า เราพูดกับพี่ตั้งแต่ปีแรกที่ทำงานว่า พี่คือคนที่ทำให้เราอยากมาทำงานในทุกเช้าจนวันนี้ มันก็ยังเป็นแบบนั้นเหมือนเดิมนะพี่"พัทยิ้มพร้อมยิ้มแปลกๆ ส่วนผมยิ้มๆ ก้มหน้าแล้วยกแก้วขึ้นชน"ที่พี่ไม่รั้ง ไม่ใช่ว่าพี่ไม่เห็นความสำคัญของพัทนะเว่ย พี่แค่เข้าใจความจำเป็นของพัทแล้วพี่เคารพการตัดสินใจของพัท พี่ถามทุกอย่างที่พี่คิดว่าพี่จะช่วยอะไรพัทได้ไปหมดแล้ว ทั้งหมดนี้ พี่แค่ทำหน้าที่เป็นทั้งหัวหน้าและพี่ชายที่ดี ก็แค่นั้น"ตรงนี้ผมหยุดก่อนเลยคนแรก เพราะอยู่ๆ ก็พูดไม่ออก นี่ก็หยุดไปซักพัก ยกเบียร์ขึ้นซัดไปหมดแก้ว แล้วเติมใหม่หมดไปอีกครึ่งแก้ว สงสัยเมื่อกี้แอลกอฮอล์ไม่ถึง พอแอลกอฮอล์ถึงก็เริ่มพูดต่อได้"พัทบอกว่าพี่คือเหตุผลในการมาทำงานในทุกเช้าใช่ไหม""ใช่...พูดจริงๆ นะ""พัทก็เป็นคนนั้นของพี่เหมือนกัน"ผมพยักหน้าแล้วยิ้มเฉย ๆ ในขณะที่พัทก็ยิ้มแปลกๆ แล้วพยักหน้าเหมือนกัน แต่ยิ้มของเรา 2 คน ดูเป็นยิ้มที่พยายามยิ้ม กลบเกลื่อนอะไรบางอย่างมากกว่า ผมเลยตบขามัน 2-3 ที ไม่ได้พูดอะไรมาก

ว่าแล้วก็ยกเบียร์ดื่มกันไปอีกคนละ 3-4แก้ว ไอ่ผมเมา...เมาแน่นอน ส่วนพัท.....มันหลับคาโต๊ะไปซักพักแล้วแต่โชคดีที่อัดให้จิบน้ำร้อนไป มันก็ตื่นครับ แต่เบลอไปเลย และแน่นอน ผมต้องห่ามมันออกมาจากร้าน ระหว่างทางเดินออก ไอ่พัทบอกว่า "พี่ๆ....เข้าห้องน้ำหน่อย"ว่าแล้วมันก็ผละตัวออกจากผมแล้วเดินเซ ไต่กำแพงไปที่ห้องเก็บของ"ไอ่พัทๆๆๆๆ นั่นไม่ใช่ห้องน้ำ เดี๋ยวๆๆๆ อย่างเพิ่งๆๆ"ผมนี่ร้องเสียงหลงเพราะไอ่พัทเริ่มโช๊ค เตรียมอ้วกตามสูตร"ไม่ๆๆๆ เดี๋ยวๆๆๆ"ผมดึงคอเสื้อด้านหลังมันได้ก็กึ่งผลักกึ่งลากแล้วจับมันเข้าชักโครก ให้อ้วกให้สาแก่ใจ"เอ้า! จะอ้วกก็อ้วกไอ่เชี่ย!" ไอ่พัทก็เท้าผนังอ้วก ส่วนผมก็มือนึงช้อนด้วยมันไว้อีกมือนึงลูบหลัง พนักงานเห็นก็เอาน้ำกับทิชชูมาให้ ปกติเวลาทำงานหรือชีวิตประจำวัน พัทดูแลผมดีทุกอย่างนะ ส่วนกลางคืน เมื่อไหร่ที่ไอ่นี่เมา ผมนี่แหละคนที่รับบท เดอะ แบก แบกมันกลับทุกงาน รอบนี้มันฟื้นแล้วบอกว่าขับรถได้"ได้จริงนะ""ด้าย.....ได้จริงๆ พี่ไม่ต้องห่วง""โห....กุเคยไม่ห่วงเมิงไหมเนี้ย""ด้ายๆ พี่กลับได้เลย เจอกันนู้นนนเลยเนอะ เดี่ยวถึงแล้วบอก""เออๆ ถึงแล้วบอกด้วยละ"แต่ไอ่ที่คุยกันทั้งหมดมันมาเริ่มออกฤทธิ์เอาตอนขับรถกลับบ้านนี่แหละครับ เพราะผมเริ่มเศร้า เริ่มน้ำตาคลอ เริ่มคิดว่าพัทไม่อยู่จะเป็นยังไง แต่.....พยายามสลัดให้หลุด เพราะผมใส่คอนแทคเลนส์ ถ้าน้ำตาไหล คอนเทคชอบหลุด

พอถึงบ้าน ตอนนั้น 5 ทุ่มแล้ว เปิดประตูเข้ามาบ้านได้ แฟรี่รีบเดินมารับ ผมจับแฟรี่มากอดๆลูบๆ จะด้วยความนุ่มๆ อุ่นๆ และแอลกอฮอล์ได้ที่ ผมนี่นั่งกอดหมาร้องไห้อยู่ที่พื้นหน้าโซฟา โห อยู่ๆ ก็โคตรเศร้าครับ เพราะอยู่ๆ ก็เหมือนจะรู้ตัวว่าที่ผมเคยบอกว่า ที่ทำงานคือเซฟโซนของผม จริงๆ แล้วไม่ใช่ที่ทำงาน แต่เซฟโซนของผมคือ พัท ต่างหาก แล้วพี่เพ็ญที่ได้ยินเสียงผมเปิดประตูมาซักพักก็เปิดประตูห้องออกมาดู เค้าก็เห็นผมนั่งกอดหมาร้องไห้อยู่ ซึ่ง.....พี่แกเค้าในว่า อ้อ! เมาสินะ! อาการนี้ เลยปล่อยผมไว้แบบนั้นพักใหญ่ จนรู้สึกว่าสงสัยผมจะเครียดหรือมีอะไรจริงๆ เลยเดินขึ้นไปตามแฟนผมให้มาดู ว่าเป็นไรไหม เมาหรือว่ายังไง แฟนมาถึงแฟรี่มันก็โดดออกจากผมไปหาแฟน ประมาณว่า "ช่วยหนูด้วย" 555 เลยกลายเป็นผมที่นั่งกอดเขาก้มหน้าสะอื้ออยู่คนเดียว"เทอเป็นอะไร มีอะไรหรือป่าว" พูดแล้วก็มาจับไหล่ผมไป ส่วนผมไม่พูดอะไรแค่พยักหน้านิดๆ "เทอร้องไห้ทำไม มีอะไรรึป่าว" แฟนถามซ้ำ พร้อมเสียงพี่เพ็ญพากย์ข้างหลัง"เมามั้งคะ เดี๋ยวพี่เพ็ญไปทำชาร้อนก่อน" เจ๊เพ็ญกระซิบๆ แล้วเดินไป"ปริ๊นซ์มีเรื่องอะไรรึป่าว ไปกินกับเพื่อนมาไม่ใช่หรอ มีอะไรรึป่าว"ผมที่ค่อยๆ ตั้งหลักได้เลยตอบไปว่า พัท...ลาออก"ห๊ะ ทำไมละ น้องเค้าก็ดูโอเคกับที่นี่นี่ แล้วเทอได้ถามน้องไหม เรียกน้องมาคุยพร้อมคุณ VP รึยัง"ผมส่ายหน้าบอกว่า "ยัง" "เราคุยกันน้อยมากอ่ะพลอย พัทแค่เดินมาบอกว่าจะออก อีกทีก็บอกว่าได้งานแล้ว เราแค่พยักหน้า มันก็บอกว่าขอโทษนะที่เร็วมาก เราก็บอกว่า เราเข้าใจ แต่จริงๆ เราไม่อยากให้พัทไปเว่ย""แล้วเทอได้บอกน้องไหม ว่าไม่อยากให้ไป"ตรงนี้ผมส่ายหน้า "ทำไมเทอไม่คุยกับน้องละ บอกน้องไปตรง ๆ พัทรักเทอมาก เทอพูดน้องเชื่อแน่ๆ""เราจะพูดในฐานะอะไรอ่ะ....เราต้องเป็นใครหรอตอนพูด ถ้าเราเป็นหัวหน้าที่ดี เราก็ควรให้มันไปมี career parth ที่ดี ถ้าเราเป็นพี่ที่ดี เราควรยินดีที่น้องได้งาน ที่ตอบโจทย์ชีวิตตอนนี้ ทั้งแม่พัท แฟนพัทเค้าก็อยากให้พัทเปลี่ยนงาน คนที่รักมันคิดแบบนั้น เราก็รักพัทป่าววะ เราก็ควรเห็นด้วยป่าววะ เพื่อตัวมัน"นี่คือไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายอะไรนะครับ แต่น้ำตานี่หยดเป็นฝนเลย 55555"แต่เทอไม่ต้องเป็นคนดีก็ได้ ไม่ต้องเป็นหัวหน้าที่ดี หรือพี่ที่ดีก็ได้ เทอแค่เป็นเทอ แล้วบอกน้องในสิ่งที่เทอคิดก็ได้นี่ ไม่ต้องเป็นใครทั้งนั้น"ผมแค่ส่ายหน้าไปส่ายหน้ามา"เราพูดไม่ได้หรอก...จริง ๆ....มันคือ ถูกต้อง กับ ถูกใจ อ่ะพลอย"ผมพูดพร้อมเอื้อมมือไปหยิบชาร้อนจากพี่เพ็ญ พร้อมทิชชูมาเช็ดหน้าเช็ดตา แฟนก็นั่งเป็นเพื่อนเงียบ"ขอโทษที เรา...น่าจะกินมาเยอะไปหน่อย" ผมเขยิบตัวขึ้นมานั่งบนโซฟา แล้วก็หยิบมือถือมาดู ซึ่งมีไลน์ด้างค้างอยู่ ไลน์นั้นคือ ไลน์ไอ่พัท ที่บอกว่า มันถึงบ้านละ ส่วนผมก็ตอบมันไปเถอะ เพราะไอ่พัทเมาหลับไปเรียบร้อย เจอกันที่ทำงานผมยังถามเลยว่า นี่ไม่กะจะรอให้พี่ตอบเลยหรอ 55555 ไอ่พัทบอก เราไม่ไหวจริงๆ พี่ แต่พี่ถึงอยู่แล้วละเราเชื่อ
ถึงแม้ว่าผมจะเคยมีน้องที่ออกไปแล้ว และยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน Line คุยกันทุกบ่อยๆ ยังนัดเจอกันกินข้าวอะไรก็เรื่อยๆ มีเรื่องอะไรก็เม้ากันสนุกเหมือนเดิม คือถึงแม้ว่าจะออกไปแล้วเราก็ยังเป็นเพื่อนที่สนิทกันเหมือนเดิมแต่สำหรับพัท ผมรู้สึกแตกต่างมาก อย่างที่บอก ว่ามันคือเซฟโซนของผม คือคนที่รู้ใจผมทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวทุกเรื่อง ไม่ว่าผมจะไปซวยอะไรที่ไหนมา ผมจะมาเล่าให้พัทฟัง พัทมันก็จะเป็นแนวร่วงหงุดหงิด มีอารมณ์ร่วมกับผมไปทุกเรื่องและเอ้อ....ลืมบอกครับ ว่าผมกับพัทไปทำสีผมสีเดียวกันมาด้วย เพราะก่อนที่จะไปทำสี ผมไปนั่งเปิดตัวอย่างให้มันดู ถามว่า พี่จะทำสีไหนดีวะ อันนี้ดีไหม แล้วเปิดให้มันดู มันก็บอกว่า ส่งไลน์มาให้หน่อยดิ ชอบๆ สรุปวันที่ผมไปทำสี พัทก็ไปทำสีผมใหม่เหมือนกัน แต่สีเสือกออกไม่เหมือนกันเพราะ ผมของพัทเส้นใหญ่กว่า แล้วทำสีน้ำตาลเข้มไว้ ส่วนผม ผมเส้นเล็ก แถมทำสีน้ำตาลสว่างไว้ก่อนหน้านี้ พอกัดสี 1 รอบเหมือนกันแล้วทำสีเทา ผมผมเลยเป็นสีเทาควันบุหรี่ ส่วนพัทมาเป็นสีน้ำตาลเหลือบเทาๆ มีสีฝุ่น ๆ นิดหน่อยผมเลยแนะนำให้มันใช้แชมพูม่วง ตามคนมีประสบการณ์หัวทองกัดสีมาก่อน มันก็ไปซื้อตามมาเรียบร้อย พร้อมบอกว่าใช้ดีมาก เปิดประสบการณ์ทำสีผม
เนี้ย ผมถ่ายรูปส่งให้มันไปซื้อ 555555
ก็เนี้ย....มันเป็นเพื่อนที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว มันรักผม ผมรักมัน
ตอนนี้ถ้ามีจังหวะเราก็ออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินด้วยกัน ใช้เวลาในแต่ละวันให้สนุกด้วยกันในทุกๆ วัน พอถึงวันที่อีกคนไม่อยู่ตรงนั้น ความทรงจำจะได้อยู่ที่เดิม

Create Date : 08 เมษายน 2567 |
Last Update : 8 เมษายน 2567 14:18:13 น. |
|
24 comments
|
Counter : 1077 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnonnoiGiwGiw, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmultiple, คุณทนายอ้วน, คุณหอมกร, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณThe Kop Civil, คุณtanjira, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณtoor36, คุณดอยสะเก็ด |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:18:34:03 น. |
|
|
|
โดย: แอมอร (peeamp ) วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:19:38:06 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:20:01:35 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:20:33:51 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 เมษายน 2567 เวลา:21:14:20 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2567 เวลา:6:03:24 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 9 เมษายน 2567 เวลา:18:49:18 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 10 เมษายน 2567 เวลา:7:01:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2567 เวลา:18:41:42 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 เมษายน 2567 เวลา:20:31:28 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 เมษายน 2567 เวลา:22:25:51 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:4:58:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:5:45:04 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:15:46:09 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 เมษายน 2567 เวลา:21:07:15 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
ก็ยังรู้สึกใจหายแทน แต่เหมือนว่าชีวิตมันก็เป็นแบบนี้อ่ะเนอะ
มันก็ต้องก้าวต่อไป เราก็ยินดีกับน้องมันด้วย ทำถูกแล้ว
ยังดีที่เรามีคนที่บ้านคอยซัพพอทความรู้สึก อ่านแล้วนึกภาพตาม
แล้วรู้สึกอบอุ่นไปด้วย
ช่วงนี้อาจจะอยู่ในช่วงปรับตัว
เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ไปได้ในทางของมันเอง
ส่งกำลังใจ
ยังไงก็อย่าเพิ่งพากันเมาทิ้งท้ายเยอะนะจ๊ะ
ทำงานกันคนละที่ก็ยังนัดสังสรรค์กันได้
เพื่อนสนิทพี่ ก็สนิทกันจากที่เจอที่ทำงานเดียวกันนี่แหละ
ทุกวันนี้ มันเปลี่ยนงานไปหาบริษัทได้ละ
แต่ก็ยังโทรคุยกันและสนิทกันเหมือนเดิม
สู้ๆ นะจ๊ะ