lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
พฤษภาคม 2567
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
21 พฤษภาคม 2567
space
space
space

ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 352 "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ"


ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 352



"รถไฟฟ้ามาหานะเธอ"











โจทย์โดย  พี่แฟรงค์   -  The Kop Civil






เอาตามจริง  ผมไม่ใช่สายขนส่งสาธารณะเท่าไหร่ครับ
ดังนั้นประสบการณ์การใช้รถไฟฟ้าของผมจึงน้อยมาก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะน้อยจนไม่มีเรื่องเล่าอะไรจากการใช้รถไฟฟ้าเลยครับ
งั้นผมขอเล่าเป็นเรื่องสั้นๆ หลายๆ ตอน แล้วกันนะครับ





มาครับ..... รถไฟฟ้ามาหานะเธอ







ตอนที่ 1  ความสุขส่งต่อได้


อย่างที่บอกครับ ว่าผมไม่ใช่คนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ
ส่วนใหญ่ไปไหนก็ขับรถไป แต่ก็มีบ้างครับที่ต้องไปประชุมกับลูกค้าใน กทม
ซึ่งบางทีผมก็ขับรถไปครับ แต่ถ้าออฟฟิศลูกค้าอยู่แนวรถไฟฟ้า
ผมก็เลือกรถไฟฟ้าครับ  เพราะขี้เกียจรถติด




ดังนั้น ผมจะไม่ใช่ทรงหนุ่มกรุงเทพมืออาชีพที่มีบัตรRabbit หรืออะไรไว้สแกนทันที
ผมนี่ต้องล้วง ต้องควัก ต้องค้นหาเหรียญมาหยอด หรือหาตังไปใส่ตู้
แล้วก็ต้องเก็บรักษาไอ่บัตร หรือเหรียญนั่นให้ดี เอาไว้สำหรับขาออก









วันนึงครับ ผมก็จะไปประชุมกับลูกค้านี่แหละครับ
ผมก็ยืนล้วง ยืนนับหาเหรียญเพื่อแลกบัตรรถไฟฟ้าอยู่
อยู่ๆ ก็มีน้องผู้หญิง ที่ดูน่าจะอายุ 18-19 มายืนกระชิดตัวผมเลย พร้อมเรียกกึ่งเบากึ่งดัง

"พี่คะ จะไป BTS ใช่ไหมคะ" น้องผู้หญิงพูดเร็วๆ 
ผมที่ตกใจ....ก็ตอบกลับแบบลักเลๆ พร้อมมือที่กำเหรียญไว้จำนวนนึง

"ครับ"  



ส่วนน้องผู้หญิงก้มหน้าก้มตา แล้วรีบเสียบ...ยัด....ยื่น...
ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรเลยครับ 5555 เพราะน้องเค้ายื่นบัตร BTS มาใส่มือผมทันที
"พี่เอาไปเลยค่ะ เอาไปใช้เลยค่ะ"  น้องเค้าพูดเร็วมากจริงๆ ครับ
"ครับ"  ซึ่งผมก็รับบัตรนั่นมาแบบ งงๆ  ก่อนจะพลิกดูว่ามันคือบัตรอะไรวะ
มันคือบัตร
One day Pass 
"เอ้า  ขอบคุณนะครับ"  ผมหันกลับไปพูดขอบคุณทันทีที่เห็น
ซึ่งน้องเค้าก็หันหน้าหันหลัง ก้มหัวๆ รับ แล้วเดินไปทันที



ถึงจะได้มาแบบงงๆ แต่ในใจผมนี่....
โห!โชคดีชิบหาย!  55555
ผมก็ใช้ต่อเลยครับ ซึ่งตอนนั้นประมาณ บ่าย 2
ผมใช้ไปพบลูกค้า 2 ที่
จากหมอชิด ไปพญาไท จากพญาไท ไปศาลาแดง
ทีนี้ พอมันเป็นบัตร One day ไม่จำกัดเที่ยว พอพบลูกค้าเสร็จ ผมเลยไปหาที่เดินเล่นต่อ
ขึ้นBTS ไปพร้อมพงษ์ เดินเที่ยวเอ็มควอเทียร์
พอซักทุ่มครึ่งก็กลับครับ กลับไปที่หมอชิด เพื่อไปเอารถที่จอดทิ้งไว้
เรียกว่าโคตรคุ้มเลยครับ ขึ้นๆ ลงๆ สะบัดขนาดผม









พอถึงหมอชิด ผมยกบัตร
One day pass นั่นขึ้นมาอีกครั้ง....
เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าบัตรจะหมดอายุ และยังมีคนเดินทางอยู่เรื่อยๆ 

ไอ่บัตรนี้ ตอนนี้หมดมูลค่าแล้วในมือผม  แต่ถ้าอยู่ในมือคนที่กำลังจะเดินทาง
ไอ่บัตรนี่ก็จะมีมูลค่าขึ้นมาทันที  ผมเลยมองหาคนที่ไม่มีบัตร BTS 



และผมก็เดินไปยื่นบัตรให้กับพี่ผู้ชายคนนึงที่ดูทรงน่าจะไปฝั่งเอกมัย
ดูจากที่เค้าไปยืนดูฝั่งรถไฟฟ้า

"พี่ครับ...ผมมีบัตรวัน ไม่ใช้แล้ว พี่เอาไปใช้ต่อเลยครับ"  ผมพูดพร้อมยื่นบัตรให้
เพราะผมมาแบบไม่มึน และให้ข้อมูลแบบครบถ้วน พี่เค้าเลยไม่งงครับ 5555
เค้าก็รับบัตรนั้นไป 
"อ้อ ขอบคุณครับๆ เดี๋ยวใช้เสร็จผมให้คนอื่นต่อนะครับ" 
ผมแค่พยักหน้าครับ แล้วเดินลงบันไดเลื่อนไปเอารถ




เห็นไหมครับ....ความสุขส่งต่อกันได้จริงๆ 
บัตรใบเดียวสร้างความสุขให้กับคนได้ตั้งหลายคน 
และทุกคนก็พร้อมจะส่งต่อสิ่งดีๆ ที่ได้รับให้คนอื่นต่อ 
ขอบคุณน้องผู้หญิงคนนั้นที่เริ่มส่งต่อสิ่งดีๆ นะครับ









ตอนที่ 2   Dear Foreigner



เมื่อซัก6 เดือนที่แล้ว  ผมกับพี่สาวพาหลานไป Sea life Bangkok ที่พารากอน








ด้วยความอะไรไม่รู้.... พี่สาวอยากให้หลานได้ลองขึ้นรถไฟฟ้าดู
ผมเลยจอดรถไว้ที่หมอชิด แล้วขึ้น BTS ไปสยาม ซึ่งก็สะดวกดีครับ
รู้สึกดีไปอีกว่าไม่ต้องวุ่นวายรถติดที่ราชดำริ หรือต้องวนหาที่จอดรถ
หลานก็ตื่นเต้น ชอบ Take Sky train มาก ๆ พี่สาวก็พาเที่ยว สอนกันไปตลอดทาง



ขาไปเราไปกันแต่เช้าครับ รอบ10 โมงจากหมอชิดคนโล่งๆ นั่งกันสบาย
จากนั้นก็กินข้าว เดินเที่ยวกัน จนบ่าย 2
อยู่ๆ หลานที่เดินๆ เล่น ก็หันมาหาผมแล้วชูมือมาให้


"อุ้มค่ะ....อุ้มค่าาาา"

"เอ้า ไม่เดินเล่นแล้วหรอคะ"  ผมพูดพร้อมก้มลงไปหา
"เดินไม่ไหว เมื่อยแล้ว"
นั่นไง.....แต่ก็เข้าใจได้ครับ เพราะเข้าเดินเที่ยวมาตั้งแต่11 โมงแล้ว
ตอนนี้ก็น่าจะเหนื่อย ผมเลยอุ้มขึ้นมา ซึ่งหลานก็ซบบ่าทันที
ทีนี้พี่สาวก็ Mayday ทันที...... 
 "เค้าหลับอ่ะ"  นั่นแหละครับคำตอบของพี่สาว


"เอาไงอ่ะ จะเดินต่อหรือกลับ"   
"ไหวไหมละ"   

"ไหว....ไหวแหละ"   
555555 ผมนี่หัวเราะแห้งๆ พร้อมแบกผู้หญิงหนัก14 โลกว่าไปด้วย
แล้วก็เดินไปซื้อของกินกันที่ Gourmet ซึ่งผมสามารถซื้อไอติมกระทิกินได้ด้วย5555
แต่พี่สาวต้องถือไว้ให้แล้วผมตักกินเป็นพัก ๆ









ไปๆ มาๆ  เริ่มสงสารหลาน เพราะหลานหลับคอโยกง๊อกๆ แง๊กๆ  เวลาผมเดิน
เลยคุยกันว่า กลับกันเถอะ ไว้ค่อยมาเดินเล่นกันใหม่

ทีแรก เราก็ต้องกลับไปขึ้นรถไฟฟ้าไปหมอชิดครับ
แต่ตอนนี้การขึ้นรถไฟฟ้าไม่บันเทิงละครับ เพราะนอกจากหนักแล้ว...คนก็เยอะมาก
ผมนี่ทำอะไรไม่ได้เลย ยืนอยู่เฉยๆ บนสถานีให้พี่สาวไปแลกบัตรมาให้
แล้วยืนต่อแถวรอขึ้นรถไฟฟ้า....




พอขึ้นขบวนได้ ที่นั่งเต็มครับ ซึ่งผมก็คิดไว้แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ผมรีบไปหามุมถนัดยืนให้มั่นคง เพราะเราต้องไปโน้นเลยครับ หมอชิด
แต่ยืนได้ไม่ถึง 2 นาที  คุณป้าคนนึงที่ยืนใกล้ๆ จะเริ่มหันมาคุยด้วย

"น้องหลับแล้วลูก น่าสงสาร ไปหาที่นั่งไหมจ้ะ"  คุณป้าพูดพร้อมพยายามมองหาที่ให้
"ไม่เป็นไรครับ ได้ครับผม"   ผมยิ้มให้โบกมือว่าไม่เป็นไร
"เด็กหลับค่ะ ช่วยหา...."  คุณป้าใจดีมากครับ พยายามบอกพยายามหาที่นั่งให้


แต่ผู้หญิงต่างชาติที่ดูหน้าทรงแขกขาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมก็กวักมือเรียก
แล้วทำท่าว่าให้มานั่งแทนเค้า ซึ่งเค้ามากับลูกอีก 3 คน



ซึ่งผมก็บอกว่า ขอบคุณครับ ไม่เป็นไรจริงๆ 
แต่เค้าก็พยายามกวักอีก แล้วบอกว่า 
คุณมานั่งตรงนี้ เด็กของคุณกำลังหลับ
ก่อนจะลุกเดินมาดึงแขนให้ผมไปนั่ง ซึ่งพอเห็นว่าเค้ามีน้ำใจให้จริงๆ 
ผมเลยกล่าวขอบคุณ แล้วส่งหลานให้พี่สาว แล้วให้พี่สาวไปนั่งตรงนั้นแทน
ก่อนที่ผมจะไปยืนอยู่ข้างหน้าพี่สาว ผู้หญิงชาวต่างชาติก็ยืนข้างๆ ผม
เค้าหันมายิ้มให้ ส่วนผมก็ขอบคุณเค้าอีกครั้ง  




ขนาดเค้าเป็นนักท่องเที่ยว มาเที่ยวประเทศไทย เค้ายังมีน้ำใจให้คนไทยเลยครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ  สำหรับน้ำใจ









ตอนที่ 3  มียาดมไหม


อันนี้ไม่เล่าเยอะนะครับ 55555  แต่จะไม่เล่าก็ไม่ได้
เพราะถ้าพูดถึงรถไฟฟ้าทีไร ผมลืมเรื่องนี้ไม่ได้ซักที







เอาเป็นว่า ผมต้องไปประชุมกับลูกค้า ซึ่งวันนั้นผมเป็นไข้
แต่มีงานก็ต้องทำครับ ลาก็ไม่ได้ ไม่ไปก็ไม่ได้
ซึ่งแน่นอน รู้สึกไม่อยากขับรถ เบื่อรถติดเลยใช้ BTS แทน
กว่าจะประชุมเสร็จก็บ่าย 3 หรือ 4 โมงเย็นนี่แหละครับ รถไฟฟ้ากำลังคนเยอะเลย


ผมก็ไปยืนเข้ามุมอยู่ตรงทางเชื่อมระหว่างขบวน แต่ยืนไปยืนมาเริ่มร้อน

เริ่มเวียนหัว ผะอืดผะอม จนคิดว่าจนลงตรงนี้ก่อนดีไหมวะ 
ยืนหลับตาบ้างลืมตาบ้างหายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ 



อย่าเป็นลมนะเมิง....อดทนก่อน


จนมันเริ่มไม่ไหวครับ รู้สึกว่ากูร่วงแน่ ใน 10วินาทีนี้ 
แต่ทำไงอ่ะครับ อยู่ๆ เราจะบอกคนข้างๆ ว่าจะเป็นลมงี้หรอ แม่งโคตรอาย
ผมอ่ะ พิมไลน์ไปหาน้องที่ทำงานว่า
"ถ้าเป็นลมเป็นรถไฟฟ้าจะทำไงวะ"  55555
แล้วหันไปหาผู้ชายที่ยืนข้างๆ 
"มียาดมไหมครับ"
แต่หน้าผมคงดูไม่ไหว เค้าก็รีบจับผมเลย ซึ่งผมอ่ะ ลงนั่งเซฟตัวเองก่อน
สุดท้ายเค้าก็พาผมลงไปพักข้างนอก แถมรอจนน้องผมขับรถมารับด้วย




โคตรจะอาย อันนี้คือจำไม่ลืมมากครับ








นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ ที่จำไม่ค่อยได้ครับ เช่น


เคยไปดื่ม แล้วเมา แล้วสถานีกำลังจะปิด 
ผมกับเพื่อน คนเมา 2 คนต้องฉุดแขนกันวิ่งไปเข้าสถานีให้ทัน เพราะไม่อยากนั่งแท็กซี่
ก็ทุลักทุเลมากครับ 5555 เจ้าหน้าทีก็พอเห็นว่าเป็นคนเมา 2 คนก็อยากจะปิดประตู
พวกผมก็ยกไม้ยกมือ พี่ๆๆ รอก๊อนนนน 




เคยมีนัดงานแถวสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า สมัยก่อนผมไม่ชอบขับไปสุขุมวิท
เลยนั่งรถไฟฟ้าไปครับ ไอ่ขาไปก็โอเค แต่ขากลับนี่สิ
เพราะเสร็จงานผมต้องนั่งพี่วิน มาขึ้นรถไฟฟ้า ในสภาพเสื้อยืดกางเกงยืนรองเท้าแตะ
แต่เซ็ตผมอย่างเต็ม 5555 อายมากกกกกกก สัญญากับตัวเองว่าจะขับรถมาทุกครั้ง




น่าจะหมดครับประสบการณ์ขนส่งสารธารณะ
เพราะถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผมยอมรถติด ขับรถไปถึงที่แน่นอน
แต่ถึงอย่างงั้น ผมก็ชอบไลฟ์สไตล์ที่สามารถใช้ขนส่งสาธารณะได้ใน Dairy life นะครับ
รู้สึกว่ามันเป็นชีวิตกลางกรุงอย่างแท้จริง ไม่จำเป็นต้องมีรถ ไม่จำเป็นต้องหาที่จอด 









แค่....ไม่ค่อยชินแค่นั้นละครับ



 



Create Date : 21 พฤษภาคม 2567
Last Update : 21 พฤษภาคม 2567 22:46:19 น. 18 comments
Counter : 547 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณThe Kop Civil, คุณอุ้มสี, คุณtanjira, คุณtoor36, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณไวน์กับสายน้ำ


 
อ่านเพลิน


โดย: อุ้มสี วันที่: 22 พฤษภาคม 2567 เวลา:0:08:06 น.  

 
อันแรกเชื่อว่าหลายๆ คนก็เคยทำ ผมก็เคยได้รับบัตรมางงๆ แบบนี้แหละ แล้วผมก็ส่งต่อให้คนอื่น เคยได้ยินว่าถ้าพนักงานมาเห็นบัตรใบนั้นจะโดนยึดทันทีครับ

BTS แพงครับ เลี่ยงได้ผมเลี่ยงครับ


เรื่องที่สองถือเป็นเรื่องดีครับ มันเป็นเรื่องของเวลา คุณปริ๊นซ์ไม่เคยขึ้นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เลยอาจไม่รู้ สมัยก่อนตอนที่ผมต้องพึ่งพารถไฟฟ้าไปทำงานเพราะยังไม่ค้นพบเส้นทางเดินทาง ผมเคยรอครึ่งชั่วโมงครับ อ่านไม่ผิดหรอก รถมาแต่ขึ้นไม่ได้ รอครึ่งชั่วโมง มันบ้ามาก (จริงๆ วันนั้นระบบมันขัดข้องด้วย)

เรื่องที่สามผมไม่แคร์ครับ บอกตรงๆ เลยว่าจะเป็นลม แต่ไม่มีคนลุกให้หรอกครับ พยายามฝืนเอา ตอนหลังรู้สึกว่านั่งลงไปกับพื้นเลยดีกว่า เลยลงไปนั่งถึงจะมีคนลุกแล้วพยายามลากขึ้นมา คงเพราะตกใจด้วยมั้ง ผมก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้น แต่รู้สึกไม่ค่อยดีก็แค่นั้น ผมเป็นพวกชอบปิดความเสี่ยงในทุกๆ เรื่อง ถ้าอะไรที่ทำให้ความเสี่ยงลดลงได้จะพยายามทำ

ไม่ใช่เรื่องน่าอายครับ ถ้าอายเราจะตาย



จริงๆ ถ้าไม่ติดว่า แถวๆ ออฟฟิศผมรถมันติดมาก ผมก็อยากควบรถไปเองครับ แม้ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่ามาก แต่เราได้ในแง่ของความสบายใจและสุขภาพจิตที่ดีกว่า ซึ่งในส่วนนี้บ่างครั้งเงินซื้อไม่ได้ครับ

แต่ก็อีกน่ะแหละ เคยคำนวนเวลาแล้ว ใช้ขนส่งสาธารณะมันเร็วกว่า เพราะไม่ต้องไปเสียเวลากลับรถ วกเข้าอออฟฟิศซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีกราวๆ 40 นาที มันก็ไม่ไหวเหมือนกันถ้าต้องเพิ่มเวลาขนาดนี้


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2567 เวลา:7:15:23 น.  

 
ชอบเรื่องที่ 1 และ 2 มกาเป็นพิเศษครับ
อ่านแล้วชอบเลย
ดีมากเลยครับ ความสุขส่งต่อได้
และน้ำใจก็มีอยู่ทุกที่จริงๆ






ปล.รถไฟที่ไหนก็ยากสำหรับพี่ก๋าครับ 555
เพราะไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย
เป็นคนเดินทางน้อยมากในชีวิต
และส่วนใหญ่ก็จะมีคนคอยช่วยจัดการให้ เช่น มาดามนี่ล่ะครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2567 เวลา:11:32:29 น.  

 
ลบ comment
เรื่องแรก ถ้าพูดกันตามกฎเราไม่ควรทำแบบนี้ แต่เข้าใจได้ว่าหลายๆ คนทำแล้วรู้สึกดี อีกส่วนทำเพราะอยากแก้แค้นทาง BTS เพราะมันแพงเหลือเกิน สำหรับเรา ไม่ได้เป็นพวกสนับสนุน แต่ก็ไม่ต่อต้าน แน่นนอนถ้ามีคนเอามาให้ก็จะรับไว้ใช้พร้อมส่งต่อเช่นกัน

บน BTS เรื่องมันเยอะ บางครั้งไปยืนตรงที่ใกล้ๆ ที่นั่งพิเศษ คนที่มันไม่ลุก ยังไงก็ไม่ลุก ต่อให้เป็นเก้าอี้ที่นั่งพิเศษก็ตาม

ถ้าจะเป็นลมคงต้องออกไปที่ตัวสถานี แล้วไปห้องพยาบาล ส่วนตัวยังไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากจะมี


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2567 เวลา:12:19:38 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องปริ๊น

พี่พอจะคุยกับคนอื่นได้รู้เรื่องค่ะ สำหรับการนั่ง BTS MRT Airport link

เมื่อเราเจอคนที่แบ่งปัน เราก็แบ่งปันต่อไปนะคะ
ความสุขที่ส่งต่อให้กันคือดีงามค่ะน้อง

ตอนที่พี่พาหนูดาริญขึ้นรถไฟไปหาพี่ป่าน ไม่มีคนไทยใจดีลุกให้นั่งเลยคะ
ทุกคนก้มหน้าก้มตาดูมือถือกันทุกคน ดีจังเนาะคนเดี๊ยวนี้
จริงๆก็มีแหละค่ะคุณใจดี เพียงแต่เรายังไม่เจอ
ถ้าพี่อุ้มน่าจะไปไม่ถึงพี่ป่านแน่ๆ 555

และพี่ก็ยังไม่เคยเป็นลมในรถไฟฟ้าสักทีค่ะ ไม่กล้าเป็นด้วย อายยย
แต่ถ้าจะเป็นคงห้ามไม่ได้นะคะน้อง เนาะ

น้องก็มีอะไรให้ตื่นเต้นได้เรื่อยๆนะคะนี่

ช่วงนี้ฝนลงมาบ้างแล้วล่ะค่ะ เลยคลายร้อนไปบ้าง
แต่ก็ดูแลสุขภาพกันต่อไปนะคะน้องปริ๊น



โดย: tanjira วันที่: 22 พฤษภาคม 2567 เวลา:13:52:15 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
เรื่องแรกพี่เคยได้บัตรแบบวันเดียวเหมือนกัน มีคนเอามาให้ พี่ส่งต่อเหมือนกันครับ หลัง ๆ มา ไม่แน่ใจว่าบัตรนี้ยังมีอยู่หรือเปล่านะ
เรื่องที่สอง ความจริงบนรถไฟฟ้าจะมีเก้าอี้พิเศษ สำหรับเด็ก คนท้อง คนแก่ แต่หลัง ๆ มานี่ไม่ค่อยมีคนลุกให้ละ เฮ้อ พี่ขึ้นรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ตีตั๋วยืนตลอด 555 ชาวต่างชาติมีน้ำใจมาก ๆ เลย
เรื่องที่สาม โอวว อันตรายมากเลย บนรถไฟฟ้าเค้าจะมีเจ้าหน้าที่ตามจุดอยู่นะ แต่ไม่เห็นหน่วยพยาบาลนะ 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 22 พฤษภาคม 2567 เวลา:16:49:48 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2567 เวลา:5:18:04 น.  

 
นี่ขนาดไม่มีเรื่องเล่านะ
ยังมีมากกว่าพี่อีก

เนี่ยพี่ตั้งอีกกระทู้นึง ก็ได้เป็นพันทิปพิคอีกแล้ว
ปรินช์ลองตั้งดูบ้างสิ เผื่อได้กับเขาบ้าง


โดย: สมาชิกหมายเลข 7915129 วันที่: 23 พฤษภาคม 2567 เวลา:13:31:44 น.  

 
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ชื่อเก๋มากค่ะ 555
เราใช้บริการรถไฟฟ้าน้อยมากค่ะ แทบจะนับครั้งได้

อ่านเรื่อง ความสุขส่งต่อได้ นี่ดีจังค่ะ
แต่ไม่เคยเจอก็แอบกลัวว่าที่พยายามมายัดเยียดคืออะไร
เป็นพวกมิจฉาชีพ วิ่งหนีตำรวจเอาของผิดกฎหมายมายัดให้เราหรือเปล่า 555

---------------------

แมมชูแมนช่วงนี้ออกดอกต่อเนื่อง ไม่เว้นวรรคเลยค่ะ
จะบอกว่าก่อนหน้านี้เกือบจะโละทิ้งไปแล้ว เพราะฟอร์มเริ่มสูงปรี๊ด เอียงกระเท่เร่
สรุปเองว่า ต้นไหนไม่สวย โดนคัดออก 555



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 23 พฤษภาคม 2567 เวลา:15:06:24 น.  

 
หนังรถไฟฟ้ามาหานะเธอนี่ อ.เต๊ะชอบมากดูหลายรอบเลยเชียว
ชอบนางเอก ที่พยายามลงจากคานทอง แถมต้อง ต่อสู้ ฟาดฟันแย่งชิงพระเอกกับ คู่แข่งวัยรุ่นอีก สนุกสนานเฮฮา ลุ้นไปด้วยตลอดทั้งเรื่องเลยเชียวครับ

เรื่องรถไฟฟ้านี่ อ.เต๊ะ ขึ้นไม่เกิน10ครั้งตลอดชีวิต
เพราะชอบขับรถไปไหนมาไหนเอง
จะขึ้นรถไฟฟ้าก็ต่อเมื่อไปเส้นที่รถติดมากๆ หรือรีบจริงๆ
ไม่งั้นก็ไปที่ ที่หาที่จอดไม่ได้

เรื่องซื้อตั๋วนี่ ขึ้นรถไฟฟ้าครั้งแรก ก็ซื้อกับเค้าไม่เป็น
ต้องไปยืนจ้องคนอื่น ดูตัวอย่างก่อนว่าเค้าทำยังไง 555

พอครั้งหลังนี่เลยซื้อบัตร rabbit มันซะเลย ง่ายดี คอยเติมเงินไปเรื่อยๆแค่นั้น

เรื่องบัตรใช้วันเดียว นี่ ถ้าคนขึ้นบ่อยๆ ก็สะดวกดีนะครับ
พอเราไม่ใช้แล้วก็ส่งต่อ แต่ถ้าเป็นสาวๆเอามาให้ นี่
อ.เต๊ะ จะคิดเข้าข้างตัวเองว่า เธอคงจะอยากรู้จักเรา แหงๆ นู่นคิดมิดีมิร้ายไปนู่นเลยเชียวครับ 555

ส่วนเรื่อง พาหลานไปเที่ยวเดินหลาย ชม หลานแบตหมด
นี่ถ้าหลานตัวเล็กหน่อย น่าจะเอานั่งรถเข็นเด็กได้อยู่นะครับ
ช่วยเบาแรงกล้ามเนื้อแขนได้บ้าง รถไฟฟ้าก็น่าจะเอาขึ้นได้มั้งครับ
โชคดีที่ทริปนี้ เจอผู้ใหญ่ใจดี แถมเป็นชาวต่างชาติด้วย
แสดงว่า ไม่ใช่เฉพาะคนไทยที่มีน้ำใจ ชาติอื่นก็มีน้ำใจเหมือนกัน
งั้นจับมือ ร้องเพลง we are the world กันดีกว่า แฮร่ 555

ตอน3 เรื่องป่วยบนรถไฟฟ้า นี่ อ.เต๊ะ ไม่มีประสบการณ์เลย
มีแต่เรื่อง น่ากลัวปนสยองกว่า คือปวดอึนี่แหละ
เคยปวดหนนึง นั่งขนลุกซู่ไปตลอดทาง ใจหายใจคว่ำ ต้องนั่งทำสมาธิ พุทโธ ฮึบไปตลอดทาง นี่ก็เป็นอีกสาเหตุนึง ที่ไม่ชอบขึ้นรถสาธารณะละครับ
ทุกวันนี้ ยังต้องพก กกน ติดรถไว้ตลอด เพื่อความปลอดภัยนะครับ แฮร่ 555





โดย: multiple วันที่: 23 พฤษภาคม 2567 เวลา:19:57:57 น.  

 
คนมีความสามารถ2 คนทำงานพร้อมกัน
แต่ประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน
อันนี้มีให้เห็นมากจริงๆ
จะว่าดวงก็ได้
แต่พี่ก๋าว่าความสามารถสำคัญที่สุด
แล้วก็เรื่องของการสื่อสาร การสนทนา
อันนี้ก็สำคัญ คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดี นิสัยดี
โอกาสประสบความสำเร็จก็สูงขึ้นตามไปด้วย

หัวหน้าคนเก่าของน้องปริ๊นซ์น่ารักมากๆ
เหมือนมอบโอกาสที่ดีในชีวิตให้เลยนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2567 เวลา:20:09:10 น.  

 
ที่บอกว่า "ผมไม่กล้าตั้งครับ 555 กลัวดังแล้วตั้งตัวไม่ทัน "

งั้นตั้งเลย พี่อยากมีน้องชายเป็นคนดัง อิอิ


โดย: สมาชิกหมายเลข 7915129 วันที่: 23 พฤษภาคม 2567 เวลา:20:56:45 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2567 เวลา:4:54:38 น.  

 
จากบล็อก
พี่รอสายที่เข้าในเมืองทองอีก 2 สถานีเสร็จ ต่อไปเข้าไปดูคอนเสิร์ตนี่สบายเลยครับ กับเดินทางไปสนามบินดอนเมืองแปบเดียวถึงละ แม้ว่าตรงดอนเมืองจะเดินไกลไปหน่อย


โดย: The Kop Civil วันที่: 24 พฤษภาคม 2567 เวลา:14:11:02 น.  

 
เคยขึ้นสองครั้งค่ะ วิวสวยดี


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 24 พฤษภาคม 2567 เวลา:15:35:56 น.  

 
พี่ก๋าเป็นคนชอบอ่านบทกวี
แต่ก็ตีความไม่ค่อยถูกครับ 555
เรียบกว่าอ่านตามใจตัวเองมากกว่า

ที่ชอบเป็นพิเศษ คือ กลอนไฮกุของญี่ปุ่นครับ

การสื่อสาร ความสัมพันธ์ บุคลิก
พี่ก๋าว่าเป็นส่วนสำคัญหมดเลยครับในการทำงาน
ใครมีทักษะเหล่านี้เยอะ
ก็ประสบความสำเร็จง่ายเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2567 เวลา:22:01:14 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2567 เวลา:5:35:54 น.  

 
สะดวกดีครับ เคยจิ้ม ๆ จุดหมายปลายทาง เพื่อหยอดเงิน
แต่ไม่สำเร้จ

เลยไปเคาเตอร์ซื้อตัวแทน ก็โอเคครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 25 พฤษภาคม 2567 เวลา:15:06:57 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space